รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 545 อายุขัยไม่ใช่เรื่องสำคัญ สิ่งที่สำคัญคือข้าชอบกินเปลือกแอปเปิล!

บทที่ 545 อายุขัยไม่ใช่เรื่องสำคัญ สิ่งที่สำคัญคือข้าชอบกินเปลือกแอปเปิล!

บทที่ 545 อายุขัยไม่ใช่เรื่องสำคัญ สิ่งที่สำคัญคือข้าชอบกินเปลือกแอปเปิล!

เต่าเซียนเสวียนอู่พาเหล่าเทียนตี้และผู้ใต้บังคับบัญชาที่นำมาเดินขบวนไปอย่างยิ่งใหญ่ ครั้งนี้เขาเต็มไปด้วยความมั่นใจ ไร้ความกังวลใด ๆ

ใช้เวลาเพียงไม่นาน พวกเขาก็มาถึงสถานที่ที่ลั่วสุ่ยและมัจฉาสัตมายารออยู่

ยังไม่ได้จากไป?

เต่าเซียนเสวียนอู่รู้สึกคาดไม่ถึง ลั่วสุ่ยกับมัจฉาสัตมายาช่างหาญกล้าเป็นอย่างยิ่ง!

“นี่มันอะไรกัน!?”

มัจฉาสัตมายาเห็นเต่าเซียนเสวียนอู่มาพร้อมกับกำลังคนติดตามอย่างยิ่งใหญ่ ก็พลันนิ่งอึ้งไปทันที

นี่เต่าเซียนเสวียนอู่นำยอดฝีมือระดับสูงทั้งหมดในอาณาจักรอวี้ซวีมาด้วยหรืออย่างไร?

เขาไม่เคยเห็นกองกำลังที่โอ่อ่าเช่นนี้มาก่อน นับเป็นครั้งแรกที่ได้เห็น ต้องกล่าวว่าบารมีของเต่าเซียนเสวียนอู่นั้นสูงเป็นอย่างมาก หากเป็นผู้อื่นคงไม่มีผู้ใดสามารถทำเช่นนี้ได้

ไม่มีทางทำได้!

เปลือกตาของลั่วสุ่ยถึงกับกระตุกเมื่อเห็นฉากนี้ นางตระหนักได้ว่าเต่าเซียนเสวียนอู่อาจเข้าใจบางอย่างผิด

นางจึงรีบเอ่ยออกมา “โปรดฟังข้าพูดสักประโยคก่อน…”

ทว่ายังไม่ทันที่นางจะพูดจบ เต่าเซียนเสวียนอู่ก็พุ่งใส่นางเสียก่อน

“จะพูดอะไรอีก! เรื่องนั้นเอาไว้ภายหลัง!”

เขากลับร่างเดิมของตนเอง ตัวเขาใหญ่โตเสียยิ่งกว่าขุนเขา เปี่ยมด้วยพลังแทบล้นฟ้า แม้ใกล้จะสิ้นอายุขัย แต่เขาก็ยังคงดุร้ายน่าหวาดกลัว!

มองดูแล้วเขาไม่มีความกลัวเกรงจะสูญสิ้นแม้แต่น้อย ปกติแล้วสิ่งมีชีวิตที่ใกล้หมดอายุขัยมักไม่กล้าระเบิดพลังออกมาเช่นนี้อย่างแน่นอน เนื่องจากจะทำให้อายุขัยสั้นลงอยากมาก เร่งความตายให้มาถึงไวยิ่งขึ้น

“พวกเจ้ามีกี่ชีวิตกันจึงกล้ายั่วยุผู้อาวุโสเซียนเต่า!?”

“ฆ่า!”

เหล่าเทียนตี้ตะโกนออกมาเย็นชา พวกเขาต่างงัดไพ่ตายทั้งหมดออกมา ไม่ได้ดูหมิ่นลั่วสุ่ยกับมัจฉาสัตมายาแต่อย่างใด กลับกันพวกเขายังประเมินทั้งสองคนเอาไว้สูงเป็นอย่างมาก

กระทั่งเต่าเซียนเสวียนอู่ยังให้ความสำคัญกับลั่วสุ่ยและมัจฉาสัตมายาเป็นอย่างยิ่ง ถึงกับเรียกพวกเขาให้มาช่วยเหลือ ดังนั้นแล้วสองคนนี้จะธรรมดาได้อย่างไร?

แม้ว่าลมหายใจของลั่วสุ่ยและมัจฉาสัตมายาจะยังเยาว์วัยเป็นอย่างมาก แต่พวกเขาก็ไม่กล้าดูแคลนทั้งสองคน นับว่าทั้งลั่วสุ่ยและมัจฉาสัตมายาเป็นศัตรูตัวฉกาจ!

พวกเขาพากันโจมตีเข้าไปพร้อมกับผู้ใต้บังคับบัญชาของตนเองที่อยู่ในขอบเขตจักรพรรดิ ไม่ต้องกล่าวเลยว่าฉากดังกล่าวจะน่าสะพรึงกลัวถึงเพียงใด ฟ้าดินถึงกับเปลี่ยนสีในทันที ความว่างเปล่าบิดเบี้ยวและระเบิดออก ทนรับพลังที่ปะทุขึ้นมาไม่ได้

ตู้ม!

เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว แสงไฟน่าหวาดกลัวโผล่ออกมานับไม่ถ้วน อาวุธจักรพรรดิ อาวุธมหาจักรพรรดิ อาวุธตี้หวง อาวุธตี้จวิน และอาวุธเทียนตี้ต่างพากันระเบิดพลังมหาศาลออกมา สำแดงอิทธิฤทธิ์ต่าง ๆ มากมาย ทั่วทั่งอาณาจักรอวีซวี้ถึงกับสั่นสะเทือน สิ่งมีชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วนต่างหันมามองทางนี้ด้วยความตกใจกลัว

“เกิดอะไรขึ้นตรงนั้นกันแน่!?”

“สวรรค์! ยอดฝีมือจำนวนมากลงมือพร้อมกัน พวกเขากำลังสู้อยู่กับผู้ใด!?”

สิ่งมีชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วนร้องอุทานออกมา ต่างตื่นตกใจเกินระดับจะวัดได้!

มีตัวตนที่น่ากลัวจนไม่อาจจินตนาการได้ในอาณาจักรอวี้ซวีหรือ? จึงจำเป็นต้องให้เต่าเซียนเสวียนอู่ออกโรง นำกองกำลังเทียนตี้และขอบเขตจักรพรรดินับไม่ถ้วนร่วมมือกันเข้าต่อสู้?

ฉากดังกล่าวเหนือความนึกคิดของพวกเขาไปโดยสิ้นเชิง!

“นั่นมัน…พี่ชวน!”

แคว้นโบราณชางเยว่ ชางเหยาที่อยู่ภายใต้การคุ้มครองของจักรพรรดิชางผู้เป็นบิดามองไปยังฉากการต่อสู้ครั้งใหญ่ นางเห็นลั่วสุ่ยกับมัจฉาสัตมายา

ดวงตาคู่งามของนางเบิกกว้าง พี่มู่ชวนของนางช่างห้าวหาญเหลือเกิน ถึงกับก่อการเคลื่อนไหวใหญ่โตเพียงนี้!

“ดุดันถึงเพียงนี้!?”

มุมปากของจักรพรรดิชางอดกระตุกไม่ได้

เขาได้ยินว่าลั่วสุ่ยและมัจฉาสัตมายาต้องการจะพาผู้เฒ่าเต่าตนหนึ่งไปด้วย

ในเวลานั้นเขาไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก แต่ตอนนี้เข้ากระจ่างแจ้งแล้ว ผู้เฒ่าเต่าที่ลั่วสุ่ยและมัจฉาสัตมายาต้องการจะพาไปด้วยก็คือเต่าเซียนเสวียนอู่!

สิ่งนี้ทำให้เขาพูดไม่ออกสักนิด!

สุดยอด!

สุดยอดจริง ๆ!

ภายในใจของเขามีเพียงแค่ความคิดนี้!

“พี่ชวนของข้ายอดเยี่ยมเป็นอย่างยิ่ง! คิกคิก สายตาของข้าดีที่สุด ตั้งแต่พี่ชวนยังอ่อนแอมาก ก็สามารถมองออกว่าพี่ชวนนั้นไม่ธรรมดา จะต้องแข็งแกร่งอย่างถึงที่สุดในวันข้างหน้า!”

ดวงตาของชางเหยาเป็นประกายขณะกล่าวออกมาอย่างหลงใหล “พี่ชวนของข้าแข็งแกร่งยิ่ง! ทั้งหล่อเหลาและทรงพลัง! อ๊า สมบูรณ์แบบจนไม่อาจสมบูรณ์แบบได้มากกว่านี้แล้ว!”

อีกด้านหนึ่ง จักรพรรดิชางที่ฟังคำพูดของชางเหยาถึงกับพูดไม่ออกยิ่งไปกว่าเดิม

เขาคิดขึ้นมาในใจ ลูกเอ๋ย เจ้ามองที่ใดจึงเห็นว่าพี่ชวนของเจ้าทั้งหล่อเหล่าและทรงพลัง? เจ้าไม่เห็นหรือว่าพี่ชวนของเจ้ารีบวิ่งไปหลบอยู่หลังลั่วสุ่ยตั้งแต่แรก?

นี่มันหล่อเหลาตรงไหน? ทรงพลังตรงใด?

เต่าเซียนเสวียนอู่นำหน้า ด้านหลังตามมาด้วยเทียนตี้และขอบเขตจักรพรรดิจำนวนมากพุ่งเข้าสังหาร ทว่าจักรพรรดิชางไม่ได้กังวลเกี่ยวกับลั่วสุ่ยและมัจฉาสัตมายาแม้แต่น้อย

เขารู้ว่าลั่วสุ่ยมีฝีมือและกลอุบายมากมาย แม้กำลังรบฝ่ายตรงข้ามจะน่ากลัวเป็นอย่างมาก แต่ลั่วสุ่ยก็ยังอาจแข็งแกร่งยิ่งกว่า มีโอกาสอย่างมากที่จะเป็นเซียนบนโลกมนุษย์

แน่นอนว่าสิ่งที่เขาคิดไว้ล้วนไม่ผิด

อีกด้านหนึ่ง ลั่วสุ่ยเริ่มลงมือร่ายรำไทเก๊ก กฎเกณฑ์สูงสุดหลั่งไหลออกมา หยินและหยางพัวพัน ชวนตื่นตะลึงอย่างถึงที่สุด!

การโจมตีทั่วทั้งท้องฟ้าก็เพียงพอแล้วที่จะถล่มฟ้าทลายดิน บดขยี้ดวงดารา แต่เมื่อมันล่วงเข้าไปอยู่ใต้กฎเกณฑ์ที่มวยไทเก๊กเรียกออกมา การโจมตีทั้งหมดก็พลันสลายหายไปทันทีราวกับไม่เคยมีอยู่มาก่อน!

เต่าเซียนเสวียนอู่พุ่งเข้ามาด้วยจิตสังหาร เขาเองก็สำแดงมวยบางชนิดออกมา แต่ทว่าหมัดจากผู้แข็งแกร่งเช่นเขาก็ถูกระงับลงไปได้ ฝ่ามือที่ดูแผ่วเบาของลั่วสุ่ยกลับแฝงด้วยกฎเกณฑ์อันน่ากลัวอย่างยิ่ง กำปั้นของเขากลายเป็นเสมือนดอกฝ้าย ไม่อาจทำสิ่งใดได้ พลังสลายหายไปสิ้น!

ลั่วสุ่ยยังคงรำมวยไทเก๊กเผชิญหน้ากับศัตรูเพียงลำพัง ในที่สุดนางก็รำจนพลังในกำปั้นน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง หนึ่งหมัดที่ชกออกมาเปี่ยมด้วยพลังที่สามารถปกคลุมได้ทั่วทั้งนภา การโจมตีทั้งหมดที่พุ่งมาถูกกฎเกณฑ์ในหมัดนั้นสลายไปหมด

“นี่มันอะไรกัน!”

สีหน้าของเต่าเซียนเสวียนอู่แปรเปลี่ยน ไม่คาดคิดแม้แต่น้อยว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น

แค่ท่ามวยชุดหนึ่ง จะทรงพลังถึงเพียงนี้ได้อย่างไร!?

นี่คือมวยอะไรกัน!?

เป็นวิชามวยระดับเซียนอย่างนั้นหรือ!?

เขาอดคิดขึ้นมาในใจไม่ได้

เหล่าเทียนตี้และขอบเขตจักรพรรดิใต้บัญชาต่างก็ทำสีหน้าตกตะลึงและพรั่นพรึงเป็นอย่างยิ่ง

หนึ่งคนหนึ่งหมัดสามารถสยบการโจมตีทั้งหมดได้!

สวรรค์!

หรือว่านี่จะเป็นเซียน!?

ยิ่งลั่วสุ่ยรำมวยไทเก๊กมากขึ้น พลังยิ่งน่าสะพรึงกลัวมากขึ้น เพียงไม่นานเหล่าเทียนตี้กับขอบเขตจักรพรรดิใต้บัญชาที่แข็งแกร่งที่สุดในอาณาจักรก็สูญเสียความสามารถในการต่อสู้ ถูกปราบปรามจนไม่อาจระดมพลังขึ้นมาสู้ต่อได้

สุดท้ายพวกเขาก็ถูกบังคับให้ออกจากสนามรบ เหลือเพียงเต่าเซียนเสวียนอู่ผู้เดียว!

เต่าเซียนเสวียนอู่ยิ่งสู้ยิ่งรู้สึกพรั่นพรึง ลั่วสุ่ยเป็นใครกันแน่? เขาใช้วิชาและฝีมือออกทุกรูปแบบ แต่ก็ยังคงไม่อาจต่อกรได้ ทั้งยังรับรู้ได้ถึงช่องว่างที่ห่างไกลกันเป็นอย่างมาก!

ช่วงว่างนี้แม้กระทั่งตัวเขาที่อยู่ในสภาวะสูงสุดก็ยังนับว่าห่างไกล!

ลั่วสุ่ยที่ยังเยาว์วัยถึงเพียงนี้ กลับแข็งแกร่งจนน่ากลัว นับได้ว่ามีความสามารถท้าทายสวรรค์!

“ข้ายังไม่สามารถรำได้จนจบ!”

ลั่วสุ่ยถอนหายใจออกมาเบา ๆ มวยไทเก๊กนั้นล้ำลึกจนถึงที่สุด ตัวนางเองก็ยังไม่สามารถสำแดงออกมาได้จนถึงกระบวนท่าสุดท้าย

‘เมื่อไหร่กันที่ข้าจะแข็งแกร่งเหมือนพี่ลั่วสุ่ย!’

มัจฉาสัตมายามองไปที่ลั่วสุ่ยด้วยตาเป็นประกาย ภายในใจเกิดความอิจฉาเป็นอย่างมาก แต่ตัวเขาเองก็ตระหนักได้เป็นอย่างดีถึงช่องว่างของตนเองกับลั่วสุ่ย

ลั่วสุ่ยเป็นคนที่คุณชายเอ็นดูที่สุด เขานั้นห่างไกลเป็นอย่างมาก เพิ่งจะได้ออกจากถังน้ำไปเป็นปลาเลี้ยงดูเล่นในสระ ไม่อาจเปรียบเทียบได้กับพี่ลั่วสุ่ย

“พวกเจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่?”

เต่าเซียนเสวียนอู่มองไปที่ลั่วสุ่ยด้วยสีหน้าแปลกประหลาด ก่อนเปิดปากถามขึ้นมา

เขารู้สึกว่าลั่วสุ่ยไม่มีความเป็นศัตรูกับเขา มวยไทเก๊กไม่มีจิตสังหารอยู่ภายใน แม้ว่าเขาจะไม่อาจต่อต้าน ไม่สามารถหยุดยั้งพลังของมวยไทเก๊กได้ แต่เขาก็ไม่รับอันตรายแต่อย่างใด

“ก่อนอื่นข้าต้องขอกล่าวอภัย”

ลั่วสุ่ยเดินเข้ามาก่อนเอ่ยขอโทษ “ก่อนหน้านี้ที่ข้าหย่อนเบ็ดล่อผู้อาวุโส เป็นเพราะหมดหนทางจริง ๆ ข้าต้องขออภัยผู้อาวุโสเป็นอย่างยิ่ง นี่คือสิ่งแทนคำขอโทษของพวกเรา”

นางหยิบเปลือกแอปเปิลออกมายื่นไปทางเต่าเซียนเสวียนอู่

“!!!”

เมื่อเต่าเซียนเสวียนอู่เห็นเปลือกแอปเปิลก็แทบจะระเบิดอารมณ์ออกมาทันที

บัดซบ!

นี่มันอะไรกัน!

มันคือการสบประมาทที่ไม่ได้แสดงออกมาโดยตรง!

สีหน้าของเขาแปรเปลี่ยนไปอย่างมาก น่าเกลียดอย่างถึงที่สุด ก่อนกล่าวออกมาอย่างชิงชัง “เต่าแก่ ๆ อย่างข้าก็มีศักดิ์ศรี คิดว่าเจ้าต้องการทำสิ่งใดก็ได้อย่างนั้นหรือ! เจ้าถึงกับสบประมาทข้าถึงเพียงนี้ แม้ว่าจะต้องสู้กับเจ้าจนตาย ข้าก็จะไม่มีวันปล่อยเจ้าไป!”

อีกด้านหนึ่ง สีหน้าของเหล่าเทียนตี้ต่างแปลกประหลาดเป็นอย่างยิ่ง

หย่อนเบ็ดล่อ!?

สวรรค์!

ไม่แปลกใจเลยที่เต่าเซียนเสวียนอู่จะโกรธเป็นอย่างมาก จนต้องเรียกให้พวกเขามาช่วยเหลือ ปรากฏว่าก่อนหน้านี้เต่าเซียนเสวียนอู่ถูกลั่วสุ่ยหย่อนเบ็ดล่อตกขึ้นไป!

นอกจากนี้ ลั่วสุ่ยยังหยิบเปลือกแอปเปิ้ลออกมา ‘สบประมาท’ เต่าเซียนเสวียนอู่ มันทำให้พวกเขาต่างก็โกรธเป็นอย่างมาก

“เจ้าช่างแข็งแกร่ง! แต่ในเมื่อเจ้าทำเช่นนี้ พวกเราเองก็ไม่มีวันประนีประนอมด้วย จะสู้กับเจ้าจนตัวตาย!”

“ฆ่าได้ แต่ไม่อาจหยามได้ เจ้าทำเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร!?”

พวกเขาจับจ้องไปที่ลั่วสุ่ยแล้วตะโกนออกมาเสียงดัง

พวกเขาต่างก็เคารพเต่าเซียนเสวียนอู่เป็นอย่างมาก เมื่อเห็นเต่าเซียนเสวียนอู่ต้องทนรับการสบประมาทเช่นนี้ พวกเขาก็โกรธเป็นอย่างมาก

“เข้าใจผิดแล้ว”

ลั่วสุ่ยรีบกล่าว “ผู้อาวุโสโปรดลองสังเกตเปลือกแอปเปิลเหล่านี้เถอะ”

“เปลือกแอปเปิลมีสิ่งใดให้ดูกัน!?”

เต่าเซียนเสวียนอู่กล่าวด้วยความโกรธจัด แม้ว่าเปลือกแอปเปิลที่ลั่วสุ่ยหยิบออกมาจะมีบางอย่างไม่ธรรมดา เขาก็ไม่สนใจ ต่อให้เปลือกแอปเปิลเหล่านี้จะไม่ธรรมดาแต่จะพิเศษได้แค่ไหนกันเชียว?

จะเป็นเปลือกของผลไม้เซียนอย่างนั้นหรือ!?

“ผู้อาวุโส ท่านควรจะสังเกตมันให้ดี ๆ มีหลายสิ่งไม่สามารถเอ่ยออกมาได้ แต่เปลือกแอปเปิลเหล่านี้มากเพียงพอจะเพิ่มอายุขัยให้ท่านนับหมื่นปี!”

มัจฉาสัตมายากล่าว

“พูดจาไร้สาระ เจ้าคิดว่าข้าโง่นักหรืออย่างไร?”

เต่าเซียนเสวียนอู่ไม่เชื่อ แต่เมื่อลั่วสุ่ยยื่นเปลือกแอปเปิลเข้ามาใกล้ขึ้น สีหน้าของเขาก็แปรเปลี่ยนทันใด

มัจฉาสัตมายาไม่ได้โกหก เขาสัมผัสได้ถึงแก่นแท้ชีวิตอันลึกล้ำเหนือชั้นบนเปลือกแอปเปิล หากเขาสามารถกลั่นมันได้ ก็สามารถมีชีวิตยืนยาวขึ้นได้นับหมื่นปีจริง ๆ!

เขารีบหยิบเปลือกแอปเปิลจากมือของลั่วสุ่ยก่อนกินมันทั้งหมดเข้าไปในคำเดียวอย่างไม่ลังเล เนื่องจากกลัวว่าลั่วสุ่ยจะเกิดเปลี่ยนใจขึ้นมา

กินเข้าไปแล้ว?

แล้วศักดิ์ศรีที่เพิ่งพูดถึงเล่า!?

เหล่าเทียนตี้มองไปยังเต่าเซียนเสวียนอู่ด้วยแววตาแปลกประหลาด เมื่อครู่เพิ่งกล่าวไปว่าจะสู้จนตัวตายไม่ใช่หรือ?

เมื่อสัมผัสได้ถึงสายตาแปลกประหลาดที่จับจ้องมายังตัวของเขา เต่าเซียนเสวียนอู่ก็อดรู้สึกเก้อเขินขึ้นมาไม่ได้

“อะไร อายุขัยไม่ใช่เรื่องสำคัญ สิ่งที่สำคัญคือข้าชอบกินเปลือกแอปเปิล!” เขารีบกล่าวขึ้นมา

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท