บทที่ 549 หนึ่งพันรอบไปเลยหนึ่งพันรอบ พวกเจ้าเล่นให้สนุก!
สามเณรนึกขันอย่างยิ่ง จากที่อสูรหมาป่าขาวว่ามา คล้ายว่ามันมีภูมิหลังที่มาที่ไปอันลึกล้ำยิ่งใหญ่
ทว่า เขาเองก็เป็นเช่นนั้น
ดูเผิน ๆ เขาเป็นเพียงเด็กน้อยอายุไม่เท่าไร แต่ความจริงแล้ว เขาเป็นถึงองค์พระโบราณ องค์พระโบราณไร้เทียมทานในยุคโบราณ ว่ากันด้วยความสำเร็จทางพุทธศาสนาและขอบเขตพลัง เขาเป็นรองเพียงพระอมิตาภะพุทธเจ้า!
เขาซึ่งอยู่ในระดับนี้ ใช่ผู้ที่อสูรหมาป่าขาวเทียบได้ที่ไหน!?
น่าขันตายชัก
“เอาสิ พูดให้ข้าฟังที ดูสิว่าข้าจะตกใจหรือไม่”
เซียวฮุ่ยหัวเราะเช่นกัน อย่าว่าแต่สามเณรน้อยมีภูมิหลังยิ่งใหญ่เกรียงไกรเลย ต่อให้สามเณรเป็นถึงเซียน ก็ไม่อาจทัดเทียมนางได้
นางเป็นถึงยอดฝีมือตระกูลเซียว เซียนสามัญทั่วไปมิได้มีความหมายแต่อย่างใดเมื่ออยู่ต่อหน้านาง นางปลิดชีพได้ง่ายดาย
“ข้าคือองค์พระโบราณแห่งยุคโบราณ พระเก้าประทีปพุทธเจ้า!”
สามเณรน้อยมีสีหน้าเย่อยิ่งทระนง “ยุคโบราณ ยุคอนันตกาล ยุคบรรพกาล ยุคปัจจุบัน ข้ามีชีวิตมาถึงสามยุคสมัย จนกระทั่งมาถึงยุคนี้ ผู้ได้ทำเช่นนี้ได้บ้าง ตอนนี้เจ้าคงเข้าใจแล้วใช่หรือไม่ว่า การได้ติดตามอยู่ข้างกายข้า เป็นสัตว์พาหนะของข้า เป็นเรื่องโชคดีเพียงใดสำหรับเจ้า!”
พูดกันตามตรง เขานั้นเก่งกาจอย่างแท้จริง
ไม่ต้องกล่าวถึงวิธีหรือพลังแบบพิเศษที่สิ่งมีชีวิตในเก้าแดนต้องห้าม หรือแม้กระทั่งอาณาจักรอื่นใช้ในการยืดอายุขัย ลำพังสิ่งมีชีวิตในอาณาจักรนี้ที่สามารถมีชีวิตอยู่มาถึงสามยุคสมัยนั้นน้อยมากจริง ๆ ยอดเยี่ยมวิเศษอย่างอย่าง!
เซียวฮุ่ยหัวเราะ “องค์พระโบราณจากยุคโบราณหรือ เก่งแค่ไหนเชียว…บรรลุเซียนแล้วหรือยัง”
“ดื้อด้านไม่ยอมฟัง!”
สามเณรน้อยตวาด คิ้วขมวดมุ่น เดิมเขาคิดว่าหากเผยตัวตนไป เซียวฮุ่ยต้องตกตะลึง หารู้ไม่ว่าเซียวฮุ่ยจะเอ่ยวาจาเช่นนี้!
บรรลุเซียนหรือยัง?
ประโยคนี้ทำให้เขารู้สึกแย่เป็นอย่างมาก เซียนบรรลุกันง่าย ๆ ที่ไหน นับแต่โบราณกาล ไม่เคยมีสิ่งมีชีวิตตนใดได้บรรลุเป็นเซียนมาก่อน!
เซียวฮุ่ยจงใจถากถางเขาชัด ๆ!
“โง่เง่าด้อยปัญญา คิดแล้วเจ้าคงเป็นตัวละครต่ำต้อย ไม่เข้าใจว่าองค์พระโบราณในยุคโบราณนั้นมีความหมายอย่างไร!” เขาตวาดต่อ
“ข้าไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าองค์พระโบราณในยุคโบราณนั้นมีความหมายอย่างไร…”
เซียวฮุ่ยปรายตามองสามเณรน้อย “ข้าขอถามเพียงประโยคเดียว เก่งกาจสู้เซียนได้หรือไม่”
“เจ้าเอ่ยถึงเซียนอยู่หลายครา หมายความว่าอย่างไร เจ้าเป็นเซียนอย่างนั้นหรือ”
สามเณรน้อยยิ้มเย็น อย่างเซียวฮุ่ยยังบังอาจถากถางเขาอีกหรือ?
“เซียน…ข้ามิใช่จริง ๆ นั่นแหละ” เซียวฮุ่ยเอ่ย
“ข้ารู้อยู่แล้วว่าเจ้ามิใช่เซียน ต้องให้เจ้าพรรณาอีกหรือ”
สามเณรน้อยทอดมองเซียวฮุ่ย หรือเซียวฮุ่ยไม่เข้าใจถ้อยคำประชด เข้าใจว่าเขาพูดจากใจจริงว่าเซียวฮุ่ยอาจเป็นเซียน?
น่าขันยิ่งนัก!
“ข้ามิใช่เซียน แต่ข้าอยู่เหนือเซียนไปนานแล้ว!”
เซียวฮุ่ยปริปาก เอ่ยขึ้น “ต่อหน้าข้า เซียนมิได้มีค่าอันใด เปรียบดั่งธุลี ข้าพลิกตัวคราเดียวก็ฆ่าได้!”
โม้เก่งปานนี้เชียว!?
สามเณรน้อยนึกในใจว่า เขาคิดจริง ๆ ว่าเซียวฮุ่ยมีภูมิหลังน่ากลัวไม่ธรรมดา ที่แท้เซียวฮุ่ยแค่สติไม่ดีหรอกหรือนี่!
“ใช่แล้ว เจ้าเก่งที่สุด เซียนยังสู้เจ้ามิได้ เสมือนธุลีเมื่ออยู่ต่อหน้าเจ้า ทว่าข้าสงสัยนัก คนองอาจเช่นเจ้า ไยจึงถูกอสูรหมู…หนึ่งร้อยรอบเชียว”
สามเณรน้อยเอ่ยอย่างนึกขัน “อสูรหมูมาหาข้าตั้งหลายครา เอ่ยว่าอยากหนึ่งร้อยรอบกับเจ้าอีก แต่ถูกข้าห้ามไว้ ข้าคิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะไม่รู้ผิดชอบชั่วดีเช่นนี้ ฝันเฟื่องเพ้อเจ้อ เอาเถิด อสูรหมูอัดอั้นมานานเยี่ยงนี้ ได้เวลาระบายความต้องการออกมาแล้ว ข้าคิดว่าหนนี้ อสูรหมูคงทำได้ถึงหนึ่งพันรอบเลยกระมัง”
สามเณรน้อยไม่กล่าวถึงเรื่องนี้ยังดี พอกล่าวถึงเรื่องนี้ เซียวฮุ่ยเดือดดาลขึ้นไปใหญ่ อกแทบระเบิดอยู่ตรงนั้น!
นี่ต้องเป็นจุดด่างพร้อยใหญ่หลวงที่สุดในชีวิตมนุษย์ ไม่สิ ชีวิตเซียนของนาง!
นางลงมือทันที พลังแกร่งกล้าซัดสาดออกไป ถล่มใส่สามเณรน้อย
สามเณรน้อยไม่ธรรมดา ทีแรก เขาฟื้นพลังจนมาอยู่ในขอบเขตสูงสุดแล้ว ต่อมาเขาบาดเจ็บสาหัสเพราะต้าเต๋อ รากฐานทั้งหมดถูกทำลายจนป่นปี้
แต่ถึงอย่างไรเขาก็เป็นถึงองค์พระโบราณในยุคโบราณ มีฝีมืออยู่พอสมควร ประกอบกับเมืองเก้าวิบัตินี้โกลาหลวุ่นวาย เขาจึงได้ดูดกลืนแก่นโลหิตของสิ่งมีชีวิตมากมาย ผนวกกับพลังศรัทธา เขาถึงผ่านมาได้ อีกทั้งบรรลุขอบเขตขึ้นมาได้อีกครั้ง
บัดนี้ เขาอยู่ในขอบเขตนักบุญแล้ว!
ทว่าเมื่อเทียบกับเซียวฮุ่ย เขายังห่างชั้นอีกมาก หลังพลังเซียวฮุ่ยถล่มลงมา เขาถูกกำราบในพริบตา ไม่มีเรี่ยวแรงขัดขืนแม้แต่น้อย!
เซียวฮุ่ยเหนือชั้นกว่าเซียนไปนานแล้ว ขอเพียงไม่ตาย นางสามารถฟื้นตัวได้เร็วจนน่าทึ่ง!
“หนึ่งร้อยรอบใช่หรือไม่ หะ หนึ่งร้อยรอบ!”
เซียวฮุ่ยหิ้วคอสามเณรน้อยขึ้นมาซ้อมอย่างหนัก ตบหน้าสามเณรน้อยไม่หยุดหย่อน จนใบหน้าสามเณรน้อยบิดเบี้ยวผิดรูปผิดร่าง!
“ยังจะกล้าพูดอีกหรือไม่ หนึ่งพันรอบใช่หรือไม่ หะ หนึ่งพันรอบ!”
“มีหน้าอวดอ้างความเป็นองค์พระโบราณจากยุคโบราณกับข้าอีกหรือ!”
“ต่อให้เจ้าเป็นองค์พระเซียนก็เท่านั้น!”
อย่าให้พูดเลยว่าเซียวฮุ่ยโมโหเพียงใด นางระบายความกราดเกรี้ยวในช่วงที่ผ่านออกมาทั้งหมด หวดสามเณรน้อยจนเจ็บเจียนตาย!
สามเณรน้อยทุกข์ใจเป็นอย่างยิ่ง เดิมเขาคิดว่าตัวเองพบสัตว์พาหนะอันเหมาะสมแล้ว หารู้ไม่ว่าเป็นแม่ทูนหัวผู้ไม่อาจแหยม!
เขาโชคร้ายเกินไปแล้ว ทันทีที่สถานการณ์เริ่มเป็นไปในทางที่ดีขึ้น เขาก็ต้องพานพบการเปลี่ยนแปลงเยี่ยงนี้
หากรู้อย่างนี้แต่แรก มิสู้ให้เขาเชือดเซียวฮุ่ยไปเลยตั้งแต่ครานั้น!
“ฮูหยิน เจ้าทำกระไรอยู่ เจ้าปฏิบัติต่อองค์พระโบราณเช่นนี้ได้อย่างไร!”
สุ้มเสียงทางนี้ดังมาก อสูรหมูจึงพุ่งเข้าไปจากข้างนอก เมื่อเขาได้เห็นเซียวฮุ่ยหิ้วคอสามเณรน้อยขึ้นมาซ้อม ก็นิ่งค้างไปในบัดดล!
“เจ้ามาได้พอดี!”
หลังเซียวฮุ่ยหันมาเห็นอสูรหมู ดวงตาแทบพ่นไฟ อยากจะตบอสูรหมูให้ตายในฝ่ามือเดียว
นางเป็นถึงตัวตนผู้เหนือเซียน เคยต้องอดสูเยี่ยงนี้ที่ไหน?
ต้องถูกอสูรหมูตัวหนึ่งทับอยู่บนเตียง ทำกันถึงหนึ่งร้อยรอบ!
นางไม่รู้ว่าตัวเองพิโรธปานใด!
ทว่าลงท้ายนางก็กลั้นเอาไว้ มิได้ตบอสูรหมูตายในฝ่ามือเดียว เช่นนั้นอสูรหมูตัวนี้คงสบายเกินไป!
นางชี้นิ้วออกไป พลันนั้น มีประกายเจิดจ้าพุ่งเข้าไปในร่างของอสูรหมู สะกดพลังทั้งหมดในตัวอสูรหมูไว้
“ฮูหยิน เจ้าคิดจะทำอันใด”
อสูรหมูตกตะลึงเป็นอย่างยิ่ง ยังคิดว่าเซียวฮุ่ยคือฮูหยินของเขาในอดีต เขาไม่เข้าใจว่าเหตุใดบัดนี้ฮูหยินของเขาถึงแข็งแกร่งได้ขนาดนี้
“มิได้ทำอันใด เจ้าชอบหนึ่งร้อยรอบมิใช่หรือ! ครานี้เราเล่นกันให้ยิ่งใหญ่กว่าเดิม หนึ่งพันรอบไปเลย!”
เซียวฮุ่ยทอดมองอสูรหมู รอยยิ้มละไมประดับอยู่บนใบหน้า
“ที่แท้ฮูหยินอยากได้หนึ่งพันรอบหรอกหรือ เรื่องนั้นง่ายนิดเดียว ไม่จำเป็นต้องสะกดพลังของข้า!”
อสูรหมูหัวเราะ
“ไม่สะกดพลังเจ้าไว้ ข้ากลัวเจ้าไม่ยอมอย่างไรเล่า”
เซียวฮุ่ยหัวเราะ “ครั้งนี้ข้าจะให้พวกเจ้าสองคนได้สนุกกันเต็มที่ เขาอยู่บน เจ้าอยู่ล่าง ไม่ถึงหนี่งพันรอบเราจะไม่หยุด”
“อะไรนะ? เราสอง…คน!?”
อสูรหมูตกใจแทบแย่ เกือบร้องไห้ออกมา “ฮูหยิน เจ้าล้อข้าเล่นใช่หรือไม่!”
ซ้ำยังเป็นเขาที่อยู่ล่าง สามเณรน้อยอยู่บน นี่คิดจะให้สามเณรน้อยขืนใจเขาหรือ!?
“ไม่นะ! ข้า…ยังเป็นร่างพรหมจรรย์อยู่เลย! พี่สาว พี่เซียน ท่านปล่อยข้าไปเถิด!”
สามเณรน้อยร่ำไห้ออกมา โขกศีรษะขอความเมตตาจากเซียวฮุ่ย
เซียวฮุ่ยหันมองสามเณรน้อย “เจ้าชื่นชอบการขี่มิใช่หรือ หนนี้เจ้าได้ขี่จนพอใจแน่! ข้าต้องขอบคุณเจ้า ขอบคุณเจ้าที่เอ่ยถึงหนึ่งพันรอบ มิฉะนั้น พวกเจ้าเองก็คงแค่ร้อยรอบเท่านั้น ความสนุกหายไปมากทีเดียว”
หลังได้ยินวาจาของเซียวฮุ่ย สามเณรน้อยสำนึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง อยากตบปากตัวเองให้ตาย!
ไยเขาต้องปากมากด้วย!
ไม่ได้นะ เขายังเป็นร่างพรหมจรรย์อยู่ ไม่เคยแตะต้องสตรีมาก่อน บัดนี้พรหมจรรย์ของเขาต้องเสียให้กับอสูรหมูอย่างนั้นหรือ!?
แค่คิดเขายังรู้สึกรับไม่ไหว รีบขอความเมตตาจากเซียวฮุ่ยอีกครั้ง
อนิจจา เซียวฮุ่ยไม่ให้โอกาสนี้กับเขา
เซียวฮุ่ยชี้นิ้วออกไป พลันนั้น มีประกายพุ่งเข้าไปในวิญญาณสามเณรน้อย จากนั้น สายตาสามเณรน้อยเปลี่ยนไป ร่างกายเริ่มร้อนรุ่มขึ้นมา
ในสายตาสามเณรน้อย อสูรหมูกลายเป็นสตรีโฉมสะคราญ!
เขาร้องเสียงหลง อดทนกับความร้อนรุ่มในใจไม่ไหวอีกต่อไป พุ่งปราดเข้าไปหาอสูรหมู
“หนึ่งพันรอบไปเลยหนึ่งพันรอบ…พวกเจ้าเล่นให้สนุก”
เซียวฮุ่ยคลี่ยิ้มพึงใจ ก่อนจะไปจากที่นี่