องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที! – บทที่ 556 ผู้อาวุโสอู่ขอขมา

บทที่ 556 ผู้อาวุโสอู่ขอขมา

“​เวลา​ผ่าน​มานาน​เพียงใด​แล้ว​”​ ​ผู้อาวุโส​อู่​ดูร​้อน​ใจ​อย่างเห็นได้ชัด​ขณะ​หันหน้า​ไป​ถาม​ขันที​ที่​คอย​ติดตาม​รับใช้​เขา​ ​เหงื่อ​เย็น​ๆ​ ​แตก​พลั่ก​ไป​ทั่วหน้า​ผาก

“​ท่าน​ผู้อาวุโส​ ​จวนจะ​ถึง​ครึ่ง​ชั่ว​ยาม​แล้ว​ขอรับ​”

ทันทีที่​ถึง​ครึ่ง​ชั่ว​ยาม​ ​พระ​อาจารย์​ชื่อดัง​เหล่านั้น​ย่อม​หยุด​สวดมนต์​ในที่สุด

เมื่อถึง​เวลา​นั้น​ ​ถ้า​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ยัง​ไม่​สะทกสะท้าน​อยู่​เช่นนี้​ ​เขา​จะ​ต้อง​…

ไม่ได้​การ​!

เขา​จะ​ไม่ยอม​ให้​มัน​เกิดขึ้น​เด็ดขาด​!

ตอนนั้น​เอง​ที่​ขันที​ที่​ยืน​อยู่​ข้าง​ผู้อาวุโส​อู่​เอ่ย​เตือน​ขึ้น​มา​ว่า​ ​”​ท่าน​ผู้อาวุโส​ ​ดูเหมือน​จะ​ถึง​เวลา​แล้ว​ขอรับ​”

ผู้อาวุโส​อู่​หันขวับ​แล้ว​ตวัด​สายตา​มอง​เขา​อย่าง​ดุร้าย​ ​”​ข้า​ย่อม​รู้ดี​ว่า​มัน​ถึง​เวลา​แล้ว​หรือยัง​!​”

ขันที​ไม่รู้​ว่า​ทำไม​ผู้อาวุโส​อู่​ถึง​หัวเสีย​ ​แต่​เขา​ก็​ตกใจ​จน​ปิดปากเงียบ​ในทันที

ผู้อาวุโส​อู่​จ้อง​แผ่น​หลัง​ของ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​เขม็ง

มัน​เป็นไปไม่ได้​!

ต้อง​มี​อะไร​ผิดพลาด​ที่ไหน​สัก​แห่ง​อย่างแน่นอน​!

“​ผู้อาวุโส​อู่​ดู​ผิดหวัง​ยิ่งนัก​ที่​ข้า​ไม่เป็นอะไร​”​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ยิ้ม​ให้​เขา​เล็กน้อย​ ​มุม​ปากของ​นาง​โค้ง​ขึ้นรา​วกับ​เป็นการ​ตบหน้า​ผู้อาวุโส​อู่

เขา​กำหมัด​แน่น​ ​แล้ว​กัดฟัน​ออกคำสั่ง​ว่า​ ​”​สวด​ใหม่​อีกครั้ง​!​”

แน่นอน​ว่า​พระ​อาจารย์​ชื่อดัง​เหล่านั้น​ย่อม​เชื่อฟัง​เขา​ ​แต่​พวกเขา​จำเป็นต้อง​หยุดพัก​เล็กน้อย​ก่อนที่จะ​ทำการ​สวด​ต่อ​ได้

เสียงสวด​มนต์​ที่​เงียบ​ไป​ส่งผล​ให้​เสียง​ของ​เขา​ดัง​มาก​พอที่​จะ​ทำให้​ทุกคน​หันมา​มอง

แต่​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​กลับ​เงยหน้า​ขึ้น​ ​ริมฝีปาก​ของ​นาง​วาด​ขึ้น​เป็น​รอยยิ้ม​ ​”​ผู้อาวุโส​อู่​ ​ได้เวลา​แล้ว​ ​เวลานี้​พระ​อาจารย์​ชื่อดัง​ทั้งหลาย​น่าจะ​ปัดเป่า​โชคร้าย​เสร็จ​แล้ว​ ​แต่​ผู้อาวุโส​อู่​กลับ​ขอให้​พระ​อาจารย์​ชื่อดัง​เหล่านั้น​สวดมนต์​ต่อ​ ​ผู้อาวุโส​อู่มั่น​ใจ​หรือว่า​จุดประสงค์​ของ​การสวดมนต์​ภาวนา​ใน​ครั้งนี้​มาจาก​สาเหตุ​นั้น​ ​ไม่ใช่​เป็นเพราะว่า​ท่าน​ไม่พอใจ​ใน​ตัว​ข้า​ ​และ​พยายาม​ที่จะ​ใส่ร้าย​ป้ายสี​ข้า​หรอก​หรือ​”

“​พระ​ชายา​พูด​ถูก​แล้ว​”​ ​หนา​นกง​เลี่ย​เดิน​เข้ามา​จาก​ด้านนอก​ ​”​คง​ยาก​ที่​พวก​ข้า​จะ​ไม่​สงสัย​เคลือบแคลง​ใน​จุดประสงค์​ที่แท้​จริง​ที่​ผู้อาวุโส​อู่​มี​ ​เรื่อง​นี้​เกี่ยวข้อง​กับ​การ​ปัดเป่า​วิญญาณ​ร้าย​ใน​วัง​หลวง​ ​แต่​ผู้อาวุโส​อู่​กลับ​ไม่ได้​แจ้ง​ให้​พวก​ข้า​ตระกูล​ผู้​บวงสรวง​ทราบ​ ​ซ้ำ​ยัง​นิมนต์​พระ​อาจารย์​เหล่านี้​เข้ามา​อีก​ ​ผู้อาวุโส​อู่​ ​ทำ​เช่นนี้​นับว่า​ผิด​กฏ​”

ระหว่าง​ที่​พูด​อยู่​นั้น​ ​เขา​ก็​ยัก​คิ้ว​แล้ว​ส่งสายตา​ให้​กับ​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋ย​ ​สายตา​นั้น​สื่อ​ความหมาย​อย่างชัดเจน​ว่า​ ​เห็น​ไหม​ล่ะ​ ​ข้า​ทำตาม​ที่​เจ้า​สั่ง​ ​และ​เข้ามา​ได้จังหวะ​พอดี​เลย​มิใช่​หรือ

สีหน้า​ของ​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋ย​ไม่เปลี่ยนแปลง​เลย​แม้แต่น้อย​ ​ใบหน้า​ด้าน​ข้าง​ของ​เขา​ยังคง​ราบเรียบ​ ​ดวงตา​ของ​เขา​ยังคง​เผย​ความ​เย็นชา​ออกมา​อย่างรุนแรง

เขามอง​หนา​นกง​เลี่ย​กลับ​ไป​ ​แต่​สีหน้า​นั้น​กลับ​ดู​ชั่วร้าย​ยิ่งกว่า​หนา​นกง​เลี่ย​เสียอีก​ ​หาก​ให้​ใคร​สัก​คน​แทน​มัน​ด้วย​คำพูด​ละ​ก็

มัน​ก็​คง​แทน​ได้​เพียงแค่​หก​คำ​เท่านั้น

เล่น​มัน​ให้​ตาย​ไป​ซะ​!

หนา​นกง​เลี่ย​สบตา​กับ​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋ย​ ​เขา​เผลอ​กลืนน้ำลาย​และ​ได้​แต่​สงสัย​กับ​ตัวเอง​ว่า​ผู้อาวุโส​อู่​ต้อง​ทำให้​อา​เจ​วี​๋ย​ไม่พอใจ​ถึงขนาด​ไหน​กัน

ถึง​ทำให้​เขา​ออกคำสั่ง​เช่นนั้น​ออกมา​…

ผู้อาวุโส​อู่​ยัง​ไม่​ตระหนักถึง​สถานการณ์​ในเวลานี้​ ​แต่​เขา​ก็​รู้​ว่าการ​นิมนต์​พระ​อาจารย์​ชื่อดัง​เหล่านี้​เข้ามา​ใน​วัง​หลวง​นั้น​ถือเป็น​การ​เสียมารยาท​ต่อตระกูล​ผู้​บวงสรวง​ ​แต่​วิธี​นี้​ย่อม​ไม่มีปัญหา​หาก​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​เผย​ร่าง​ที่แท้​จริง​ของ​ตัวเอง​ออกมา​ภายใต้​ความกดดัน​อัน​เกิด​จาก​บท​สวด​นั้น

แต่​เขา​ไม่เคย​คิด​เลย​ว่า​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​จะ​ไม่เป็นอะไร​เลย​แม้แต่น้อย​!

“​ฝ่า​บาท​”​ ​หนา​นกง​เลี่ย​ยังคง​มีท​่า​ทาง​ของ​คุณชาย​จาก​ตระกูล​ขุนนาง​ผู้​ไม่​เกรงกลัว​ผู้ใด​เหมือน​อย่างเคย​ ​”​หาก​ฝ่า​บาท​คิด​ว่า​ตระกูล​ผู้​บวงสรวง​ของ​กระหม่อม​ไม่​สามารถ​ปกป้อง​ความสงบ​สุข​ของ​วัง​หลวง​ได้​ ​เช่นนั้น​ฝ่า​บาท​ก็​สามารถ​เนรเทศ​พวก​กระหม่อม​ตระกูล​หนา​นก​งอ​อก​จาก​เมืองหลวง​ได้​เลย​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​ ​หาก​ฝ่า​บาท​เป็น​ผู้รับ​สั่ง​ด้วยตัวเอง​ ​อา​เลี่ย​ย่อม​ทำตาม​ ​ท่าน​ไม่มี​ความจำเป็น​ต้อง​เรียก​ให้พระ​อาจารย์​ชื่อดัง​เหล่านี้​มาทำ​ให้​ตระกูล​บวงสรวง​ของ​พวก​กระหม่อม​ต้อง​อับอาย​เลย​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

ตระกูล​ผู้​บวงสรวง​มีอิทธิพล​ ​และ​มีความสำคัญ​อย่างมาก​ใน​แผ่นดิน​นี้

เมื่อ​ฮ่องเต้​ได้ยิน​คำพูด​ของ​หนา​นกง​เลี่ย​ ​เขา​ก็​ไม่​สามารถ​นิ่งเงียบ​ได้​อีกต่อไป​ ​เขา​พยายาม​เกลี้ยกล่อม​ให้​ชายหนุ่ม​อยู่​ต่อ​ ​”​อา​เลี่ย​ ​เจ้า​ก็​คิดมาก​เกินไป​ ​ข้า​ยอมรับ​ข้อเสนอ​ของ​เหล่า​อู่​เพราะ​ข้า​ไม่​อยาก​รบกวน​คน​จาก​ตระกูล​บวงสรวง​ไปมา​กก​ว่านี​้​เพราะ​พวก​เจ้า​ง่วนอยู่กับ​การ​ตรวจสอบ​เรื่อง​ที่เกิด​ขึ้น​ต่างหาก​ ​อีก​อย่างหนึ่ง​ ​เหล่า​อู่​ก็​ไม่ได้​มี​จุดประสงค์​อื่น​แอบแฝง​ ​เขา​เพียงแค่​เป็นกังวล​เกี่ยวกับ​เรื่อง​วุ่นวาย​ที่เกิด​ขึ้น​ใน​วัง​หลวง​ ​และ​ต้องการ​ที่จะ​ช่วย​ข้า​แก้ปัญหา​เท่านั้น​”

“​หาก​เป็น​เช่นนั้น​ ​ผู้อาวุโส​อู่​เจอ​อะไร​บ้าง​หรือไม่​”​ ​หนา​นกง​เลี่ย​ยืน​อยู่​ข้างๆ​ ​กลิ่นอาย​อัน​ชั่วร้าย​ลอย​อยู่​รอบตัว​เขา

ผู้อาวุโส​อู่​ไม่​ตอบ

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ยืน​ขึ้น​ ​แล้ว​ปัดฝุ่น​ออกจาก​ตัว​ ​”​ผู้อาวุโส​อู่​ไม่ได้​ทำการ​สืบสวน​อัน​ใด​ทั้งสิ้น​ ​เขา​ง่วนอยู่กับ​การ​หาเรื่อง​ข้า​และ​กล่าวหา​ว่า​ข้า​ถูก​วิญญาณ​ร้าย​สิง​ ​มิหนำซ้ำ​ยัง​สั่ง​ให้พระ​อาจารย์​ชื่อดัง​เหล่านั้น​สวด​คาถา​เรียก​วิญญาณ​ครั้งแล้วครั้งเล่า​อีกด้วย​”

“​คาถา​เรียก​วิญญาณ​หรือ​”​ ​หนา​นกง​เลี่ย​ขมวดคิ้ว​แล้ว​หันไป​ทาง​ผู้อาวุโส​อู่​ด้วย​รอยยิ้ม​ชั่วร้าย​ ​”​ผู้อาวุโส​อู่​ ​ข้า​อาจ​ไม่ได้​รอบรู้​มาก​นัก​ ​แต่​อย่า​ได้​โกหก​ข้า​เลย​ ​ข้า​คลุกคลี​อยู่​กับ​การ​ทำพิธี​บวงสรวง​มานาน​ ​แต่​นี่​เป็นครั้งแรก​ที่​ข้า​ได้ยิน​ว่า​คาถา​เรียก​วิญญาณ​สามารถ​ปัดเป่า​โชคร้าย​ได้​ ​ท่าน​กำลัง​พยายาม​ทำให้​ปราณ​แห่ง​ความเคียดแค้น​สงบ​ลง​ ​หรือ​ทำให้​วัง​หลวง​วุ่นวาย​ขึ้น​กัน​แน่​ ​ผู้อาวุโส​อู่​ช่าง​ใจกล้า​เสีย​จริง​ ​ถึง​ได้​กล้า​หลอกลวง​เบื้องสูง​อย่าง​ไม่​เกรงกลัว​เช่นนี้​ ​ท่าน​ไม่​กลัว​หัว​จะ​หลุด​จาก​บ่า​หรือ​”

อย่างไรก็ตาม​ ​ผู้อาวุโส​อู่​ก็​ผ่าน​ร้อน​ผ่าน​หนาว​มามาก​มาย​ ​ดังนั้น​เขา​จึง​ยังคง​ดู​เยือกเย็น​ ​และ​ไม่ได้​ร้อนใจ​กับ​การ​สอบสวน​ของ​หนา​นกง​เลี่ย

เขา​หันหน้า​ไปหา​ฮ่องเต้​ ​และ​กล่าวว่า​ ​”​ฝ่า​บาท​ ​การ​นิมนต์​พระ​อาจารย์​ชื่อดัง​เหล่านี้​เข้ามา​ใน​วัง​หลวง​เพื่อ​สวด​คาถา​เรียก​วิญญาณ​นั้น​เป็น​สิ่ง​ที่​กระหม่อม​ทูล​ให้ท่าน​ทราบ​มาก​่อน​แล้ว​ ​จะ​นับเป็น​การหลอก​ลวง​เบื้องสูง​ได้​อย่างไร​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​ ​ฝ่า​บาท​ได้​โปรด​ช่วย​สนับสนุน​คำพูด​ของ​กระหม่อม​ด้วย​!​”

“​เหล่า​อู่​บอก​ข้า​เรื่อง​นี้​แล้ว​”​ ​ฮ่องเต้​ยังคง​ใจลอย​เหมือน​อย่างเคย​ ​เขา​กล่าว​ขึ้น​อย่าง​ไม่ใส่ใจ​ว่า​ ​”​อา​เลี่ย​ ​พวก​เจ้า​เป็น​ผู้ใต้บังคับบัญชา​ของ​ข้า​ ​และ​ข้า​รู้​ว่า​ทำ​ทุกอย่าง​โดย​มี​ความสงบ​ของ​วัง​หลวง​เป็นที่ตั้ง​เสมอ​ ​ในเมื่อ​เหล่า​อู่​ตรวจสอบ​แล้ว​ทุกอย่าง​เรียบร้อย​ดี​ ​ก็​ย่อม​เป็น​นิมิตหมาย​ที่​ดี​แล้ว​นี่​ ​พวกเรา​เลิก​สนใจ​เรื่อง​นี้​กัน​ดีกว่า​”

หนา​นกง​เลี่ย​หรี่​ตารา​วกับ​จิ้งจอก​ของ​ตัวเอง​ลง​ ​แล้ว​มุม​ปากของ​เขา​ก็​คว่ำ​ลง​อย่าง​ดูถูก​ ​แต่​เขา​ไม่ได้​ตอบกลับ​ไป

แต่​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋​ยก​ลับ​ค่อยๆ​ ​เอ่ยปาก​ว่า​ ​”​ต่อให้​ทำ​เพื่อ​ความสงบ​สุข​ของ​วัง​หลวง​ ​แต่​หลักฐาน​ก็​เป็น​สิ่งจำเป็น​ ​ผู้อาวุโส​อู่​ควรจะ​ขอขมา​ที่​ใส่ร้าย​ป้ายสี​ข้า​กับ​พระ​ชายา​ของ​ข้ามิ​ใช่​หรือ​”

ตอนที่​เขา​เอ่ย​เช่นนั้น​ออกมา​ ​ท่าทาง​ของ​เขา​ยังคง​ไม่​แตกต่าง​จาก​ก่อนหน้านี้​ ​เขา​ยังคง​ยืน​หลัง​ตรง​ ​ทั่ว​ร่าง​เต็มไปด้วย​บรรยากาศ​อัน​สูงส่ง​และสง่า​งาม

แม้​เขา​จะ​มีท​่า​ทาง​เช่นนั้น​ ​แต่​ผู้อาวุโส​อู่​กลับ​รู้สึก​เหมือน​ตัวเอง​กำลัง​ถูก​อีก​ฝ่าย​ดูถูก​อยู่​ไม่มี​ผิด

นี่​เป็น​สิ่ง​ที่​เขา​เกลียด​ที่สุด​!

ฮ่องเต้​มอง​ผู้อาวุโส​อู่​จากนั้น​จึง​ตวัด​สายตา​ไป​มอง​ยัง​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋ย​ที่​มีสี​หน้า​เย็นชา​ขึ้น​เรื่อยๆ​ ​และ​ใบหน้า​ไม่พอใจ​ของ​หนา​นกง​เลี่ย

เขา​รู้​ว่า​หาก​ในเวลานี้​เขา​ไม่​ลงมือทำ​อะไร​สัก​อย่าง​ ​ในอนาคต​นั้น​พวกเขา​ย่อม​ไม่มีวัน​อยู่ร่วม​กันได​้​อย่างสงบ​สุข

หลังจาก​ชั่งน้ำหนัก​ใน​ใจ​ได้​แล้ว​ ​ฮ่องเต้​ก็​เปลี่ยนใจ​ผลัก​ความรับผิดชอบ​นั้น​ให้​กับ​ผู้อาวุโส​อู่​ ​”​ในเมื่อ​มาถึง​ขั้น​นี้​แล้ว​ ​เหล่า​อู่​ก็​ควรจะ​ขอขมา​หนุ่มสาว​ทั้งสอง​เสีย​ ​มัน​ไม่ใช่​เรื่องใหญ่​อัน​ใด​เลย​”

“​ฝ่า​บาท​!​”​ ​ใบหน้า​ของ​ผู้อาวุโส​อู่​เปลี่ยน​จาก​ใบหน้า​อัน​เบิกบาน​เป็น​ใบหน้า​อัน​ซีดเผือด​ใน​ชั่วพริบตา

เขา​เป็น​ผู้อาวุโส​มาถึง​สาม​ยุค​สาม​สมัย​ ​และ​ทุกคน​ใน​ท้องพระโรง​แห่ง​นี้​ก็​รู้จัก​ชื่อเสียง​ของ​เขา​ใน​จักรวรรดิ​จ้าน​หลง​เป็น​อย่างดี

แต่​ตอนนี้​ฝ่า​บาท​กลับ​สั่ง​ให้​เขา​ยอมรับ​ความพ่ายแพ้​และ​ก้มหัว​ให้​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ที่​อายุ​น้อยกว่า​เขา​ต่อหน้า​ทุกคน​!

เรื่อง​นี้​ทำให้​เขา​ทรมาน​ยิ่งกว่า​ฆ่า​เขา​ให้​ตาย​เสียอีก​!

“​อะไร​กัน​”​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​นั่ง​อยู่​ที่​เดิม​ด้วย​ท่าทาง​สบาย​ๆ​ ​พร้อมกับ​ยก​ขา​ขึ้น​ไขว่ห้าง​และ​เอน​ตัว​ไป​ด้านหลัง​ ​”​ผู้อาวุโส​อู่​พยายาม​ขัดคำสั่ง​ของ​ฝ่า​บาท​หรือ​”

“​เหล่า​อู่​”​ ​ฮ่องเต้​เร่ง​เขา​ ​น้ำเสียง​ของ​เขา​เบา​กว่า​ก่อนหน้านี้​อย่างเห็นได้ชัด

ผู้อาวุโส​อู่​คว้า​ถ้วยชามา​จาก​ขันที​ ​แล้ว​หายใจเข้า​เฮือก​ใหญ่​ ​เขา​โกรธ​จน​กล้ามเนื้อ​แทบ​เต้น​ตุบๆ​ ​ไป​ทั้ง​หน้า​ระหว่าง​ที่​เขา​เดิน​เข้าไป​หา​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ ​ในเวลานี้​สิ่ง​เดียว​ที่​เขา​อยาก​ทำที​่​สุด​คือ​การ​ขุด​หลุม​สัก​หลุม​ ​แล้ว​มุด​เข้าไป​หลบ​อยู่​ข้างใน​….

องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที!

องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที!

Status: Ongoing

นิยายโรแมนติก นักรบหญิงย้อนเวลามาเจอสังคมอุดมพลังปราณ…และองค์ชายสายคลั่งรัก!

“เจ้าต้องรับผิดชอบ”

“ก็ได้ ท่านต้องการให้ข้ารับผิดชอบอย่างไรหรือ อย่าบอกนะว่าท่านอยากให้ข้าแต่งงานด้วย”

“แต่งงานหรือ…” ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยจับคางของเฮ่อเหลียนเวยเวยอย่างหยอกล้อ

“ไหนๆ เราก็จะแต่งงานกันอยู่แล้ว ลองมาตรวจสอบเรื่องนี้กันก่อนดีไหม…

ไปเตรียมห้อง!”

เฮ่อเหลียนเวยเวย ราชินีนักรบแห่งศตวรรษที่ 21 ย้อนเวลามาอยู่ในร่างคุณหนูใหญ่ชื่อเดียวกัน

ย้อนมาวันแรกก็พบว่านางถูกยกเลิกงานแต่งงาน ทั้งยังเจอแม่เลี้ยงและน้องสาวต่างมารดาหมายหัวเอาชีวิต

ทั้งยังต้องพบว่า โลกนี้วัดค่าของคนด้วยพลังลมปราณ ทว่าร่างนี้ไม่มีลมปราณ จึงถูกเรียกว่า ‘นังคนไร้ค่า’

แต่จู่ๆ โชคชะตาให้นางได้บังเอิญพบหนังสือโบราณ ทำพันธะสัญญากับคนหูหมาป่า ทั้งยังมีหนังสือเรียกตัวจากสำนักไท่ไป๋

ยิ่งไปกว่านั้นยังมีบุรุษรูปงามที่ใครต่างก็เกรงใจ นาม ไป๋หลี่เจียเจวี๋ย ไล่ตามนางไปทุกที่

เพราะในเมื่อนางเคยขโมยจูบแรกเขามา และเขาก็คือบุรุษหน้ากากเงินที่นางเคยพบมาก่อน

ชีวิตใหม่นี้มีของดีอยู่ในมือ จะแกร่งขึ้น จะแก้แค้น จะร้ายกว่าเดิมจนทั่วหล้าต้องตกตะลึง นางไม่เคยกลัว!

กลัวเพียงอย่างเดียว… เขาคนนั้นจะไม่คืนชีวิตสุขสงบให้นาง เล่นไล่จับมันเหนื่อยมากนะรู้ไหม?!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท