บทที่ 551 หากมีวาสนา สุดท้ายสักวันก็ต้องได้พานพบอีกครั้ง!
การจัดการต้าเต๋อและแทนที่พระอมิตาภะพุทธเจ้าเป็นสิ่งที่ต้องทำในอนาคต
สิ่งที่เซียวฮุ่ยต้องทำในตอนนี้คือการวางรากฐานของตนเอง และเปลี่ยนให้พุทธภูมิเก้าประทีปกลายเป็นแดนฝอของนาง
หลังจากนั้นนางก็ออกเดินทางพร้อมกับพระเก้าประทีปพุทธเจ้า เริ่มดำเนินแผนการ
…
ณ แดนหยิน เหยียนโจว บูรพาทิศ
เขาไท่หัว
มีนาวาล่องนภาลำหนึ่งปรากฏขึ้นมาจากความว่างเปล่า
“รวดเร็วยิ่งนัก!”
เสี่ยวหยาถอนหายใจออกมา อาณาจักรอวี้ซวีอยู่ห่างไกลจากที่นี่เป็นอย่างยิ่ง การที่พวกนางกลับมาถึงได้รวดเร็วเพียงนี้ เป็นเรื่องที่อยู่เหนือความคาดหมายของนาง พลังของกระจกโบราณช่างน่าตื่นตะลึงยิ่งนัก!
ก่อนหน้านี้นางกับหลิงอินต้องใช้เวลาไปพอสมควรในการเดินทางไปยังอาณาจักรอวี้ซวี
“เอาล่ะ เอาล่ะ หากพวกเจ้าต้องการความช่วยเหลือ เพียงแค่เรียกหาข้า ข้าพร้อมจะปรากฏตัวออกมาเสมอ!”
เสียงของกระจกโบราณดังขึ้น
มันไม่ธรรมดา ทั้งยังน่าอัศจรรย์เป็นอย่างยิ่ง จะอาณาจักรนับหมื่นหรือแม้กระทั่งภพเซียน มันใช้เวลาเพียงแค่พริบตาเดียวก็ไปถึงโดยไม่ต้องคำนึงสถานที่และระยะทาง
แน่นอนว่าเดิมทีมันไม่ได้ทรงพลังถึงเพียงนี้ ทว่าหลังจากอยู่ในมือของหลี่จิ่วเต้าแล้ว มันก็แข็งแกร่งขึ้นมา ทั้งยังแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ จนไม่อาจจะจิตนาการได้
“ลั่วสุ่ย!”
ในขณะนั้นเอง ก็มีร่างหนึ่งทะยานออกจากด้านในสำนักไท่หัว มุ่งตรงไปหาลั่วสุ่ย
“ไม่น่าแปลกใจเลยที่เจ้าไม่ให้ข้ากลับไปหาคุณชายด้วย ที่แท้เจ้าก็ไม่มีเจตนาดี วางแผนเอาไว้แต่แรก!”
ร่างนั้นกล่าวออกมาอย่างฉุนเฉียว
นางไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเซี่ยเหยียน ญาณสัมผัสของนางเองก็ทรงพลังเป็นอย่างมาก ทันทีที่นาวาล่องนภาปรากฏออกมานางก็สามารถสัมผัสได้ถึงความผิดปกติ จึงรีบออกมาจากสำนักทันที
หลังจากเห็นลั่วสุ่ยแล้ว นางก็รู้สึกฉุนเฉียวขึ้นมา เพราะรู้มาจากหยวนอีว่าลั่วสุ่ยได้กลายเป็นผู้หญิงขอบคุณชายไปแล้วในคืนของวันที่กลับไปจากสำนักไท่หัว!
ยามนั้นนางกล่าวว่าจะกลับไปพร้อมลั่วสุ่ยด้วย แต่ลั่วสุ่ยยืนกรานปฏิเสธ ที่แท้ลั่วสุ่ยก็วางแผนเอาไว้นานแล้ว!
“ต่อหน้าคุณชาย ข้าจะสามารถวางแผนอะไรได้? อีกอย่างต่อให้วางแผนไว้แล้วจะสามารถซ่อนจากคุณชายได้เช่นไร? เซี่ยเหยียน เจ้าคิดมากไปเอง ทั้งหมดล้วนเป็นความต้องการของคุณชาย!”
ลั่วสุ่ยไม่ปฏิเสธสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนั้นต่อหน้าเซี่ยเหยียน นางกับเซี่ยเหยียนไม่ค่อยลงรอยกันมาตั้งแต่ต้น การได้เห็นเซี่ยเหยียนไม่มีความสุขเช่นนี้ นางจะปฏิเสธด้วยเหตุใด
ไม่มีทางทำเช่นนั้นแน่
นางชอบจะได้เห็นเซี่ยเหยียนแสดงท่าทางฉุนเฉียวออกมา!
หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น เซี่ยเหยียนที่เดิมทียังคงฉุนเฉียวถึงกับนิ่งค้างจนตัวแข็ง
ใช่แล้ว ต่อหน้าคุณชาย ไม่มีสิ่งใดสามารถปิดบังซ่อนเร้นได้อย่างแน่นอน!
นางอึดอัดคับข้องใจเป็นอย่างมาก มากเสียจนพูดอะไรไม่ออก
“ไปกันเถอะเสี่ยวชี!”
เมื่อเห็นเซี่ยเหยียนนิ่งค้างไปแล้ว ลั่วสุ่ยก็เบิกบานใจเป็นอย่างยิ่ง นางเรียกมัจฉาสัตมายาให้ออกเดินทางจากเขาไท่หัวกลับไปยังเมืองชิงซานด้วยกัน
“อย่าไปฟังเรื่องไร้สาระของนาง ความจริงไม่มีเรื่องอะไร”
หลิงอินกล่าว “นางเพียงแค่ยั่วโมโหเจ้า ทว่าเจ้ายังมองไม่ออก!”
อย่างไรเสียเซี่ยเหยียนก็ยังเยาว์วัย แม้ว่าเทียบกับก่อนหน้านี้จะโตขึ้นมากแล้ว แต่ก็ยังคงไม่เพียงพออย่างเห็นได้ชัด ไม่เช่นนั้นนางคงไม่โดนยั่วโมโหเช่นนี้
เซี่ยเหยียนได้ฟังคำของหลิงอินแล้วก็หัวเราะออกมา นางเชื่อที่หลิงอินกล่าวมา
“ไป พวกเราเข้าไปคุยกันเถอะ ข้าต้องการความช่วยเหลือจากสำนักของเจ้า”
หลิงอิน เสี่ยวหยา และเซี่ยเหยียนพากันเดินเข้าไปในสำนักไท่หัว
หลังจากนั้นหลิงอินก็เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเผ่าจิ้งจอกสวรรค์ให้เซี่ยเหยียนฟัง หวังว่าสำนักไท่หัวจะสามารถจัดหาสถานที่ดี ๆ สำหรับเผ่าจิ้งจอกสวรรค์
“ไม่มีปัญหา”
เซี่ยเหยียนเชิญเวิงอู๋โยวให้มาหา เวิงอู๋โยวเป็นบรรพชนของสำนักไท่หัว คุ้นเคยกับแดนบูรพาทิศมากกว่าเซี่ยเหยียน
“มีสถานที่ดี ๆ อยู่!”
เวิงอู๋โยวมีความเข้าใจในพื้นที่ของแดนบูรพาทิศเป็นอย่างดี เขาสามารถนึกสถานที่ตั้งถิ่นฐานอันเหมาะสมของเผ่าจิ้งจอกสวรรค์ได้อย่างรวดเร็ว
สำนักไท่หัวในตอนนี้เปี่ยมอำนาจอย่างยิ่ง ไม่เพียงแต่ในแดนบูรพาทิศเท่านั้น ยังนับรวมทั่วทั้งเหยียนโจวด้วย
ก่อนหน้านี้สำนักไท่หัวยังคงต้องหาที่พึ่งพาอาศัย ทว่าตอนนี้สำนักไท่หัวไม่จำเป็นต้องพึ่งพาผู้ใดแล้ว ไม่ต้องกล่าวถึงเซี่ยเหยียนที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก สมาชิกคนอื่น ๆ ในสำนักไท่หัวเองก็เติบโตขึ้นด้วยความรวดเร็ว ตอนนี้ความแข็งแกร่งโดยรวมของพวกเขานั้นมากเสียยิ่งกว่ากองกำลังใด ๆ ในเหยียนโจว
“ดียิ่ง!”
พวกหลิงอินตามเวิงอู๋โยวไปยังสถานที่แห่งนั้น ก่อนจะตั้งรกรากให้กับเผ่าจิ้งจอกสวรรค์ นับว่าเป็นการตัดความกังวลอย่างหนึ่งของหลิงอินทิ้งไปได้
ชะตากรรมของเผ่าจิ้งจอกสวรรค์น่าเศร้าเกินไป ทั้งหมดเป็นเพราะลักษณะตั้งแต่กำเนิดที่สามารถยั่วยวนเพศตรงข้ามได้มากไป ทำให้เผ่าจิ้งจอกสวรรค์มักถูกผู้ที่แข็งแกร่งกว่าจับตัวไปเสมอ ใช้ชีวิตทุกวันด้วยความหวาดกลัว
“หลังจากนี้พวกเจ้าก็ไม่ต้องกังวลอีกต่อไปแล้ว ข้าเองก็จะมาหาพวกเจ้าบ่อย ๆ!”
หลิงอินกับเสี่ยวหยากล่าวอำลาเผ่าจิ้งจอกสวรรค์ จากนั้นพวกนางก็กลับไปยังเมืองชิงซาน
ฟ่านหยาเจ๋อพี่ชายของเสี่ยวหยาอยู่บนนาวาล่องนภาไม่ออกมาจนกระทั่งถึงเมืองชิงซาน
เขาพักฟื้นมาตลอดทาง เมื่อถึงเมืองชิงซานแล้วจึงค่อยออกมาจากด้านในนาวาล่องนภา
หลังจากเดินไปถึงข้างแม่น้ำสายเล็ก หลิงอินและเสี่ยวหยาก็พาเขาไปทักทายต้นหลิวและเจ้าก้อนหิน ก่อนจะเข้าไปยังเมืองชิงซาน
“พี่ชายทำความคุ้ยเคยกับสภาพแวดล้อมก่อนเถอะ อีกหลายวันถัดไปข้าค่อยพาท่านไปพบคุณชาย!”
เสี่ยวหยากล่าวกับพี่ชายของนาง
นางไม่ได้ปิดบังอะไรกับพี่ชาย เล่าเรื่องราวทุกอย่างให้ฟัง พี่ชายของนางจึงรู้จักตัวตนของคุณชาย
“ตกลง!”
ฟ่านหยาเจ๋อพยักหน้า เขาเข้ามาอาศัยอยู่ในบ้านของหลิงอิน
อีกด้านหนึ่ง ลั่วสุ่ยกับมัจฉาสัตมายาก็พาผู้เฒ่าเต่ากลับไปยังลานเล็ก ๆ ของคุณชาย
พวกเขาออกมาจากสำนักไท่หัวก่อนผู้อื่น แต่ก็ไม่ได้ตรงกลับไปเมืองชิงซานทันที เพราะระหว่างทางลั่วสุ่ยและมัจฉาสัตมายาต้องบอกกล่าวสถาการณ์และข้อห้ามของคุณชายให้ผู้เฒ่าเต่าเสียก่อน
ผู้เฒ่าเต่าในตอนนี้ไม่ได้อยู่ในร่างเด็กหนุ่ม และก็ไม่ได้อยู่ในร่างเต่ายักษ์ขนาดมหึมา ทว่าเป็นเต่าชราที่ขนาดตัวใหญ่ปกติ
หลังจากมาถึงลานเล็ก ๆ แล้ว ผู้เฒ่าเต่าก็ต้องตกตะลึงเป็นอย่างมาก ทุกสิ่งที่อยู่ด้านในลานอยู่ห่างไกลจากความรู้ความเข้าใจยิ่ง ผู้เฒ่าเต่าถึงกับตะโกนออกมาในใจว่าภพเซียนก็คงไม่อาจเทียบเคียงได้!
“ขอบคุณทั้งสองท่าน ขอบคุณทั้งสองท่าน!”
ผู้เฒ่าเต่ารีบเอ่ยขอบคุณลั่วสุ่ยและมัจฉาสัตมายา มันรู้สึกขอบคุณจากใจจริง หากไม่ใช่ทั้งสองคนมันจะสามารถมาที่นี่ได้อย่างไร?
สำหรับมันแล้ว นี่นับเป็นโอกาสวาสนาครั้งใหญ่ที่สุด!
ลั่วสุ่ยตอบกลับด้วยรอยยิ้ม “ไม่จำเป็นต้องขอบคุณ หลังจากนี้ท่านเพียงทำตัวดี ๆ กับคุณชายเท่านั้น”
ในตอนนี้คุณชายยังไม่กลับมาบ้าน
ใช่แล้ว หลี่จิ่วเต้ายังคงไม่กลับมาจากการเก็บสมุนไพร ทว่าตอนนี้เขาก็อยู่ระหว่างการเดินทางกลับแล้ว
“ไม่รู้ว่าเสี่ยวไป๋จะนำหินและเต่าแบบใดกลับมา”
ระหว่างทางกลับเมือง หลี่จิ่วเต้าพึมพำออกมาด้วยความคาดหวัง
เขาออกมาไม่ไกลจากเมืองชิงซานมากนัก เพียงแค่ครึ่งวันก็สามารถเดินทางกลับไปได้ ไม่รู้ว่าตอนนี้เสี่ยวไป๋กลับไปถึงแล้วหรือยัง
“ที่อยู่ของซีเอง…จะหาพบหรือไม่นะ?”
ชายหนุ่มถอนหายใจ คิดถึงซีขึ้นมาอีกครั้ง แม้จะรู้ดีว่าเป็นเรื่องยากสำหรับหยวนอีที่จะตามหาที่อยู่ของซี แต่เขาก็ยังคงหวังว่าหยวนอีจะสามารถสืบหาที่อยู่ของซีได้
สำหรับซีนั้น เขาไม่มีทางลืมลงไปได้ ซีมีตำแหน่งสำคัญอย่างยิ่งภายในใจของเขา
‘ไม่ต้องรีบร้อน อนาคตยังคงมีอีกยาวไกล หากมีวาสนา สุดท้ายสักวันก็ต้องได้พานพบอีกครั้ง!’
หลี่จิ่วเต้ากล่าวขึ้นมาในใจ เชื่อมั่นว่าตนเองจะต้องได้พบหน้าซีอีกครั้ง