บทที่ 553 เมื่อหลี่จิ่วเต้ามาด้วยตนเอง พลังทั้งหมดก็ถอยหนีหมดสิ้น!
จักรพรรดินีเศร้าโศกไม่เต็มใจ ทว่าก็ไม่อาจทำสิ่งใดได้ นางสูญสิ้นเรี่ยวแรงทั้งหมด ไม่สามารถกระทั่งจะกระดิกนิ้วได้ เช่นนั้นแล้วนางยังจะสามารถต่อต้านอยู่ได้อย่างไร!?
“อาจารย์…”
หยาดน้ำตาไหลรินจากใบหน้าอันงดงามของนาง ทุกอย่างล้วนจบสิ้นกลายเป็นความว่างเปล่า นางกำลังจะตายเช่นเดียวกับอาจารย์ของตน…
เมื่ออสูรร้ายตนหนึ่งกระโจนเข้ามาพร้อมอ้าปากที่เปื้อนเลือดออกมา นางก็หลับตาลงอย่างหมดหนทาง นางยังคงปรารถนาที่จะมีชีวิตอยู่ต่ออย่างแรงกล้า ทว่ามันก็เป็นเพียงฝันกลางวัน
“หืม!?”
พริบตานั้นเองนางก็รับรู้ได้ว่ามีสิ่งเหนือความคาดหมายเกิดขึ้น ทุกสิ่งรอบตัวนางสงบลง พลังอันน่าหวาดกลัวก็คล้ายจะสลายหายไปหมดสิ้น
นางรีบลืมตาขึ้นมาอย่างรวดเร็วด้วยความใคร่รู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้น
หลังจากนั้นนางก็ได้เห็นภาพที่ทำให้ตนเองตกตะลึงไปชั่วชีวิต!
ชายหนุ่มผู้หนึ่งท่าทางเรียบง่ายสมถะ นอกจากรูปร่างหน้าตาหล่อเหลาแล้ว ก็ไม่มีสิ่งใดพิเศษ ไม่แตกต่างอะไรไปจากปุถุชนทั่วไป
แต่หากชายหนุ่มเป็นปุถุชนจริง คงไม่อาจเยื้องย่างทีละก้าวบนจักรวาลหมื่นดาราเข้าสู่ภพเซียน!
สวรรค์!
นี่จะเป็นไปได้อย่างไร!?
ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความตกตะลึงสะท้านขวัญ ชายหนุ่มดูแล้วเป็นเพียง ‘ปุถุชน’ ผู้หนึ่ง ทั้งร่างกายไม่มีประกายแสงใด ทั้งยังไม่อาจสัมผัสพลังอะไรได้ แต่เมื่อเหยียบเท้าลงมาในภพเซียนแล้ว พลังอันน่าหวาดกลัวที่ปกคลุมรอบภพเซียนกลับหดหนีไม่มีแม้แต่พลังเล็กน้อยเล็ดรอดออกมา ราวกับตื่นตัว ‘ปุถุชน’ ผู้นี้เป็นอย่างยิ่ง!
นางจะสามารถเชื่อลงได้อย่างไร!?
พึงรู้ว่า แม้กระทั่งตระกูลเซียวอันเป็นตระกูลใหญ่แห่งภพเซียนก็ไม่อาจทำสิ่งใดกับพลังที่ห่อหุ้มภพเซียนเอาไว้ได้ ไม่กล้าจะเข้าออกตามใจชอบและอาจตายภายใต้พลังอันน่าสะพรึงกลัวนี้!
ทว่าชายหนุ่มผู้นี้กลับสามารถเดินผ่านเข้าไปได้อย่างง่ายดาย โดยบนร่างกายไม่แผ่พลังอะไรแม้แต่น้อย พลังทั้งหมดที่ปกคลุมภพเซียนถอยหายไปในทันที ไม่กล้ากระทั่งจะโผล่ออกมา!
นี่…นี่มันน่าตื่นตะลึงเกิดไปแล้ว!
รูม่านตาของจักรพรรดินีหดแคบลง หัวใจของนางเต้นกระหน่ำจนแทบกระเด็นออกจากร่าง!
นางเองก็เป็นคนที่ผ่านร้อนหนาวมามาก ตระเวรทั่วทั้งภพเซียนมานาน ได้พบเจอผู้ทรงอำนาจมากมาย ทว่าเมื่อเทียบกับชายหนุ่มคนนี้แล้ว ผู้ทรงอำนาจที่นางพบเจอเป็นได้เพียงธุลี ไม่อาจเทียบชั้นได้แม้แต่น้อย!
นางหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด ขนบนร่างลุกชัน สั่นสะท้านจนถึงจิตวิญญาณอย่างไม่อาจควบคุมได้ ชายหนุ่มผู้นี้คือใครกัน? บรรลุไปถึงขอบเขตขั้นใดแล้ว!?
นางไม่กล้าคิด และก็ไม่อาจจินตนาการ ขอบเขตของชายหนุ่มผู้นี้จะต้องอยู่เหนือยิ่งกว่าจักรพรรดิเซียนหรือบรรพจารย์เซียนอย่างแน่นอน!
ชายหนุ่มเดินบนท้องฟ้าด้วยสีหน้าสงบนิ่ง ก้าวเข้าไปยังภพเซียนทีละก้าว แต่ดูเหมือนว่าตัวเขาจะไม่ได้สังเกตเห็นนางเสียด้วยซ้ำ ไม่ปรายตามองมาทางนางแม้แต่น้อย
“จะมองข้าได้อย่างไร…ต่อหน้าตัวตนเช่นนี้ ข้านั้นไม่อาจเทียบได้แม้นผงธุลี!”
จักรพรรดินีหัวเราะเยาะตนเอง นางจะสามารถดึงดูดความสนใจของตัวตนเช่นนี้ได้อย่างไร นางอ่อนแอเสียจนไม่มีค่าให้กล่าวถึง
เมื่อชายหนุ่มเดินเข้าไปถึงด้านในภพเซียนแล้ว พลังอันน่าหวาดกลัวที่ปกคลุมภพเซียนเอาไว้ก็เริ่มฟื้นกลับคืนมา นางไม่กล้ารีรออีกไปต่อไป รีบพยุงร่างของตนเองไปจากที่นี่
ก่อนหน้านี้ช่วงพลังที่ปกคลุมภพเซียนหายไปจนหมดสิ้น ทำให้นางได้มีโอกาสพักหายใจและฟื้นตัวกลับมาเล็กน้อย ไม่เช่นนั้นนางคงไม่อาจเคลื่อนไหวได้แม้อยากหลบหนีเพียงใด!
ทว่าหลังจากนางเพิ่งหลบหนีออกไปได้ สติของนางก็เลือนหาย ร่างกายล่องลอยอยู่ในจักรวาลหมื่นดารา
ยังดีที่อย่างไรเสียขอบเขตของนางก็แข็งแกร่งเกินกว่าเซียนไปไกลแล้ว ร่างกายแข็งแกร่งเกินกว่าจินตนาการถึง หากเป็นสิ่งมีชีวิตอื่นที่ล่องลอยไปอย่างไร้สติเช่นนี้ ร่างกายคงไม่พ้นถูกพลังของจักรวาลหมื่นดาราบดขยี้ทิ้งอย่างแน่นอน
…
ณ เมืองชิงซาน
ณ บ่อน้ำในลานเล็ก ๆ ของหลี่จิ่วเต้า
“คุณชายจะต้องเป็นจักรพรรดิเซียนหรือบรรพจารย์เซียนอย่างแน่นอน!”
ผู้เฒ่าเต่ากล่าวออกมาด้วยความตกตะลึงอย่างถึงที่สุด
เมื่อเห็นหลี่จิ่วเต้าครั้งแรก มันยังคงเกิดข้อสงสัยอยู่เล็กน้อยว่าอีกฝ่ายจะแข็งแกร่งถึงเพียงนั้นเชียวหรือ
อย่างไรเสียมันก็ไม่อาจรับรู้ได้ถึงพลังของหลี่จิ่วเต้าแม้แต่น้อย
ทว่าตอนนี้มันรู้แล้วว่าความสงสัยก่อนหน้านี้ของมันนั้นโง่เขลาถึงเพียงใด!
ตัวตนของคุณชายย่อมต้องเป็นจักรพรรดิเซียนหรือบรรพจารย์เซียน ไม่ก็สูงยิ่งกว่านั้นเสียด้วยซ้ำ!
มันอยู่ในตำแหน่งเหมาะ เห็นภาพที่สะท้อนออกมาจากกระจกโบราณ
เพียงแค่คุณชายคิดก็ปรากฏร่างอวตารขึ้นที่ดินแดนแห่งหนึ่งในกระจกโบราณ
ดินแดนแห่งนั้นมหัศจรรย์ชวนตื่นตะลึงอย่างถึงที่สุด แสงเซียนส่องสว่างไปทุกหนแห่ง บางครั้งก็มีเซียนในตำนานเหินไปมาบนท้องนภา เป็นดินแดนที่อยู่เหนือชั้นขึ้นไปอย่างไม่อาจเปรียบเทียบได้
ความคิดแรกที่แล่นเข้ามาในหัวของมันบอกว่า นี่คือภพเซียน!
เนื่องจากมันสามารถรับรู้ได้ถึงลมหายใจอันเป็นนิรันดร์จากดินแดนแห่งนี้!
ใช่แล้ว ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงภาพที่กระจกโบราณฉายออกมา มันก็ยังสามารถสัมผัสได้ถึงลมหายใจนิรันดร์ที่ไหลเวียนในสถานที่แห่งนั้น
มันไม่ได้คิดว่าตนเองทรงพลังจนสามารถสัมผัสสิ่งต่าง ๆ ด้านในกระจกโบราณ มันตระหนักได้อย่างชัดเจน ว่าสาเหตุที่มันสามารถสัมผัสลมหายนิรันดร์ของดินแดนแห่งนั้นได้ ต้องเป็นเพราะคุณชายและกระจกโบราณอย่างแน่นอน
ไม่เช่นนั้นมันคงไม่อาจสัมผัสได้ถึงลมหายใจของดินแดนแห่งนั้นได้อย่างชัดเจน!
“คุณชายช่างทรงพลังยิ่งนัก!”
มันถอนหายใจออกมา ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันในตอนนี้ตกใจจนเกิดความหวั่นไหวมากเท่าใด
เรื่องที่คุณชายสามารถไปยังภพเซียนได้ภายในพริบตาเดียวไม่ต้องไปกล่าวถึง มันยังเห็นว่าเมื่อร่างอวตารของคุณชายก้าวเข้าไปยังภพเซียน พลังอันน่าหวาดกลัวที่ปกคลุมภพเซียนอยู่ก็ถอยหนีหายไปทันที ไม่กล้าปล่อยแม้แต่เศษเสี้ยวพลังออกมาให้เห็น!
มันสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่า พลังที่ปกคลุมภพเซียนเอาไว้น่าสะพรึงกลัวถึงเพียงใด หากเป็นมันที่ฝ่าเข้าไป เกรงว่ามันอาจถูกบดขยี้จนกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ไม่หลงเหลือสิ่งใดเอาไว้
มันยังรู้สึกอีกว่ากระทั่งเซียนที่แท้จริงก็ไม่อาจทำเช่นนี้ได้ คงถูกบดขยี้ทิ้งไม่ต่างอะไรจากมัน
ทว่าคุณชายเล่า?
นั่นเป็นเพียงร่างอวตารของคุณชายที่เดินเข้าไป พลังอันน่าหวาดกลัวที่ปกคลุมภพเซียนก็เป็นฝ่ายหวาดเกรงไม่อาจทำสิ่งใดได้แทน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าขอบเขตของคุณชายจะต้องลึกล้ำจนไม่อาจหยั่งถึง!
บุ๋งบุ๋ง~
“ไม่จำเป็นต้องตื่นตกใจเช่นนี้ ในวันข้างหน้าท่านสามารถเห็นฉากเช่นนี้ได้ทุกเมื่อ”
ด้านในบ่อน้ำ มีปลาตนหนึ่งว่ายไปด้านข้างผู้เฒ่าเต่าแล้วเอ่ยออกมา
พวกมันเห็นเรื่องน่าอัศจรรย์จนคุ้นชินไปนานแล้ว พวกมันเคยเห็นเรื่องน่าตื่นตะลึงมากมายของคุณชาย ทำให้รู้ซึ้งได้ว่าคุณชายทรงพลังเหนือชั้นมากเพียงใด
ผู้เฒ่าเต่ารู้สึกเก้อเขินเล็กน้อย มันเป็นถึงผู้ที่ถูกเรียกนามว่าเต่าเซียน แต่กลับแสดงท่าทางตื่นตาตื่นใจเหมือนคนไม่เคยเห็นโลก จนต้องให้ปลาตัวน้อยมากล่าวปลอบเขาเช่นนี้
ทว่ามันเองก็ไม่รู้จะพูดสิ่งใดเหมือนกัน
มันไม่เคยเห็นวิธีการเช่นนี้มาก่อน!
มันตื่นตะลึงเป็นอย่างมาก!
สิ่งนี้อยู่เหนือยิ่งกว่าความรู้ความเข้าใจของมันโดยสิ้นเชิง!
ใช่แล้ว ชายหนุ่มที่จักรพรรดินีเห็นก็คือร่างอวตารของหลี่จิ่วเต้า
เพียงแค่คิดเขาก็สามารถเข้าสู่ภพเซียนได้อย่างง่ายดายโดยไม่ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวได้แม้แต่น้อย ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ว่าเขาได้เข้ามายังภพเซียนแล้ว
เขาก้าวไปด้านหน้าก่อนจะมาถึงสถานที่แห่งหนึ่งในภพเซียน หินที่เขาตามหาเองก็อยู่ที่นั้น เขาต้องการสำรวจหินก้องนี้อย่างละเอียด
ที่แห่งนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นอาณาเขตของตระกูลใดตระกูลหนึ่ง ทว่ามันก็ไม่เป็นอุปสรรคอันใดต่อหลี่จิ่วเต้า เขาสามารถมาถึงด้านหน้าก้อนหินได้อย่างง่ายดาย ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ว่าเขาเข้ามายังสถานที่แห่งนี้
“ไม่เลวเลย!”
หลี่จิ่วเต้าใช้มือสัมผัสหิน จดจำทุกรายละเอียดด้วยความระมัดระวัง เขาต้องการจะแกะสลักหินให้มีรูปร่างสมบูรณ์ ทำให้มันกลายเป็นภูเขาจำลองที่ดูดีที่สุด
เขาต้องการจะนำหินกลับมาด้วยจริง ๆ แต่ก็รู้ดีว่านั่นไม่อาจเป็นไปได้
ที่นี่เป็นเพียงโลกเสมือนจริงในแท็บเล็ต ไม่ใช่โลกจริงที่เขาอาศัยอยู่
ทว่าสิ่งที่หลี่จิ่วเต้าไม่รู้ก็คือ ‘จิตวิญญาณ’ ของหินก้อนนี้กำลังสั่นเทาด้วยความตื่นตกใจกลัวอย่างถึงที่สุด!
ผู้ยิ่งใหญ่คนนี้เป็นใครกัน!?
‘จิตวิญญาณ’ ของก้อนหินเต็มไปด้วยความอกสั่นขวัญแขวน มันกวาดกลัวอย่างมาก มันสามารถรับรู้ได้ถึงความอันตรายาสุดขีดของหลี่จิ่วเต้า มันไม่สงสัยเลยหากจะบอกว่าชายผู้นี้สามารถสังหารมันได้อย่างง่ายดาย!
นี่เป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นจากสัญชาตญาณของมัน ยิ่งเป็นหินบรรพกาลอย่างมันยิ่งแม่นยำเป็นอย่างมาก
มันหวาดกลัวเสียจนไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ พลังทั้งหมดถูกเก็บซ่อนเอาไว้ ไม่กล้าแสดงความอวดดีออกมาแม้แต่น้อย!
ผู้ยิ่งใหญ่คนนี้มันไม่สามารถยั่วยุได้!