รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 556 ผู้ใดกันที่เลวทรามเช่นนี้!

บทที่ 556 ผู้ใดกันที่เลวทรามเช่นนี้!

บทที่ 556 ผู้ใดกันที่เลวทรามเช่นนี้!

หินโกลาหลเพียงบีบก็แหลกลาญเลยหรือ!?

เรื่องบ้าอะไรกันนี่!

เห็นได้ชัดว่าพวกเขาถูกหลอก เจ้าสิ่งนี้หาใช่ ‘หินโกลาหล’ ไม่ เป็นแค่ก้อนหินธรรมดาอย่างไม่ต้องสงสัย!

เหล่าผู้นำมหาตระกูลเดือดดาลกันหมด เจ้าผู้นำตระกูลเซียวเดนตาย ก่อนนี้เขี้ยวถึงปานนั้น ขูดรีดพวกเขาเสียยกใหญ่ เรียกร้องตั้งมากมาย ทั้งขออ่านคัมภีร์โบราณในตระกูลพวกเขา ทั้งขอให้ผู้นำตระกูลชิงเหลียนร่ายรำ ผลสุดท้ายกลับใช้ก้อนหินเส็งเคร็งก้อนนี้มาตบตาพวกเขาหรือ!?

ใช้หินเซียนสักก้อนก็ยังดี ดันมาใช้ก้อนหินเส็งเคร็งสุดแสนจะธรรมดาเยี่ยงนี้ ผู้นำตระกูลเซียวดูแคลนพวกเขาขนาดนี้เชียวรึ!

น่าโมโหนัก พวกเขารู้สึกอัปยศอย่างมหันต์!

“เจ้าทำอะไร!?”

เห็น ๆ อยู่ว่าผู้นำตระกูลท่านนั้นบีบมุมหนึ่งของ ‘หินโกลาหล’ จนแหลกลาญ ผู้นำตระกูลเซียวคลุ้มคลั่งในบัดดล ปรี่เข้าไปในพริบตาเดียว พร้อมตวาดใส่ผู้นำตระกูลท่านนั้นอย่างกราดเกรี้ยว “ท่านต้องชดใช้!”

นี่เป็นถึง ‘หินโกลาหล’ เชียวนะ แฝงไว้ซึ่งพลังแห่งโกลาหล เลอค่าเกินประเมิน แต่กลับถูกบีบแหลกลาญไปมุมหนึ่ง เขาเจ็บปวดไปทั้งหัวใจ!

“ชดใช้งั้นหรือ!?”

“ยังจะเล่นละครอยู่หรือ!?”

“เห็นพวกเราเป็นคนโง่ตบตาง่าย ๆ จริงรึ”

ผู้นำมหาตระกูลทั้งหลายจิตสังหารพลุ่งพล่าน พิโรธยิ่งกว่าผู้นำตระกูลเซียวเสียอีก พวกเขาไม่เคยถูกเหยียดหยามเท่านี้มาก่อน!

โดยเฉพาะผู้นำตระกูลชิงเหลียน นางขบฟันแน่นจนส่งเสียงดัง ‘กึกกัก’ แทบอยากลอกคราบผู้นำตระกูลเซียวผ่านสายตา

นางยอมลดตัวเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ต้องการ จำต้องร่ายรำไปหนึ่งบทเพลง ผลสุดท้าย…กลับได้สิ่งนี้!?

ตอนนี้นางอยากจะสับผู้นำตระกูลเซียวเป็นชิ้น ๆ!

ผู้นำตระกูลเซียวมึนงง เหตุใดคนเหล่านี้ถึงเดือดดาลยิ่งกว่าเขาเสียอีก

เขาต่างหากคือเหยื่อ!

‘หินโกลาหล’ ของตระกูลเขาแหลกไปมุมหนึ่งเข้าใจหรือไม่!

เขาต่างหากที่เสียหายร้ายแรงเข้าใจหรือไม่!

เดี๋ยวก่อน…

เวลานี้ เขาเริ่มระแคะระคายปรายตามอง ‘หินโกลาหล’

เป็นไปได้อย่างไรที่ ‘หินโกลาหล’ จะเปราะบางขนาดนี้ ถูกบีบแหลกได้อย่างง่ายดาย

เป็นไปได้ที่ไหน!

ครานั้นหินโกลาหลปรากฏ ทั่วทั้งภพเซียนคลุ้มคลั่งกันหมด เหล่ายอดฝีมือพากันออกโรง ต่อสู้ห้ำหั่นจนสั่นสะเทือนไปทั้งภพเซียน พลังสยดสยองแผ่ขยายออกไปทั่วทุกมุม

และหินโกลาหลคือศูนย์กลางแห่งสมรภูมิการแก่งแย่ง

แม้จะเป็นเช่นนั้น หินโกลาหลก็ไม่ได้รับรอยขีดข่วนแม้แต่น้อย ไม่มีแม้แต่เศษหินหลุดออกมา

หลังตระกูลของเขาได้หินโกลาหลมา ยังได้ทำการทดลอง พบว่าอาวุธจักรพรรดิเซียนยังไม่อาจแผ้วพานหินโกลาหลได้แม้แต่น้อย!

‘หินโกลาหล’ ในบัดนี้กลับแหลกลาญง่ายดายเพียงเพราะการบีบเบา ๆ…

“แบบนี้ไม่ถูกต้อง!”

สีหน้าเขาเปลี่ยนไปทันควัน ‘หินโกลาหล’ ตรงหน้านี้ผิดปกติอย่างยิ่ง!

เขามิได้ลังเล รีบคลี่แผ่ประสาทสัมผัสเซียนออกไปเพื่อตรวจสอบ พบว่า ‘หินโกลาหล’ ก้อนนี้ผิดปกติจริง ๆ ภายในนั้นไม่เหลือพลังแม้สักเสี้ยว แม้กระทั่งลมปราณโกลาหลที่ไหลเวียนอยู่ในนั้นยังเหือดหายไป!

กลายเป็นก้อนหินสุดแสนธรรมดา!

“ไม่จริงกระมัง!”

เขาแทบอยากร่ำไห้ สั่นเทิ้มไปทั้งตัว แทบยืนไม่อยู่!

เขาเอื้อมมือข้างหนึ่งออกไป บีบ ‘หินโกลาหล’ แผ่วเบาอย่างสั่นเทา

พับผ่าสิ เขามิได้ออกแรงด้วยซ้ำ แต่จุดที่เขาบีบแหลกเป็นผุยผงในพริบตา!

นี่คือก้อนหินธรรมดาอย่างแท้จริง!

“ถูกสลับตัว!”

หน้าตาของเขาซีดเผือด ไม่เหลือเลือดฝาดแม้แต่น้อย ขบฟันเอ่ยขึ้น

จวบจนบัดนี้ เขาไฉนเลยจะยังไม่เข้าใจอีก หินโกลาหลของจริงหายไป ถูกคนสลับตัว และคนผู้นั้นเหลือก้อนหินเส็งเคร็งนี้ไว้ให้!”

ทว่า…จะเป็นไปได้อย่างไร!?

ผนึกในที่แห่งนี้มิได้ถูกทำลายแม้แต่น้อย ท่านบรรพจารย์โบราณในที่แห่งนี้ก็มิได้มีทีท่าผิดปกติ มิหนำซ้ำ ที่นี่ยังไม่มีร่องรอยพลังอื่นใด!

หินโกลาหลถูกสลับไปได้อย่างไร!?

เขาคิดไม่ตก คิดไม่ตกจริง ๆ

สถานที่แห่งนี้ นอกจากเขาแล้ว มิมีผู้ใดสามารถเข้ามาได้โดยไม่ไปกระตุ้นให้ผนึกทำงาน!

นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีท่านบรรพจารย์โบราณคอยพิทักษ์ จะเกิดปัญหาได้อย่างไร!

ที่สำคัญ แม้กระทั่งท่านบรรพจารย์โบราณยังไม่รู้สึกเลยสักนิด!

ป่านนี้ท่านบรรพจารย์โบราณยังนิทราในสถานที่แห่งนี้อย่างสงบ!

ขอบเขตพลังของท่านบรรพจารย์โบราณเชื่อมต่อฟ้าดิน แม้ว่าอยู่ระหว่างนิทรา กระนั้นยังรับรู้เรื่องราวภายนอกได้อย่างชัดเจน ไม่มีทางไม่รู้สึกตัวเลยสักนิด!

ทว่าท่านบรรพจารย์ไม่รู้สึกตัวจริง ๆ ยังคงหลับใหลอยู่อย่างนั้น

เรื่องนี้แปลกประหลาดนัก คิดไม่ตกเลย!

เขาแทบคลั่ง เรื่องเป็นไปอย่างไรกันแน่!

“สลับตัวรึ? ถุย ท่านยังมีหน้าเอ่ยเช่นนี้อีกหรือ!”

“ที่นี่คือดินแดนตระกูลเซียว ซ้ำยังเป็นสถานที่สำคัญเหลือแสน ผู้อื่นน่ะหรือจะเข้ามาได้โดยง่าย ซ้ำร้ายยังขโมยหินโกลาหลไปได้โดยที่ท่านไม่รู้เรื่อง ท่านพูดเพ้อเจ้อกระไร!”

บรรดาผู้นำมหาตระกูลยิ่งเดือดดาลเข้าไปใหญ่ เขาหมายความว่าอย่างไร จนป่านนี้แล้ว ผู้นำตระกูลเซียวยังคิดตบตาพวกเขาอยู่อีกหรือ

ผู้นำตระกูลชิงเหลียนพิโรธเป็นพิเศษ ขบกรามจนฟันแทบหัก กำหมัดแน่นยิ่งขึ้น เตรียมพร้อมลงมือ!

นี่มันเรื่องอะไรกันนี่!

ผู้นำตระกูลเซียวอยากร่ำไห้นัก อัปยศอดสูเป็นที่สุด

เขาไม่รู้จริง ๆ!!

หากเขารู้แต่แรกว่าหินโกลาหลไม่อยู่แล้ว ถูกผู้อื่นสลับไป ก่อนนี้เขาไฉนเลยจะกล้าเรียกร้องมากมายปานนั้น ซ้ำยังให้ผู้นำตระกูลชิงเหลียนร่ายรำให้เขาดูแต่ผู้เดียว…

มิเท่ากับตีลังการนหาที่ตายหรือ!

อีกอย่าง เขาร้อนใจยิ่งกว่าอีก นั่นคือหินโกลาหลที่พวกเขาตระกูลเซียวทุ่มทุนมหาศาลถึงแย่งชิงมาได้ สุดท้ายกลับหายไปง่าย ๆ เขาโมโหจนแทบกระอักเลือดแล้วรู้หรือไม่!

“เรื่องนั้น…หากข้าบอกว่าหินโกลาหลก้อนนี้สลายพลังด้วยตนเอง ถึงกลายมามีสภาพนี้ ทุกท่านเชื่อหรือไม่”

เขากัดฟันเอ่ยออกไป อย่าให้พูดเลยว่าหวั่นใจเพียงใด

ถ้อยคำนี้ยากจะเชื่อได้ลงเช่นเดียวกับคำกล่าวอ้างก่อนหน้านี้ว่าก้อนหินถูกสลับ หินโกลาหลอยู่ดี ๆ ไฉนเลยต้องสลายพลังทั้งหมด!

“ท่านคิดว่าอย่างไร”

“วาจานี้ ท่านว่าเชื่อได้หรือไม่!”

เหล่าผู้นำมหาตระกูลทนไม่ไหวอีก จนบัดนี้แล้วผู้นำตระกูลเซียวยังคิดจะโกหกพวกเขาอีก เห็นพวกเขารังแกได้ง่ายจริง ๆ หรือ!?

ตู้ม!

ผู้นำตระกูลชิงเหลียนชิงลงมือก่อน ปล่อยหมัดใส่ผู้นำตระกูลเซียว

จากนั้นผู้นำมหาตระกูลอื่นเคลื่อนไหวบ้าง พากันถล่มผู้นำตระกูลเซียว!

ผู้นำตระกูลเซียวรู้ตัวดีว่ามีความผิด ถึงอย่างไร หากเป็นเขา เขาก็คงไม่ยอมเชื่อคำกล่าวอ้างเช่นนี้!

เขามิกล้าเรียกยอดฝีมือคนอื่นในตระกูลมาช่วย หากเป็นเช่นนั้น เรื่องราวคงบานปลาย ตระกูลของเขาก็คงจบไม่สวยนัก

เขาจำต้องต่อสู้ตามลำพัง

แต่เขาใช่คู่ต่อสู้ของบรรดาผู้นำมหาตระกูลที่ไหน โดยเฉพาะผู้นำชิงเหลียน ให้ตายสิ ท่าทางราวกับต้องการฆ่าเขาให้ตายอย่างนั้น ลงมือดุดันโหดเหี้ยม ไม่ยั้งมือแม้แต่นิดเดียว!

ไม่นานนักเขาก็เป็นฝ่ายปราชัย ถูกรุมทำร้ายจนหมดสภาพ หน้าบวมประหนึ่งหัวสุกร ฟกช้ำดำเขียวไปทั้งตัว

“พาเราไปดูหินโกลาหลของแท้ได้หรือไม่!?”

ผู้นำตระกูลเย่ตวาด

“เรื่องนั้น…มิได้จริง ๆ!”

ผู้นำตระกูลเซียวร่ำไห้พลางเอ่ย เขาอยากพาเหล่าผู้นำมหาตระกูลไปชมหินโกลาหลของแท้ แต่ประเด็นคือเขาไม่รู้จริง ๆ ว่าหินโกลาหลไปอยู่ที่ใด!

“ถ้าอย่างนั้น คืนของที่พวกเราให้ท่านไปมา!”

“ถูกต้อง!”

เหล่าผู้นำมหาตระกูลพากันส่งเสียง

“คืนมิได้…ข้าดื่มน้ำจากตาน้ำวิจิตปรัมปราเข้าไปแล้ว โลหิตหยดนั้นของตระกูลกู่ข้าก็หลอมไปแล้วด้วย”

ผู้นำตระกูลเซียวไฉนเลยจะคิดว่ามีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้น สิ่งที่เขารับไว้ก่อนหน้าไม่ถูกใช้ไปก็ถูกหลอมละลายไป

“เช่นนั้นก็คืนพวกเรามาเป็นเท่าตัวเสีย!”

“ท่านต้องเปิดเผยคัมภีร์ตระกูลของท่านให้พวกเราอ่านทั้งหมด!”

เหล่าผู้นำมหาตระกูลเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน โดนผู้นำตระกูลเซียวปั่นหัวถึงเพียงนี้ อัปยศนัก พวกเขาไม่ยอมรามือง่าย ๆ แน่

“เปิดเผยทั้งหมดมิโหดร้ายไปหน่อยหรือ!”

ผู้นำตระกูลเซียวอดไม่ได้ที่จะเอ่ยออกมา เรื่องอื่นยังพอรับได้ แต่เรื่องให้เขาเปิดเผยคัมภีร์โบราณในตระกูลทั้งหมด เขาทำไม่ได้!

“คัมภีร์โบราณของตระกูลท่านใช่ว่ามีอยู่แขนงเดียวเสียเมื่อไร ท่านต้องเปิดเผยแขนงใดแขนงหนึ่งให้เราดูทั้งหมด!”

“ใช่แล้ว! เรื่องนี้ต่อรองมิได้!”

บรรดาผู้นำมหาตระกูลไม่ยอมให้ไกล่เกลี่ย บังคับให้ผู้นำตระกูลเซียวเผยคัมภีร์โบราณฉบับสมบูรณ์ออกมา

“ก็ได้”

สุดท้าย ผู้นำตระกูลเซียวจำต้องยอมตกลง หนนี้เป็นความผิดของเขา มิกล้าปล่อยให้เหตุการณ์เลวร้ายจนเข้าหน้าไม่ติด

“ช้าก่อน! ข้ายังมิได้เรียกร้องในส่วนของข้า!”

เวลานั้น ผู้นำตระกูลชิงเหลียนปริปาก

นางทอดมองผู้นำตระกูลเซียว เอ่ยเสียงเคียดแค้น “ข้าต้องการให้ท่านร่ายรำต่อหน้าพวกเราทุกคนหนึ่งบทเพลง เพลงที่ข้ารำเมื่อครู่!”

“อะไรนะ!?”

อย่าให้พูดเลยว่าสีหน้าผู้นำตระกูลเซียวย่ำแย่เพียงใด เขาเป็นถึงชายชาตรี ให้ร่ายรำอะไร ซ้ำยังต้องรำต่อหน้าคนตั้งมาก…

เขามิเสียหน้าแย่หรือ!

“ต่อรองมิได้!”

ผู้นำตระกูลชิงเหลียนยืนกรานแข็งขัน หากไม่ทำเช่นนี้ ยากจะลบล้างความแค้นในใจของนาง!

ผู้นำตระกูลอื่น ๆ ต่างสนับสนุนผู้นำชิงเหลียน ครั้งนี้ ผู้นำตระกูลเซียวทำเกินไปมากจริง ๆ

“ก็…ได้!”

สุดท้าย ผู้นำตระกูลเซียวจำต้องตกลง ร่ายรำต่อหน้าทุกคนด้วยความรู้สึกระทมเหลือแสน

ผู้ใดกัน!

เลวทรามเช่นนี้!

เข้ามาสลับตัวหินโกลาหลถึงในตระกูลเซียวของพวกเขา!

ผู้นำตระกูลเซียวร่ายรำไปพลาง ร้องไห้ในใจและนึกไปพลาง

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท