สำหรับวงการดนตรีแล้ว การเข้าร่วมมหาสงครามเทพเซียนในเดือนธันวาคมของเซี่ยนอวี๋นั้นไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมาย
ในหลายฤดูกาลสำคัญของปีนี้ เซี่ยนอวี๋หายหน้าหายตาไปนานทีเดียว
เพราะฉะนั้นเมื่อเดือนกันยายนมาถึง เซี่ยนอวี๋ขึ้นครองบัลลังก์ด้วยเพลงสิบปี คืนสังเวียนอย่างเป็นทางการในฐานะแชมป์ ก็นับเป็นการบอกใบ้ถึงการมาถึงในขณะนี้แล้ว
ทว่าเมื่อช่วงเวลานี้มาถึง หลายคนยังคงสัมผัสได้ถึงความตื่นเต้นที่ห่างหายไปนาน
บนโลกออนไลน์
บรรดาชาวเน็ตตื่นเต้นกันถ้วนหน้า ถึงขนาดที่ขี้คร้านจะติดตามความโกลาหลของเดือนพฤศจิกายนแล้ว จิตใจของทุกคนแทบจะโบยบินไปยังมหาสงครามเทพเซียนในเดือนธันวาคมซึ่งยังไม่มาถึง
‘เขามาแล้ววว เขามาเพื่อป้องกันแชมป์!’
‘ด้านล่างขอให้ทุกท่านร่วมกันปรบมือให้ดังก้อง เพื่อต้อนรับจักรพรรดิของเรา เซี่ยนอวี๋ลงสนาม!’
‘ฮ่าๆๆ ชอบความไร้กฎเกณฑ์ของเซี่ยนอวี๋มาก ครึ่งปีแรกหายไปอย่างไร้สุ้มเสียง ครึ่งปีหลังทุบหมดไม่สนลูกใคร ไม่รู้ว่าครั้งนี้เซี่ยนอวี๋จะได้อันดับหนึ่งหรือเปล่า’
‘โอ้ว คว้าแชมป์อีกครั้ง? คุณรู้ไหมว่านั่นหมายความว่าอะไร’
‘ขออนุญาตอธิบายแล้วกันนะคะ ในมหาสงครามเทพเซียน ความเป็นไปได้ในการป้องกันแชมป์นั้นต่ำมาก ฉันรวบรวมสถิติของสิบปีที่ผ่านมา โอกาสในการป้องกันแชมป์ในต้าฉินของผู้ชนะมีแค่ 33% นี่เป็นสถิติเมื่อก่อน ปัจจุบันนี้ทั้งสามทวีปผนวกรวมกันแล้ว ทวีปอื่นๆ ก็มีราชาราชินีเพลงและพ่อเพลงประจำการอยู่ เพราะฉะนั้นความยากของมหาสงครามเทพเซียนช่วงปลายปีจึงอยู่ในระดับขุมนรก ความน่าจะเป็นในการคว้าแชมป์สองสมัยซ้อนของเซี่ยนอวี๋ก็ยิ่งน้อยกว่าเดิม’
‘ไม่ว่าจะพูดยังไง ตราบใดที่มีเซี่ยนอวี๋ ผมก็รู้สึกตื่นเต้นอยู่ดี!’
‘น่าตื่นเต้นจริงๆ ปีนี้เป็นสงครามในวงการดนตรีของฉินฉีฉู่!’
‘…’
ทุกคนตื่นเต้น แน่นอนว่าไม่ใช่เพราะทุกคนคิดว่าเซี่ยนอวี๋แข็งแกร่งกว่าคนอื่นๆ ในฤดูกาลนี้
มหาสงครามเทพเซียนเป็นการฟาดฟันของคนดนตรีระดับเทพ
ยากที่จะมีใครยืนเด่นเป็นสง่ากว่าคนอื่น
สรุปแล้ว คงไม่มีอะไรมากไปกว่าการรอดูในช่วงจบฤดูกาลว่าใครแสดงฝีมือได้เหนือกว่ากัน
บัลลังแชมป์ต้องผลัดกันนั่งบ้าง แต่ไหนแต่ไรมาไม่ยักเคยได้ยินว่ามีใครที่สามารถคว้าชัยชนะได้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าในมหาสงครามเทพเซียน
หรือแม้แต่การรักษาแชมป์ก็ยังยากเย็นปานประหนึ่งปีนขึ้นฟ้า
ดังนั้น เหตุผลสำคัญที่สุดที่ทำให้ทุกคนตื่นเต้นเมื่อรู้ว่าเซี่ยนอวี๋จะเข้าร่วม แท้จริงแล้วก็คือสถานะผู้ที่มาป้องกันแชมป์นั่นเอง
อย่าลืมว่าเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว เซี่ยนอวี๋ทะยานขึ้นครองบัลลังก์แชมป์ในมหาสงครามเทพเซียนด้วยเพลงตะวันฉาย
ตอนนี้มหาสงครามเทพเซียนเปิดฉากขึ้นอีกครั้ง
หากแชมป์เก่าเมื่อปีที่แล้วไม่มาเข้าร่วม ทุกคนคงรู้สึกว่าขาดความน่าสนใจไปสักหน่อย
เพราะฉะนั้นทุกคนจึงรู้สึกปลาบปลื้มเมื่อได้ยินว่าเซี่ยนอวี๋จะเข้าร่วม
ไม่เพียงชาวเน็ต
เหล่าราชาราชินีเพลงและพ่อเพลงซึ่งประกาศว่าจะเข้าร่วมมหาสงครามเทพเซียนในเดือนธันวาคมก็ตื่นเต้นดีใจกับเรื่องนี้เช่นกัน!
อะไรนะ?
วงการเพลงเอ่ยถึงปลาแล้วหน้าซีดเผือดกันหมด?
คนในวงการดนตรีส่วนใหญ่เป็นโรคกลัวปลา?
ขอโทษด้วย นั่นมันคนทั่วไปอย่างพวกคุณ ราชาราชินีเพลงอย่างเราไม่กลัวปลาสักหน่อย
พ่อเพลงก็ไม่กลัวเหมือนกัน!
บางคนเข้าร่วมมหาสงครามเทพเซียนในเดือนธันวาคม โดยมีเป้าหมายเพื่อต้มซุปปลาร้อนๆ หอมกรุ่นสักชามมากินด้วยซ้ำไป!
ตอนนี้ปลากำลังจะขึ้นเขียง เราลับมีดรอ
สำหรับราชาราชินีเพลง รวมไปถึงพ่อเพลงแล้ว ไม่มีอะไรที่ทำให้ภาคภูมิใจไปได้มากกว่าการเอาชนะแชมป์เก่าเมื่อปีที่แล้วหรอก ถ้าหากเซี่ยนอวี๋ไม่เข้าร่วมฤดูกาลเดือนธันวาคม ใครหลายคนคงรู้สึกผิดหวังน่าดู
ยกตัวอย่างเช่นเฟ่ยหยาง
ไม่มีใครรู้หรอกว่าระยะนี้เฟ่ยหยางติดตามความเคลื่อนไหวของสตาร์ไลท์ ช่วงนี้หลังจากตื่นนอนทุกวัน คำถามแรกที่เขาถามผู้ช่วยก็คือ
“ทางเซี่ยนอวี๋ประกาศเรื่องมหาสงครามเทพเซียนอย่างเป็นทางการหรือยัง?”
ในที่สุดวันนี้เฟ่ยหยางก็ได้รับคำตอบที่น่าพึงพอใจ!
การรอคอยของเขาไม่เสียเปล่า และไม่ได้เตรียมตัวอย่างเสียเปล่า ปลาตัวนั้นปรากฏตัวในท้ายที่สุด
ด้วยออร่าความเป็นแชมป์เก่าที่ครอบครอง ทันทีที่เขาปรากฏตัวก็กลายเป็นขนมหวานในสายตาของทุกคน!
ในตอนนั้น
เฟ่ยหยางได้ตระเตรียมบทอันสมบูรณ์แบบของฉากทัศน์ในเดือนธันวาคมนี้ไว้แล้ว บทนี้ก็คือ
ตนขึ้นคว้าอันดับหนึ่ง ขึ้นครองบัลลังก์แชมป์อย่างสง่างาม!
และเซี่ยนอวี๋ในฐานะอดีตแชมป์เมื่อปีที่แล้ว ก็นั่งครองอันดับที่สอง!
อะไรนะ
ให้เซี่ยนอวี๋ได้อันดับสาม อันดับสี่ หรืออันดับที่ต่ำกว่านั้นไปเลย?
ไม่ได้!
ไม่ได้เด็ดขาด!
ถ้าอันดับของเซี่ยนอวี๋ไม่สูง นั่นจะทำให้ทุกคนคิดว่าปีนี้เซี่ยนอวี๋เตรียมพร้อมไม่เต็มที่สำหรับมหาสงครามเทพเซียน
ฉันเฟ่ยหยาง คือเซี่ยนอวี๋ร่างสมบูรณ์!
ขอเพียงเซี่ยนอวี๋ได้อันดับที่สอง ถึงจะทำให้ทุกคนรับรู้ได้ว่าเซี่ยนอวี๋แข็งแกร่ง
เพียงแต่ฉันแข็งแกร่งกว่าก็เท่านั้นเอง
นอกเหนือจากนั้น ความหมกมุ่นเพียงอย่างเดียวในยามนี้ของเฟ่ยหยางก็คือการเอาชนะเซี่ยนอวี๋ ทำให้เซี่ยนอวี๋ได้ลิ้มลองรสชาติของการเป็นอันดับสองดูสักครั้ง
ต้องเข้าใจว่า เฟ่ยหยางใช้เวลาตั้งครึ่งปีเพื่อ ขบคิดหาวิธีกำจัดสมญานามลูกคนรองตลอดกาล
เขาถึงกับอ้างอิงจากเฉินจื้ออวี่ซึ่งเป็นลูกคนรองตลอดกาลรุ่นแรก
ตัวเลือกที่ลูกคนรองตลอดกาลอย่างเฉินจื้ออวี่เลือก ก็คือถ้าสู้ไม่ได้ก็เข้าร่วม
เขาเข้าร่วมกับสตาร์ไลท์ และใช้วิธีกอดขาเซี่ยนอวี๋ขึ้นครองแชมป์ ลบล้างสมญานามลูกคนรองตลอดกาลของตน
แต่เฟ่ยหยางไม่ทำเช่นนั้น!
เฟ่ยหยางไม่ใช่คนขี้ขลาดตาขาว ต่อให้เขาอดตาย จนต้องกระโดดลงมาจากตำแหน่งที่เขายืนอยู่ เขาก็จะไม่เข้าร่วมกับเซี่ยนอวี๋เด็ดขาด!
เขาอยากยืนเผชิญหน้ากับเซี่ยนอวี๋ตลอดไป และทำให้เซี่ยนอวี๋ประหวั่นพรั่นพรึงกับความน่าเกรงขามของเขาตลอดเวลา
เพราะฉะนั้น วิธีการที่เฟ่ยหยางคิดออกคือเอาชนะเซี่ยนอวี๋
มีเพียงการทำให้เซี่ยนอวี๋กลายเป็นอันดับสองเท่านั้น เฟ่ยหยางถึงจะลบล้างสมญานามลูกคนรองตลอดกาลรุ่นที่สองได้
และนี่จึงจะเป็นวิธีกำจัดสมญานามลูกคนรองตลอดกาลที่ถูกต้อง!
เฟ่ยหยางเชื่อเหลือเกิน!
ว่าเซี่ยนอวี๋ในตอนนี้ คงจะมองตนเป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งในมหาสงครามเทพเซียนแล้ว
ใช่แล้วล่ะ
ผู้ที่เดินมาอยู่ในตำแหน่งราชาราชินีเพลง และผู้ที่เดินมาอยู่ในตำแหน่งพ่อเพลงได้นั้น ล้วนมีความมั่นใจ หยิ่งทะนง และกระหายชัยชนะ
เฟ่ยหยางก็เช่นกัน
ราชาราชินีเพลงและพ่อเพลงซึ่งลงสังเวียนในเดือนธันวาคมก็เช่นเดียวกัน
พวกเขาไม่มีวันยอมจำนน
พวกเขามีแต่เปลี่ยนความชอกช้ำให้เป็นแรงผลักดัน จากนั้นจึงหลอมรวมจนกลายเป็นความกล้าหาญขึ้นมา
นี่คือเคล็ดลับสู่ความสำเร็จเพียงประการเดียว ไม่มีทางลัดใดๆ ทั้งสิ้น!
สิ่งที่เรียกว่าโรคกลัวปลาอะไรนั่น
หรือที่บอกว่าเอ่ยถึงปลา หน้าซีดเผือด
ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าความหวาดกลัวในจิตใจที่กำลังหลอกหลอนปุถุชนคนธรรมดา
ราชาราชินีเพลง รวมไปถึงพ่อเพลงทุกคนต่างเคยเผชิญกับสถานการณ์อันตรายราวกับยืนอยู่บนแผ่นน้ำแข็งบาง ซึ่งทำให้ปุถุชนอกสั่นขวัญแขวนกันมาแล้วทั้งนั้น
เซี่ยนอวี๋เพียงแค่เดินบนเส้นทางที่รุ่นพี่หลายคนเคยเดินมาก่อน ทั้งยังได้ทัศนาทิวทัศน์ที่คล้ายคลึงกัน
ฉะนั้น สถานการณ์จึงละเอียดอ่อนอยู่บ้าง
หลายคนหวังว่าปีนี้เซี่ยนอวี๋จะทำผลงานออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ขณะเดียวกันก็ภาวนาว่าขอให้ผลงานของเซี่ยนอวี๋เป็นรองตน
ลำพังเงื่อนไขในเบื้องต้นของสภาวการณ์เช่นนี้ ก็ชวนเวียนหัวมากพอแล้ว
เรื่องนี้ทำให้คนในวงการต่างพากันสะท้อนใจ
“ตกเป็นเป้าหมายของทุกคน”
“ขาใหญ่พวกนี้อยากเชือดปลาตัวนั้น”
“นึกไม่ถึงเลยว่าที่เทพเซียนตะลุมบอนกันปีนี้ก็เพราะพวกขาใหญ่อยากกินปลา”
“ถ้าปีนี้เซี่ยนอวี๋ไม่เข้าร่วมมหาสงครามเทพเซียน น่ากลัวว่าคนพวกนี้คงเศร้าจนนอนไม่หลับเลยล่ะมั้ง”
“ถ้าผมเป็นเซี่ยนอวี๋ ผมอาจถอยจริงๆ ก็ได้นะ ถึงยังไงการป้องกันแชมป์ก็ยากขนาดนั้น ทำไมต้องมาเป็นไม้ประดับให้คนอื่นด้วย”
“จะพูดแบบนั้นก็ไม่ได้ ถ้าเกิดเซี่ยนอวี๋ชนะขึ้นมาล่ะ”
“…”
หลายคนอึ้งไป จากนั้นก็ขบคิดอย่างรอบคอบ ดูเหมือนว่าเซี่ยนอวี๋มีความเป็นไปได้ที่จะชนะจริงๆ นั่นแหละ
เพลงระดับ ‘สิบปี’ เขายังกล้าปล่อยออกมาได้เดือนกันยายนด้วยซ้ำไป!
นั่นหมายความว่าอะไรน่ะเหรอ
ก็หมายความว่า เพลงที่เขาเตรียมจะปล่อยในเดือนธันวาคมนั้นยอดเยี่ยมกว่าเพลงสิบปีอีก!
ไม่เช่นนั้นเขาไม่มีเหตุผลให้ไม่เก็บเพลงสิบปีไว้ในเดือนธันวาคม!
เมื่อคิดเช่นนี้ หลายคนก็เริ่มเงียบ
แต่ทว่า…
เมื่อในวงการเพลงเริ่มขบคิดถึงโอกาสชนะของเซี่ยนอวี๋ จู่ๆ ก็มีประกาศอย่างเป็นทางการในวันรุ่งขึ้น
‘เซี่ยนอวี๋พร้อมกับนักร้องเจียงขุย สร้างผลงานเพลงใหม่ ขอเราคงอยู่ชั่วนิรันดร์ อย่าลืมติดตามกันนะคะ!’
ทั่วทั้งวงการเพลงต่างตกตะลึง!
ไม่มีใครคาดคิดว่า นักร้องที่เซียนอวี๋ร่วมงานด้วยในเดือนธันวาคมจะไม่ใช่ราชาหรือราชินีเพลงสักคนในสตาร์ไลท์ หากแต่เป็นนักร้องตัวเล็กๆ ที่ยังไม่ใช่นักร้องแถวหน้าอย่าง…
เจียงขุย?
…………………………………………………