รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 561 หลี่จิ่วเต้า ‘จะให้พวกเจ้าได้ลิ้มลองบะหมี่มังกรของบ้านเกิดข้า!’

บทที่ 561 หลี่จิ่วเต้า ‘จะให้พวกเจ้าได้ลิ้มลองบะหมี่มังกรของบ้านเกิดข้า!’

บทที่ 561 หลี่จิ่วเต้า ‘จะให้พวกเจ้าได้ลิ้มลองบะหมี่มังกรของบ้านเกิดข้า!’

เมืองชิงซานคึกคัก บนถนนหนทางมีผู้คนสัญจรไม่หยุด เต็มไปด้วยเสียงตะโกนขายของวุ่นวาย ทว่าก็เปี่ยมด้วยชีวิตชีวาและความสุข บนใบหน้าของทุกคนต่างเต็มไปด้วยรอยยิ้มสดใส

เสี่ยวหยาพาพี่ชายออกจากบ้านพร้อมกับหลิงอินเดินตามถนน มุ่งหน้าไปยังบ้านของคุณชาย

บนถนน ผู้คนในเมืองพากันทักทายหลิงอินและเสี่ยวหยาอย่างเป็นมิตร เห็นได้ชัดว่าต่างคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ด้านหลิงอินและเสี่ยวหยาก็ตอบรับกลับไปด้วยรอยยิ้ม

พี่ชายของเสี่ยวหยานั้นรู้สึกไม่คุ้นชินอยู่บ้าง เขาถูกจองจำอยู่ในนครพิศวงมานานเกินไป ทุกวันจมอยู่กับความมืดมิดทรมาน ตอนนี้รู้สึกได้ว่าอยู่ในเมืองที่พลุกพล่านเต็มไปด้วยชีวิตชีวา ทำให้เขารู้สึกไม่คุ้นชินและอึดอัดเล็กน้อย

เสี่ยวหยาลอบถอนหายใจ รับรู้ได้ถึงความไม่คุ้นชินและอึดอัดของพี่ชาย นางจะไม่เข้าใจได้อย่างไรว่าก่อนหน้านี้พี่ชายประสบกับความมืดมิดและทรมารมามากแค่ไหน

ประสบการณ์ที่เจ็บปวดและมืดมนอย่างถึงที่สุดนี้ ไม่สามารถลบเลือนไปได้ในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ จำเป็นต้องใช้ระยะเวลาเพื่อค่อย ๆ ฟื้นกลับมาทีละนิด

“พี่ชาย เรื่องทุกอย่างล้วนผ่านไปแล้ว หลังจากนี้จะไม่เกิดเรื่องซ้ำเดิมขึ้นมาอีก เสี่ยวหยาจะคอยอยู่เคียงข้างพี่ชายเอง!”

นางกอดแขนของพี่ชายแน่นแล้วกล่าวออกมาอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะต้องใช้เวลายาวนานเพียงใด นางจะช่วยพี่ชายลบเลือนประสบการณ์อันเจ็บปวดและมืดมิด อยู่เคียงข้างจนพี่ชายฟื้นกลับคืนมาเป็นปกติอย่างแน่นอน

“ตกลง!” พี่ชายแย้มยิ้มกว้างให้เสี่ยวหยา

ใช่แล้ว ทุกอย่างล้วนผ่านไปแล้ว เขาควรจะมองออกไปด้านหน้า ก้าวออกมาจากประสบการณ์อันเจ็บปวดและมืดมิด ไม่อาจติดอยู่ภายในนั้นจนทำให้เสี่ยวหยาเป็นกังวลได้

ทว่าเรื่องราวทั้งหมดไม่ง่ายดายปานนั้น มันไม่ใช่สิ่งที่จะกล่าวว่าอยากออกมาก็จะสามารถก้าวออกมาได้เลย…

หลังจากผ่านถนนมาหลายสาย พวกเขาก็มาถึงด้านหน้าลานเล็ก ๆ ของคุณชาย

หลิงอินก้าวขึ้นไปเคาะประตู ก่อนลั่วสุ่ยจะเป็นคนที่เปิดประตูให้

“หลิงอิน เสี่ยวหยา พวกเจ้ากลับมาแล้ว!”

ด้านในลาน หลี่จิ่วเต้าที่กำลังตัดแต่งใบไม้เอ่ยขึ้นมาหลังจากได้เห็นหลิงอินและเสี่ยวหยา เขาดีใจขึ้นมาในทันที เขาไม่ได้พบหลิงอินกับเสี่ยวหยามาหลายวัน ก่อนหน้านี้เขาเคยไปหาพวกนางถึงบ้านของหลิงอิน แต่ก็พบว่าพวกนางออกเดินทางไปยังบ้านเกิดของเสี่ยวหยาแล้ว

“คุณชาย!”

“คุณชาย!”

หลิงอินและเสี่ยวหยาคำนับทักทายตามลำดับ หลังจากนั้นเสี่ยวหยาก็แนะนำพี่ชายของนางให้คุณชายได้รู้จึก

“คำนับคุณชาย!”

พี่ชายของเสี่ยวหยาคำนับด้วยความสุภาพเป็นอย่างมาก ทว่าภายในใจก็เกิดความอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาเป็นอย่างมาก นี่คือผู้ที่ล้ำลึกเกินหยั่งถึง สามารถรวบรวมวิญญาณของเสี่ยวหยาจากยุคก่อนกลับมาจากความตายได้อย่างนั้นหรือ?

เช่นนั้นแล้ว คุณชายจะต้องไม่ ‘ธรรมดา’ อย่างถึงที่สุด เขาเป็นได้เพียงคนตัวจ้อยที่ไม่อาจเทียบได้ จึงไม่อาจรับรู้ได้ถึงพลังบนร่างคุณชายได้แม้แต่น้อย ประหนึ่งคุณชายเป็นเพียงปุถุชนผู้หนึ่ง

ภายในใจของเขาเต็มไปด้วยความสั่นสะท้าน เขาคิดว่าตัวเองได้เห็น ‘โลก’ มามากแล้ว แต่เมื่อเข้ามายังด้านในลานของคุณชายแล้ว เขาก็สามารถตระหนักได้ว่า ‘โลก’ ของเขานั้นไม่อาจนับเป็นสิ่งใดได้ ทุกสิ่งในลานเล็ก ๆ ของคุณชายอยู่ห่างไกลเกินกว่าความรู้ความเข้าใจของเขาโดยสิ้นเชิง!

กลางลานมีบ่อน้ำอยู่ น้ำด้านในใสกระจ่าง ไหลเวียนด้วยขุมปราณชีวิตไพศาลเกินกว่าจะจินตนาการ นี่คือน้ำที่มาจากน้ำพุเซียนใช่หรือไม่?

ด้านในบ่อน้ำมีภูเขาจำลองอยู่ มันงดงามและเต็มไปด้วยความสง่า ละอองน้ำดั่งหมอกควันสร้างความรู้สึกพิเศษให้มากยิ่งขึ้น หัวใจของเขาถึงกับสั่นสะท้าน นี่…ดูเหมือนว่ามันจะมีลมหายใจโกลาหล

หรือว่านี่จะเป็นหินโกลาหลกัน!?

นอกจากนี้ด้านในบ่อน้ำยังมีเต่าชราตัวหนึ่งนอนอย่างเกียจคร้านบนขอบภูเขาจำลอง ดวงตาของเต่าคู่นั้นเปล่งประกายราวกับแสงเซียน ภายในลมหายใจมีอะไรพิเศษบางอย่างเพิ่มเข้ามา คล้ายว่าจะเป็นลมหายใจของเซียน หรือว่าผู้เฒ่าเต่าจะกลายเป็นเซียนแล้ว!?

เขาเคยเห็นผู้เฒ่าเต่ามาก่อนในช่วงระหว่างการดินทางออกจากอาณาจักรอวี้ซวีมายังอาณาจักรแห่งนี้ เขาสัมผัสได้แน่ชัดว่าแม้ผู้เฒ่าเต่าจะแข็งแกร่ง แต่ก็ยังไม่บรรลุถึงขั้นเซียน

แต่เมื่อดูจากในตอนนี้แล้ว มีความเป็นไปได้อย่างมากที่ผู้เฒ่าเต่าจะกลายเป็นเต่าเซียนขึ้นมาจริง ๆ แล้ว!

อะไรคือเซียน?

ตัวแทนของนิรันดร์ ไม่ถูกจำกัดด้วยอายุขัย!

เขาสัมผัสได้ถึงความเป็นนิรันดร์อันคลุมเครือจากร่างของผู้เฒ่าเต่า!

สิ่งนี้ทำให้เขาไม่คาดคิดเป็นอย่างมาก!

เพียงแค่สองวันคุณชายก็สามารถทำให้ผู้เฒ่าเต่ากลายเป็นเซียนได้!

“ภูเขาจำลอง…!”

เขาตกตะลึงขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากนึกได้ว่าลั่วสุ่ยเคยกล่าวว่าตนเองนำหินอัศจรรย์ก้อนหนึ่งกลับมาจากอาณาจักรอวี้ซวีเพื่อให้คุณชายได้ใช้แกะสลัก

ลั่วสุ่ยยังได้นำหินอัศจรรย์ก้อนนั้นออกมาให้พวกเขาดูด้วย

นี่…ภูเขาจำลองนี่เป็นไปได้หรือไม่ที่จะถูกแกะสลักจากหินอัศจรรย์ก้อนนั้น?

หากเป็นเช่นนั้นจริงก็นับเป็นเรื่องน่าตื่นตะลึงเกิดไปแล้ว!

ทุกสิ่งกำเนิดขึ้นมาจากความโกลาหล ดังนั้นมันย่อมต้องอยู่เหนือชั้นที่สุดอย่างแน่นอน เซียนเมื่อไปอยู่ต่อหน้าพลังโกลาหลก็ไม่อาจนับเป็นสิ่งใดได้ แตกต่างกันจนไม่อาจเปรียบเทียบได้

แม้ว่าหินอัศจรรย์ไม่ธรรมดา แต่มันก็ไม่ได้เป็นแม้กระทั่งศิลาเซียน

ทว่าเมื่อมาอยู่ในมือของคุณชายแล้ว หลังจากผ่านการแกะสลักกลับกลายเป็นหินโกลาหลที่เปี่ยมด้วยลมหายใจโกลาหล!

สวรรค์ ตัวตนของคุณชายคือผู้ใดกันแน่!?

แม้ว่าก่อนหน้านี้หลิงอินและเสี่ยวหยาจะบอกเล่าถึงทุกวิถีการอันสามารถฝ่าฝืนสวรรค์ของคุณชายให้ฟังแล้ว แต่จะเทียบกับการรับรู้เองได้อย่างไร!

หัวใจของเขาสั่นสะท้านอย่างมาก คุณชายจะต้องอยู่เหนือกว่าจักรพรรดิเซียนหรือบรรพจารย์เซียนอย่างแน่นอน ไม่เช่นนั้นจะสามารถเปลี่ยนหินอัศจรรย์ให้กลายเป็นหินโกลาหลได้อย่างไร?

พลังโกลาหลนั้นอยู่เหนือกว่าเซียนอย่างสมบูรณ์ เป็นคนละชั้นโดยสิ้นเชิง กระทั่งจักรพรรดิเซียนและบรรพจารย์เซียนก็ไม่อาจทำเช่นนี้ได้

“ดี ดี ดี”

หลี่จิ่วเต้ายิ้มพร้อมพูดกับพี่ชายของเสี่ยวหยา “ไม่ต้องสุภาพถึงเพียงนั้น ถือเสียว่าที่นี่เป็นบ้านของเจ้าเอง”

สิ่งนี้ทำให้พี่ชายของเสี่ยวหยาปลื้มปริ่มเป็นอย่างมาก ทั้งยังทำให้ตื่นเต้นและมีความสุขอย่างถึงที่สุด

เขามีความสุขให้กับเสี่ยวหยา เขาตระหนักได้ว่าคุณชายพูดคำเหล่านี้ออกมากับเขาก็เป็นเพราะเสี่ยวหยา

นี่แสดงให้เห็นชัดเจนว่าเสี่ยวหยาได้รับความสำคัญมากแค่ไหน!

เสี่ยวหยาได้รับความสำคัญจากตัวตนที่อยู่เหนือจักรพรรดิเซียนและบรรพจารย์เซียนเช่นนี้ เขาจะไม่มีความสุขได้อย่างไร นับเป็นโอกาสและโชคครั้งใหญ่ของเสี่ยวหยา!

เขายินดีกับเสี่ยวหยาจากใจจริง!

“เย็นนี้ก็อยู่ทานข้าวกันก่อนเถอะ”

หลี่จิ่วเต้ากล่าวด้วยรอยยิ้ม “วันนี้จะให้พวกเจ้าได้ลิ้มลองบะหมี่มังกรจากบ้านเกิดของข้า”

เขาเกิดอยากกินบะหมี่ขึ้นมา

ในดาวเคราะห์สีฟ้า บะหมี่มังกรนั้นมีชื่อเสียงอย่างมาก มีคนจำนวนนับไม่ถ้วนที่ชื่นชอบกินมัน

เขามักจะกินบะหมี่มังกรเสมอเมื่อครั้งตอนอยู่ที่ดาวเคราะห์สีฟ้า

“ตกลง!”

หลังจากฟังคำพูดของคุณชาย หลิงอิน และลั่วสุ่ยต่างก็ตั้งหน้าตั้งตารอ

บ้านเกิด!

นี่คือจุดสำคัญอย่างมาก!

พวกนางตระหนักได้ทันที ว่าวันนี้นับเป็นโชคดีของพวกนางแล้ว!

นอกจากนี้ ภายในใจของพวกนางยังเกิดความอยากรู้เป็นอย่างมาก อยากรู้ว่าบ้านเกิดของคุณชายนั้นคือที่ใด?

ก่อนหน้านี้พวกนางต่างนึกว่าบ้านเกิดคุณชายคือภพเซียน

แต่เมื่อคิดดูตอนนี้แล้ว กระทั่งภพเซียนก็ยังไม่คู่ควร

คุณชายจะต้องมาจากสถานที่ที่เหนือชั้นยิ่งกว่าภพเซียน!

แดนบรรพโกลาหลอย่างนั้นหรือ?

มีโอกาสเป็นไปได้!

พวกนางอดคิดขึ้นมาในใจไม่ได้ คุณชายเมื่ออยู่ในแดนบรรพโลกาลจะยังแข็งแกร่งเหนือชั้นยิ่งกว่าทุกสรรพสิ่งเหมือนเดิมเช่นนี้หรือไม่?

หรือว่าคนในแดนบรรพโกลาหล ทุกคนล้วนเป็นเช่นเดียวกับคุณชาย?

เรื่องเกี่ยวกับแดนบรรพโกลาหล พวกนางต่างก็รับรู้ว่าที่แห่งนั้นดำรงอยู่ในอาณาจักรแห่งนี้ ทั้งยังมีสัญญาณว่าจะปรากฏออกมา

บุ๋งบุ๋ง~

ด้านในบ่อน้ำ มัจฉาสัตมายามองดูด้วยตาปริบ ๆ มันกล่าวขึ้นในใจว่าเมื่อไหร่มันจะสามารถลิ้มลองอาหารบ้านเกิดฝีมือคุณชายได้บ้าง!

บะหมี่มังกร มันเองก็อยากกินด้วย!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท