ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 578 ข้อพิพาท (ปลาย)

ตอนที่ 578 ข้อพิพาท (ปลาย)

เรือน​หลัก​รายล้อม​ไป​ด้วย​ต้นไม้​ที่​เขียวขจี​และ​เสียง​จักจั่น​ที่​ร้อง​ดังระงม

ม่าน​ไม้​ไผ่​เซียง​เฟย​ที่​ถูก​แต้ม​ด้วย​จุด​สีม่วง​ตั้งอยู่​หน้า​ประตู​ทางเข้า​ของ​ห้องโถง​อย่าง​เงียบสงบ​ ​ที่นั่น​มีสาว​ใช้​น้อย​ที่​กำลัง​ยืน​เหม่อลอย​ด้วย​ความเบื่อหน่าย

เมื่อ​ได้ยิน​เสียง​ความเคลื่อนไหว​ ​นาง​ก็​รีบ​ยืน​ตัวตรง​ ​จากนั้น​ก็​รีบ​หันไป​มองตาม​ทิศทาง​ของเสียง

เมื่อ​เห็น​ว่า​เป็น​สือ​อี​เหนียง​ที่​เดิน​เข้ามา​ ​นาง​จึง​รีบ​เปิดม่าน​ออก​พลาง​ตะโกน​เสียง​สูง​ว่า​ ​“​ท่าน​โหว​ ฮู​หยิน​กลับมา​แล้ว​เจ้าค่ะ​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ที่อยู่​ใน​ห้อง​ชั้นใน​เดิน​ออกมา​รับ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​มา​แล้ว​หรือ​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​สวม​ชุดจื​๋อ​ตัว​ผ้าไหม​สีน้ำเงิน​สด​อม​เขียว​ที่​ทอด​้ว​ยลา​ยอั​กษร​และ​ล้อมรอบ​ด้วย​ลาย​ช่อดอก​เหมย​ ​ผม​ที่​ดำขลับ​ถูก​ปัก​ด้วย​ปิ่น​ไม้​หวง​หยาง​และ​จัด​ทรง​อย่างเป็นระเบียบ​ ​วันนี้​เขา​แต่งตัว​ค่อนข้าง​เป็นทางการ​ ​ไม่​เหมือน​ตอนที่​เขา​อยู่​เรือน

สือ​อี​เหนียง​พลัน​รู้สึก​งุนงง

สวี​ลิ่ง​อี๋​เดิน​กลับ​เข้าไป​ยัง​ห้อง​ชั้นใน​ ​“​ทาง​นั้น​เป็น​อย่างไรบ้าง​ ​ใคร​เป็น​ผู้ชนะ​”​ ​น้ำเสียง​ฟัง​ดู​ผ่อนคลาย​กว่า​ปกติ​ที่​เคย​เป็น

สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​แปลกใจ​อย่าง​บอก​ไม่​ถูก

“​อากาศ​ค่อนข้าง​ร้อน​ ​นานๆ​ ​ที​จะ​ได้​อยู่​ด้วยกัน​อย่าง​พร้อมหน้าพร้อมตา​”​ ​นาง​ยิ้ม​พร้อมกับ​เดินตาม​เขา​เข้าไป​ใน​ห้อง​ชั้นใน​ ​“​ทุกคน​ต่าง​ก็​สนุกสนาน​กัน​ถ้วนหน้า​…​”

เสียงพูด​ของ​นาง​ขาดหาย​ไป​พร้อมกับ​ม่าน​ของ​ห้อง​ชั้นใน​ที่​ถูก​ปิด​ลง

ภายใน​ห้อง​ชั้นใน​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยืน​มือ​ไพล่หลัง​อยู่​กลาง​ห้อง​ด้วย​สีหน้า​ท่าที​สุขุม​ ​แววตา​เคร่งขรึม​ ​ราวกับว่า​กำลัง​เผชิญ​กับ​แรงกดดัน​อัน​มหาศาล​ก็​ไม่​ปาน​ ​จึง​พลอย​ทำให้​บรรยากาศ​ใน​ห้อง​หนักอึ้ง​ไป​ด้วย

สือ​อี​เหนียง​ก็​รู้สึก​เป็นกังวล​ใจ​ขึ้น​มาทัน​ที

เรื่อง​อัน​ใด​กัน​ ​ถึงขั้น​ต้อง​ปิดบัง​แม้กระทั่ง​สาวใช้​ข้าง​กาย​…

นาง​รีบ​เดิน​ไป​หยุด​อยู่​ข้างๆ​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​“​เกิด​อะไร​ขึ้น​หรือ​เจ้า​คะ​”​ ​เสียง​ที่​ดังก้อง​ใน​ห้อง​ชั้นใน​สั่นเครือ​เล็กน้อย​ ​เต็มไปด้วย​น้ำเสียง​ที่​อ่อนไหว​และ​หวาดกลัว

สวี​ลิ่ง​อี๋​อ้าแขน​ออกมา​โอบ​นาง​ไว้​ใน​อ้อมกอด

มี​เพียง​เสื้อผ้า​บาง​ๆ​ ​ที่​ขั้น​กลาง​ระหว่าง​ทั้งสอง​เอาไว้​ ​นาง​สัมผัส​ได้​ถึง​แผง​อก​ที่​กำยำ​และ​แขน​ที่​แข็งแรง​ของ​เขา​…​จู่ๆ​ ​ความกังวลใจ​เมื่อครู่นี้​ก็​ค่อยๆ​ ​สงบ​ลง

สือ​อี​เหนียง​โอบกอด​เอว​ของ​เขา​พร้อมกับ​เงยหน้า​ขึ้น​มาสบ​ตา​ ​แววตา​ที่​นิ่ง​สงบ​ของ​เขา​ราวกับ​ลำธาร​ใน​ฤดูใบไม้ผลิ​ก็​ไม่​ปาน​ ​ค่อยๆ​ ​ไหล​เอื่อย​อย่าง​ช้าๆ​ ​ด้วย​ความอ่อนโยน

จู่ๆ​ ​ความรู้สึก​ที่​กังวลใจ​ไม่กล้า​พูด​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​หาย​ไป​เป็นปลิดทิ้ง

มั่ว​เหยี​ยน​ที่​ดู​อ่อนแอ​และ​บอบบาง​ ​แต่กลับ​เข้มแข็ง​ ​หนักแน่น​และ​มีสติปัญญา​เกิน​กว่า​ที่​เขา​คิด​ไว้​มาก​!

อ้อมแขน​ของ​เขา​โอบกอด​แน่น​ขึ้น​กว่า​เดิม​ ​กอด​ร่างกาย​ที่​อ่อนนุ่ม​ราวกับ​ต้น​หลิว​ใน​ฤดูใบไม้ผลิ​ไว้​ใน​อ้อมกอด​ของ​เขา

“​สกุล​โอว​ฟ้องร้อง​ว่า​หวัง​จิ​่ว​เป่า​ว่า​บงการ​ให้​ลูกสมุน​ปลอมตัว​เป็น​โจรสลัด​ ​ทำการค้า​ส่วนตัว​ ​หลักฐาน​มัด​ตัว​ชัดเจน​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก้มหน้า​ลง​ต่ำ​ ​กระซิบ​ข้าง​หู​นาง​เสียง​เบา​ ​“​ถึงแม้​จะ​ไม่รู้​ว่า​ฝ่า​บาท​จะ​ทรง​ตัดสิน​ลงโทษ​เขา​อย่างไร​ ​แต่​เพื่อ​เป็นการ​ป้องกัน​ไว้​ก่อน​ ​หวัง​จิ​่ว​เป่า​จึง​ได้​ฝากฝัง​หลานชาย​ที่​อายุ​เพียง​สาม​เดือน​ให้​กับ​ข้า​…​”

ราวกับ​สายฟ้า​ผ่า​ฟาด​ลงมา​จาก​ฟากฟ้า​ก็​ไม่​ปาน

สือ​อี​เหนียง​อึ้ง​ไป​ชั่วขณะ

เหตุใด​จิ้ง​ไห่​โหว​ถึง​ได้​เลือก​ที่จะ​ฟ้องร้อง​หวัง​จิ​่ว​เป่า​ในเวลานี้​ ​ทั้ง​ราชสำนัก​เต็มไปด้วย​เหล่า​ขุนนาง​และ​พลทหาร​ ​แล้ว​เหตุใด​หวัง​จิ​่ว​เป่า​ถึง​ได้​ฝากฝัง​ทายาท​ผู้​เป็น​สายเลือด​ของ​ตระกูล​ให้​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋

คำถาม​มากมาย​ผุด​ขึ้น​มา​ใน​หัว​ของ​นาง

แต่​นาง​เชื่อมั่น​ใน​การตัดสินใจ​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋

“​ท่าน​โหว​มี​อะไร​จะ​สั่ง​หรือไม่​เจ้า​คะ​!​”​ ​น้ำเสียง​ที่​สั่นเครือ​ใน​ตอนแรก​ค่อยๆ​ ​เปลี่ยนเป็น​สุขุม​และ​สงบ​ลง

“​ต้น​ยาม​ไฮ​่​ของ​คืนนี้​ ​ข้า​ให้​หน่วย​กล้า​ตาย​ของ​สกุล​หวัง​ทิ้ง​เด็ก​ไว้​ใน​ป่า​ผลไม้​ที่ว่า​นอี​้​จง​เป็น​คนดู​แล​อยู่​”​ ​น้ำเสียง​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​หนักแน่น​กว่า​สือ​อี​เหนียง​ ​“​ตอนนี้​เจ้า​คิด​หาวิ​ธี​ให้​ว่าน​ต้า​เสี่ยน​สอง​สามีภรรยา​กลับ​ไป​ที่​ชนบท​ ​จากนั้น​ก็​ให้​ทั้งสอง​รับ​เลี้ยงเด็ก​คน​นี้​ในนามของ​พวกเขา​”

“​ข้า​เข้าใจ​แล้ว​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ไม่​ถาม​อะไร​แม้แต่​คำ​เดียว​ ​อีกทั้ง​ยัง​ให้ความร่วมมือ​เป็นอย่างมาก​ ​“​ข้า​จะ​เรียกตัว​ปินจ​วี​๋​เข้า​จวน​ประเดี๋ยวนี้​เลย​”​ ​พูด​จบ​ ​นาง​ก็​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​“​เพียงแต่ว่า​ตอนนี้​ก็​ต้น​ยาม​เซิน​แล้ว​ ​ปินจ​วี​๋​เดินทาง​กลับ​ไป​อาจจะ​ต้อง​ใช้เวลา​ทั้งวัน​…​เกรง​ว่า​จะ​ไม่ทันเวลา​เจ้าค่ะ​”

“​ให้​ว่าน​ต้า​เสี่ยน​ช่วย​เลี้ยงดู​ด้วย​อีก​แรง​ ​ประการ​ที่หนึ่ง​คือ​เขา​เป็น​ผู้ติดตาม​ของ​เจ้า​ ​นิสัยใจคอ​ซื่อสัตย์​และ​จงรักภักดี​ ​ส่วน​ประการ​ที่สอง​ ​พื้นที่​ที่นั่น​เป็น​ป่า​ผลไม้​ ​ค่อนข้าง​รกร้าง​ห่างไกล​ ​ไม่มี​ผู้คน​เดินทาง​ผ่าน​ที่นั่น​ได้​ง่ายๆ​”​ ​น้ำเสียง​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​สุขุม​เป็นอย่างมาก​ ​“​ว่าน​ต้า​เสี่ยน​เป็น​คนซื่อ​ตรง​และ​จิตใจ​ดี​ ​ได้ยิน​เด็ก​ร้องไห้​ขึ้น​มา​ ​คงจะ​ไม่​ปล่อยทิ้ง​ไว้​อย่างแน่นอน​ ​พรุ่งนี้​หลังจากที่​ว่าน​ต้า​เสี่ยน​กลับ​จวน​มา​แล้ว​ ​ก็​บอก​เขา​ว่า​เด็ก​คน​นี้​น่าสงสาร​ ​รับ​เลี้ยง​ไว้​ก็​พอ​!​”

พิจารณา​ไตร่ตรอง​ได้​อย่างละเอียด​รอบคอบ​เป็นอย่างมาก​!

สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​เบา​ๆ

“​เช่นนั้น​ข้า​ออก​ไป​เจอ​หวัง​ลี่​ก่อน​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ขึ้นเสียง​เบา​ ​“​หาก​มีเรื่อง​อัน​ใด​ ​ก็​สั่ง​บ่าว​รับใช้​มาแจ้ง​ข้า​ก็​พอ​”

“​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ขานรับ​เสียง​เบา​ ​จากนั้น​ก็​คลาย​มือ​ออก

สวี​ลิ่ง​อี๋​ยังคง​โอบกอด​นาง​ไว้​อย่าง​เงียบๆ​ ​ผ่าน​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​เขา​จึง​ค่อย​คลาย​อ้อมกอด​จาก​นาง​ ​หมุนตัว​เดิน​ออก​ไป​จาก​ห้อง​ชั้นใน

สือ​อี​เหนียง​จ้องมอง​ม่าน​ไม้​ไผ่​เซียง​เฟย​ที่​ยังคง​สั่น​ไหว​ ​จากนั้น​ก็​สูด​ลมหายใจ​เข้า​ลึก​ ​เดิน​ไป​ที่​เตียง​เตา​ใหญ่​ริม​หน้าต่าง​อย่าง​ช้าๆ​ ​เวลา​นั้น​เอง​ ​นาง​ก็​พึ่ง​สังเกตเห็น​ว่า​ตัวเอง​กำลัง​เข่า​อ่อน​และ​ไร้​เรี่ยวแรง​ขึ้น​มา

*****

ร่มเงา​ของ​ต้นไม้​ใหญ่​นอก​หน้าต่าง​สะท้อน​ลง​บน​หน้าต่าง​กระจกใส​ ​เสียง​นาฬิกา​ตั้ง​พื้น​ดัง​ขึ้น​ ติ๊ก​ต่อก​ อย่างสม่ำเสมอ​ ​พลอย​ทำให้​บรรยากาศ​ใน​ห้อง​ชั้นใน​วังเวง​กว่า​เดิม

สือ​อี​เหนียง​ตะโกนเรียก​ชิว​อวี​่​เข้ามา​ ​“​ไป​เรียก​ปินจ​วี​๋​เข้า​จวน​ประเดี๋ยวนี้​เลย​”

ชิว​อวี​่​ค่อนข้าง​แปลกใจ​ ​แต่​ก็​ย่อ​ตัว​ขานรับ​ด้วย​ความ​นอบน้อม​ ​จากนั้น​ก็​ถอย​ออกจาก​ห้อง​ชั้นใน

สือ​อี​เหนียง​นั่ง​อยู่​บน​เตียง​เตา​ใหญ่​ ​สายตา​จ้องมอง​ไป​ยัง​ม้า​ของเล่น​ไม้​กฤษณา​ของ​จิ​่น​เกอ​ที่​ถูก​วาง​อยู่​ใต้โต๊ะ​แจกัน​ด้วย​สีหน้า​ที่​เหม่อลอย​ ​จนกระทั่ง​ชิว​อวี​่​เข้ามา​เรียน​ว่า​ ​“​สะใภ้​ว่าน​ต้า​เสี่ยน​มาถึง​แล้ว​เจ้าค่ะ​”​ ​นาง​จึง​ค่อย​ละสายตา​จาก​ตรงนั้น

“​ให้​นาง​เข้ามา​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ค่อยๆ​ ​เผย​รอยยิ้ม​ขึ้น

“ฮู​หยิน​!​”​ ​ปินจ​วี​๋​ย่อ​ตัว​ทำความเคารพ​สือ​อี​เหนียง​ ​สีหน้า​ของ​นาง​เต็มไปด้วย​ความดีใจ

สือ​อี​เหนียง​ให้​สาวใช้​น้อย​ยก​เก้าอี้​มา​ให้​นาง​นั่ง​ ​จากนั้น​ก็​สั่ง​ให้​ริน​น้ำชา​มา​ให้​ปินจ​วี​๋

ปินจ​วี​๋​รีบ​ปฏิเสธ​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​“​มิก​ล้า​เจ้าค่ะ​ ​ท่าน​เรียก​บ่าว​มา​เวลานี้​ ​มีเรื่อง​สำคัญ​อะไร​จะ​สั่ง​หรือ​เจ้า​คะ​”

“​ข้ามี​เรื่อง​จะ​รบกวน​เจ้า​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​เคร่งขรึม

ชิว​อวี​่​ที่​ดู​สีหน้า​ของ​สือ​อี​เหนียง​ออก​ ​จึง​รีบ​ให้​สาวใช้​น้อย​ที่​ปรนนิบัติ​อยู่​ใน​ห้อง​ถอย​ออก​ไป​จน​หมด

สือ​อี​เหนียง​ส่งสายตา​ให้​กับ​ปินจ​วี​๋​เพื่อ​บอกเป็นนัย​ให้​นาง​ขยับ​เข้ามา​คุย​ใกล้​ๆ

“​เรื่อง​เป็นมา​อย่างนี้​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ขึ้นเสียง​เบา​ ​“​ท่าน​โหว​มีส​หาย​คน​หนึ่ง​ ​ภรรยานอกสมรส​ของ​เขา​ได้​ให้กำเนิด​บุตรชาย​หนึ่ง​คน​ ​ภรรยา​เอก​ไม่ยอมรับ​ ​จึง​ไหว้วาน​ให้ท่าน​โหว​ช่วยดูแล​ ​ท่าน​โหว​ปฏิเสธ​ไม่ได้​ ​ก็​เลย​ทำได้​แค่​รับปาก​จะ​ดูแล​ให้​ ​แต่​เจ้า​ก็​รู้​สถานการณ์​ของ​จวน​ดี​ ​ท่าน​โหว​จะ​เอา​เด็ก​คน​หนึ่ง​กลับมา​เลี้ยงดู​ได้​อย่างไร​กัน​เล่า​ ​ครั้น​จะ​ไหว้วาน​คนนอก​ ​ก็​กลัว​ว่า​ข่าวลือ​จะ​แพร่งพราย​ออก​ไป​ ​คิด​อยู่นาน​ ​สุดท้าย​จึง​ตัดสินใจ​ไหว้วาน​พวก​เจ้า​ให้​ช่วยดูแล​”

ปินจ​วี​๋​ชะงัก​ไป​ชั่วขณะ

บุตรชาย​ของ​สหาย​ท่าน​โหว​ ​เช่นนั้น​ก็​คงจะ​เป็น​ลูกหลาน​ของ​ตระกูล​ที่สูง​ศักดิ์​อย่างแน่นอน

ว่าน​ต้า​เสี่ยน​ของ​ตน​เป็น​เพียง​พ่อบ้าน​เล็ก​ๆ​ ​คน​หนึ่ง​เท่านั้น​…

“ฮู​หยิน​ ​บ่าว​…​บ่าว​จะ​ทำได้​หรือ​เจ้า​คะ​”​ ​นาง​กำ​เสื้อ​ของ​ตัวเอง​ไว้​แน่น​ด้วย​สีหน้า​ที่​ตื่นตระหนก

“​เด็ก​มีอายุ​แค่​สาม​เดือน​ ​คนเรา​รู้​หน้า​ไม่รู้​ใจ​ ​มอบ​เด็ก​ให้​คนแปลกหน้า​เลี้ยง​ ​ข้า​ไม่ไว้ใจ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​นิสัยใจคอ​ของ​เจ้า​กับ​ว่าน​ต้า​เสี่ยน​ ​ข้า​รู้ดี​เป็น​ที่สุด​ ​หาก​พวก​เจ้า​เป็น​คน​ช่วย​เลี้ยงดู​เด็ก​ ​ข้า​จึง​จะ​วางใจ​”

ปินจ​วี​๋​เอง​ก็​เป็น​แม่​คน​ ​เมื่อ​ได้ยิน​ว่า​เด็ก​มีอายุ​แค่​สาม​เดือน​ก็​รู้สึก​ใจอ่อน​ขึ้น​มาทัน​ที

ตั้งแต่​สมัยก่อน​ก็​มีเรื่อง​เช่นนี้​อยู่​แล้ว​ ​คน​บางคน​เพื่อ​เงิน​แล้ว​สามารถ​พูดจา​แพรวพราว​ต่อหน้า​เจ้านาย​ ​แต่​พอ​หันหลัง​ก็​ปฏิบัติ​ต่อ​เด็ก​ราวกับว่า​ไม่ใช่​คน​อย่างไร​อย่างนั้น​ ​คน​บางคน​ถึงขั้น​ปฏิบัติ​ต่อ​เด็ก​ด้วย​ความโหดร้าย​และ​ทารุณ​ ​จากนั้น​ก็​โป้ปด​มดเท็จ​ว่า​เด็ก​นั้น​มี​โรค​ ​ไปรีด​ไถ​เงิน​จาก​เจ้านาย​ ​หรือ​นำ​เด็ก​ไป​ขายต่อ​ ​แล้วก็​หลบหนี​ไป​…

“ฮู​หยิน​ ​ท่าน​วางใจ​เถิด​เจ้าค่ะ​!​”​ ​นาง​พูด​กับ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​เรื่อง​อื่น​ข้า​อาจจะ​ไม่กล้า​รับปาก​ ​แต่​ข้า​กล้า​พูด​ได้​อย่าง​เต็มปาก​ว่า​ข้า​จะ​ดูแล​เด็ก​คน​นี้​ให้​ดีกว่า​บุตร​ของ​ข้า​อย่างแน่นอน​”

สือ​อี​เหนียง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​เหงื่อ​ตก​ ​“​ไม่จำเป็น​ต้อง​ทำ​ถึงขนาด​นั้น​ ​เจ้า​ปฏิบัติ​ต่อ​ฉั​งอา​นอย​่าง​ไร​ ​ก็​ปฏิบัติ​ต่อ​เขา​เช่นนั้น​ก็​พอ​ ​จะ​ได้​ไม่​เป็น​ที่จับ​ตาขอ​งค​นอื​่น​ ​และ​ภรรยา​เอก​ก็​จะ​ได้​ตามหา​ไม่​เจอ​”

ตระกูล​สูงศักดิ์​มักจะ​มี​ความลับ​ซับซ้อน​มากมาย​ ​ปินจ​วี​๋​รีบ​พยักหน้า​ตอบกลับ​ทันที​ ​“​ข้า​เข้าใจ​แล้ว​เจ้าค่ะ​!​”

สือ​อี​เหนียง​กลัว​ว่า​ปินจ​วี​๋​จะ​ปฏิบัติ​ต่อ​เด็ก​คน​นั้น​ดี​เกินไป​จน​เป็น​ที่​แปลกใจ​ของ​ผู้อื่น​ ​จึง​ได้​กำชับ​นาง​อย่างละเอียดถี่ถ้วน​ไป​ครึ่ง​ค่อนวัน​เห็นจะ​ได้​ ​จากนั้น​จึง​ค่อย​ให้​ชิว​อวี​่​ออก​ไป​ส่ง​นาง​ที่​ประตู​ใหญ่

เพียงแต่ว่า​สือ​อี​เหนียง​ไม่มี​กะ​จิต​กะ​ใจ​จะ​ไป​เล่น​ต่อ​แล้ว

นาง​นั่ง​อยู่​ใน​เรือน​ครู่ใหญ่​ ​จากนั้น​ก็​ลุกขึ้น​เดิน​ไป​ยัง​ทิศทาง​ของ​เรือน​ศาลา​ริมน้ำ​ฉุย​หลุน

ทันใดนั้น​เอง​ ​จู่ๆ​ ​ก็​มีสาว​ใช้​น้อย​วิ่ง​มาทาง​นาง​ด้วย​สีหน้า​ที่​ตื่นตระหนก

เมื่อ​เห็น​สือ​อี​เหนียง​ ​นาง​ก็​รีบ​ย่อ​ตัว​ทำความเคารพ​ทันที​ ​“ฮู​หยิน​สี่​ ​แย่​แล้ว​เจ้าค่ะ​ ​คุณชาย​น้อย​หก​กับ​คุณหนู​สอง​ตี​กัน​อีกแล้ว​เจ้าค่ะ​…​”

สือ​อี​เหนียง​ไม่​รอ​ให้​นาง​พูด​จบ​ ​รีบเร่ง​ฝีเท้า​ตรง​ไป​ยัง​เรือน​ศาลา​ริมน้ำ​ฉุย​หลุน​ทันที

เพียง​ไม่นาน​ก็ได้​ยิน​เสียงร้อง​ไห้​ดัง​ขึ้น​ไล่เลี่ยกัน​ดัง​มา​แต่ไกล

สือ​อี​เหนียง​ได้ยิน​แล้วก็​รู้สึก​กังวลใจ​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​ก็​เลย​ก้าว​พลาด​ไป​ ​หาก​ไม่ใช่​เพราะ​ชิว​อวี​่​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​มือไว​ประคอง​นาง​ไว้​ทัน​ ​เกรง​ว่านา​งคง​จะ​หกล้ม​ตก​ขั้นบันได​ไป​แล้ว

“​เกิด​อะไร​ขึ้น​”​ ​สือ​อี​เหนียง​เดิน​เข้าไป​ใน​ศาลา​ริมน้ำ​ด้วย​ความรีบร้อน​ ​ก็​เห็น​สวี​ซื่อ​อวี​้​กำลัง​อุ้ม​จิ​่น​เกอ​อยู่​ ​ข้างๆ​ ​เขา​มีส​วี​ซื่อ​จุน​และ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ที่​กำลัง​ปลอบ​จิ​่น​เกอ​ให้​หยุด​ร้องไห้​ด้วย​ท่าที​ที่​เก้งก้าง

“​ท่าน​แม่​ ​ท่าน​แม่​ ​ท่าน​แม่​!​”​ ​ใบหน้า​ของ​จิ​่น​เกอ​ท่วม​ไป​ด้วย​น้ำตา​ ​หมุนตัว​อ้าแขน​จะ​ให้​สือ​อี​เหนียง​อุ้ม

สือ​อี​เหนียง​เร่งฝีเท้า​ให้​เร็ว​กว่า​เดิม​ ​เข้าไป​อุ้ม​จิ​่น​เกอ​มา​ไว้​ใน​อ้อมกอด​ ​เวลา​นั้น​เอง​นาง​ก็​สังเกตเห็น​ว่าที่​แก้ม​ของ​จิ​่น​เกอ​มี​รอย​แดง​ขนาดใหญ่​ ​เหมือน​โดน​อะไร​สัก​อย่าง​ตี

สีหน้า​ของ​นาง​ก็​เปลี่ยนไป​ในทันที

ฮู​หยิน​ห้า​รีบ​เดิน​เข้าไป​ย่อ​ตัว​ขอโทษ​ต่อ​สือ​อี​เหนียง

“​เป็น​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ของ​ข้า​ที่​นิสัย​ไม่ดี​ ​แย่ง​ไพ่​แพ้​จิ​่น​เกอ​ ​ก็​เลย​ตี​เขา​ไป​หนึ่ง​ที​”​ ​ใบหน้า​ของ​นาง​แดงก่ำ​ด้วย​ความละอายใจ​ ​“​ข้า​ตี​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ไป​แล้ว​ ​ประเดี๋ยว​ข้า​จะ​ไป​บอก​เรื่อง​นี้​กับ​คุณชาย​ห้า​อีกที​ ​ให้​คุณชาย​ห้า​สั่งสอน​นาง​อีก​รอบ​”

สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​โกรธ​จน​ควัน​แทบ​ออก​หู​ ​แต่​เมื่อ​เห็น​จิ​่น​เกอ​และ​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ที่อยู่​ใน​อ้อมแขน​ของ​แม่นม​ต่าง​ก็​ร้องไห้​สะอึกสะอื้น​ไม่​แพ้​กัน​ ​นาง​จึง​ข่ม​ความโกรธ​ไว้​ใน​ใจ

“​เด็ก​ยัง​เล็ก​ ​ทะเลาะ​กัน​บ้าง​ตี​กัน​บ้าง​ก็​ถือเป็น​เรื่อง​ธรรมดา​”​ ​ถึงแม้​จะ​พูด​เช่นนี้​ ​แต่​สีหน้า​ของ​นาง​กลับ​ดู​ค่อนข้าง​ฝืนใจ​อย่างเห็นได้ชัด

ฮู​หยิน​ห้า​จะ​ดู​ไม่​ออก​ได้​อย่างไร​กัน​ ​นาง​รีบ​ก้มหน้า​โค้ง​คำนับ​เพื่อ​เป็นการ​ขอโทษ​สือ​อี​เหนียง​ทันที

สือ​อี​เหนียง​ไม่​สามารถ​ทำ​อะไร​มาก​ไป​กว่านี​้​ได้​ ​“​ไม่เป็นไร​ ​จิ​่น​เกอ​ของ​เรา​โอ๋​ประเดี๋ยวเดียว​ก็​หาย​แล้ว​!​ ​เจ้า​เอง​ก็​รีบ​ไปดู​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เถิด​!​ ​เด็ก​ๆ​ ​เอง​ก็​ไม่ได้ตั้งใจ​”

ไท่ฮู​หยิน​เห็น​แล้วก็​เอ่ยปาก​ทำหน้าที่​ของ​ผู้หลักผู้ใหญ่​ ​ออกหน้า​ช่วย​คลี่คลาย​สถานการณ์​ ​“​เมื่อ​เข้าใจ​กัน​แล้วก็​ถือเป็น​อัน​จบเรื่อง​ ​ฟันบน​กับ​ฟัน​ล่าง​ยัง​มี​กระทบกระทั่ง​กัน​เป็นธรรมดา​ ​นับประสา​อะไร​กับ​คนที​่​อยู่​ใต้​ชายคา​เดียวกัน​!​”

ฮู​หยิน​สอง​เอง​ก็​เดิน​เข้าไป​ปลอบ​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ว่า​ ​“​พอแล้ว​ ​หยุด​ร้องไห้​ได้​แล้ว​ ​หาก​ยัง​ร้องไห้​อีก​ ​ระวัง​จะ​ถูก​เซิน​เกอ​หัวเราะเยาะ​เอา​ได้​!​ ​เจ้า​เป็น​พี่สาว​ของ​เขา​เชียว​นะ​!​”

เพราะ​ยัง​เล็ก​เกินไป​ ​ตอนที่​ทุกคน​ออก​ไป​พาย​เรือ​ ​แม่นม​เลย​พา​เซิน​เกอ​ไป​เดินเล่น​ที่​สวนดอกไม้​แทน​ ​ตอนนี้​ก็​เพิ่ง​ตื่น​จาก​นอน​กลางวัน​ ​งัวเงีย​อยู่​ใน​อ้อมแขน​ของ​แม่นม​ ​พอได้​ยิน​ทุกคน​เอ่ยถึง​ชื่อ​ของ​เขา​ ​เขา​ก็​รีบ​เบิกตา​กว้าง​มอง​ไปร​อบ​ๆ​ ​ด้วย​สีหน้า​ที่​แปลกใจ

ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ได้ยิน​แล้วก็​ค่อยๆ​ ​เบา​เสียงร้อง​ไห้​ลง

ฮู​หยิน​สอง​ยิ้ม​พลาง​ลูบ​ศีรษะ​ของ​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เบา​ๆ

จิน​ซื่อ​ที่​ยืน​เงียบ​อยู่​ข้างๆ​ ​ก็​เดิน​เข้าไป​ปลอบ​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ว่า​ ​“​ข้า​ช่วย​เจ้า​ทำ​เสื้อผ้า​ให้​กับ​เจ้าขาว​และ​เจ้า​เขียว​ของ​เจ้า​ดี​หรือไม่​”

ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ได้​ฟัง​แล้วจึง​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​หยุด​ร้องไห้​ไป

สวี​ซื่อ​เจี่ย​นก​็​วิ่ง​เข้าไป​ยืน​อยู่​ข้างๆ​ ​สือ​อี​เหนียง​ ​หยอกล้อ​จิ​่น​เกอ​ว่า​ ​“​เจ้า​ดู​สิ​ ​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​หยุด​ร้องไห้​ไป​แล้ว​ ​เหตุใด​เจ้า​ถึง​ยัง​ร้องไห้​อยู่​เล่า​!​”

จิ​่น​เกอ​ไม่ได้​สนใจ​เขา​ ​มุด​หน้า​เข้าไป​ใน​อ้อมกอด​ของ​สือ​อี​เหนียง​ด้วย​ความ​สะอึกสะอื้น

สวี​ซื่อ​จุน​จึง​เดิน​เข้าไป​กุมมือ​ของ​จิ​่น​เกอ​ไว้​ ​“​ข้า​พา​เจ้า​ไป​ลอย​ประทีป​ดี​หรือไม่​!​”

สวี​ซื่อ​เจี​้ย​เอง​ก็​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ข้า​เป่าขลุ่ย​ให้​เจ้า​ฟัง​ดี​หรือไม่​!​”

แต่​จิ​่น​เกอ​ยังคง​เอาแต่​ซุก​หน้า​อยู่​ใน​อ้อมกอด​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​ไม่ยอม​เงยหน้า​ขึ้น​มา​แม้แต่​ครั้ง​เดียว

“​เจ้า​ดู​สิ​ ​พี่ชาย​ของ​เจ้า​ต่าง​ก็​พากั​นมา​ดู​เจ้า​กัน​หมด​แล้ว​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​อ่อนโยน​ ​“​เจ้า​หยุด​ร้องไห้​ได้​แล้ว​ ​หาก​เจ้า​ยัง​ร้องไห้​ต่อ​ก็​จะ​ไม่ใช่​เด็กดี​แล้ว​!​”

จิ​่น​เกอ​ยังคง​ซุก​หน้า​อยู่​ใน​อ้อมแขน​ของ​สือ​อี​เหนียง​เหมือนเดิม

สวี​ซื่อ​อวี​้​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​จิ​่น​เกอ​ ​หาก​เจ้า​หยุด​ร้องไห้​ ​พรุ่งนี้​ข้า​จะ​พา​เจ้า​ไป​พาย​เรือ​เล่น​ ​ดี​หรือไม่​!​”

จิ​่น​เกอ​ได้ยิน​แล้วก็​รีบ​เงยหน้า​ขึ้น​มาทัน​ที

สวี​ซื่อ​ฉิน​ได้ยิน​แล้วก็​เดิน​เข้าไป​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม​ ​“​เจ้า​อย่า​ได้​โกหก​จิ​่น​เกอ​เพียง​เพราะ​เห็น​ว่า​เขา​ยัง​เด็ก​เชียว​!​ ​ความจำ​ของ​เขา​ดี​เป็น​ไหน​ๆ​ ​วันข้างหน้า​หลังจากที่​เขา​โต​ขึ้น​แล้ว​ ​ระวัง​เขา​จะ​กลับ​ไป​คิดบัญชี​กับ​เจ้า​เอา​ได้​!​”​ ​จากนั้น​ก็ได้​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​อย่า​ลืม​ว่า​อีก​ไม่​กี่​วัน​เจ้า​ก็​จะ​ต้อง​เข้าร่วม​การ​สอบ​ระดับ​ราชสำนัก​แล้ว​ ​มี​เวลา​พา​จิ​่น​เกอ​ไป​พาย​เรือ​เล่น​เสียที​่​ไหน​กัน​!​”

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท