ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 579 สับสนวุ่นวาย (ต้น)

ตอนที่ 579 สับสนวุ่นวาย (ต้น)

“​ข้า​ไม่​รักษาคำพูด​ตอน​ไหน​กัน​!​”​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ ​“​ข้า​รับปาก​จะ​พา​จิ​่น​เกอ​ไป​พาย​เรือ​ ​ก็​จะ​ต้อง​พา​จิ​่น​เกอ​ไป​พาย​เรือ​อย่างแน่นอน​ ​อีก​อย่าง​การ​เข้าร่วม​การ​สอบ​ระดับ​ราชสำนัก​ก็​ไม่​สามารถ​หวัง​พึ่ง​แต่​สิ่งศักดิ์สิทธิ์​อย่าง​เดียว​เท่านั้น​!​”

ฟัง​ซื่อ​ที่​ยืน​อยู่​ข้างๆ​ ​สวี​ซื่อ​ฉิน​ได้ยิน​แล้วก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​พยักหน้า​เบา​ๆ

ฮู​หยิน​สอง​ได้ยิน​แล้วก็​เดิน​เข้ามา​ ​“​ที่ผ่านมา​เจ้า​ร่ำเรียน​อย่างหนัก​ ​การ​ที่​เจ้า​คิดได้​เช่นนี้​ ​ก็​แสดงว่า​ความรู้​ที่​เจ้า​ฝึกฝน​ร่ำเรียน​มา​อย่างลำบาก​นั้น​หนักแน่น​เพียงพอ​แล้ว​!​”

สีหน้า​ของ​สวี​ซื่อ​อวี​้​เปลี่ยนเป็น​เก้อเขิน​ทันที

สวี​ซื่อ​ฉิน​เอง​ก็​ทำตัว​ไม่​ถูก​ขึ้น​มา

ป้า​สะใภ้​สอง​พูด​ออกมา​เช่นนี้​ ​ราวกับว่า​การศึกษา​ของ​เขา​ยัง​ไม่ดี​พอ​อย่างไร​อย่างนั้น

สวี​ซื่อ​เจี่ย​นก​็​รีบ​เข้าไป​ช่วย​พี่ชาย​แก้​สถานการณ์​ทันที​ ​เขา​ชี้​ไป​ยัง​จิ​่น​เกอ​ที่​หยุด​ร้องไห้​แล้ว​ ​“​พวก​ท่าน​ดู​สิ​ ​จิ​่น​เกอ​ไม่​ร้องไห้​แล้ว​”​ ​จากนั้น​ก็​จับ​ไหล่​ของ​สวี​ซื่อ​อวี​้​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ท่าน​คง​ถูก​จิ​่น​เกอ​ต้ม​เข้า​แล้ว​กระมัง​!​ ​พรุ่งนี้​อย่า​ลืม​พา​จิ​่น​เกอ​ไป​พาย​เรือด​้วย​เล่า​”​ ​จากนั้น​ก็ได้​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​ให้​พวก​ข้า​ไปเป็นเพื่อน​ท่าน​ด้วยดี​หรือไม่​ ​เล่น​คนเดียว​ย่อม​ไม่สนุก​เท่า​เล่น​ด้วยกัน​หลาย​ๆ​ ​คน​อยู่​แล้ว​!​”

ทุกคน​ได้ยิน​แล้วก็​พากัน​หัวเราะ​ด้วย​ความขบขัน

สือ​อี​เหนียง​พูด​กับ​จิ​่น​เกอ​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม​ว่า​ ​“​ยัง​ไม่​รีบ​ขอบคุณ​พี่​สอง​ของ​เจ้า​อีก​!​”

จิ​่น​เกอ​จึง​รีบ​พูดตาม​สือ​อี​เหนียง​ว่า​ ​“​ขอบคุณ​พี่​สอง​ขอรับ​”

สวี​ซื่อ​อวี​้​ยิ้ม​พลาง​หยิก​แก้ม​ของ​เขา​เบา​ๆ​ ​“​พรุ่งนี้​พวกเรา​ไป​พาย​เรือ​เล่น​กัน​!​”

สวี​ซื่อ​จุน​ได้ยิน​แล้วก็​แสดง​สีหน้า​สงสัย​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​“​ท่าน​แม่​ ​ข้า​ไปเป็นเพื่อน​ด้วย​ได้​หรือไม่​ขอรับ​”

สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ที่​คอย​ตาม​สวี​ซื่อ​จุน​มาโดยตลอด​ได้ยิน​แล้วก็​รีบ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ท่าน​แม่​ ​ข้า​ด้วย​ ​ข้า​ก็​ไปเป็นเพื่อน​ด้วย​ขอรับ​!​”

เขา​พูด​ขึ้น​ด้วย​ความมั่นใจ​ ​น้ำเสียง​จึง​ค่อนข้าง​ก้องกังวาน​ ​คนที​่​อยู่​ใน​เรือน​ล้วน​ได้ยิน​กัน​ถ้วนหน้า

ต่าง​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​หัวเราะ​ขึ้น​มา

ไท่ฮู​หยิน​ก็​ชี้​ไป​ยัง​สวี​ซื่อ​จุน​และ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ ​“​เด็ก​สอง​คน​นี้​นี่​…​”​ ​น้ำเสียง​เต็มไปด้วย​ความ​เอ็นดู

สวี​ซื่อ​จุน​ก็​รู้สึก​ใจกล้า​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​เขา​รีบ​เข้าไป​ดึง​แขน​เสื้อ​ของ​ไท่ฮู​หยิน​เบา​ๆ​ ​“​ท่าน​ย่า​ ​พรุ่งนี้​เรา​มา​พาย​เรือน​เล่น​อีก​นะ​ขอรับ​!​”​ ​เขา​อยาก​จะ​ให้​เรื่อง​นี้​ถูก​ตกลง​เรียบร้อย​ก่อน​ ​จึง​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​ก็ได้​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ท่าน​ป้า​สะใภ้​สอง​บอก​แล้ว​ว่า​จะ​ต้อง​ตั้งใจ​ร่ำเรียน​และ​ฝึกฝน​อย่างหนัก​ ​ไม่​หวัง​พึ่ง​แต่​สิ่งศักดิ์สิทธิ์​ ​ที่ผ่านมา​ข้า​ตั้งใจ​เล่าเรียน​อย่างหนัก​ ​เล่น​เพิ่ม​อีก​สักวัน​ก็​คงจะ​ไม่เป็นไร​ขอรับ​!​”

ไท่ฮู​หยิน​เห็น​เขา​ตื่นเต้น​และ​กระตือรือร้น​เช่นนี้​เป็นครั้งแรก​ ​ก็​รีบ​ดึง​เขา​มาก​อด​ไว้​ด้วย​ความดีใจ​ ​“​ได้​สิ​ ​พรุ่งนี้​พวกเรา​ไป​พาย​เรือด​้ว​ยกั​นอี​กห​นึ่ง​วัน​”​ ​จากนั้น​ก็​หันไป​พูด​กับ​สือ​อี​เหนียง​ว่า​ ​“​ทาง​ฝั่ง​เจี​้ย​เกอ​ก็​ไป​ลากั​บอา​จารย์​จ้าว​สัก​หนึ่ง​วัน​ ​อย่างไร​เสีย​อาจารย์​จ้าว​ก็​จะ​ต้อง​หยุดพัก​ผ่อน​ทุกวัน​ที่หนึ่ง​ของ​ทุก​เดือน​อยู่​แล้ว​ ​หยุด​เพิ่ม​อีก​สักวัน​คง​ไม่เป็นไร​กระมัง​”​ ​จากนั้น​ก็​หันไป​พูด​กับ​สวี​ซื่อ​ฉิน​และ​สวี​ซื่อ​เจี่ย​นว​่า​ ​“​ถึง​เวลา​นั้น​พวก​เจ้า​ทั้งสอง​ก็​พา​ภรรยา​มาด​้วย​ ​มา​เล่นไพ่​กัน​ใหม่​อีก​รอบ​!​”

ทุกคน​ได้ยิน​แล้วก็​พากัน​ยิ้ม​พร้อมกับ​ขานรับ​อย่าง​พร้อมเพรียง

สวี​ซื่อ​จุน​ผละออก​จาก​อ้อมกอด​ของ​ไท่ฮู​หยิน

“​พรุ่งนี้​ข้า​จะ​ไป​เรียก​เจ้า​แต่เช้า​”​ ​เขา​เดิน​เข้าไป​จูงมือ​ของ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ ​จากนั้น​ก็​นึก​ขึ้น​ได้​ว่าที่​ทุกคน​ได้​ไป​พาย​เรือ​ครั้งนี้​เป็น​เพราะ​จิ​่น​เกอ​ ​จึง​หันไป​จูงมือ​ของ​จิ​่น​เกอ​ด้วย​ ​“​พรุ่งนี้​พวกเรา​ไป​พาย​เรือด​้ว​ยกัน​!​”

จิ​่น​เกอ​ได้ยิน​แล้วก็​ยิ้ม​กว้าง​ขึ้น​มาทัน​ที

เพล้ง!​ ​จู่ๆ​ ​ก็​มีเสียง​เครื่องเคลือบ​แตก​ดัง​ขึ้น

ทุกคน​ต่าง​ก็​ตกใจ​ ​พากัน​หันไป​มอง​ยัง​ทิศทาง​ของ​ต้นเสียง

โต๊ะ​น้ำชา​ที่ตั้ง​อยู่​ข้างๆ​ ​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ว่างเปล่า​ ​รอบ​ๆ​ ​เท้า​ของ​นาง​เต็มไปด้วย​เศษ​เครื่องเคลือบ​ที่​กระจัดกระจาย​เต็ม​พื้น

“​จิ​่น​เกอ​เป็น​คน​ตี​ข้า​ก่อน​!​”​ ​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​กระทืบเท้า​พร้อมกับ​จ้องมอง​ไป​ยัง​จิ​่น​เกอ​ที่​กำลัง​ยิ้ม​กว้าง​ด้วย​ความไม่พอใจ​ ​“​เขา​เป็น​คน​ตี​ข้า​ก่อน​!​”

“​พอได้​แล้ว​!​”​ ฮู​หยิน​ห้า​โมโห​จน​หน้าดำหน้าแดง​ไป​หมด​ ​นาง​หันไป​สั่ง​กับ​แม่นม​ของ​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ว่า​ ​“​อุ้ม​นาง​กลับ​ไป​สั่งสอน​เดี๋ยวนี้​!​”​ ​จากนั้น​ก็​หันไป​ยิ้ม​ให้​กับ​สือ​อี​เหนียง​ด้วย​ความรู้สึกผิด​ ​แล้วจึง​หันไป​ย่อ​ตัว​ทำความเคารพ​ให้​กับ​ไท่ฮู​หยิน​ ​“​ท่าน​แม่​ ​อากาศ​ค่อนข้าง​ร้อน​ ​ข้า​ขอตัว​กลับ​เรือน​ไป​ทาน​ยา​เสวี​่ย​จิน​สัก​เม็ด​สอง​เม็ด​ก่อน​แล้ว​ค่อย​กลับมา​ใหม่​เจ้าค่ะ​!​”​ ​พูด​จบ​นาง​ก็​หันไป​เร่ง​แม่นม​ทั้งสอง​ให้​รีบ​กลับ​เรือน

ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ไม่พอใจ​เป็นอย่างมาก​ ​นาง​พยายาม​ดิ้น​ขัดขืน​อยู่​ใน​อ้อมแขน​ของ​แม่นม​ไม่​หยุด

เซิน​เกอ​เห็น​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เป็น​เช่นนี้​ ​ก็​ตกใจกลัว​จน​ร้องไห้​ขึ้น​มา

แม่นม​ทั้งสอง​จึง​ไม่กล้า​ชักช้า​ ​คน​หนึ่ง​อุ้ม​เซิน​เกอ​ ​ส่วน​อีก​คน​อุ้ม​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​หมุนตัว​เตรียม​จะ​เดิน​ออกจาก​เรือน​ศาลา​ริมน้ำ​ฉุย​หลุน

“​อุ้ม​เด็ก​มา​ให้​ข้า​!​”​ ​จู่ๆ​ ​ไท่ฮู​หยิน​ก็​ยื่นมือ​ไป​ทาง​แม่นม​ทั้งสอง​ ​จากนั้น​ก็​อุ้ม​เซิน​เกอ​มา​ไว้​ใน​อ้อมกอด​ ​ป้อน​ลูกกวาด​ให้​เขา​ทาน​ ​เซิน​เกอ​ก็​หยุด​ร้องไห้​ทันที​ ​แล้วจึง​หันไป​ลูบ​ผม​ที่​ยุ่งเหยิง​ของ​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​เจ้า​เป็น​พี่สาว​ ​ต้อง​ดูแล​น้องชาย​ ​จะ​ทำ​น้องชาย​ตกใจ​เช่นนี้​ไม่ได้​ ​เข้าใจ​หรือไม่​”

ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เม้มปาก​พร้อมกับ​พยักหน้า​เบา​ๆ

“​เด็กดี​!​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​ยิ้ม​พร้อมกับ​ลูบ​ใบหน้า​ของ​นาง​อย่างเบามือ​ ​จากนั้น​ก็​เงยหน้า​ขึ้นไป​มอง​บน​ฟ้า​ ​“​เจ้า​ยัง​จะเด็ด​ฝักบัว​หรือไม่​ ​ตอนนี้​ไม่มี​แดด​แล้ว​ ​เหมาะ​แก่​การพาย​เรือ​เป็น​ที่สุด​…​”

ไท่ฮู​หยิน​เพิ่งจะ​พูด​จบ​ ​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ก็​รีบ​พูด​ขึ้น​ด้วย​ความดีใจ​ว่า​ ​“​เด็ด​เจ้าค่ะ​ ​เด็ด​เจ้าค่ะ​ ​ข้า​จะ​ไป​เด็ด​ฝักบัว​เจ้าค่ะ​!​”

“​เจี่ยน​เกอ​!​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​หันไป​พูด​กับ​เขา​ ​“​เจ้า​กับ​ภรรยา​ของ​เจ้า​ไป​เด็ด​ฝักบัว​เป็นเพื่อน​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​หน่อย​!​”

สวี​ซื่อ​เจี่ย​นที​่​กำลัง​มองตาค้าง​อยู่​นั้น​ ​เมื่อ​ได้ยิน​ไท่ฮู​หยิน​เรียกชื่อ​ของ​เขา​ ​เขา​จึง​เพิ่ง​ได้สติ​กลับคืน​มา​ ​จากนั้น​ก็​ขานรับ​พลาง​เข้าไป​จูงมือ​ของ​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ทันที

ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ก็​เหลือบ​ไป​มอง​จิ​่น​เกอ​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​เดิน​ออกจาก​เรือน​ศาลา​ริมน้ำ​ฉุย​หลุน​พร้อมกับ​สวี​ซื่อ​เจี่ยน​และ​จิน​ซื่อ

ดวงตา​กลม​โต​ของ​จิ​่น​เกอ​เบิก​กว้าง​ขึ้น​มาทัน​ที

ไท่ฮู​หยิน​ก็​หันไป​พูด​กับ​สวี​ซื่อ​จุน​ว่า​ ​“​ตอนนี้​ไม่มี​แดด​แล้ว​ ​บรรยากาศ​ใน​ลาน​สวน​ค่อนข้าง​เย็นสบาย​ ​เจ้า​กับ​เจี​้ย​เกอ​พา​จิ​่น​เกอ​ไป​เล่น​เตะ​ลูก​หนัง​ที่​ลาน​สวน​ก็แล้วกัน​!​”​ ​จากนั้น​ก็​หันไป​พูด​กับ​สือ​อี​เหนียง​ว่า​ ​“​ส่วน​เจ้า​ก็​ไป​ตรวจดู​อาหาร​มื้อ​ค่ำ​หน่อย​ว่า​จัดเตรียม​ไป​ถึง​ไหน​แล้ว​!​”​ ​แล้วจึง​ค่อย​หันไป​พูด​กับฮู​หยิน​ห้าว​่า​ ​“​ถือโอกาส​ตอนที่​เด็ก​ๆ​ ​ไม่อยู่​ ​เรา​มา​เล่น​ด้วยกัน​อีก​สัก​สอง​สามตา​ดีกว่า​!​”

ฟัง​ซื่อ​รีบ​เข้าไป​ประคอง​แขน​ของฮู​หยิน​ห้า​ที่​กำลัง​สั่นเทา​ด้วย​ความโมโห​ ​“​ท่าน​อาสะใภ้​ห้า​ ​วันนี้​ข้า​เล่น​แพ้​ทั้งวัน​ ​นี่​ถือเป็น​โอกาส​แก้ตัว​ครั้งสุดท้าย​ของ​ข้า​แล้ว​เจ้าค่ะ​!​”

ฮู​หยิน​ห้า​รู้​ว่า​ไท่ฮู​หยิน​กำลัง​ช่วย​นาง​กู้​สถานการณ์​ ​จึง​ขาน​เรียก​ไท่ฮู​หยิน​เสียง​เบา​ ​“​ท่าน​แม่​”​ ​จากนั้น​ก็​หย่อน​ตัว​นั่งลง​หน้า​โต๊ะ​เล่นไพ่​นกกระจอก​พลาง​ยิ้ม​ขึ้น​บาง​ๆ

ไท่ฮู​หยิน​ก็​อุ้ม​เซิน​เกอ​ยื่น​ให้​กับ​แม่นม​ ​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ตั้งแต่​เด็ก​จน​โต​เจ้า​กับ​เจ้า​ห้า​ยัง​ไม่เคย​โดนดี​ดนิ​้ว​เลย​สักครั้ง​ ​ก็​ไม่​ควร​ที่จะ​อบรม​สอนสั่ง​เลือดเนื้อเชื้อไข​ของ​ตน​ด้วย​วิธี​เช่นนี้​!​”

ฮู​หยิน​ห้า​ก้มหน้า​ลง​ต่ำ​ด้วย​ความละอายใจ

ฮู​หยิน​สอง​ก็​ยิ้ม​ขึ้น​บาง​ๆ​ ​จากนั้น​ก็​เริ่ม​รวบรวม​ไพ่​นกกระจอก​ที่อยู่​บน​โต๊ะ

เรือน​ทั้ง​เรือน​กลับมา​เต็มไปด้วย​เสียง​กระทบ​กัน​ของ​ไพ่​นกกระจอก​หยก​ดัง​ขึ้น​ ติ๊ก​ ​ตั๊ก​ อีกครั้ง

*****

หลังจาก​ทานอาหาร​ค่ำ​ที่​เรือน​ศาลา​ริมน้ำ​ฉุย​หลุน​เรียบร้อย​แล้ว​ ​ทุกคน​ต่าง​พากัน​แยกย้าย​กลับ​เรือน​ของ​ตนเอง​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็ได้​พา​จิ​่น​เกอ​ไป​เข้านอน​ ​จากนั้น​ก็​เรียก​อาจิน​ที่​เป็น​คน​ปาก​ไว​ใจซื่อ​มาคุย​ ​“​เหตุใด​คุณหนู​สอง​ถึง​ได้​ตี​จิ​่น​เกอ​!​”

ใบหน้า​ของ​อาจิน​พลัน​ปรากฏ​สีหน้า​ที่​ลังเล​ขึ้น​มา

สีหน้า​ของ​สือ​อี​เหนียง​เคร่งขรึม​ขึ้น​มาทัน​ที

อาจิน​รีบ​ตอบกลับ​ไป​ว่า​ ​“​คุณหนู​สอง​เห็น​ไพ่​จีน​ที่อยู่​ใน​มือ​ของ​คุณชาย​น้อย​หก​เป็น​รูป​พระโพธิสัตว์กวนอิม​ ​ก็​เลย​จะ​เอา​ไพ่​ราชา​แห่ง​สวรรค์ทัวถ​่า​เทียน​ไป​ขอ​แลก​ ​คุณชาย​น้อย​หกกลับ​เอา​ไพ่​ราชา​แห่ง​สวรรค์ทัวถ​่า​เทียน​มา​แต่​ไม่ยอม​ให้​ไพ่​พระโพธิสัตว์กวนอิม​กับ​คุณหนู​สอง​ ​คุณหนู​สอง​ก็​เลย​เข้ามา​แย่ง​ไพ่​เอง​ ​คุณชาย​น้อย​หก​ก็​เลย​ตี​มือ​ของ​คุณหนู​สอง​ ​คุณหนู​สอง​ก็​เลย​ตี​คืน​ ​แต่​ไป​ตบ​ที่​หน้า​ของ​คุณชาย​น้อย​หก​แทน​ ​คุณชาย​น้อย​หก​ก็​เลย​ดึง​ผม​ของ​คุณหนู​สอง​…​คุณนาย​น้อย​สาม​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​ตกใจ​เป็นอย่างมาก​ ​คุณชาย​น้อย​สอง​เป็น​คน​เข้าไป​แยก​ทั้งสอง​ออกจาก​กัน​ ​จากนั้น​ก็​เอาแต่​ปลอบ​คุณชาย​น้อย​หก​เจ้าค่ะ​…​”

สือ​อี​เหนียง​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง

แต่​จู่ๆ​ ​ชิว​อวี​่​ก็​เดิน​เข้ามา​หานา​งด​้วย​ท่าที​ที่​รีบร้อน​ ​“ฮู​หยิน​ ​ไท่ฮู​หยิน​มา​เจ้าค่ะ​!​”

สือ​อี​เหนียง​อึ้ง​ไป​ชั่วขณะ

“​ดึก​ป่านนี้​…​”

พูด​จบ​ก็​รีบ​เดิน​ออก​ไปรับ​ไท่ฮู​หยิน​ทันที

บ่าว​รับใช้​ที่​ติดตาม​ไท่ฮู​หยิน​มี​เพียง​ป้า​ตู้​คนเดียว​เท่านั้น

“​จิ​่น​เกอ​เป็น​อย่างไรบ้าง​!​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​ถาม​สือ​อี​เหนียง​พลาง​เดิน​เข้าไป​ใน​เรือน​หน​่​วน​เก๋อ​ที่​จิ​่น​เกอ​พักอาศัย​อยู่

“​พึ่ง​หลับ​ไป​เจ้าค่ะ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​เดินตาม​ไท่ฮู​หยิน​เข้าไป​ใน​เรือน​หน​่​วน​เก๋อ

บ่าว​รับใช้​ที่​ปรนนิบัติ​รับใช้​จิ​่น​เกอ​ก็​รีบ​พากัน​ย่อ​ตัว​ทำความเคารพ​ทันที

“​พวก​เจ้า​เบา​เสียง​หน่อย​!​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​พูด​ขึ้น​พลาง​หันไป​มอง​จิ​่น​เกอ​ที่​กำลัง​นอนหลับ​อยู่​ ​“​ระวัง​จะ​ทำคุณ​ชายน้อย​หก​ตื่น​เอา​!​”​ ​แล้ว​เดิน​ไป​นั่ง​ที่​เตียง​เตา​อย่างระมัดระวัง​ ​แล้ว​ให้​ป้า​กู้​ไป​นำ​ตะเกียง​ไฟ​มา​ ​หยิบ​แว่นตา​ออกมา​สวม​ ​จากนั้น​ก็​สังเกต​ใบหน้า​ของ​จิ​่น​เกอ​อย่างละเอียดถี่ถ้วน​ ​ผ่าน​ไป​ครู่หนึ่ง​จึง​ค่อย​ถอด​แว่นตา​ออก​ ​“​ยังดี​ที่​ไม่​บวม​!​”​ ​พูด​จบ​ก็​หันไป​ส่งสายตา​ให้​กับ​สือ​อี​เหนียง​เพื่อให้​สือ​อี​เหนียง​ช่วย​ประคอง​นาง​ออกจาก​เรือน​หน​่​วน​เก๋อ​ ​“​เด็ก​อายุ​ไล่เลี่ยกัน​ ​ตี​กัน​ทะเลาะ​กัน​ถือเป็น​เรื่อง​ธรรมดา​ ​เจ้า​เอง​ก็​ไม่ต้อง​เก็บ​มา​ใส่ใจ​ ​นิสัยใจคอ​ของ​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ค่อนข้าง​โมโห​ร้าย​ ​ไว้​ข้า​จะ​พูด​กับ​ตาน​หยาง​ ​ให้​นาง​ขัดเกลา​นิสัย​โมโห​ร้าย​ของ​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ดี​ๆ​”

ไท่ฮู​หยิน​มาดู​จิ​่น​เกอ​กลางดึก​เช่นนี้​ ​อีกทั้ง​ยัง​โน้มน้าว​ให้​นาง​ไม่ต้อง​เก็บ​มาคิ​ดมาก

สือ​อี​เหนียง​จึง​พูด​ขึ้น​ด้วย​ความ​นอบน้อม​และ​จริงใจ​ว่า​ ​“​ท่าน​แม่​ ​จิ​่น​เกอ​เอง​ก็​ทำไม​่​ถูก​…​”

“​ข้ามี​แผน​ใน​ใจ​แล้ว​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​กลับ​โบกมือ​ให้​กับ​สือ​อี​เหนียง​ ​เพื่อ​บอกเป็นนัย​ให้​นาง​ไม่ต้อง​พูด​อะไร​ต่อ​ ​จากนั้น​ก็​ถามถึง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ขึ้น​มา​ ​“​…​ยัง​ไม่​กลับมา​อีก​หรือ​ ​เหตุใด​ถึง​ได้​ยุ่ง​เช่นนี้​”

สือ​อี​เหนียง​เอง​กำลัง​เป็นห่วง​สวี​ลิ่ง​อี๋​อยู่​พอดี​ ​แต่​ก็​ไม่กล้า​พูด​กับ​ไท่ฮู​หยิน

“​ปกติ​ก็​กลับมา​ค่อนข้าง​เร็ว​ ​วันนี้​คงจะ​มีธุระ​ที่​ทำให้​กลับ​ช้า​กระมัง​เจ้า​คะ​!​”

ไท่ฮู​หยิน​ถาม​ไป​ตามเนื้อผ้า​เท่านั้น​ ​นาง​กำชับ​กับ​สือ​อี​เหนียง​ให้​รีบ​พักผ่อน​แต่เช้า​ ​จากนั้น​ก็​เดิน​ออกจาก​ห้อง​ไป​พร้อมกับ​ป้า​ตู้

สือ​อี​เหนียง​ไป​นั่ง​ปัก​ผ้า​บน​เตียง​เตา​ด้วย​อาการ​ใจลอย

สวี​ลิ่ง​อี๋​กลับมา​ถึง​ก็​ปา​เข้าไป​ยาม​ไฮ​่​แล้ว

สือ​อี​เหนียง​เข้าไป​ช่วย​เขา​ผลัดเปลี่ยน​เสื้อผ้า

“​สกุล​หวัง​ไม่ไหว​แล้ว​!​”​ ​หลังจากที่​ขึ้น​เตียง​ไป​แล้ว​ ​ก็ได้​พูดถึง​เรื่อง​นี้​ขึ้น​มา​ ​“​ยังดี​ที่หวัง​จิ​่ว​เป่า​ไหวตัว​ทัน​ ​รีบ​ส่ง​หลานชาย​ไป​ก่อน​…​”

สือ​อี​เหนียง​พลัน​ใจเต้น​รัว​ ​“​เช่นนั้น​ ​แล้ว​สกุล​หวัง​…​?​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​กุมมือ​ของ​สือ​อี​เหนียง​ไว้​ ​ดูเหมือนว่า​หาก​เขา​ทำ​เช่นนี้​ ​นาง​จะ​สงบ​ลง​อย่างเห็นได้ชัด

“​บทสรุป​ที่​ดีที​่​สุด​ใน​ตอนนี้​ก็​คือ​ค้น​จวน​ยึดทรัพย์​และ​เนรเทศ​ออก​ไป​!​”

สีหน้า​ของ​เขา​เศร้าหมอง

สือ​อี​เหนียง​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​กุมมือ​ของ​นาง​ไว้​อย่าง​เงียบๆ​ ​ไม่ได้​พูด​อะไร​ออกมา

ทั้งสอง​นั่ง​พิง​หมอนอิง​บน​หัว​เตียง

“​พอแล้ว​!​”​ ​ผ่าน​ไป​ครู่ใหญ่​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​หัวเราะ​ขึ้น​เบา​ๆ​ ​“​เรา​ไม่​พูด​เรื่อง​นี้​แล้ว​ ​งานเลี้ยง​วันนี้​เป็น​อย่างไรบ้าง​ ​ทุกคน​เล่น​กัน​สนุกสนาน​ดี​หรือไม่​”

ในเมื่อ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​ไม่​อยาก​พูด​เรื่อง​ที่​ไม่สบายใจ​เหล่านั้น​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​เลย​ไม่พูดถึง​เรื่อง​ที่​จิ​่น​เกอ​กับ​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ตี​กัน

“​ทุกคน​ต่าง​ก็​เล่น​ด้วยกัน​อย่างสนุกสนาน​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ขึ้น​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม​ ​“​ยัง​นัด​กัน​ว่า​พรุ่งนี้​จะ​ไป​พาย​เรือด​้ว​ยกั​นอี​กรอบ​เจ้าค่ะ​”

“​เช่นนั้น​หรือ​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้ยิน​แล้วก็​รู้สึก​ชื่นใจ​เป็นอย่างมาก

สือ​อี​เหนียง​นั่ง​ตัวตรง​ขึ้น​มา​ ​“​ท่าน​โหว​ ​แล้ว​เรื่อง​การตาย​ของ​จิ้ง​ไห่​โหว​ซื่อ​จื่อ​ล่ะ​เจ้า​คะ​ ​หวัง​จิ​่ว​เป่า​เขา​จะ​…​”

มิเช่นนั้น​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​จะ​บรรลุเป้าหมาย​ง่ายๆ​ ​ได้​อย่างไร​กัน

เพราะ​อย่างไร​เสีย​จวน​สกุล​โอว​ก็ได้​ทำการค้า​ขาย​ในฝู​เจี​้​ยน​มา​หลาย​ชั่วอายุคน

สวี​ลิ่ง​อี๋​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​“​ถึงแม้ว่า​ข้า​จะ​มี​คน​ของ​ตัวเอง​ ​แต่กลับ​ไม่ได้​ข่าวคราว​เลย​!​”

เช่นนั้น​ก็​หมายความว่า​ ​ตอนแรก​สวี​ลิ่ง​อี๋​เป็น​คน​ส่ง​คน​ไป​ ​หวัง​จิ​่ว​เป่า​เป็น​คน​ไป​สืบ​เบาะแส​ ​หรือ​นี่​จะ​เป็นสาเหตุ​ที่​ทำให้​สกุล​โอว​ลงมือ​จัดการ​กับ​สกุล​หวัง​?

จู่ๆ​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​รู้สึก​เป็นกังวล​ใจ​ขึ้น​มา

สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​แล้วก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ดึง​สือ​อี​เหนียง​เข้ามา​กอด​ไว้​ ​“​สกุล​โอว​ได้รับ​ผลกระทบ​อย่างหนัก​ ​ตอนนี้​เขา​ไม่​สามารถ​ทำ​อะไร​ข้า​ได้​ ​ก็​เลย​ไป​ลง​กับ​สกุล​หวัง​แทน​ ​ทำการ​ปลุกระดม​หนึ่ง​ใน​กลุ่ม​ลูกน้อง​เก่า​ของ​หวัง​จิ​่ว​เป่า​ ​เริ่มต้น​การค้า​แบบ​ส่วนตัว​อีกครั้ง​”​ ​เมื่อ​พูดถึง​ตรงนี้​ ​แววตา​ที่​อ่อนโยน​เมื่อ​ครู่​ก็​เปลี่ยนเป็น​คมกริบ​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​ราวกับ​ดวงตา​ของ​เหยี่ยว​ก็​ไม่​ปาน​ ​“​แต่ทว่า​เพื่อ​การ​นี้​แล้ว​ ​ทาง​ฝั่ง​สกุล​โอว​ได้เสีย​กำลังคน​และ​เงินทอง​ไป​จำนวนมาก​ ​เกรง​ว่า​คงจะ​ฟื้นตัว​ได้​ยาก​แล้ว​ ​จะ​ว่า​ไป​ ​หวัง​จิ​่ว​เป่า​ก็​ถือว่า​เป็น​คนที​่​มีความรู้​ความสามารถ​รุ่น​หนึ่ง​”​ ​น้ำเสียง​ของ​เขา​เต็มไปด้วย​ความเลื่อมใส​ ​“​เขา​ส่ง​หลานชาย​มา​ให้​ข้า​ ​ก็​เพื่อ​ต้องการ​จะ​บอก​กับ​ข้า​ ​ไม่ว่า​สถานการณ์​จะ​เป็น​เช่นไร​ ​เขา​ก็​จะ​ไม่มีวัน​พูด​ใน​สิ่ง​ที่​ข้า​ทำ​ใน​ตอนแรก​ออกมา​ ​ไม่ว่า​อะไร​จะ​เกิดขึ้น​ก็ตาม​ ​ข้า​ก็​จะ​ต้อง​ปกป้อง​รักษา​สายเลือด​ของ​สกุล​หวัง​เอาไว้​ให้​ได้​”​ ​น้ำเสียง​ของ​เขา​ค่อนข้าง​ก้องกังวาน​ ​ฟัง​ดู​ทรงพลัง​เป็นอย่างมาก​ ​“​หาก​ใน​ตอนแรก​เขา​เชื่อ​ใน​สิ่ง​ที่​ข้า​พูด​บ้าง​ ​อดทน​ให้​ทุกอย่าง​ผ่าน​ไป​ก่อน​ ​ไม่​ไป​พัวพัน​กับ​สกุล​โอว​ ​สกุล​โอว​ก็​คงจะ​ไม่​ทำ​ถึงขนาด​นี้​!​”​ ​เมื่อ​พูด​จนถึง​ท้าย​ประโยค​ ​น้ำเสียง​ของ​เขา​ก็​เต็มไปด้วย​ความผิดหวัง

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท