ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 581 สับสนวุ่นวาย (ปลาย)

ตอนที่ 581 สับสนวุ่นวาย (ปลาย)

สือ​อี​เหนียง​พึ่ง​ลง​จาก​รถม้า​ ​จิ​่น​เกอ​ก็​รีบ​โผเข้าหา​มารดา​ทันที​ ​“​ท่าน​แม่​ ​อุ้ม​ ​อุ้ม​!​”

แม่นม​กู้​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​ก็​รีบ​เข้าไป​หา​เขา​ ​“​ให้​แม่นม​อุ้ม​ดี​หรือไม่​เจ้า​คะ​”

จิ​่น​เกอ​รีบ​ส่ายหน้า​เป็น​กลอง​ป๋อง​แป​๋ง​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​“​ท่าน​แม่​ ​อุ้ม​ ​อุ้ม​!​”

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พร้อมกับ​อุ้ม​จิ​่น​เกอ​ขึ้น​มา​ ​“​โต​ขนาด​นี้​แล้ว​ ​ยัง​อ้อน​เป็น​เด็ก​อยู่​ได้​!​”

จิ​่น​เกอ​ซบ​หน้า​ลง​บน​บ่า​ของ​มารดา​ ​สีหน้า​เต็มไปด้วย​ความพึงพอใจ

แม่นม​กู้​พูด​ขึ้น​ด้วย​ความลังเล​ว่า​ ​“ฮู​หยิน​ ​ท่าน​โหวกำ​ชับ​ไว้​แล้ว​ว่า​ไม่​ให้ท่า​นอุ​้ม​คุณชาย​น้อย​หก​ ​ตอนนี้​น้ำหนัก​ของ​คุณชาย​น้อย​หก​เพิ่มขึ้น​มาก​แล้ว​เจ้าค่ะ​…​”

“​ไม่เป็นไร​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พร้อมกับ​เดิน​เข้าไป​ใน​เรือน​หลัก​ ​“​ข้า​อุ้ม​เขา​มาตั​้ง​แต่​เล็ก​จน​โต​ ​ไม่ได้​รู้สึก​หนัก​เท่าไร​นัก​”​ ​ขณะที่​กำลัง​พูด​อยู่​นั้น​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​และ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ที่​ได้รับ​ข่าว​ว่า​สือ​อี​เหนียง​กลับมา​แล้ว​ ​ก็​พากัน​เดิน​ออกมา​จาก​ทางเดิน​เล็ก​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​ระหว่าง​ห้อง​เอ่อร​์​ฝัง

ทั้งสอง​เข้ามา​คารวะ​สือ​อี​เหนียง​ด้วย​ความ​นอบน้อม

จิ​่น​เกอ​หันไป​มอง​สวี​ซื่อ​อวี​้​และ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ ​ขาน​เรียก​ขึ้น​ว่า​ ​“​พี่ชาย​”​ ​จากนั้น​ก็​ลง​จาก​อ้อมแขน​ของ​มารดา

สือ​อี​เหนียง​รู้​ว่า​บุตรชาย​กำลัง​ออดอ้อน​ ​ก็​เลย​ไม่ได้​ขัดใจ​เขา​แต่อย่างใด​ ​นาง​หอม​แก้ม​ของ​จิ​่น​เกอ​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​ก็​หันไป​ถาม​สวี​ซื่อ​เจี้ยว​่า​ ​“​กาน้ำ​ชา​ของ​เจ้า​ปั้น​ไป​ถึง​ไหน​แล้ว​”

“​ตอนเช้า​ปั้น​ไป​หนึ่ง​กา​ ​แต่​ลืม​ทำ​รู​เทน​้ำ​ที่​ปากขอ​งกา​น้ำชา​ ​ก็​เลย​ไม่​สามารถ​ริน​น้ำ​ได้​”​ ​ใบหน้า​ของ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​แดง​ขึ้น​เล็กน้อย​ ​“​ก็​เลย​ต้อง​ปั้น​ใหม่​อีก​กา​ขอรับ​”

สอง​แม่​ลูก​พูดคุย​กัน​พลาง​เดิน​ไป​ยัง​ห้อง​ปีก​ทิศตะวันตก

สือ​อี​เหนียง​วาง​จิ​่น​เกอ​ลง​บน​เตียง​เตา​ใหญ่​ริม​หน้าต่าง

แต่​จิ​่น​เกอ​กลับ​รีบ​ปีน​ลง​ไป​ทันที​ ​เขา​วิ่ง​ไป​หยุด​อยู่​ตรงหน้า​แม่นม​กู้​ ​“​ขนม​ของ​ข้า​ ​ขนม​ของ​ข้า​!​”

แม่นม​กู้​รีบ​หันไป​รับ​กล่อง​ไม้​บุ​หนัง​จาก​สาวใช้​น้อย​ที่​ยืน​อยู่​ด้านหลัง​มา​ ​“​ขนม​อยู่​นี่​เจ้าค่ะ​”

จิ​่น​เกอ​ก็​เปิด​ฝา​ของ​กล่อง​ไม้​ออก​ ​จากนั้น​เขา​ก็​หยิบ​ขนม​ยื่น​ให้​กับ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ที่​ยืน​อยู่​ข้าง​เตียง​เตา

สวี​ซื่อ​อวี​้​จ้องมอง​จิ​่น​เกอ​ด้วย​ความประหลาดใจ​ ​“​ให้​ข้า​หรือ​”

จิ​่น​เกอ​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​“​พี่ชาย​ทาน​ขนม​ขอรับ​!​”

สวี​ซื่อ​อวี​้​รู้สึก​ไม่​อยาก​จะ​เชื่อ​กับ​สิ่ง​ที่เกิด​ขึ้น

หลาย​วัน​มานี​้​ ​หลังจากที่​เขา​กลับ​จวน​มา​ ​จิ​่น​เกอ​มักจะ​หวงแหน​ของ​ของ​เขา​เป็นอย่างมาก​ ​เขา​เห็น​ทุกอย่าง​กับ​ตา

สวี​ซื่อ​อวี​้​ยื่นมือ​ไปรับ​ขนมจาก​จิ​่น​เกอ​ด้วย​ความระมัดระวัง

มัน​คือ​ขนม​ไส้​ถั่วแดง​ ​ใช้​แม่พิมพ์​ขึ้น​รูป​ขนม​เป็น​ทรง​ดอกกุหลาบ

“​กาน​ไท่ฮู​หยิน​เป็น​คน​ทำ​ขนม​นี้​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ขึ้น​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​หวาน​แต่​ไม่​เลี่ยน​ ​รสชาติ​ถือว่า​ไม่เลว​ทีเดียว​ ​คราว​ที่แล้ว​จิ​่น​เกอ​ทาน​ไป​ตั้ง​สอง​ชิ้น​ ​กาน​ไท่ฮู​หยิน​จึง​จำขึ้นใจ​ ​ครั้งนี้​พวก​ข้า​ไป​เยี่ยม​นาง​ ​นาง​ก็​เลย​ทำ​เผื่อ​สอง​กล่อง​ให้​พวก​ข้า​นำ​ติดมือ​กลับมา​ ​ข้า​ก็​เลย​ถือโอกาส​นี้​ขอ​วิธีทำ​ขนม​กลับมา​ด้วย​ ​ไว้​วัน​ไหน​ว่าง​ๆ​ ​เรา​มา​ลอง​ทำ​ขนม​ด้วยกัน​”

ขณะที่​สือ​อี​เหนียง​กำลัง​พูด​อยู่​นั้น​ ​จิ​่น​เกอ​ก็ได้​หยิบ​ขนม​ออกมา​จาก​กล่อง​อีก​หนึ่ง​ชิ้น​ยื่น​ให้​กับ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ ​“​พี่ชาย​ ​ทาน​ขนม​ขอรับ​!​”

สวี​ซื่อ​เจี​้ย​และ​จิ​่น​เกอ​เล่น​ด้วยกัน​มานาน​ ​ถึงแม้ว่า​ของ​จะ​มี​แค่​ชิ้น​เดียว​ ​เขา​ก็​ยัง​ยินดี​ที่จะ​แบ่งปัน​ให้​ผู้อื่น​ด้วย​ความใจกว้าง

เมื่อ​เห็น​ว่า​มือ​น้อย​ๆ​ ​ของ​จิ​่น​เกอ​เต็มไปด้วย​น้ำมัน​ ​เขา​ก็​ยิ้ม​พร้อมกับ​รับ​ขนม​มา​ ​จากนั้น​ก็​หยิบ​ผ้าเช็ดหน้า​ออกมา​ให้​เขา​เช็ดมือ

จิ​่น​เกอ​กลับ​ปัด​ทิ้ง​ด้วย​ความหงุดหงิด​ใจ​ ​จากนั้น​ก็​วิ่ง​กลับ​ไปหา​แม่นม​กู้​ ​หยิบ​ขนม​ออกมา​ใหม่​อีก​หนึ่ง​ชิ้น​แล้ว​วิ่ง​ไป​ที่​เตียง​เตา​ยื่น​ให้​กับ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​ท่าน​แม่​ ​ทาน​ขนม​ขอรับ​”

สือ​อี​เหนียง​ลูบ​ศีรษะ​ของ​บุตรชาย​เบา​ๆ​ ​“​เจ้า​ทาน​เถิด​ ​แม่​ไม่​ทาน​!​”

จิ​่น​เกอ​กลับ​ไม่ยอม​ ​ดื้อดึง​จะ​ให้​สือ​อี​เหนียง​รับ​ขนม​ไส้​ถั่วแดง​ให้​ได้

สือ​อี​เหนียง​จึง​ทำได้​เพียง​รับ​ขนมจาก​เขา​มา

จิ​่น​เกอ​วิ่ง​กลับ​ไป​หยิบ​ขนม​อีก​หนึ่ง​ชิ้น​ ​แล้วก็​วิ่ง​พรวด​ไป​ที่​เตียง​เตา​ ​ปีน​ขึ้นไป​นั่ง​ ​จากนั้น​ก็​ค่อยๆ​ ​เริ่ม​ทาน​ขนม​ใน​มือ

ทุกคน​เห็น​แล้ว​ต่าง​ก็​พากัน​หัวเราะ​เขา​ด้วย​ความ​เอ็นดู

จิ​่น​เกอ​เงยหน้า​ขึ้น​มา​ ​แก้ม​ทั้งสอง​ข้าง​ของ​เขา​ปูด​นูน​ออกมา​เพราะ​กำลัง​อม​ขนม​ไส้​ถั่วแดง​ไว้​ ​เขา​กวาดตา​มอง​ทุกคน​ด้วย​ความแปลกใจ​ ​ราวกับ​กำลัง​คลางแคลงใจ​ว่า​เหตุใด​ทุกคน​ถึง​ได้​หัวเราะ​เขา

คนใน​ห้อง​ต่าง​ก็​พากัน​หัวเราะ​เสียงดัง​เข้าไป​ใหญ่

เวลา​นั้น​เอง​ ​จู่ๆ​ ​ก็​มีเสียง​เข้ม​ถาม​ขึ้น​ว่า​ ​“​มี​อะไร​กัน​ ​เหตุใด​ถึง​ได้​อารมณ์ดี​เช่นนี้​”

ขณะที่​ทุกคน​ยัง​ไม่ทัน​จะ​ไหวตัว​ ​จิ​่น​เกอ​ก็ดีด​ตัว​กระโดด​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​“​ท่าน​พ่อ​ ​ท่าน​พ่อ​!​”

ชาย​ที่​สวม​ด้วย​ชุดจื​๋อ​ตัว​ผ้าแพร​สีน้ำเงิน​สด​เดิน​เข้ามา​ ​สีหน้า​และ​แววตา​ของ​เขา​อ่อนโยน​ ​หว่าง​คิ้ว​ปรากฏ​รอยยิ้ม​บาง​ๆ​ ​หาก​ไม่ใช่​สวี​ลิ่ง​อี๋​แล้ว​จะ​เป็น​ใคร​ไป​ได้

เขา​เดิน​เข้าไป​อุ้ม​จิ​่น​เกอ​ขึ้น​มา

จิ​่น​เกอ​ก็​รีบ​นำ​ขนม​ไส้​ถั่วแดง​ใน​มือ​ป้อน​ให้​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​“​ท่าน​พ่อ​ ​ทาน​ขนม​ขอรับ​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​หัวเราะ​เสียงดัง​ ​จากนั้น​ก็​กัด​ขนม​ที่​เขา​ป้อน​คำ​เล็ก​ๆ​ ​ไป​หนึ่ง​คำ

สวี​ซื่อ​อวี​้​และ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​รีบ​เข้าไป​คารวะ​เขา​ทันที​ ​สือ​อี​เหนียง​เอง​ก็​ลุกขึ้น​จาก​เตียง​เตา​ ​จากนั้น​ก็​สั่ง​ให้​สาวใช้​น้อย​ไปริ​นน​้ำ​ชามา​ให้​เขา

สวี​ลิ่ง​อี๋​เดิน​เข้าไป​นั่ง​ที่​เตียง​เตา​ ​หันไป​ถาม​กับ​สือ​อี​เหนียง​ว่า​ ​“​เหตุใด​เจ้า​ถึง​กลับมา​เอา​ป่านนี้​”

สือ​อี​เหนียง​ก็​ยิ้ม​พร้อมกับ​ตอบกลับ​ไป​ว่า​ ​“​บังเอิญ​ไป​เจอ​กับ​คุณนาย​สี่​สกุล​ถัง​ที่​จวน​สกุล​กาน​ ​ก็​เลย​นั่ง​คุย​กัน​อยู่​สักพัก​ใหญ่​ ​จากนั้น​ก็​แวะ​ไป​ที่​จวน​องค์​หญิงฝู​เฉิง​ ​ก็​เลย​กลับมา​เอา​ป่านนี้​เจ้าค่ะ​”

“​เหตุใด​จู่ๆ​ ​ถึง​แวะ​ไป​ที่​จวน​องค์​หญิงฝู​เฉิง​ได้​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ถาม​ขึ้น​ด้วย​ความแปลกใจ​ ​“​สกุล​โจว​เกิดเรื่อง​ขึ้น​หรือ​”

“​ไม่ได้​มีเรื่อง​ร้ายแรง​อะไร​หรอก​เจ้าค่ะ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​รับ​ถ้วย​น้ำชา​จาก​สาวใช้​น้อย​วาง​ลง​บน​โต๊ะ​ข้างหน้า​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​“​เพียงแต่ว่า​ในเมื่อ​จะ​ออก​ไป​ข้างนอก​ทั้งที​ ​ก็​เลย​ถือโอกาส​แวะ​ไป​ที่นั่น​ด้วย​”

สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ยังคง​งุนงง​ไม่เข้าใจ​ ​จึง​ยืน​ฟัง​อย่าง​เงียบๆ​ ​อยู่​ข้างๆ​ ​แต่​สวี​ซื่อ​อวี​้​สามารถ​เข้าใจ​ใน​เนื้อหา​ของ​บทสนทนา​ ​เขา​จึง​หันไป​ส่งสายตา​ให้​กับ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ ​ถือโอกาส​ตอนที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​จิบ​ชา​ไป​หนึ่ง​คำขอ​ตัว​ถอย​ออกมา

ตั้งแต่​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไป​กราบไหว้​เทพ​ดวงดาว​เหวิน​ฉวี​่​ซิง​ที่​วัด​กับ​สวี​ซื่อ​อวี​้​แล้ว​ ​เขา​เอง​ไม่ได้​พูด​อะไร​มาต​ลอด​ทาง​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ที่​ดู​สุขุม​และ​เก็บตัว​นั้น​กำลัง​พยายาม​สะกด​กั้น​ความสุข​ที่​เปี่ยมล้น​ใน​หัวใจ​แทบ​ไม่ไหว​ ​รู้สึก​ซาบซึ้ง​และ​ตื้นตัน​ขึ้น​มา​อย่าง​บอก​ไม่​ถูก

เมื่อ​เห็น​ว่า​บุตรชาย​ทั้ง​สาม​ของ​เขา​อยู่​กัน​พร้อมหน้าพร้อมตา​ ​จึง​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​ตัดสินใจ​ให้​สวี​ซื่อ​อวี​้​และ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยอยู​่​ทานข้าว​พร้อมกับ​เขา​ ​แล้วยัง​หันไป​สั่ง​กับ​สือ​อี​เหนียง​ว่า​ ​“​ไป​เรียก​จุน​เกอ​มาด​้ว​ยก​็​แล้วกัน​!​”

สือ​อี​เหนียง​ชอบ​การ​ทานข้าว​อย่าง​พร้อมหน้าพร้อมตา​เป็น​ที่สุด​ ​จึง​ยิ้ม​พลาง​หันไป​สั่ง​กับ​บ่าว​รับใช้​ใน​เรือน​ให้​ไป​เรียก​สวี​ซื่อ​จุน​มา​ ​จากนั้น​ก็​ให้​ห้องครัว​จัดเตรียม​อาหาร

*****

ตก​กลางคืน​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็ได้​ถาม​สวี​ลิ่ง​อี๋​ว่า​ ​“​ทาง​ฝั่ง​สกุล​หวัง​ ​มี​ข่าวดี​ใช่​หรือไม่​เจ้า​คะ​”

“​โต้ว​เก๋อ​เหล่า​ได้​เขียนหนังสือ​คุ้มครอง​หวัง​จิ​่ว​เป่า​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ลด​หนังสือ​ใน​มือ​ที่​อ่าน​ได้​เพียง​ครึ่ง​เล่ม​ลง​ ​หันไป​มอง​สือ​อี​เหนียง​ที่​กำลัง​นั่ง​ถัก​เปีย​อยู่​ริม​เตียง​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​พลาง​หยอกล้อ​นาง​ว่า​ ​“​นึกไม่ถึง​เลย​ว่า​เจ้า​จะ​สังเกต​สีหน้า​ของ​ผู้อื่น​เป็น​ด้วย​”

“​วันนี้​ท่าน​โหว​อุ้ม​จิ​่น​เกอ​หัวเราะ​มีความสุข​ถึง​ปาน​นั้น​ ​แม้แต่​คนตาบอด​ก็​ยัง​รับรู้​ได้​ว่า​ท่าน​อารมณ์ดี​แค่ไหน​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​กระเง้ากระงอด​ ​“​แล้ว​ข้า​จะ​ดู​ไม่​ออก​ได้​อย่างไร​กัน​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​วาง​หนังสือ​ลง​ ​เข้าไป​อุ้ม​สือ​อี​เหนียง​ทิ้ง​ลง​บน​เตียง​ใน​คราว​เดียว​ ​จากนั้น​ก็​ขึ้น​คร่อม​ร่าง​ของ​นาง​เอาไว้

“​ร้อน​จะ​แย่​เจ้าค่ะ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​บ่นพึมพำ​พลาง​ผลัก​ตัว​เขา​ออก​เบา​ๆ

“​ร้อน​หรือ​!​”​ ​รอยยิ้ม​ปรากฏ​ขึ้น​บน​ดวงตา​ของ​เขา​ ​จากนั้น​เขา​ก็​ค่อยๆ​ ​โน้มตัว​ลง​ไป​กระซิบ​ข้าง​หู​ของ​สือ​อี​เหนียง​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​คลุมเครือ​ว่า​ ​“​เช่นนั้น​ก็​ถอดเสื้อผ้า​ออก​ดี​หรือไม่​ ​อย่างไร​เสียที​่​นี่​ก็​ไม่มี​คนอื่น​…​”​ ​พูด​จบ​เขา​ก็​หัวเราะ​ออกมา​เบา​ๆ​ ​“​ใช่​ว่า​ข้า​จะ​ไม่เคย​เห็น​เสียหน่อย​…​”

ใบ​หู​ของ​สือ​อี​เหนียง​พลัน​แดงก่ำ​ขึ้น​มาทัน​ที

ตา​คน​นี้​ ​สอง​วันก่อน​พึ่ง​จะ​อุ้ม​นาง​ไป​ยืน​หน้า​เครื่องฉายภาพ​เคลื่อนไหว​ถ้ำมอง​ตะวันตก​…​ให้​เขา​เชยชม​ทุกซอกทุกมุม​อย่างละเอียด​…

“​ท่าน​โหว​!​”​ ​ฉาก​เหตุการณ์​วันนั้น​ปรากฏ​ขึ้น​มา​ใน​หัว​ของ​นาง​ ​ร่างกาย​ของ​นาง​ก็​อ่อนปวกเปียก​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​น้ำเสียง​สั่นเครือ​เล็กน้อย

สวี​ลิ่ง​อี๋​กัด​หู​ของ​นาง​พลาง​หัวเราะ​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​ก็​ปลด​คอเสื้อ​ของ​นาง​ออก​อย่าง​ช่ำชอง​ ​เผย​ให้​เห็น​เสื้อชั้นใน​สีน้ำเงิน​อ่อน​ที่​ปัก​ด้วย​ลาย​พืชน้ำ

“​ชุด​สีแดง​กุหลาบ​ที่​ปัก​ด้วย​ลาย​ดอก​โบตั๋น​ผืน​นั้น​สวย​กว่า​!​”​ ​เขา​พูด​ขึ้น​พึมพำ​ข้าง​หู​นาง​ ​พลาง​ปลด​เสื้อชั้นใน​ไป​ครึ่งตัว​ ​เผย​ให้​เห็น​ยอด​เนิน​อก​สีชมพู​ที่​ชู​ชัน​สะท้อน​อยู่​ใต้​ลาย​ผ้า​ปัก​พืชน้ำ​สีเขียว​ ​แต่ง​แต้ม​เป็น​ภาพ​ที่​สีสัน​ฉูดฉาด​ต้องตาต้องใจ​ ​พลอย​ทำให้​จิตใจ​เขา​หิว​กระหาย​ดุจ​เปลวไฟ​ที่​โหมกระหน่ำ​ขึ้น​มาทัน​ที

สือ​อี​เหนียง​ผลัก​เขา​ออก​ ​“​ในเมื่อ​ไม่​สวย​ ​เช่นนั้น​ก็​รอ​พรุ่งนี้​ ​ไว้​ข้า​เปลี่ยนเป็น​ชุด​สีแดง​กุหลาบ​ผืน​นั้น​มา​ให้ท่าน​โหวดู​อีกที​ก็​ยัง​ไม่​สาย​”​ ​พูด​จบ​นาง​ก็​จะ​หันหลัง​ให้​กับ​เขา​ ​แต่กลับ​ถูก​สวี​ลิ่ง​อี๋​ชิง​กัด​ยอด​เนิน​อก​ของ​นาง​ก่อน

สือ​อี​เหนียง​สูด​ลมหายใจ​เข้า​เฮือก​ใหญ่

รู้สึก​ว่า​ร่างกาย​อ่อน​ยวบ​มากขึ้น​กว่า​เดิม

สวี​ลิ่ง​อี๋​หัวเราะ​ออกมา​ด้วย​ความชอบ​ใจ​ ​เขา​ละเลง​ลิ้น​ทั่ว​เม็ด​บัว​ยอด​เนิน​อก​ของ​นาง​อยู่​ครู่ใหญ่​จึง​ค่อย​เงยหน้า​ขึ้น​มา​ ​“​จะ​ชุด​ไหน​ก็​เหมือนกัน​ ​ข้า​รับ​เจ้า​ได้​เสมอ​!​”

เขา​นี่​นะ​ ​เวลา​ได้​สิ่ง​ที่​ต้องการ​แล้ว​ชอบ​แสร้ง​ตีหน้า​ซื่อ​ ​นาง​ไม่ได้​หน้าหนา​เหมือน​เขา​เสียหน่อย​ ​เรื่อง​ต่อล้อต่อเถียง​นาง​ไม่ใช่​คู่ปรับ​ของ​เขา​จริงๆ

สือ​อี​เหนียง​ถือโอกาส​กัด​ไหล่เขา​ไป​หนึ่ง​ที

ทำเอา​เขา​หัวเราะ​ออกมา​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​ก็​พลิกตัว​กลับ​ไป​นอน​พิง​ที่​หัว​เตียง​ดังเดิม​ ​จ้องมอง​ไป​ยัง​สือ​อี​เหนียง​ด้วย​สายตา​ที่​เย้ายวน​ ​“​มานี​่​มา​ ​มา​ให้​ข้า​กอด​หน่อย​!​”

คง​อยาก​จะ​ให้​นาง​เป็น​คน​เริ่ม​ก่อน​กระมัง​!

หลังจากนั้น​ก็​จะ​มา​หยอกล้อ​นาง​ ​ว่านาง​วิ่ง​เข้าหา​อ้อมกอด​ของ​เขา​เอง

สือ​อี​เหนียง​จ้อง​เขา​ตาเขม​็ง

สวี​ลิ่ง​อี๋​พยายาม​กลั้น​หัวเราะ​ ​จากนั้น​ก็​ปลอบ​นาง​เสียง​เบา​ว่า​ ​“​คนดี​!​ ​มา​ให้​ข้า​กอด​หน่อย​!​”​ ​เสียง​เข้ม​ของ​เขา​แผ่วเบา​ลง​ ​ฟัง​ดู​น่าหลงใหล​มากขึ้น​กว่า​เดิม

สือ​อี​เหนียง​จึง​หยิก​เขา​ไป​เต็มแรง​ ​สุดท้าย​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​หัวเราะ​ออกมา​…

*****

ตอน​ฟ้า​ใกล้​จะ​สว่าง​ ​สือ​อี​เหนียง​จึง​พึ่ง​จะ​มีโอกาส​ได้​พูด

“​วันนี้​ปินจ​วี​๋​มาหา​ข้า​แต่เช้า​ตรู่​ ​นาง​บอกว่า​เด็ก​อ้วน​ถ้วน​สมบูรณ์​ ​ผิวพรรณ​ขาวผ่อง​ ​บน​ร่างกาย​ไม่มี​รอยแผล​เป็น​แม้แต่​รอย​เดียว​ ​ตอนนี้​ยัง​ไม่กล้า​อุ้ม​มาที​่​จวน​ ​รอ​ผ่าน​ไป​สัก​ระยะ​หนึ่ง​ ​ให้​แก้ม​ของ​เด็ก​ยุบล​งก​ว่านี​้​อีกหน่อย​ ​ไม่​เป็น​ที่จับ​ตาม​อง​ของ​ผู้อื่น​แล้ว​ ​ค่อย​อุ้ม​มา​ให้ท่าน​โหวดู​เจ้าค่ะ​”​ ​จากนั้น​นาง​ก็ได้​พูด​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​เป็นกังวล​ใจ​ว่า​ ​“​หลังจากที่​เห็น​เด็ก​ผอม​ลง​ ​หวัง​ว่า​ทาง​นั้น​คงจะ​ไม่​กล่าวโทษ​ว่า​เรา​ไม่ได้​ดูแล​เด็ก​ให้​ดี​เท่าที่ควร​!​”

หลังจากที่​ปินจ​วี​๋​กลับ​ไป​วันนั้น​ ​ก็​ไม่ได้​ข่าวคราว​อะไร​อีก​เลย​ ​เขา​เป็น​คน​ไม่​ชอบ​ยุ่ง​เรื่อง​ของ​ผู้อื่น​ ​ถึงแม้​สวี​ลิ่ง​อี๋​จะ​ไม่ได้​ถาม​ ​แต่​สือ​อี​เหนียง​ดูออก​ว่า​เขา​ค่อนข้าง​เป็นห่วง​ ​บางครั้ง​แผนการ​ก็​ไม่​สู้​การเปลี่ยนแปลง​ ​มิเช่นนั้น​จะ​มีคำ​ว่า​ ​‘​ถ้าหาก​’​ ​ได้​อย่างไร​กัน​!

สวี​ลิ่ง​อี๋​ค่อนข้าง​แปลกใจ​ ​“​นึกไม่ถึง​เลย​ว่า​สะใภ้​ว่าน​ต้า​เสี่ยน​จะ​เป็น​คนละ​เอียด​รอบคอบ​เช่นนี้​!​”

สือ​อี​เหนียง​ได้ยิน​แล้วก็​หลุด​ขำ​ออกมา​ทันที​ ​“​อะไร​กัน​!​ ​ทั้งหมด​เป็นความ​คิด​ของ​ว่าน​ต้า​เสี่ยน​ต่างหาก​ ​ตอน​นาง​เห็น​เด็ก​ครั้งแรก​ก็​จะ​อุ้ม​มาที​่​นี่​ทันที​…​”​ ​ขณะที่​พูด​อยู่​นั้น​นาง​ก็​นึกถึง​ใบหน้า​ที่​แดงก่ำ​ของ​ปินจ​วี​๋​ขึ้น​มา​ ​“​ความสัมพันธ์​ของ​นาง​กับ​ว่าน​ต้า​เสี่ยน​ก้าวหน้า​ไป​ไม่น้อย​ ​คนเรา​เวลา​อยู่​กับ​ใคร​ก็​จะ​เหมือนกับ​คน​ผู้​นั้น​!​”​ ​น้ำเสียง​เต็มไปด้วย​ความปลื้ม​ใจ

สวี​ลิ่ง​อี๋​เอง​ก็​หัวเราะ​ขึ้น​มา​ ​จากนั้น​ก็​ล้อ​นาง​เล่น​ว่า​ ​“​แล้ว​เจ้า​เล่า​ ​เหมือน​ผู้ใด​”

สือ​อี​เหนียง​ก็​ถือโอกาส​หยอกล้อ​เขา​กลับ​ด้วย​สีหน้า​ที่จริง​จัง​ว่า​ ​“​ท่าน​โหว​ไม่รู้​หรือ​เจ้า​คะ​ ​คน​ทั้ง​จวน​ต่าง​ก็​พากั​นพูด​เป็น​เสียง​เดียวกัน​ว่ายิ​่​งอยู​่​ข้า​ก็​ยิ่ง​สุขุม​ขึ้น​ ​เวลา​ได้ยิน​ข้า​พูดจา​ก็​จะ​ต้อง​ตั้งใจฟัง​เป็นอย่างมาก​…​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้ยิน​แล้วก็​หัวเราะ​เสียงดัง​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​จากนั้น​ก็​ลูบ​ผม​ของ​สือ​อี​เหนียง​ที่​ถูก​เขา​ทำ​จน​ยุ่ง​อย่างเบามือ​ ​“​รีบ​หลับตา​นอนหลับ​ได้​แล้ว​ ​ส่วน​เรื่อง​ทาง​ฝั่ง​สกุล​หวัง​เจ้า​ไม่ต้อง​เป็นห่วง​ ​มี​ข้า​อยู่​ทั้งคน​!​”​ ​น้ำเสียง​อบอุ่น​เป็นอย่างมาก

สือ​อี​เหนียง​เหนื่อย​จน​ไม่​อยาก​ขยับ​นิ้ว​แม้แต่​นิ้ว​เดียว​ ​นาง​ไม่ได้​พูด​อะไร​ต่อ​ ​ค่อยๆ​ ​หลับตา​ลง​อย่าง​ช้าๆ​ ​นอนขด​ตัว​อยู่​ใน​อ้อมกอด​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋

*****

ยัง​ไม่ทัน​จะ​พ้น​สอง​วัน​ ​สถานการณ์​ก็​เปลี่ยนแปลง​ไป​อย่างกะทันหัน

ศาล​ต้า​หลี​่​ได้​ตัดสินโทษ​ของ​หวัง​จิ​่ว​เป่า​ไป​ทั้งหมด​สิบ​เก้า​ประการ​ ​จวน​สกุล​หวัง​ถูก​รื้อ​ค้น​และ​ยึดทรัพย์​ ​หวัง​จิ​่ว​เป่า​และ​เหล่า​บรรดา​ขุนนาง​ใน​ราชสำนัก​ที่​ได้​ร่วม​ประกาศ​นิรโทษกรรม​แก่​เหล่า​กบฏ​ถูก​ตัดสินโทษ​ประหารชีวิต​ ​ส่วน​ภรรยา​และ​บุตร​นั้น​ถูก​เนรเทศ​ไป​ยัง​เขต​เหลียว​ตง

เมื่อ​ข่าว​ถูก​แพร่กระจาย​ออก​ไป​ ​สีหน้า​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​ไม่พอใจ​เป็นอย่างมาก

ที่นั่น​เป็นพื้น​ที่​รกร้าง​และ​ห่างไกล​ผู้คน​ ​มี​แต่​ทหาร​ที่​ล้มเหลว​ใน​ศักยภาพ​เท่านั้น​ที่จะ​เฝ้า​อยู่​ที่นั่น​ ​หลังจากที่​เขา​รบ​ชนะ​มาส​องค​รั้ง​รวด​ ​ผู้​ที่​ปฏิบัติหน้าที่​ด้วย​ความตั้งใจ​เท่านั้น​ที่จะ​ได้รับ​การ​เลื่อนตำแหน่ง​ ​มีชื่อเสียง​เรียง​นาม​ขึ้น​มา​ ​จึง​จะ​สามารถ​ย้าย​ไป​ปฏิบัติหน้าที่​ใน​สถานที่​ที่​ดีขึ้น

ที่​เขต​เหลียว​ตง​ ​เขา​ไม่มีใคร​ที่​พอ​จะ​ฝากฝัง​ได้​เลย

สือ​อี​เหนียง​เดิน​ไป​หยุด​อยู่​ด้านหลัง​ของ​เขา​ ​จากนั้น​ก็​โอบกอด​เอว​ของ​เขา​ไว้​ ​แนบ​ใบหน้า​ลง​บน​แผ่น​หลัง​ของ​เขา

“​ท่าน​โหว​”​ ​สือ​อี​เหนียง​เรียก​สวี​ลิ่ง​อี๋​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​อ่อนโยน​ ​“​ท่าน​กำลัง​กังวลใจ​เรื่อง​เจตนา​ของ​ฮ่องเต้​อยู่​หรือ​เจ้า​คะ​”

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท