ตอนที่ 521 แบ่งสมบัติอย่างเท่าเทียม แย่งอาหารในถ้ำพยัคฆ์!
พรึ่บบบ!
ทันทีที่ห้าขุมกำลังต้องห้ามแห่งทะเลแห่งความตายมาถึง สายตาของประมุขแห่งสิ่งต้องห้ามทั้งห้าก็ประสานกันกลางอากาศ ต่างตนต่างล้วนมองกัน แผ่จิตปรปักษ์และประกายไฟออกมาจาง ๆ!
แม้พวกเขาจะเป็นห้าสิ่งต้องห้ามในทะเลแห่งความตาย แต่พวกเขาก็หาใช่มิตร กระทั่งเป็นปรปักษ์ต่อกันด้วยซ้ำไป!
“ประมุขผีปรภพ ประมุขเกาะฝังจักรพรรดิ ประมุขเผ่าภูเขาไฟ ประมุขเผ่าภูตสมุทร!”
และหลังเผชิญหน้ากัน ประมุขวังเทพสมุทรก็ทำลายบรรยากาศกลืนไม่เข้าคายไม่ออกนี้ กล่าวขึ้นขณะมองไปยังทุกคน “ในเมื่อเราห้าขุมกำลังต้องห้ามมาที่นี่ในวันนี้เพื่อสมบัติในซากโบราณ ฟังข้าหน่อยจะดีกว่า เราจะร่วมมือกันทำลายม่านแสงคุ้มกันซากโบราณกันก่อน แล้วแบ่งสมบัติเป็นสิบส่วน แต่ละขุมกำลังได้ไปฝ่ายสะสองส่วน ไม่ทราบว่าทุกท่านคิดเช่นไร?”
“ดี!”
“ได้!”
“เห็นด้วย!”
ได้ยินเช่นนี้ ประมุขผีปรภพ เต่ายักษ์เทพมังกรและประมุขสิ่งต้องห้ามอื่น ๆ ก็ครุ่นคิดสักครู่แล้วเลือกตกลงกันโดยเอกฉันท์!
เพราะถึงอย่างไร ขุมกำลังต้องห้ามทั้งห้าก็ต่อสู้กันในทะเลแห่งความตายมาเกินจะนับปี ต่างฝ่ายล้วนคุ้นเคยกันมาก!
หากขุมกำลังทั้งห้าสู้กันจริง ๆ ต่อให้สู้กันเป็นพัน ๆ ปีก็ยังมิอาจตัดสินแพ้ชนะได้ สู้แบ่งสมบัติกันอย่างเท่าเทียมเสียที่นี่อย่างกลมกลืนสมานฉันท์จะดีกว่า แล้วค่อยว่าถึงความแค้นขุ่นเคืองใด ๆ กันทีหลัง!
พรึ่บ!
เมื่อห้าขุมกำลังต้องห้ามเห็นตรงกัน ประมุขแห่งสิ่งต้องห้ามทั้งห้าก็หันไปมองตัวตนอื่น ๆ ที่รายล้อมพวกตนและกล่าวขึ้นทันที “ซากโบราณนี้ เราห้าสิ่งต้องห้ามยึดไว้แล้ว พวกเจ้าทั้งหลายถอยไปแสนลี้ ใช้แสนลี้เป็นเส้นเขตแดน หากผู้ใดกล้าล้ำเส้นเข้ามา เราห้าขุมกำลังต้องห้ามจะฆ่าเสีย!”
“เอาล่ะ ไสหัวไป!!”
ฟิ้ว!
ทันทีที่วาจาเลื่อนลั่นนี้กล่าวขึ้น สีหน้าของตัวตนและยอดฝีมือสารพัดก็ล้วนแปรเปลี่ยนอย่างมหันต์ พวกเขาแปรเปลี่ยนเป็นลำแสงทะยานถอยไปทันที แต่ละตนล้วนมิเชื่องช้าไปกว่ากัน ด้วยเกรงว่าหากชักช้าจะถูกห้าขุมกำลังต้องห้ามเล่นงาน!
เพียงครู่ถัดมา ในรัศมีแสนลี้ก็ไร้ตัวตนอื่น ๆ นอกจากผู้มาจากห้าขุมกำลังต้องห้าม!
“หึ! ห้าขุมกำลังต้องห้ามในทะเลแห่งความตายนี่ผยองอำนาจกันโดยแท้ แต่นี่ช่วยเราได้เยอะเลย!”
เห็นเช่นนี้ หนิงฝานผู้เร้นกายอยู่ก็ยิ้มบาง ๆ และขณะเดียวกันก็สั่งการทุกคนให้เตรียมตัวลงมือทุกที่และทุกเมื่อ!
“อืม เริ่มกันเถอะ!”
เห็นได้ชัดว่าประมุขแห่งห้าสิ่งต้องห้ามไม่เห็นหนิงฝานซึ่งซ่อนอยู่ไม่ห่างไกลกันนัก และหลังจากไล่ทุกคนออกไป ประมุขแห่งห้าสิ่งต้องห้ามก็ล้วนมองไปยังหุบเหวยักษ์ใหญ่ใต้ทะเลลึก!
ขณะนี้ที่เหนือหุบเหว มีม่านรัศมีอันเปี่ยมอำนาจไร้สิ้นสุดวนเวียนหล่อเลี้ยง ให้ความรู้สึกมิอาจทำลายได้!
ควับ!
ประมุขแห่งสิ่งต้องห้ามทั้งห้ามองหน้ากันอีกครั้ง จากนั้นคลื่นอำนาจไร้ใดเปรียบในระดับควบคุมวิถีขั้นสูงสุดก็ค่อย ๆ แผ่ซ่านจากร่างของพวกเขา!
“ตราประทับผีนรก!”
“ฤทธาเทพมังกร!”
“ลำแสงเทพสมุทร!”
“เพลิงหลอมฟ้าดิน!”
“พายุคลั่งภูตสมุทร!”
และลมหายใจต่อมา ประมุขแห่งสิ่งต้องห้ามทั้งห้าก็ระเบิดอำนาจพร้อมเสียงตวาดเลื่อนลั่นโดยพร้อมเพรียง!
ตู้มมมมมม!
พลังอันน่าสะพรึงกลัวห้าสายนั้นเปรียบประหนึ่งห้ามังกรทลายโลกา แยกเขี้ยวฟ้อนกรงเล็บทะยานเข้าหาชั้นรัศมีคุ้มกัน มวลน้ำนับไม่ถ้วนในทะเลแห่งความตายที่ขวางทางระเหยหายเฉียบพลัน มิติเวลามอดมลาย!
ตู้ม!!
เมื่อพลังทำลายแดนดินทั้งห้ากระแทกเข้าใส่ชั้นรัศมีเหนือหุบเหวจากเบื้องบน ทั่วแดนดินนภาสรวงก็สั่นสะท้านจนก่อเกิดคลื่นพลังพลุ่งพล่านกระเพื่อมไหว เปี่ยมด้วยแสงสว่างเรืองรองทันที!
ทว่าเนิ่นนานหลังจากนั้น ยามอำนาจทั้งห้าสายสลายไป ชั้นรัศมีคุ้มกันก็ยังไร้รอยขีดข่วน!
“หือ?”
“ไม่ควรเป็นเช่นนี้สิ!”
“ไยชั้นรัศมีนี่จึงทรงพลังนัก!”
เห็นเช่นนี้ ประมุขแห่งห้าสิ่งต้องห้ามก็อดขมวดคิ้วกันมิได้!
หลังสังเกตดู เต่ายักษ์เทพมังกรก็กล่าวเสียงลุ่มลึก “ทุกคน จากการพินิจอย่างระวังของข้าผู้นี้ อำนาจป้องกันของชั้นรัศมีนี้น่าจะเชื่อมต่อกับสมบัติต่าง ๆ ในซากโบราณ หากคิดทำลายชั้นรัศมีคุ้มกันนี้ จะใช้อำนาจฝืนทำลายมิได้ หาไม่ แม้ท้ายที่สุดจะทำลายมันได้ ข้าก็เกรงว่าสมบัติภายในก็จะพังทลายไปด้วยมือเราเอง สิ่งที่ได้มิคุ้มเสีย!”
“เป็นเช่นนั้นหรือ?”
ได้ยินเช่นนี้ หลายคนก็ขมวดคิ้วและถามขึ้นว่า “ประมุขเกาะฝังจักรพรรดิ เจ้าเชี่ยวชาญวิถีม่านพลังนี่ เจ้าว่าเช่นไร?”
เต่ายักษ์เทพมังกรครุ่นคิดสักพักและกล่าวขึ้นอีกครั้ง “เช่นนี้เป็นอย่างไร ข้าจะสลักค่ายกลรวมพลังเพื่อเพิ่มอำนาจของเราทั้งหลายขึ้นหนึ่งส่วน เพื่อให้เราสามารถเจาะมุมหนึ่งของม่านรัศมีเข้าไปเก็บสมบัติทั้งหมดในหุบเหวได้!”
“ดี!”
“ต้องอย่างนี้สิ!”
พวกเขาพยักหน้า
วูบบ!
แล้วลมหายใจต่อมา เต่ายักษ์เทพมังกรก็ใช้พู่กันเริ่มวาดค่ายกลมหาวิถีขึ้นบนอากาศ!
วิ้ง!
ครู่ต่อมา เมื่อประกายแสงวิถีปรากฏขึ้น ค่ายกลวิถีระดับควบคุมวิถีก็ถูกวาดสมบูรณ์!
“ทุกท่าน ลองอีกที!”
ทันทีที่เต่ายักษ์เทพมังกรตวาดขึ้น เขาก็ชกพลังทั้งหมด ณ ขั้นสูงสุดของระดับควบคุมวิถีของตนเข้าสู่ค่ายกลก่อนใคร!
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
และถัดจากเต่ายักษ์เทพมังกร ประมุขผีปรภพ ประมุขวังเทพสมุทร ประมุขเผ่าภูเขาไฟและประมุขเผ่าภูตสมุทรต่างพากันลงมือทุ่มอำนาจอันทรงพลังน่าสะพรึงกลัวใส่ค่ายกลตามไปติด ๆ!
ครืน!
หลังจากดูดซับพลังจากประมุขแห่งสิ่งต้องห้ามทั้งห้า ค่ายกลวิถีพลันเรืองลวดลายวิถีนับพันออกมา
ชิ้ง!
และลมหายใจต่อมา พลังของทั้งห้าก็ระเบิดออกเหนือค่ายกลพร้อมด้วยเสียงกระบี่คำรณ กระบี่มโหฬารยาวหลายหมื่นจั้งสายหนึ่งก่อตัวขึ้นจากพลังนั้น ฉาบเคลือบด้วยอำนาจราชันจักรพรรดิน่าสะพรึงกลัวเกินใดเทียบ!
“เปิด!”
เต่ายักษ์เทพมังกรกล่าวขึ้น แล้วกระบี่ยักษ์อันควบรวมจากพลังก็พลันเงื้อสับลง!
ตู้ม!
ทันใดนั้น เสียงแหลกร้าวก็บังเกิด กระบี่ยักษ์จากอำนาจยาวหมื่นจั้งพลันทะลวงเข้าใส่ม่านรัศมีคุ้มกัน เจาะรูยาวสองสามร้อยจั้งได้ทันที!
“ดี! สำเร็จแล้ว!”
“ฮ่า ๆ! ยอด!”
“สมบัติในซากโบราณนี้เป็นของเราห้าขุมกำลังต้องห้ามทั้งหมด!”
เห็นเช่นนี้ หัวใจของประมุขแห่งสิ่งต้องห้ามทั้งห้าก็ตื่นตะลึง อยากจะก้าวเข้าไปเสียทันที!
ทว่าขณะนี้เอง หนิงฝานผู้เตรียมตัวอยู่นานก็ลงมือทันที!
“ไป!”
ด้วยเสียงตะโกนดังลั่น อำนาจทั่วแดนดินพลันปกคลุมตัวเขาและผู้ฝึกยุทธ์โบราณทั้งแปดร้อยคนเอาไว้!
วูบ!
สุญตาวูบไหว และในชั่วพริบตา หนิงฝานก็นำยอดฝีมือทั้งแปดร้อยมุ่งตรงสู่รอยแยก!
“พวกเจ้าเข้าไปเก็บสมบัติทั้งหมดในหุบเหวใหญ่โดยเร็วที่สุดเสีย!”
หนิงฝานโบกมือ แล้วผู้ฝึกยุทธ์โบราณทั้งแปดร้อยคนก็ถูกส่งเข้าสู่หุบเหว!
“หือ?!”
“ใครกัน!”
“กล้ามาชิงสมบัติต่อหน้าเราห้าสิ่งต้องห้าม เบื่อชีวิตแล้วสินะ!!”
“ไอ้บ้านี่ ล่วงเกินเราห้าขุมกำลังต้องห้ามเพียงนี้ วันนี้ผู้ใดก็ช่วยเจ้ามิได้แล้ว!”
“…”
เมื่อเห็นเหตุกะทันหันนี้ ประมุขแห่งสิ่งต้องห้ามทั้งห้าก็ตวาดเสียงเดือดดาลตาม ๆ กัน!
มองไปทั่วทั้งทะเลแห่งความตาย ยังมีผู้กล้าชิงอาหารไปต่อหน้าต่อตาพวกเขาอีก บ้าบิ่นดีแท้!
“หึหึ!”
หนิงฝานฉีกยิ้มแล้วหันมองกลับมา “อะไรกัน? ประมุขผีปรภพ เต่าเฒ่า ไม่เจอเดี๋ยวเดียวก็ลืมข้าแล้วหรือ!”