องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที! – บทที่ 573 องค์ชายกับเวยเวย

บทที่ 573 องค์ชายกับเวยเวย

ปัง​!

เงา​ไม้​สั่น​ไหว​ไป​ตาม​สายลม​ ​แรง​กระแทก​อย่างรุนแรง​ทำให้​สิ่ง​ที่​เด็กชาย​ตัว​น้อย​แบก​อยู่​บน​หลัง​แตก​ออก​เป็น​เสี่ยง

เขา​เงยหน้า​ขึ้น​มอง​ชาย​ชุด​ขาว​ ​และ​เอ่ย​เรียก​อีก​ฝ่าย​ด้วย​สีหน้า​เป็นห่วง​ ​”​นายท่าน​”

“​ไม่เป็นไร​ ​เรา​ได้​ปราณ​แห่ง​ความเคียดแค้น​มา​พอแล้ว​”​ ​ชาย​คน​นั้น​ยกมือ​เรียว​สวย​ขึ้น​สัมผัส​กับ​ใบหน้า​ของ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ ​และ​กล่าวว่า​ ​”​ครั้งนี้​นาง​จะ​ต้อง​กลับมา​แน่นอน​”

ปัง​!

เสียง​นั้น​ดัง​ขึ้น​อีกครั้ง

แต่​ครั้งนี้​สิ่ง​ที่​แตก​เป็น​ชิ้นเล็กชิ้นน้อย​กลับเป็น​โลงศพ​ที่ตั้ง​อยู่​ข้าง​ชาย​คน​นั้น

นัยน์ตา​สีดำ​ของ​ชาย​คน​นั้น​หด​เข้าหา​กัน​ ​เขา​ชะงัก​นิ้ว​พร้อมกับ​มอง​ไป​ด้านหลัง​อย่าง​หวั่นใจ

ขนนก​สีดำ​จำนวนมาก​ปรากฏ​ขึ้น​ก่อน​จะ​ค่อยๆ​ ​รวมตัวกัน​กลายเป็น​ชาย​ร่าง​สูง​เพรียว​คน​หนึ่ง

ร่าง​นั้น​ก้าว​ออกมา​จาก​ขนนก​สีดำ​ที่​ร่วงหล่น​ลงมา​จาก​ฟ้า​พร้อมกับ​ถือ​สัตว์​อสูร​ครึ่ง​ปีศาจ​ที่​มีหน้า​ที่​เฝ้ายาม​ไว้​ใน​มือ​ข้าง​หนึ่ง​ ​เพียง​สะบัด​เสื้อคลุม​แค่​ครั้ง​เดียว​ ​ปราณ​แห่ง​ความเคียดแค้น​ทั้งหมด​ก็​พลัน​พูด​เขา​ฉีก​กระชาก​ไป​จน​หมดสิ้น

เขา​หรี่​ตาลง​เล็กน้อย​ ​สัน​กราม​ของ​เขา​เป็น​ราวกับ​อ่าว​อัน​เงียบสงบ​ ​มัน​ทั้ง​เย็นชา​และสง่า​งาม​จน​ไม่มีใคร​สามารถ​ละสายตา​ไป​จาก​เขา​ได้​ ​จากนั้น​เขา​จึง​เอ่ย​ว่า​ ​”​เจ้า​กล้า​ดี​อย่างไร​ถึง​มา​แตะต้อง​คน​ของ​ข้า​!​ ​หึ​ ​ผู้พิทักษ์​ตระกูล​ผู้ขับ​ไล่​วิญญาณ​ร้าย​ ​เจ้า​คิด​จริงๆ​ ​หรือว่า​ข้า​จะ​ไม่​ฆ่า​เจ้า​”

“​ข้า​ไม่ได้​คิด​จะ​ทำ​อะไร​นาง​”​ ​ชาย​สวม​เสื้อคลุม​สีขาว​แขน​กว้าง​ดู​เรียบง่าย​หันกลับ​มา​พร้อมกับ​กลิ่นธูป​สมุนไพร​ที่​ลอย​อยู่​ใน​อากาศ​ ​คน​คน​นั้น​เป็น​ใคร​ไป​ไม่ได้​อีก​นอกจาก​คุณชาย​จิ​่​งอู​๋​ซวง​ ​”​นาง​ไม่ใช่​คน​ของ​โลก​นี้​ ​ปล่อย​ให้​นาง​กลับ​ไป​ยัง​ที่​ที่นาง​จาก​มา​เถิด​ ​มี​เพียงแค่​วิธี​นี้​เท่านั้น​ที่​พระ​ชายา​จะ​สามารถ​กลับมา​ได้​ ​ในเมื่อ​ท่าน​ไม่​ตาย​ ​ท่าน​เอง​ก็​คง​อยาก​ให้พระ​ชายา​กลับมา​มิใช่​หรือ​”

ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋​ยม​อง​เขา​ด้วย​สายตา​เย้ยหยัน​เล็กน้อย​ ​เขา​ไม่​พูด​อะไร​ ​แต่กลับ​ทำ​เพียงแค่​สะบัด​แขน​เสื้อ​ยาว​ของ​ตัวเอง​ ​เปลวไฟ​สีน้ำเงิน​ขนาด​มหึมา​ไหว​ตาม​แรงลม​จน​มอด​ดับ​ลง

“​ไม่​หรือ​”​ ​ ​จิ​่​งอู​๋​ซวง​ยิ้ม​เล็กน้อย​ ​และ​ไอ​ออกมา​เบา​ๆ​ ​ก่อน​ลุกขึ้น​ยืน​ ​เขา​กล่าว​เสียง​เบา​ว่า​ ​”​นาง​กำลังจะ​กลับมา​แล้ว​…​”

ราวกับ​ตอบรับ​คำพูด​ของ​เขา​ ​เปลวไฟ​สีแดง​ปรากฏ​ขึ้น​ใต้​โลงศพ​ไม้จันทน์​ ​ก่อน​กลายเป็น​สัญลักษณ์​รูป​ยันต์​แปดเหลี่ยม​ห้า​ธาตุ​เรืองรอง​ด้วย​แสง​อัน​อ่อนโยน​ของ​พระพุทธองค์​ ​มัน​คือ​ผนึก​ขับไล่​วิญญาณ​ที่​ตระกูล​ผู้ขับ​ไล่​วิญญาณ​ร้าย​และ​พระ​อาจารย์​ชื่อดัง​จำนวนมาก​ร่วมแรง​กัน​สร้าง​ขึ้น​ก่อนหน้านี้​ ​ผนึก​นี้​แข็งแกร่ง​มาก​เสีย​จน​ปีศาจ​ทุก​ตน​ต่าง​ก็​หวาดกลัว​ใน​พลัง​ของ​มัน

ค่าย​กล​สำเร็จ​แล้ว​ ​ต่อให้​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋ย​จะ​เป็น​คนที​่​มี​ความสามารถ​ยอดเยี่ยม​เพียงใด​ ​แต่​ทุกอย่าง​ย่อม​ไม่มีวัน​เปลี่ยนแปลง​!

เมื่อ​จิ​่​งอู​๋​ซวง​คิดได้​ดังนี้​ ​เขา​ก็​เม้ม​ริมฝีปาก​เข้าหา​กัน​ ​ตอนนี้​เขา​แค่​ต้อง​รอ​ให้​คนที​่​อยู่​ใน​โลงศพ​ตื่นขึ้น​มา​เท่านั้น​ ​แต่​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋​ยก​ลับ​เดิน​ตรง​เข้าหา​ผนึก​ขับไล่​วิญญาณ​นั้น​อย่าง​คาดไม่ถึง​!

เด็กชาย​ตัว​น้อย​มอง​ภาพ​ที่เกิด​ขึ้น​ตรงหน้า​พร้อมกับ​ทำตา​โต​ ​”​เขา​คิด​ที่จะ​ทำลาย​ค่าย​กล​เปลี่ยน​วิญญาณ​จริงๆ​ ​ขอรับ​!​ ​เขา​ไม่รู้​หรือว่า​ไม่ว่า​จะ​เป็น​ปีศาจ​ที่​แข็งแกร่ง​เพียงใด​ ​แต่​ทันทีที่​เขา​ก้าว​เข้าไป​ใน​ผนึก​ขับไล่​วิญญาณ​ร้าย​ ​วิญญาณ​ของ​เขา​จะ​หายสาบสูญ​ไป​ตลอดกาล​?​”

ตุ้บ​!

ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋ย​เดิน​ตรง​ไป​ที่​โลงศพ​ ​แม้​จะ​เป็นการ​เดิน​เพียง​ไม่​กี่​ก้าว​ ​แต่กลับ​สง่างาม​ยิ่งนัก​ ​กระดูกสันหลัง​ที่ตั้ง​ตรง​ ​และ​มือ​คู่​งาม​ที่​ทิ้ง​ลง​ข้าง​ลำตัว​นั้น​แสดงให้เห็น​อย่างชัดเจน​ว่า​เขา​ได้รับ​การอบรม​มาดี​เพียงใด

แม้ว่า​ใบหน้า​ของ​เขา​ถูก​แสง​แห่ง​พระพุทธองค์​จาก​ผนึก​ขับไล่​วิญญาณ​เฉือน​เข้า​หลาย​ต่อ​หลายครั้ง​ ​เลือด​สีซีด​หยด​ลง​บน​พื้น​ ​และ​เปลี่ยน​พื้น​หิน​ให้​กลายเป็น​สีแดง​ ​แต่​เขา​กลับ​ไม่มี​ทีท่า​ว่า​จะ​หยุด​ ​นิ้ว​ของ​เขา​ราวกับ​ถูก​ไฟ​เผา​ ​มัน​แทบ​งอ​เข้าหา​กัน​ไม่ได้

ดูเหมือนว่า​ผนึก​นั้น​จะ​รับรู้​ได้​ถึง​ตัวตน​ของ​เขา​ ​และ​ยิ่ง​เปล่งแสง​ออกมา​มากขึ้น​ ​แสง​นั้น​แทง​ทะลุ​ผ่าน​อก​ของ​เขา​ราวกับ​ต้องการ​ยับยั้ง​การ​รุกราน​จาก​ปีศาจ

ใน​เวลา​เพียงแค่​อึดใจ​เดียว​ ​เล็บ​อัน​คมกริบ​ราวกับ​มีด​ก็​เริ่ม​งอก​ออกมา​จาก​นิ้ว​เรียว​สวย​ของ​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋ย​!

“​นายท่า​นข​อรับ​!​ ​ท่าน​จะ​…​”

กิเลน​อัคคี​ที่​รู้สึก​ได้​ถึง​อันตราย​รีบ​กลับมา​หา​เขา​ทันที​!​ ​แต่​มัน​ก็​สาย​ไป​เสีย​แล้ว​ ​เมื่อ​เห็น​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋ย​ที่​ถูก​แสง​แห่ง​พระพุทธองค์​ล้อมรอบ​อยู่​ ​นัยน์ตา​ของ​เขา​ก็​เริ่ม​สั่นสะท้าน​อย่างรุนแรง

เศษ​ชิ้นส่วน​วิญญาณ​ของ​นายท่าน​ยัง​มิได้​รวม​เป็นหนึ่งเดียว​ ​การ​เดิน​เข้าหา​ผนึก​ขับไล่​วิญญาณ​มี​แต่​จะ​ทำให้​…

ความคิด​ของ​มัน​หยุด​ลง​เพียง​เท่านั้น​!

แทนที่จะ​คิด​ต่อ​ ​มัน​กลับ​กระโจน​ไป​ข้างหน้า​และ​คิด​จะ​ใช้​กรงเล็บ​ของ​ตัวเอง​ทำลาย​ส่วนหนึ่ง​ของ​ผนึก​นั้น

แต่ก่อน​ที่​มัน​จะ​ทัน​ได้​แตะต้อง​สัญลักษณ์​ที่อยู่​บน​พื้น​ ​กรงเล็บ​ของ​มัน​ก็​ไหม้​เกรียม​จาก​ความร้อน​ดั่ง​ไฟ​เผา​!

แค่​ยืน​อยู่​ที่ทาง​เข้า​ของ​ผนึก​ขับไล่​วิญญาณ​ร้าย​ ​มัน​ก็ได้​รับ​บาดเจ็บ​จาก​การ​โจมตี​อัน​รุนแรง​ถึง​เพียงนี้

แล้ว​ผู้​เป็น​นาย​ของ​มัน​ที่อยู่​ใน​นั้น​ ​อีกทั้ง​ยัง​ถูก​โอบล้อม​ไป​ด้วย​แสง​แห่ง​พระพุทธองค์​เล่า​จะ​ทุกข์ทรมาน​เพียงใด

ในเวลานั้น​เอง​ที่​กิเลน​อัคคี​รู้สึก​หวาดกลัว​อย่างยิ่ง​ ​มัน​กลัว​ว่า​ผู้​เป็น​นาย​ของ​มัน​จะ​สูญสลาย​ไป​อีกครั้ง​ ​มันต​้​อง​รอ​อีก​กี่​ร้อย​ปี​ถึง​จะ​ได้​พบ​กับ​นายท่า​นอี​กค​รั้ง​กัน

“​มัน​จบ​แล้ว​”​ ​จิ​่​งอู​๋​ซวง​มอง​แสง​แห่ง​พระพุทธองค์​ ​แล้ว​หลับตา​ลง​อย่าง​โล่งใจ

แต่​แล้ว​เขา​ก็​ต้อง​ประหลาดใจ​เพราะ​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋ย​ที่​ยืน​นิ่ง​อยู่​ใน​ตอนแรก​กลับ​ส่งเสียง​หัวเราะ​ออกมา​อย่างกะทันหัน​ ​เขา​ยิ่ง​ดู​หล่อเหลา​ขึ้น​เรื่อยๆ​ ​อีกทั้ง​ในขณะเดียวกัน​ก็​ยัง​ดู​ชั่วร้าย​ขึ้น​เมื่อ​ตก​อยู่​ภายใต้​แสง​แห่ง​พระพุทธองค์​ ​ราวกับ​ดอกไม้​หายาก​ใน​วัน​วิษุ​วัต​ที่​บานสะพรั่ง​ไป​ทั่ว​แดน​ปีศาจ

ปีก​ขนาดใหญ่​ที่อยู่​กลาง​หลัง​ของ​เขา​กาง​ออก​โดย​ไร้​ซึ่ง​การ​เตือน​ล่วงหน้า​ ​และ​ใช้​ปีก​คู่​นั้น​บดบัง​แสง​แห่ง​พระพุทธองค์​ทั้งหมด

ขนนก​สีดำ​อันเป็น​สัญลักษณ์​แห่ง​ความ​ชั่วร้าย​ ​ความมืด​ ​และ​ความเห็นแก่ตัว​ร่วงหล่น​ลงมา​ทีละ​เส้น

บทเพลง​แห่ง​ปีศาจ​เริ่ม​บรรเลง​ขึ้น​ ​ปีก​คู่​นั้น​พา​เขา​บินขึ้น​อย่าง​ช้าๆ​ ​ราวกับ​จะ​สามารถ​เอื้อม​คว้า​ดวงดาว​ทั้ง​ผืน​ฟ้า​เข้ามา​สู่​อ้อมอก

เขามอ​งดู​รอย​เลือด​ที่​เปรอะ​อยู่​บน​มือ​แล้ว​แลบลิ้น​เลียมัน​ ​พร้อมกับ​เผย​รอยยิ้ม​ชั่วร้าย​ขึ้น​ที่​มุม​ปาก

นัยน์ตา​ของ​จิ​่​งอู​๋​ซวง​หด​เข้าหา​กัน​อย่าง​ไม่เชื่อ​สายตา​!

ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋ย​ไม่สน​ใจ​เขา​ ​แต่กลับ​มอง​ไป​ยัง​โลงศพ​ที่อยู่​ไม่​ไกล​แทน​ ​สี​ตาของ​เขา​เปลี่ยนเป็น​สีแดง​เลือด​จนกระทั่ง​ใน​นัยน์ตา​นั้น​ไม่​หลงเหลือ​สีดำ​ปรากฏ​ให้​เห็น​อีกต่อไป​ ​แม้กระทั่ง​ตาขาว​ก็​ยัง​ปกคลุม​ไป​ด้วย​เส้นเลือด​ที่​พัน​กัน​หลาย​ต่อ​หลาย​ชั้น​ราวกับ​รูป​สลัก​บน​เสา​สีแดง​เลือด​สอง​ต้น

แม้แต่​ร่างกาย​ของ​เขา​ก็​ยัง​แผ่​บรรยากาศ​แห่ง​ความมืด​มิด​และ​ความ​ชั่วร้าย​ออกมา​ประหนึ่ง​ภูตผี​ใน​ปราสาท​อัน​เก่าแก่​ ​ดู​สง่างาม​แต่​ก็​ยัง​น่าขนลุก​ ​และ​เต็มไปด้วย​ความเกลียดชัง

“​แย่​แล้ว​!​”​ ​กิเลน​อัคคี​ยืน​ขึ้น​อย่างรวดเร็ว​ ​วิญญาณ​ของ​นายท่าน​ยัง​ไม่สมบูรณ์​ ​เขา​จะ​ต้อง​คลุ้มคลั่ง​ ​และ​กลายเป็น​คน​โหดเหี้ยม​ไร้​ซึ่ง​ความปรานี​อย่างแน่นอน​!

เช่นนี้​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ที่​เป็น​มนุษย์​เพียง​คนเดียว​ในที่นี้​จะ​ไม่​ตกอยู่ในอันตราย​ถึง​ชีวิต​หรอก​หรือ

ยิ่งไปกว่านั้น​ ​นาง​ยัง​เป็น​เหยื่อ​ที่นาย​ท่าน​โปรดปราน​ที่สุด​อีกด้วย

ดังนั้น​คน​แรก​ที่จะ​ถูก​นายท่าน​ดูด​เลือด​จน​หมดตัว​ก็​คือ​…

“​นายท่าน​!​ ​ทำ​เช่นนั้น​ไม่ได้​นะ​ขอรับ​!​”​ ​กิเลน​อัคคี​คำราม​ ​”​หาก​ท่าน​ดูด​เลือด​ของ​นาง​จน​แห้ง​ละ​ก็​ ​ท่าน​จะ​ต้อง​เสียใจ​ใน​ภายหลัง​แน่​!​”

ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋ย​ไม่ได้​หันกลับ​มา​ ​เขา​เดิน​ตรง​ไป​ที่​โลงศพ​นั้น​อย่าง​ช้าๆ​ ​ราวกับ​ไม่ได้​ยิน​สิ่ง​ที่​กิเลน​อัคคี​พูด​เลย​แม้แต่​นิดเดียว

เขามอง​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ ​มุม​ปากของ​เขา​ยกขึ้น​เล็กน้อย​ ​เส้นเลือด​สีเขียว​และ​แดง​ที่อยู่​บน​ใบหน้า​อัน​งดงาม​ราวกับ​เถาวัลย์​หลาก​สีสัน​ที่​พัน​อยู่​บน​แก้ม​สีซีด​ของ​นาง​ ​”​ช่าง​เป็น​วิญญาณ​ที่​สวยงาม​จริงๆ​”

ค่าย​กล​ถูก​ทำลาย​ลง​อย่าง​สมบูรณ์​!

สิ่งที่เหลืออยู่​มี​เพียงแค่​กลิ่นคาว​เลือด​ ​กลิ่นหอม​หวาน​อัน​รุนแรง​นั้น​พรั่งพรู​เข้ามา​ใน​โพรงจมูก​ ​กระทบ​สมอง​ ​และ​ปลุกเร้า​ประสาทสัมผัส​อัน​เปราะบาง​แต่ละ​เส้น​ของ​เขา

ความต้องการ​กลืน​กิน​ทำให้​เขา​สูญเสีย​สติสัมปชัญญะ​ไป​ ​ความรู้สึก​นั้น​ไม่​อาจ​อธิบาย​ออกมา​เป็น​คำพูด​ได้​ ​มัน​โหดร้าย​ยิ่งกว่า​ความหิวโหย​ของ​มนุษย์​เป็น​ร้อย​เท่า​!

ทันใดนั้น​ ​เขา​ก็​อุ้ม​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ขึ้น​มา​!

หมอก​สีดำ​ล้อมรอบ​ตัว​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​จน​มองไม่เห็น​สิ่งใด​ ​นาง​สัมผัส​ได้​ถึง​นิ้วมือ​อัน​เย็นเฉียบ​ที่​โอบ​อยู่​รอบเอว​ของ​ตัวเอง​ ​ความ​เย็น​อันเป็น​เอกลักษณ์​ประจำตัว​ของ​เขา​นั้น​ช่วย​ปลอบประโลม​อารมณ์​ของ​นาง​ได้​เป็น​อย่างดี

ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋ย​ยิ้ม​อย่าง​ชั่วร้าย​ ​เขา​พอใจ​ยิ่งนัก​ที่​ได้​เหยื่อ​ที่​เชื่อฟัง​เช่นนี้​มา​ไว้​ใน​มือ​ ​เขา​ประทับ​จูบ​ลง​ที่​ซอก​คอ​ของ​นาง​ ​เขา​ปฏิบัติ​ต่อนา​งด​้วย​ความรักใคร่​เอ็นดู​มาโดยตลอด​ ​และ​การปฏิบัติ​อัน​อ่อนโยน​ของ​เขา​ก็​ยัง​ไม่เปลี่ยนแปลง​ไป​แม้​ใน​ยาม​ที่​เขา​กำลังจะ​กลืน​กิน​นาง​…

องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที!

องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที!

Status: Ongoing

นิยายโรแมนติก นักรบหญิงย้อนเวลามาเจอสังคมอุดมพลังปราณ…และองค์ชายสายคลั่งรัก!

“เจ้าต้องรับผิดชอบ”

“ก็ได้ ท่านต้องการให้ข้ารับผิดชอบอย่างไรหรือ อย่าบอกนะว่าท่านอยากให้ข้าแต่งงานด้วย”

“แต่งงานหรือ…” ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยจับคางของเฮ่อเหลียนเวยเวยอย่างหยอกล้อ

“ไหนๆ เราก็จะแต่งงานกันอยู่แล้ว ลองมาตรวจสอบเรื่องนี้กันก่อนดีไหม…

ไปเตรียมห้อง!”

เฮ่อเหลียนเวยเวย ราชินีนักรบแห่งศตวรรษที่ 21 ย้อนเวลามาอยู่ในร่างคุณหนูใหญ่ชื่อเดียวกัน

ย้อนมาวันแรกก็พบว่านางถูกยกเลิกงานแต่งงาน ทั้งยังเจอแม่เลี้ยงและน้องสาวต่างมารดาหมายหัวเอาชีวิต

ทั้งยังต้องพบว่า โลกนี้วัดค่าของคนด้วยพลังลมปราณ ทว่าร่างนี้ไม่มีลมปราณ จึงถูกเรียกว่า ‘นังคนไร้ค่า’

แต่จู่ๆ โชคชะตาให้นางได้บังเอิญพบหนังสือโบราณ ทำพันธะสัญญากับคนหูหมาป่า ทั้งยังมีหนังสือเรียกตัวจากสำนักไท่ไป๋

ยิ่งไปกว่านั้นยังมีบุรุษรูปงามที่ใครต่างก็เกรงใจ นาม ไป๋หลี่เจียเจวี๋ย ไล่ตามนางไปทุกที่

เพราะในเมื่อนางเคยขโมยจูบแรกเขามา และเขาก็คือบุรุษหน้ากากเงินที่นางเคยพบมาก่อน

ชีวิตใหม่นี้มีของดีอยู่ในมือ จะแกร่งขึ้น จะแก้แค้น จะร้ายกว่าเดิมจนทั่วหล้าต้องตกตะลึง นางไม่เคยกลัว!

กลัวเพียงอย่างเดียว… เขาคนนั้นจะไม่คืนชีวิตสุขสงบให้นาง เล่นไล่จับมันเหนื่อยมากนะรู้ไหม?!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท