รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 570 ความลับในส่วนลึกทะเลต้องห้าม ถูกเปิดเผยทั้งหมด!

บทที่ 570 ความลับในส่วนลึกทะเลต้องห้าม ถูกเปิดเผยทั้งหมด!

บทที่ 570 ความลับในส่วนลึกทะเลต้องห้าม ถูกเปิดเผยทั้งหมด!

ณ จักรวาลอันกว้างใหญ่ไพศาล

เส้นทางโบราณลึกลับมากมายพาดผ่านอาณาจักรทั้งปวง กฎระเบียบสูงส่งน่าทึ่งถึงขีดสุดโลดแล่นอยู่ภายใน คอยรักษาความสงบของเส้นทาง

ภายในเส้นทางโบราณเหล่านี้ ล้วนมีสิ่งมีชีวิตพลังปราณสยดสยองน่ากลัวกำลังมุ่งหน้าไป ด้านหลังสิ่งมีชีวิตน่ากลัวเหล่านี้ ยังมีสิ่งมีชีวิตตัวอื่นอีกมากมายนับไม่ถ้วน

ไม่ต้องคิดให้มากความก็รู้ว่าเส้นทางโบราณเหล่านี้ไม่ธรรมดา มิใช่สิ่งที่ตัวละครต่ำต้อย หรือกองกำลังเล็ก ๆ สร้างขึ้นได้

จริงดังที่ว่า

ไม่ว่าเส้นทางไหนในเส้นทางเหล่านี้ ต่างต้องทุ่มเวลาอย่างยาวนาน รวมถึงแรงกายแรงใจมหาศาล กว่าจะสร้างได้สำเร็จ

ใช่แล้ว เส้นทางเหล่านี้ล้วนสร้างโดยอาณาจักรน่าพรั่นพรึงระดับเดียวกับอาณาจักรเก้าแดนต้องห้าม พวกเขาน่ากลัวเป็นที่สุด ไต่ขึ้นไปถึงระดับสูงอย่างยิ่งยวดในเส้นทางฝึกตน เทียนตี้ยังมิใช่เส้นชัยพวกเขา

ผู้ที่มีฝีมือยอดเยี่ยมที่สุดในหมู่พวกเขา คือการดำรงอยู่ระดับบูรพาจารย์ในแต่ละอาณาจักร อยู่เหนือขั้นเทียนตี้ไปนานแล้ว พวกเขาสร้างเส้นทางขึ้นใหม่ มุ่งหน้าต่อไป

แม้ว่าเส้นทางเหล่านี้โหดเหี้ยมอำมหิต นองเลือดเหลือคณา ‘บิดเบี้ยว’ เป็นที่สุด หาใช่เส้นทางปกติไม่ กระนั้น พวกเขาก็ยังฝ่าฟันออกมาจนได้ และได้รับประโยชน์จากมัน

พวกเขาลดทอนความเสียหายที่กาลเวลากระทำต่อพวกเขา อายุขัยเพิ่มทวี พวกเขาทลายขอบเขตสูงสุดในโลกมนุษย์ ครอบครองกำลังรบซึ่งอยู่เหนือขั้นเทียนตี้ขึ้นไป

ทว่าราคาที่พวกเขาต้องแลกมาเลวร้ายเหลือแสน พวกเขาแต่ละคนล้วนเกิดการเปลี่ยนแปลงอันชวนผวา มิใช่สิ่งมีชีวิตปกติอีกต่อไป

ภพเซียนหายไป สสารนิรันดร์หาไม่พบ พวกเขาไม่เต็มใจหายไปง่าย ๆ เช่นนี้ สุดท้ายจึงก้าวสู่เส้นทางตกต่ำ ฆ่าล้างสิ่งมีชีวิตตนอื่นไปนับไม่ถ้วน ช่วงชิงแก่นเลือดและแก่นกำเนิดของสิ่งมีชีวิตตนอื่น ช่วยบรรเทาความเสียหายในตัวที่เกิดจากพลังแห่งกาลเวลา เพิ่มพูนพลังรบของพวกเขา

กล่าวโดยไม่เกินจริง ความสำเร็จของพวกเขาในตอนนี้ ล้วนตั้งอยู่บนความตายของสิ่งมีชีวิตในอาณาจักรแล้วอาณาจักรเล่า มือของพวกเขาเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด

ภายในเส้นทางนั้น มีสิ่งมีชีวิตชิงมาถึงก่อน

พวกเขาต่างมาจากอาณาจักรเบื้องหลังทะเลต้องห้าม

“เจ้าสิ่งมีชีวิตท้องถิ่นต่ำต้อย เตรียมชดใช้ให้กับเรื่องโง่ ๆ ที่พวกเจ้าได้กระทำไปเสีย!”

บูรพาจารย์ท่านหนึ่งแค่นเสียงเย็น จิตสังหารล้นทะลัก เขาทรงพลังอย่างแท้จริง ยื่นมือหนึ่งออกไป ก็ทลายผนึกเส้นทางได้ในพริบตา นำทัพสมาชิกมากมายนับไม่ถ้วนเหล่านั้นก้าวออกจากเส้นทาง มาอยู่เหนือทะเลต้องห้าม

ทว่าหลังพวกเขาพ้นจากเส้นทางมาแล้ว ก็มีสีหน้าประหลาดไปกันทั้งหมด

พวกเขาได้เห็นอะไรกันนี่!?

จ้าวสมุทรแห่งทะเลต้องห้าม กำลังพะเน้าพะนอ นบนอบเอาใจสตรีท้องถิ่นนางหนึ่ง!

นี่มันเรื่องกระไร?

อาณาจักรของพวกเขา แข็งแกร่งยิ่งกว่าอาณาจักรเก้าตอนบนเสียอีก มีกำลังรบระดับเทียนตี้คณานับ ซ้ำยังมีบูรพาจารย์มากมายซึ่งมีกำลังรบเหนือกว่าเทียนตี้!

จ้าวสมุทรนบนอบเยี่ยงนี้ เอาหน้าของอาณาจักรพวกเขาไปไว้ที่ไหน!

ไหนจะสตรีท้องถิ่นผู้นี้อีก บังอาจใช้คนของพวกเขาในฐานทัพของพวกเขาเช่นนี้ ไม่เห็นอาณาจักรของพวกเขาอยู่ในสายตาสักนิด!

“ท่านบูรพาจารย์!”

จ้าวสมุทรตกใจแทบแย่ ขาสั่นไปหมด เขารู้ว่าพฤติกรรมเช่นนี้ของเขาทำให้อาณาจักรของเขาต้องขายหน้า ทว่า ขายหน้ายังดีกว่าต้องจบชีวิต เขาสู้หลิงอินมิได้จริง ๆ

“มาแล้วหรือ…”

หลิงอินค่อย ๆ ลุกขึ้น หันมองบูรพาจารย์ทั้งหลาย “คอยพวกเจ้าอยู่นานแล้ว”

บูรพาจารย์ทั้งหลายมิได้แยแสหลิงอิน

บูรพาจารย์ท่านหนึ่งหันมองจ้าวสมุทร “มานี่”

จ้าวสมุทรชาไปทั้งหนังศีรษะ รู้สึกคล้ายว่าจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น ทว่า เขามิกล้าขัดคำสั่งบูรพาจารย์ จึงเดินไปหาบูรพาจารย์

“เจ้าเป็นถึงจ้าวแห่งดินแดนนี้ เป็นตัวแทนของศักดิ์ศรีอาณาจักรเรา นี่เจ้าทำอันใด ยอมนบนอบเอาใจสตรีท้องถิ่นเยี่ยงนี้ ศักดิ์ศรีของอาณาจักรเราต้องป่นปี้เพราะเจ้า!”

บูรพาจารย์ท่านนั้นแค่นเสียงเย็น เพียงเสี้ยววินาที ร่างของจ้าวสมุทรก็ระเบิดแหลกลาญ เลือดเนื้อสาดกระจาย แม้กระทั่งวิญญาณก็แตกออกไปด้วย จบชีวิตลงตรงนั้น!

จนตาย จ้าวสมุทรก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะถูกฆ่าเพราะเหตุนี้

หากเขารู้ คงต้องร้องขอความเป็นธรรม

เขาเป็นเหตุให้สมาชิกทั้งหมดในทะเลต้องห้ามต้องตาย ซ้ำยังสังหารบูรพาจารย์ ‘กระต่ายน้อยสีขาว’ ไปตนหนึ่ง ช่างเป็นความผิดใหญ่หลวงนัก สุดท้าย เขากลับมิได้ถูกฆ่าเพราะความผิดเหล่านั้น แต่ถูกฆ่าเพราะพะเน้าพะนอรับใช้หลิงอิน นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันนี่!

“เจ้าสิ่งมีชีวิตท้องถิ่นต้อยต่ำ เจ้าคือหลิงอินใช่หรือไม่ บังอาจนัก!”

บูรพาจารย์ท่านนั้นหันมองหลิงอิน ส่งเสียงเรียกชื่อนาง

เมื่อคราวเขาได้เห็นหลิงอินคราแรกก็รู้สึกคุ้นหน้า ภายหลังคิดดูแล้ว นี่คือหลิงอินผู้นั้นมิใช่หรือ

จ้าวสมุทรเคยรายงานรูปโฉมหลิงอินขึ้นไป

“ต้อยต่ำรึ?”

หลิงอินเลิกคิ้ว ทอดมองบูรพาจารย์ท่านนั้น “ข้าไม่เห็นจริง ๆ ว่าเจ้าสูงส่งตรงไหน เจ้าดูสารรูปของเจ้าเสีย เป็นเพียงสิ่งมีชีวิตที่ปะติดปะต่อร่างขึ้นเท่านั้น ไยจึงกล้าเอ่ยวาจาเช่นนี้”

สิ่งมีชีวิตในทะเลต้องห้ามล้วนมีรูปร่างเช่นนี้ รวมถึงจ้าวสมุทรผู้ถูกฆ่าไปเมื่อครู่ก็ด้วย ไม่มีตนใดเป็นสิ่งมีชีวิตปกติ เรือนร่างล้วนเกิดจากการปะติดปะต่ออวัยวะจากสิ่งมีชีวีตตนอื่น

“เจ้าจะไปรู้อะไร การรวบรวมส่วนแข็งแกร่งที่สุดไว้ในร่าง จึงจะเป็นวิถีทวีความแข็งแกร่ง!”

บูรพาจารย์ท่านนั้นแค่นเสียงเย็น ลงมือทันที ฟาดฝ่ามือไปสังหารหลิงอิน

หลิงอินหาได้เกรงกลัวไม่ นางยกมือเรียกฉินเฟิ่งหมิงออกมา ฉินเฟิ่งหมิงบรรเลงลำนำศึกด้วยตนเอง หลิงอินพลุ่งพรวดขึ้น ประกายเจิดจ้าเปล่งออกมาทั่วกายา เข้าปะทะฝ่ามือกับบูรพาจารย์ท่านนั้น

ตึงตึงตึง!

มิมีผู้ใดคาดคิด บูรพาจารย์ท่านนั้นได้รับแรงกระเทือนจนถอยกรูด เสียเปรียบในการปะทะฝ่ามือครั้งนี้!

น่ากลัวเกินไปแล้ว นางทำได้เยี่ยงไร?

สิ่งมีชีวิตทุกตนในที่แห่งนี้ตะลึงตกใจกันหมด รวมถึงบูรพาจารย์ท่านอื่นด้วย ต่างหรี่ม่านตาลงอย่างอดมิได้ คิดไม่ถึงเช่นกันว่าหลิงอินจะดุดันเพียงนี้

พลังปราณของหลิงอินเยาว์วัยยิ่งนัก น่ากลัวว่าอายุไม่ถึงเศษเสี้ยวพวกเขาด้วยซ้ำ เหตุไฉนถึงมีกำลังรบกล้าแกร่งน่าประหวั่นพรั่นพรึงเยี่ยงนี้เสียได้!?

น่าเหลือเชื่อเกินไปแล้วสำหรับพวกเขา!

“ฆ่า!”

พวกเขามิได้ลังเล บูรพาจารย์ทั้งหลายออกโรงพร้อมเพรียง หลิงอินเปิดเผยด้านน่าสะพรึงให้พวกเขาเห็นแล้ว พวกเขามิกล้าชะล่าใจ บุกเข้าไปพร้อมหน้าเพื่อเข่นฆ่าหลิงอิน

บูรพาจารย์ผู้ถูกกระเทือนจนต้องถอยก่อนนี้ก็เคลื่อนไหวด้วย เขาใช้วิชามหาพิฆาต บุกถล่มหลิงอิน

ก่อนนี้เขาเลินเล่อเกินไป มิได้ให้ความสำคัญกับหลิงอินนัก มิได้ใช้กำลังทั้งหมด ผลสุดท้ายส่งผลให้เขาต้องถอยเพราะความเสียเปรียบ

ต้องยอมรับว่า พวกเขาน่ากลัวอย่างแท้จริง พลังที่ปะทุออกมาล้วนเหนือชั้นเทียนตี้ ทุกการโจมตีล้วนทลายเอกภพได้โดยง่าย

ทว่า น่าเสียดาย พวกเขาดันมาพบหลิงอิน

ฉินเฟิ่งหมิงเปล่งแสง ญาณฉินวิหคเพลิงด้านในโบยบินออกมา เพิ่มพูนพลานุภาพฉินเฟิ่งหมิง อานุภาพลำนำทวีความแข็งแกร่ง!

พลังทั้งหมดของหลิงอินกล้าแกร่งยิ่งขึ้นด้วยเพลงฉิน และพลังที่บูรพาจารย์เหล่านี้เปล่งออกมา ถูกลดทอนกำลังลงไปในระดับหนึ่ง

นอกจากนี้ หลิงอินใช้พลังจากร่างระเบียบ พลังทั้งหมด รวมถึงกฎระเบียบทั้งหมดในฟ้าดินล้วนอยู่ในการควบคุมของนาง พลังของนางยกระดับขึ้นอีกครั้ง!

ขณะเดียวกัน พลังและกฎระเบียบทั้งหมดในฟ้าดินถล่มไปหาบรรดาบูรพาจารย์ จนพลังของบูรพาจารย์ทั้งหลายถูกบั่นทอนลงไปอีก!

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ พวกเขาอยากจะเอาชนะหลิงอินนับว่าเพ้อเจ้อสิ้นดี!

ฟิ้วฟิ้วฟิ้ว!

แสงอาบศรน่าสะพรึงมากมายวาดผ่านท้องฟ้า พุ่งตรงไปยังบูรพาจารย์ทั้งหลาย หลิงอินเรียกคันศรวิเศษออกมา เกรียงไกรไม่อาจต้าน!

นางก้าวสู่ขอบเขตจักรพรรดิ ซ้ำยังเหนือจักรพรรดิขึ้นไปจนมาถึงขอบเขตมหาจักรพรรดิ หนนี้ นางใช้วิชาอัศจรรย์ทั้งหลายไปจนสิ้น พลังที่เปล่งออกมานั้นน่าพรั่นพรึงเป็นที่สุด!

พรวดพรวดพรวด!

เหล่าบูรพาจารย์ไม่อาจต้านได้เลย ต่างถูกศรอาบแสงแทงทะลุร่าง โลหิตสีดำเหม็นคาวหลั่งริน เศษเนื้อปลิวว่อน!

“อะ…ไรกัน!”

“นี่มัน!”

สิ่งมีชีวิตจากอาณาจักรทะเลต้องห้ามกลัวจนปัสสาวะราด บูรพาจารย์ทั้งหลายออกโรงพร้อมเพรียงยังอเนจอนาถเยี่ยงนี้ หลิงอินยังเป็นมนุษย์อยู่หรือไม่ คงมิใช่ว่าเป็นเซียนตนหนึ่งกระมัง!

“เจ้า…อภัยให้ไม่ได้!”

“วันนี้เจ้าไม่รอดแน่!”

บรรดาบูรพาจารย์คำรามเสียงต่ำ แสดงฝีมือทั้งหมด ลำแสงน่าสะพรึงกลัวทิ่มแทงออกจากส่วนลึกของทะเลต้องห้าม ราวกับต้องการยิงทะลุนภา

ขณะเดียวกัน พลังปราณสยดสยองมากมายแผ่ซ่านออกจากส่วนลึก

ส่วนลึกของทะเลต้องห้ามมีความลับใหญ่หลวงซ่อนอยู่ ยามนี้ พวกเขาขอเปิดเผยทั้งหมด นี่คือสิ่งที่พวกเขาตระเตรียมไว้แต่เนิ่น ๆ ตระเตรียมเพื่อใช้ยามเข้าไปในแดนบรรพโกลาหล!

หลิงอินแกร่งกล้าไร้เทียมทาน พวกเขาไม่มีทางเลือก จำต้องเปิดเผยความลับใหญ่หลวงในส่วนลึก มิฉะนั้น พวกเขาคงถูกหลิงอินปราบปรามลงถ้วนหน้า

“หืม!?”

คลื่นสยดสยองที่ปะทุออกมาจากส่วนลึกนั้น แม้แต่หลิงอินยังอดขมวดคิ้วมิได้

ตามคาด อาณาจักรแดนต้องห้ามซึ่งกล้าแกร่งน่ากลัวยิ่งกว่าอาณาจักรเก้าตอนบน มิใช่ต่อกรด้วยง่าย ๆ!

“เกิดอะไรขึ้น!”

เมื่อเห็นสิ่งที่เหินออกมาจากส่วนลึก สีหน้าหลิงอินเปลี่ยนไปเล็กน้อย

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท