บทที่ 576 ต้นหลิวกับเจ้าก้อนหิน ข้ากลับมาล้างแค้นแล้ว!
สายลมพัดผ่าน แสงแดดกำลังพอดี จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงแย้มยิ้มอย่างสดใส ก้าวเดินทีละก้าวไปยังริมแม่น้ำสายเล็ก
ทิวทัศน์ริมฝั่งแม่น้ำสายเล็กยังคงเหมือนเก่า ต้นหลิวสูงใหญ่หยั่งรากลึกริมฝั่ง ใบหลิวเขียวขจีร่วงหล่นลงมา
ก้อนหินที่อยู่ด้านข้างเองก็มีรูปร่างผิดปกติเล็กน้อย ทว่าพื้นผิวก็เรียบดูดียิ่งกว่าหินก้อนอื่น ๆ มาก
“สวัสดีทั้งสองท่าน!”
จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้มพร้อมกล่าวทักทายต้นหลิวและเจ้าก้อนหิน
“เจ้าเป็นใคร?”
ต้นหลิวส่งเสียงถามออกมา ราวกับไม่อาจจดจำจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงได้ ต้นหลิวเองก็เช่นเดียวกัน เอ่ยถามออกมาว่าจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงคือผู้ใด
เมื่อได้ยินต้นหลิวและเจ้าก้อนหินถามว่าเขาคือใคร จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงก็รู้สึกอึดอัดคับข้องใจเป็นอย่างมาก ประหนึ่งถูกโจมตีอย่างรุนแรงจนความรู้สึกในใจย่ำแย่ถึงที่สุด
บัดซบ เขาหมกหมุ่นครุ่นคิดทั้งวันทั้งคืนว่าจะแก้แค้นต้นหลิวและเจ้าก้อนหิน แต่ปรากฏว่าทั้งสองกลับไม่แม้แต่จะจดจำเขาได้!
เขาจะไม่รู้สึกอึดอัดคับข้องใจได้อย่างไร!
‘พวกเจ้าทั้งสองเป็นเช่นนี้ ตอนลงมือก็อย่าหาว่าข้าไร้ไมตรี!’
เขาเอ่ยขึ้นในใจด้วยความเกลียดชัง เดิมทีเขาต้องการจะลงมือไม่แรงมากนัก แต่ตอนนี้คงจะต้องลงมือให้หนักขึ้น!
ไม่เช่นนั้นแล้ว ต้นหลิวกับเจ้าก้อนหินคงจะจดจำเขาไม่ได้อีก!
“ทั้งสองท่านจำข้าไม่ได้อย่างนั้นหรือ? ข้าคือหวงหลงซื่อ มาจากแดนสังสารวัฏ ครั้งก่อนที่มาเคยมีปัญหากับทั้งสองท่าน…เล็กน้อย ทว่าหลังจากที่คุณชายช่วยชี้แนะข้าแล้ว ก็ได้กลับไปทำงานให้คุณชายในแดนสังสารวัฏ”
เขาพูดพร้อมรอยยิ้มจริงใจ
ตอนนี้ต้นหลิวและเจ้าก้อนหินไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร ดังนั้นย่อมต้องระมัดระวังตัวอย่างแน่นอน นี่ไม่ใช่ช่วงเวลาที่ดีในการโจมตีทีเผลอ
เขาจะต้องพูดคุยกับต้นหลิวและเจ้าก้อนหินอย่างสนิทสนม ทำให้ต้นหลิวและเจ้าก้อนหินคลายความระมัดระวังลง จากนั้นเขาจึงสามารถลงมือได้สำเร็จ!
“ที่แท้ก็เป็นเจ้า…”
“นึกออกแล้ว เจ้าคือคนเล่นหมากล้อมที่ได้รับคำชี้แนะจากคุณชาย”
ต้นหลิวและก้อนหินจำจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงได้แล้ว
ยามนั้น คุณชายถูกใจจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลง แต่พวกมันไม่รู้จึงไม่คิดจะปล่อยเข้าเมืองไป ดีที่พวกมันทั้งสองตระหนักได้ถึงข้อผิดพลาดของการกระทำก่อนหน้าของพวกตนแล้ว จึงไม่ได้เกิดความผิดพลาดครั้งใหญ่ขึ้น
“นึกออกแล้วใช่หรือไม่!”
จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงหัวเราะเสียงดัง “ครั้งนี้ข้ามาเพื่อเยี่ยมเยียนคุณชาย แต่ทว่ากล่าวตามตรงแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะการ ‘สั่งสอน’ ของพวกท่านทั้งสองในคราวนั้น ข้าจะต้องละเมิดข้อห้ามคุณชายสร้างความผิดพลาดครั้งใหญ่อย่างไม่รู้ตัวแน่นอน เมื่อครั้งนี้มาเยี่ยมคุณชาย จึงคิดแวะมาขอบคุณท่านทั้งสองเสียก่อน”
“ไม่จำเป็นต้องขอบคุณ พวกเราต่างทำเพื่อคุณชาย ย่อมต้องทำทุกสิ่งให้คุณชายพึงพอใจ ไม่อาจละเมิดข้อห้ามทำให้คุณชายขุ่นเคืองใจได้” เจ้าก้อนหินเอ่ย
“พูดเช่นนั้นก็ไม่ผิด แต่ข้าก็ยังคงต้องการจะขอบคุณท่านทั้งสอง ไม่เช่นนั้นข้าคงรู้สึกติดค้างภายในใจ!”
จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงกล่าว “ครั้งนี้ข้าได้นำของขวัญมาให้ท่านทั้งสองด้วย!”
“นำของขวัญมาด้วยงั้นหรือ เกรงใจกันมากไปแล้ว!”
เจ้าก้อนหินพูดไม่ค่อยจะใส่ใจนัก ไม่คิดอะไรมากมายแม้แต่น้อย
“ใช่แล้ว ไม่จำเป็นเช่นนี้ เพียงแค่พวกเราได้ทราบความจริงใจของเจ้าก็พอแล้ว”
ต้นหลิวยิ้ม เห็นได้ชัดว่าไม่ได้มีการเตรียมตัวป้องกันแต่อย่างใด
ได้โอกาสอันดีแล้ว!
จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงเอ่ยในใจ เดิมทีเขาคิดไว้ก่อนแล้วว่าต้นหลิวและเจ้าก้อนหินจะไม่ลดการป้องกันลงได้โดยง่าย จึงเตรียมของขวัญสำหรับต้นหลิวและเจ้าก้อนหินไว้แล้ว ตั้งใจจะใช้มันเพื่อคลายความระแวดระวังของต้นหลิวและเจ้าก้อนหิน ดูจากตอนนี้แล้วเห็นได้ชัดว่าของขวัญได้ผลเป็นอย่างยิ่ง
ต้นหลิวและเจ้าก้อนหินคลายความระมัดระวังลงแล้ว
“ตัวโง่งมทั้งสอง เตรียมตัวโดนทุบตีได้เลย!”
เขาหัวเราะอย่างบ้าคลั่งภายในใจ ตอนนี้ก็สบโอกาสให้ใช้ตอนมอบของขวัญ จัดการต้นหลิวและเจ้าก้อนหิน!
“ไม่ ๆ ของขวัญก็ยังต้องส่งมอบ อย่างไรเสียข้าก็นำมาด้วยแล้ว” เขาพูดด้วยรอยยิ้ม
จากนั้นเขาก็เคลื่อนไหวราวกับสายฟ้าแลบ เรียกกระดานหมากล้อมออกมา พริบตาเดียวเกมหมากล้อมก็ถูกเปิดครอบคลุมทั่วบริเวณทันที!
หลังจากลงมือเสร็จแล้ว เขาก็พลันรู้สึกโล่งในขึ้นมาทันที
เมื่อหมากถูกจัดวางแล้วเขาก็ไม่กังวลอีกต่อไป ก่อนหน้านี้สิ่งที่เขากังวลมากที่สุดคือการไม่สามารถเริ่มเกมหมากล้อมได้ ถูกต้นหลิวและเจ้าก้อนหินขัดขวางเสียตั้งแต่แรก
แต่ตอนนี้หมากล้อมได้เปิดใช้งานแล้ว เขาสามารถสำแดงพลังการต่อสู้ที่เหนือยิ่งกว่าเทียนตี้ระดับสูงสุดอย่างเต็มที ต้นหลิวและเจ้าก้อนจะต้องไม่อาจต้านทานได้แน่
เขาไม่เชื่อว่าต้นหลิวและเจ้าก้อนหินจะมีพลังเกินกว่าระดับสูงสุดของเทียนตี้ นอกจากนี้ตงฟางเวิ่นยังบอกว่าต้นหลิวและเจ้าก้อนหินไม่ได้แข็งแกร่ง เขาสามาถลงมือปราบปรามทั้งสองลงได้
“ทักษะหมากล้อมของตงฟางเวิ่นนั้นสูงล้ำอย่างยิ่ง จะต้องไม่ใช่คนเลวร้ายอย่างแน่นอน เขาไม่น่าจะโกหกข้า คงดูได้จากการเดินหมาก และการเดินหมากก็บ่งบอกทักษะหมากล้อม”
เขาเชื่อมั่นในตัวตงฟางเวิ่นเป็นอย่างมาก
ในความคิดของเขาแล้ว ตงฟางเวิ่นผู้มีทักษะหมากล้อมสูงล้ำ ย่อมไม่ใช่คนเลวร้าย นอกจากนี้เขายังเห็นว่าตงฟางเวิ่นดูเห็นอกเห็นใจเขาจากใจจริง เกลียดชังสิ่งที่ต้นหลิวและเจ้าก้อนหินกระทำ ดังนั้นตงฟางเวิ่นจะต้องไม่โกหกเขาแน่
ขณะเดียวกัน ตงฟางเวิ่นที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดก็ตื่นเต้นจนแทบทนไม่ไหว
เขารู้ว่า ‘จุดสูงสุดของเรื่องราว’ ใกล้เข้ามาแล้ว จักรพรรดิหวงหลงกำลังจะถูกทุบตี!
‘น้องชาย อย่าได้กล่าวโทษข้าเลย เจ้าคงทนปล่อยให้ข้าถูกทุบตีเพียงผู้เดียวไม่ได้ใช่หรือไม่ มีเจ้ามารับช่วงต่อนับเป็นเรื่องดียิ่ง อย่างไรเสียเจ้าก็เป็นผู้ที่มีประสบการณ์!’
เขากล่าวขึ้นมาในใจ
เมื่อคิดว่าเขาถูกทุบตีมามากเท่าไหร่ ก็พลันต้องการให้พวกมันเปลี่ยนเป้าหมายไปทุบตีจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงได้สำเร็จ!
อีกด้านหนึ่ง ต้นหลิวและเจ้าก้อนหินต่างไม่รู้เรื่องราวอันใด ดังนั้นจึงสงสัยอย่างมากว่าเหตุใดจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงจึงเรียกกระดานหมากล้อมขึ้นมา?
“นี่คือของขวัญที่เจ้านำมาอย่างนั้นหรือ?” เจ้าก้อนหินถาม
“ของขวัญ? ของขวัญบ้านเจ้าสิ!”
จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงระเบิดอารมณ์ขึ้นมาทันที เขาไร้ซึ่งความกลัวเกรง หลังจากเกมหมากล้อมเริ่มขึ้นแล้ว เขาก็สามารถควบคุมได้ทั่วทั้งสนาม ยังต้องเกรงกลัวสิ่งใดอีก!
เขาชี้นิ้วสบถเสียงดังใส่เจ้าก้อนหิน “เจ้ามันก็แค่หินก้อนหนึ่ง ครั้งก่อนกลับกล้ามาทุบข้าจนแทบแหลก! เจ้ายังคิดว่าจะได้ของขวัญอีกอย่างนั้นหรือ?”
หลังจากนั้นเขาก็เบนสายตาไปหาต้นหลิว ชี้นิ้วสบถด่ายกใหญ่ไม่ต่างกัน “แล้วก็เจ้า ครั้งก่อนเจ้าเองก็ทุบตีข้าจนหลังแทบเละ คิดจริง ๆ หรือว่าข้ามาที่นี่เพื่อขอบคุณพวกเจ้าจริง ๆ!? คิดเพ้อเจ้อไร้สาระ!”
เขาตะโกนออกมาไม่หยุด ภายในใจรู้สึกมีความสุขอย่างยิ่ง เข้าเฝ้ารอวันนี้มานานเหลือเกิน ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง
“วันนี้ ในที่สุดข้าก็กลับมาแล้ว มาสะสางความแค้นของพวกเรากันเถอะ! เจ้าไม่ได้ชื่นชอบจะใช้กิ่งหลิวทุบตีผู้อื่นอย่างนั้นหรือ? ได้ วันนี้ข้าจะทำให้เจ้าได้ทุบตีจนพึงพอใจ! ข้าจะเอากิ่งหลิวของเจ้าไปทุบก้อนหินจนแหลกลาญ!”
ยิ่งพูดเขาก็ยิ่งตื่นเต้น ก่อนจะหันไปกล่าวกับเจ้าก้อนหินต่อทันที “เจ้าเองก็ไม่ใช่ชอบทุ่มตัวเองใส่ผู้อื่นอย่างนั้นหรือ? วันนี้ข้าเองก็จะทำให้เจ้าพึงพอใจด้วย! ข้าจะใช้เจ้าทุ่มใส่ต้นหลิว เพื่อดูว่าระหว่างพวกเจ้าสองคนผู้ใดแข็งแกร่งกว่ากัน!”
อีกด้านหนึ่ง ตงฟางเวิ่นที่ซุ่มซ่อนตัวดูอยู่ในระยะไกลเองก็ได้ยินถ้อยคำที่จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงกล่าว หัวใจของเขาแทบจะหยุดเต้นในทันที!
บัดซบ ไม่ว่าเจ้าจะกล้าแค่ไหนก็ไม่อาจบ้าคลั่งเช่นนี้ได้!
เขาเอามือลูบหน้าผากตนเอง กล่าวขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ “น้องชายที่แสนดี ข้าทำได้แต่ภาวนาไม่ให้เจ้าถูกต้นหลิวและเจ้าก้อนหินทุบตีจนตาย!”
ยอดเยี่ยมยิ่งนัก ถึงกับกล้าพูดเช่นนี้!
จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงกลัวตนเองจะไม่ถูกต้นหลิวกับเจ้าก้อนหินทุบตีอย่างนั้นหรือ?
สนุกปาก แต่เป็นร่างกายที่ต้องทนทุกข์!
เขาทำได้เพียงแต่สวดภาวนาให้จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงอย่างเงียบงันภายในใจ
แม้เขาจะไม่รู้ว่าต้นหลิวและเจ้าก้อนหินแข็งแกร่งถึงเพียงใดกันแน่ แต่ที่ทราบแน่คือช่องว่างระหว่างพวกมันทั้งสองกับเขานั้นกว้างใหญ่เกินไป
ด้วยคำพูดของจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงแล้ว เกรงว่าเขาจะต้องย้ำแย่มากแน่ ๆ…