บทที่ 578 ปลามังกรฝูงใหม่มาถึง หรือประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย?
สตรีโฉมสะคราญนางหนึ่งในชุดขาวผ่องดั่งหิมะเยื้องย่างอยู่ในอวกาศ นางมิได้ก้าวยาวเท่าใด แต่กลับก้าวข้ามดวงดาวได้หลายดวง ประกายเซียนกระจายลงไปเป็นพัลวัน
เพราะร่างกายของนางยังฟื้นพลังได้ไม่เต็มที่นัก ถึงได้จงใจชะลอฝีเท้า เพื่อคืนสภาพระหว่างทาง หากมิใช่เช่นนั้น นางสามารถไปถึงได้โดยการตั้งจิตเพียงครั้งเดียว และสามารถไปที่ไหนก็ตามที่นางปรารถนา
บุคลิกของนางค่อนไปทางเย็นชา งามพิลาศไร้ผู้ใดทัดเทียม เคยถูกขนานนามว่าจักรพรรดินีงามวิไล ทิ้งตำนานยิ่งใหญ่ไว้มากมาย มิใช่บุคคลที่คนสามัญจะเปรียบเทียบด้วยได้
“เมื่อไปถึงที่นั่น ข้าจะคืนสภาพได้อย่างสมบูรณ์”
นางพึมพำกับตัวเองอีกประโยค เป็นจักรพรรดินีอนันตกาลนั่นเอง
…
นอกเมืองชิงซาน ริมน้ำ
จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงและตงฟางเวิ่นสภาพอนาถไม่แพ้กัน พวกเขาถูกต้นหลิวและก้อนหินห้อยหัวหวดเฆี่ยน ได้รับบาดเจ็บสาหัสทั้งทางร่างกายและจิตใจ การหวดเฆี่ยนจากต้นหลิวและก้อนหินไม่เพียงแต่มีผลต่อร่างกายพวกเขา ซ้ำยังมีผลกับวิญญาณพวกเขาอีกด้วย
รสชาตินั้นอย่าให้เอ่ยเลยว่าทรมานปานใด
สุดท้าย ต้นหลิวปล่อยจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงและตงฟางเวิ่นลงมา
“ข้าเห็นว่าเป็นพวกเจ้าหรอกนะ หากเป็นผู้อื่น คงตายไปนานแล้ว!”
ก้อนหินเอ่ยเสียงไม่สบอารมณ์
“เข้าใจแล้ว ๆ!”
“ข้ามิกล้าแล้วจริง ๆ หลังจากนี้!”
จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงและตงฟางเวิ่นรีบบอก รู้ดีว่าก้อนหินมิได้ขู่พวกเขา หากแต่พูดความจริง พวกเขาสัมผัสได้ว่าต้นหลิวและก้อนหินระงับพลังไว้ มิฉะนั้นพวกเขาคงตายไปนานแล้ว!
“ลาก่อนทั้งสองท่าน ข้าขอไปเยี่ยมเยียนคุณชายก่อน!”
จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงไม่อยากอยู่ที่นี่ต่อแม้แต่เสี้ยวอึดใจเดียว เขารีดเร้นพลัง ฟื้นฟูอาการบาดเจ็บของร่าง ไม่นานนัก ก็คืนสภาพกลับมาดีดังเดิม ไม่เหลือบาดแผลแม้แต่น้อย
เขาไฉนเลยจะกล้าไปพบคุณชายด้วยร่างอันบอบช้ำ
มิเป็นการเอาเรื่องต้นหลิวและก้อนหินไปฟ้องซึ่งหน้าหรือ?
เขาไม่กล้า!
“ร้อนใจกระไร คุณชายไม่อยู่ในเมือง ออกนอกเมืองไปยังมิได้กลับมา”
ต้นหลิวเอ่ย มันเห็นคุณชายแบกคันศรออกไปล่าสัตว์
“หา เช่นนี้หรอกหรือ ถ้าอย่างนั้น ข้าจะรอคุณชายกลับมาที่นี่”
จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงอยู่ต่อ ทว่าความจริงไม่เต็มใจอย่างมาก เขาไม่อยากอยู่กับต้นหลิวและก้อนหินไปนานกว่านี้เลย
ทว่ายังดี ผ่านไปไม่นาน คุณชายก็กลับมา
“สวัสดีคุณชาย!”
จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงรีบวิ่งเข้าไปทักทายคุณชาย
หลี่จิ่วเต้าทอดมองจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลง เริ่มแรกยังคิดไม่ออกว่าจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงคือผู้ใด นึกอยากถามดูเสียหน่อย แต่ต่อมาเขาก็นึกออก
“อ้อ ท่านเองหรือ”
หลี่จิ่วเต้าคลี่ยิ้ม เขาคือผู้เฒ่าซึ่งหลงใหลในการเล่นหมากล้อมผู้หนึ่ง เคยใคร่ครวญหาวิธีแก้กระดานอยู่ริมลำธาร ทว่าอย่างไรก็แก้มิได้ ต่อมา เขาสามารถแก้ได้ในหมากเดียว เปลี่ยนกระดานทางตันนั้นเป็นกระดานที่เล่นต่อได้อีกครั้ง
“มาเถิด มาสนทนากันที่ลานของข้า”
เขาพาจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงไปจากที่นี่
ตงฟางเวิ่นมิได้อยู่ที่นี่ เขาแยกตัวไปนานแล้ว ไม่ไปจะให้อยู่รอโดนหวดหรืออย่างไร เขาหาข้ออ้างหนีไป เหลือจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงรออย่างตัวสั่นขวัญผวาอยู่เพียงผู้เดียว
“จริงสิ ยังไม่เคยถามเลยว่าท่านชื่ออะไร”
ระหว่างทาง หลี่จิ่วเต้าถามจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงยิ้ม ๆ
คุณชายไม่รู้ชื่อเขาหรือ
จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงเคลือบแคลงใจขึ้นมาแวบหนึ่ง
ทว่าไม่นาน เขาก็ขจัดความสงสัยในใจจนหมดสิ้น
ไม่เห็นหรือว่าลำพังต้นหลิวที่คอยบดบังฟ้าฝนให้คุณชาย และก้อนหินที่คอยเป็นที่นั่งให้คุณชายยามตกปลายังได้รับผลประโยชน์มหาศาล แข็งแกร่งน่าพรั่นพรึงขึ้นเป็นหนักหนา ขอบเขตลึกล้ำเกินหยั่ง
คุณชายย่อมต้องสูงส่งลึกล้ำยิ่งกว่า ไฉนเลยจะไม่รู้ว่าเขามีนามว่ากระไร
ทั้งที่คุณชายรู้อยู่แล้วว่าเขามีนามว่าอะไรแต่ยังถามเขาเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าเขาได้รับการยอมรับจากคุณชายแล้ว มีสิทธิ์ทิ้งนามไว้กับคุณชาย!
คิดมาถึงนี่ เขาตื้นตันใจเป็นหนักหนา
ความพยายามรับใช้คุณชายในแดนสังสารวัฏของเขา คุณชายมองเห็นทั้งหมด และให้การยอมรับเขา ในที่สุด เขาก็ได้เป็นคนของคุณชายจริง ๆ แล้ว!
“ข้ามีนามว่าหวงหลงซื่อ!”
เขาบอกชื่อแซ่ตัวเองอย่างรวดเร็ว เรื่องอื่นมิกล้าพูดให้มากความ เขาทราบข้อห้ามของคุณชายดี
“หวงหลงซื่อ…ชื่อนี้ดียิ่ง”
หลี่จิ่วเต้าพยักหน้า รู้สึกว่าชื่อหวงหลงซื่อมีความหมาย
พวกเขาทะลุผ่านถนนหนทาง กลับมาถึงลานเล็ก
“คุณชายกลับมาแล้ว”
ลั่วสุ่ยออกไปต้อนรับทันที พร้อมรับคันศรเล่มใหญ่ และกระบอกธนูของคุณชายไว้
นางกลับจากเส้นทางได้พักใหญ่แล้ว มัจฉาสัตมายาและเต่าชราก็เช่นกัน เวลานี้ต่างทอดกายอยู่ในบ่อน้ำ
จอบเซียนไวยิ่งกว่านั้น บัดนี้กำลังอิงกำแพงเงียบ ๆ
หลี่จิ่วเต้ากลับจากการล่าสัตว์ แต่ไม่ได้เหยื่อกลับมา ทว่าก็ไม่ได้หมายความว่าเขาล่าสัตว์ไม่ได้ ตรงกันข้าม เขาล่าสัตว์จากเขาชิงซานมาได้ไม่น้อย เพียงแต่ไม่ได้นำกลับมาด้วย ยกให้นายพรานอื่นบนเขาชิงซานแทน
เนื้ออสูรใน ‘ตู้เย็น’ ยังเหลืออยู่อีกมาก เขานำเหยื่อเหล่านั้นกลับมาก็เสียเปล่า กินไม่หมด เพราะอย่างนั้น เขาจึงยกให้นายพรานทั้งหมด
หลังจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงเข้ามาในลานเล็ก ก็สะท้านใจอย่างยิ่งยวด
เขาไม่เคยคิดเลยว่าในโลกนี้มีสถานที่สูงส่งวิเศษเยี่ยงนี้ ในสายตาของเขา น่ากลัวว่าภพเซียนยังมิอาจเทียบได้กับที่นี่เลย
พลังปราณที่ไหลเวียนอยู่ในลานเล็กชวนให้ดื่มด่ำนัก รู้สึกเหมือนถูกสสารสูงส่งห่อหุ้มอยู่ทั้งร่าง แต่ละด้านล้วนพัฒนาพุ่งพรวด
เขาปรายตามองบ่อน้ำ สะท้านใจยิ่งขึ้น
เขามอมีปราณโกลาหลแผ่ซ่านอยู่รอบ ๆ เขาสัมผัสได้ถึงแก่นกำเนิดบริสุทธิ์ของสรรพสิ่งในใต้หล้า เขารู้ว่านี่คือความโกลาหลที่อยู่เหนือประการทั้งปวง วิวัฒน์สรรพสิ่งออกมา เป็นพลังที่มหัศจรรย์ยิ่งกว่าพลังเซียนเสียอีก!
“คนหลังเขา!”
“ดูท่าทางไม่เคยเปิดหูเปิดตาของเขาสิ!”
ภายในบ่อน้ำ ปลาใหญ่รูปลักษ์งดงาม เกล็ดสีทองอร่ามหลายตัวรวมตัวเข้าด้วยกัน สนทนาภาษาปลากันบุ๋งบุ๋ง สื่อสารกันไปมา วาจาเปี่ยมไปด้วยความดูแคลนจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลง
พวกมันล้วนเป็นปลามังกร เป็นปลาที่มาใหม่ มีสายเลือดเฉกเช่นเดียวกับปลามังกรที่ถูกหลี่จิ่วเต้าแบ่งทำเป็นอาหารสามจาน ถือเป็นเผ่าพันธุ์เดียวกัน
พวกมันล้วนถูกหลี่จิ่วเต้าตกขึ้นจากภพเซียนเทียม
หลี่จิ่วเต้ารู้สึกว่าปลามังกรมีรูปลักษณ์งดงาม นึกอยากตกเพิ่มอีกสามสี่ตัวมาเลี้ยงไว้ หนก่อนคราวหลิงอินเข้ามาสนทนาเรื่องเส้นทางกับลั่วสุ่ย หลี่จิ่วเต้าก็ไปตกปลามังกรมา
เริ่มแรก ปลามังกรเหล่านี้เชื่อฟังเป็นอย่างดี ทว่าเมื่อเวลาผ่านไป ปลามังกรเหล่านี้ก็เริ่มใจกล้าขึ้นเรื่อย ๆ
เพราะคุณชายให้ความสำคัญพวกมันเป็นอย่างมาก ต้องมาป้อนอาหารพวกมันในทุก ๆ วัน หยอกเย้าพวกมัน พวกมันไม่เหลือความหวาดผวาอย่างคราแรก
ภายในบ่อน้ำ มัจฉาสัตมายาได้ยินเสียงหัวเราะเยาะเย้ยดูแคลนจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงของเหล่าปลามังกร เกินคาดมันไปนิดหน่อย
ปลามังกรที่เคยเชื่อฟังว่าง่ายถึงเพียงนั้น เหตุใดได้รับความโปรดปรานจากคุณชายแล้วถึงเย่อหยิ่งผยองได้ปานนี้ ไม่เห็นผู้อื่นอยู่ในสายตาอีกต่อไป!?
ท่าทางเสมือนคางคกขึ้นวอ…
‘เพราะมีสายเลือดเหมือนกันหรือ’
มันคิดในใจ รู้สึกว่าปลามังกรเหล่านี้เริ่มมีแนวโน้มกลายไปเป็นอย่างปลามังกรตัวนั้น
มันนึกในใจว่า ปลามังกรเหล่านี้อย่าได้กลายเป็นอย่างปลามังกรตัวนั้นเลย มิฉะนั้น จุดจบที่รอคอยปลามังกรเหล่านี้อยู่ ย่อมเป็นเฉกเช่นปลามังกรตัวนั้น ถูกคุณชายนำไปปรุงเป็นอาหารสามอย่าง หรืออาจมากกว่านั้นด้วยซ้ำ!
คุณชายชอบวิธีการเช่นนี้เป็นที่สุด
“อย่าได้เย้ยหยันผู้อื่นตามอำเภอใจเยี่ยงนี้ เมื่อคราวเพิ่งมาเยือนลานเล็กของคุณชาย พวกเราทุกคนล้วนเป็นเช่นนี้มิใช่หรือ”
มัจฉาสัตมายาเตือนปลามังกรเหล่านี้ด้วยความหวังดี ไม่อยากเห็นปลามังกรเหล่านี้กลายไปเป็นเช่นปลามังกรตัวนั้น
“เจ้าไม่ต้องมายุ่ง!”
“ดูแลตัวเจ้าเองให้ดีก็พอ!”
หารู้ไม่ ปลามังกรเหล่านั้นไม่เห็นค่าสักนิด พวกมันสุมหัวด้วยกัน กีดกันมัจฉาสัตมายามิให้เข้าเป็นพวก
มัจฉาสัตมายาเตือนด้วยความหวังดี แต่กลับถูกฉะกลับ มันขี้เกียจจะว่ากล่าวคำใดกับปลามังกรเหล่านี้อีก มันมิได้มีนิสัยชอบเข้าหาปานนั้น พะเน้าพะนอทั้งที่อีกฝ่ายหมางเมิน
“มา ๆ นั่งเถิด”
หลี่จิ่วเต้าเชื้อเชิญจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงเข้าไปนั่งในศาลา