บทที่ 577 ต้นหลิวและเจ้าก้อนหินช่างไร้เหตุผล!
จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงไม่มีการยับยั้งใด ๆ สบถด่าสาปแช่งทุกคำที่อยู่ภายในใจออกมา รู้สึกสุขสมอิ่มเอมจนไม่อาจบรรยายออกมาได้
ต้นหลิวและเจ้าก้อนหินเองก็ไม่คาดคิดว่าจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงจะแสดงท่าทีเช่นนี้โดยสิ้นเชิง!
“เจ้า…จริงจังหรือ?”
เจ้าก้อนหินอดส่งเสียงถามจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงไม่ได้
บัดซบ จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงคิดจริงหรือว่าจะสามารถเอาชนะพวกมันได้ด้วยพลังของหมากล้อม?
นี่ไม่น่าตลกเกินไปหน่อยหรือ…
ด้วยพลังที่แผ่ออกมาจากกระดานหมากล้อมนี่ เกรงว่ามันขยับเพียงเล็กน้อยก็จะสามารถทำลายลงได้อย่างง่ายดาย จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงช่างผยองในตนเองเสียจริง
“พูดจาอะไรไร้สาระ ข้าย่อมต้องจริงจังอยู่แล้ว!”
จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงยังคงเอ่ยตรง ๆ อย่างไม่กังวลสิ่งใด เขามองไปที่เจ้าก้อนหินพร้อมพูดต่อ “อะไร เจ้ากลัวจนอยากร้องขอความเมตตาอย่างนั้นหรือ? ข้าจะบอกเจ้าเอาไว้ ว่าอ้อนวอนไปก็ไร้ค่า วันนี้ข้าจะต้องสั่งสอนบทเรียนพวกเจ้าให้ได้!”
เกมหมากล้อมถูกเปิดขึ้นมาแล้ว ปกคลุมทั่วทั้งบริเวณ ทำให้เขามีความมั่นใจเป็นอย่างมาก ต้นหลิวและเจ้าก้อนหินจะต้องถูกเขาปราบปรามได้แน่
“อ้อนวอน?”
ขณะนั้นต้นหลิวก็เอ่ยขึ้นมา
ลำต้นของมันสั่นไหวเบา ๆ ก่อนจะมีกิ่งหลิวพุ่งออกไปใส่กระดานหมากล้อมที่ลอยสูงเสียดฟ้า
ตู้ม!
ทันทีที่กระทบกิ่งหลิว หมากล้อมทั้งหมดก็ระเบิดออกทันใดโดยที่ต้นหลิวไม่ได้รับบาดเจ็บอันใด กระทั่งใบไม้ยังไม่ร่วงหล่นสักใบ
“เอ๊ะ?”
จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงตกตะลึงจนตาค้าง ทั้งหน้าดำคล้ำเสียยิ่งกว่าก้นกระทะเหล็ก
นี่มันอะไรกัน!?
ไม่ใช่ว่าต้นหลิวกับเจ้าก้อนหินไม่แข็งแกร่งหรอกหรือ?
เขาอยากจะเรียกตงฟางเวิ่นมาจริง ๆ จากนั้นก็ตบปากแล้วถามตงฟางเวิ่นว่านี่เรียกไม่แข็งแกร่งอย่างนั้นหรือ!?
เพื่อความปลอดภัย ยามเขาเรียกหมากล้อมออกมาจงได้ใช้พลังผลักดันมันให้แข็งแกร่งถึงขีดสุด หมากล้อมกระดานนี้กระทั่งเทียนตี้ระดับสูงสุดพยายามอย่างสุดชีวิตก็ไม่อาจทำลายมันลงได้
แต่ต้นหลิวเล่า?
ต้นหลิวเพียงแค่ใช้กิ่งหลิวกิ่งเดียวก็สามารถทำลายกระดานหมากล้อมของเขาได้ภายในพริบตาเดียว ความต่างชั้นระหว่างเขากับต้นหลิวนั้นอยู่เหนือเกินกว่าที่จะสามารถจินตนาการได้!
ต้นหลิวสามารถจัดการเขาได้แบบง่ายดายอย่างไม่ต้องสงสัย
นอกจากนั้นแล้วด้านข้างก็ยังมีเจ้าก้อนหินที่แข็งแกร่งไม่น้อยไปกว่าต้นหลิว!
เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะสามารถเป็นคู่มือ ไม่แม้กระทั่งขัดขืนได้สักนิด!
“ตงฟางเวิ่นสมควรตาย ข้าถูกเจ้าขุดหลุมพรางใส่แล้ว! ข้าเชื่อในการเดินหมากของเจ้า ข้าเชื่อในตัวเจ้า สุดท้ายผลกลับออกมาเป็นเช่นนี้?”
จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงร่ำไห้ภายในใจ “พี่ชาย ข้าไม่ได้ทำอะไรเจ้าเลย ไยจึงขุดหลุมพรางใส่กันเช่นนี้!”
ตอนนี้ไม่ต้องสงสัยอะไรอีกต่อไป เป็นตงฟางเวิ่นที่จงใจขุดหลุมพรางใส่เขาอย่างแน่นอน
ตงฟางเวิ่นอาศัยอยู่ในเมืองชิงซาน เช่นนั้นแล้วจะไม่รู้ถึงความแข็งแกร่งของต้นหลิวและเจ้าก้อนหินได้อย่างไร?
ไม่มีทางเป็นไปได้!
ตงฟางเวิ่นจะต้องรับรู้ความแข็งแกร่งของต้นหลิวและเจ้าก้อนหิน ทว่าก็ยังกระตุ้นเขาให้มาสะสางความแค้นกับต้นหลิวและเจ้าก้อนหิน ตงฟางเวิ่นผู้นี้ไม่ใช่คนดี จิตใจดำมืด ชั่วร้ายเป็นอย่างมาก!
“พี่ต้นหลิว ท่านตีแบบเบามือลงหน่อยได้หรือไม่?”
เขามองต้นหลิวด้วยแววตาน่าสมเพช จากนั้นก็เบนสายตาไปทางเจ้าก้อนหิน “พี่ก้อนหิน ท่านทุ่มแบบเบามือลงหน่อยได้หรือไม่?”
“เจ้าพูดว่าอย่างไรนะ!”
“เจ้าพูดว่าอย่างไรนะ!”
ต้นหลิวและเจ้าก้อนหินส่งเสียงขึ้นมาพร้อมกัน
ก่อนหน้านี้จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงสบถด่าพวกมันเสียยกใหญ่ เช่นนั้นแล้วพวกมันจะปล่อยจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงไปง่าย ๆ ได้อย่างไร?
อย่าแม้แต่จะคิด!
หลังจากนั้น ต้นหลิวและเจ้าก้อนหินก็เริ่มลงมือ
กิ่งหลิวพุ่งเข้าใส่จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงในพริบตาเดียว จากนั้นก็หิ้วจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงขึ้นมา
ตามมาด้วยกิ่งหลิวอีกกิ่งฟาดใส่จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลง!
เจ้าก้อนหินเองก็เคลื่อนไหวเช่นกัน มันทุ่มตัวใส่จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงครั้งแล้วครั้งเล่า สภาพของจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงน่าสังเวชเป็นอย่างยิ่ง เนื้อแหลกเละ เลือดสาดกระเซ็น ปากส่งเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดอย่างต่อเนื่อง
ภายในใจของเขาอึดอัดคับข้องใจอย่างมาก เหตุใดเขาจึงดวงซวยนัก จึงต้องพบเจอคนไร้เมตตาจิตใจดำมืดถึงเพียงนี้!!!
“พี่ใหญ่ต้นหลิว พี่ใหญ่ก้อนหิน พวกท่านยกโทษให้ข้าด้วย หากต้องการกล่าวโทษผู้ใดก็เป็นคนชื่อตงฟางเวิ่น เขาคือผู้ที่สนับสนุนให้ข้ามาจัดการพวกท่าน บอกว่าพฤติกรรมของพวกท่านน่าโมโห ไม่อาจทนรับได้!”
ตงฟางเวิ่นตะโกนขึ้นมา
ตงฟางเวิ่นทำให้เขาลงเอยเช่นนี้ อย่างนั้นแล้วเขาก็จะไม่ปล่อยตงฟางเวิ่นไปแบบสบาย ๆ!
“ตงฟางเวิ่น?”
“เจ้านั่นก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้!?”
น้ำเสียงของต้นหลิวและเจ้าก้อนหินเย็นเยียบลง ดีมาก ตงฟางเวิ่นยังคิดร้ายกับพวกเขาอีกหรือ?
“ขายข้า? ข้ากล้าขุดหลุมพรางใส่เจ้า เช่นนั้นข้าย่อมไม่กลัวการถูกเจ้าขาย!”
อีกด้านหนึ่งด้านในมุมมืด ตงฟางเวิ่นมองมาอย่างไร้ความตื่นตระหนกแม้แต่น้อย
เขาเดินออกจากมุมมืดไปยังริมแม่น้ำสายเล็ก
“บังอาจ เจ้ากล้าคิดที่จะลอบโจมตีพี่ต้นหลิวและพี่ก้อนหิน เช่นนั้นข้าจะทนได้อย่างไร!”
เขาตวาดใส่จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงด้วยข้อแก้ตัวที่คิดไว้ก่อนนานแล้ว
“พี่ต้นหลิว พี่ก้อนหิน ไอ้สารเลวนี่ไม่มีเจตนาดี ถึงกับกล้าคิดจะจัดการกับพวกท่านทั้งสอง เช่นนั้นแล้วข้าจะทนได้อย่างไร? ย่อมไม่อาจทนได้! ดังนั้นข้าจึงจงใจบอกว่าพี่ต้นหลิวและพี่ก้อนหินไม่แข็งแกร่ง เพื่อล่อให้เขามาที่นี่”
ตงฟางเวิ่นเอ่ยกับต้นหลิวและก้อนหินอย่างชอบธรรม
จากนั้นเขาก็กล่าวต่อ “ความแข็งแกร่งของพี่ต้นหลิวและพี่ก้อนหิน ข้าย่อมรู้กระจ่างชัด คนผู้นี้ไม่อาจเป็นคู่ต่อสู่ของพวกท่านได้ ข้าจึงหลอกให้เขามาที่นี่เพื่อมอบให้ท่านทั้งสองจัดการ”
ทว่าตอนนั้นเองก็เกิดสิ่งที่เหนือความคิดเขาอย่างสิ้นเชิง กิ่งต้นหลิวฟาดเข้ามาอย่างรวดเร็วจนเขาหน้าทิ่มลงบนพื้น กินโคลนเข้าไปเต็มปาก
“เอ๊ะ?”
เขาตกตะลึง เหตุใดต้นหลิวจึงฟาดเขาด้วย? เขารู้สึกว่าสิ่งที่ตนเองเอ่ยออกไปนั้นสมเหตุสมผลและฟังขึ้น
“ข้ารู้สึกว่าความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น”
ต้นหลิวรู้สึกว่าความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานอันใดก็ตาม ทว่ามันก็ไม่คิดจะหาหลักฐาน เพียงแค่ฟาดไปประเดี๋ยวตงฟางเวิ่นก็สารภาพความจริงในภายหลังเอง
มันเชื่อในความรู้สึกของมัน และความรู้สึกของมันก็ไม่เคยผิดพลาด
หลังจากนั้นกิ่งหลิ่วก็พุ่งเข้ามา หิ้วตัวของตงฟางเวิ่นขึ้นไปแขวนเอาไว้
“ข้าเองก็รู้สึกเหมือนกัน!” เจ้าก้อนหินกล่าวเสริม
สิ่งที่เกิดขึ้นกับจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงเมื่อสักครู่ ได้เกิดขึ้นอีกครั้งกับตงฟางเวิ่นในตอนนี้
ต้นหลิวและเจ้าก้อนหินพากันทุบตีอย่างต่อเนื่องจนตงฟางเวิ่นได้แต่สงเสียงกรีดร้องออกมาอย่างน่าสมเพช
“สมควรแล้ว!”
จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงหัวเราะออกมาดังลั่น เขาเองก็รู้สึกได้ว่าสิ่งที่ตงฟางเวิ่นกล่าวไม่ใช่ความจริง เขารู้สึกได้ว่าตงฟางเวิ่นจงใจขุดหลุมพรางใส่เขา!
ตงฟางเวิ่นถูกแขวนเอาไว้แล้วทุบตี สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกสบายใจขึ้นเป็นอย่างมาก อดรู้สึกสุขสมขึ้นมาไม่ได้
ตงฟางเวิ่นคาดไม่ถึงจริง ๆ ว่าต้นหลิวและเจ้าก้อนหินจะไร้เหตุผลถึงเพียงนี้ เห็นได้ชัดว่าไม่มีหลักฐานอันใดแต่ก็ยังคงทุบตีเขาเช่นนี้ เขาช่างน่าเวทนาเหลือเกิน!
ถ้ารู้ว่าจะเป็นเช่นนี้ตั้งแต่แรก เขาคงไม่วางหลุมพรางใส่จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงอย่างแน่นอน ที่เขาวางหลุมพรางใส่จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงก็เพราะเขาคิดว่าตนเองจะรอดพ้นจากเรื่องนี้
แต่ใครจะรู้เล่าว่าสุดท้ายแล้วเขาก็ยังหนีไม่พ้น!
หากต้นหลิวและเจ้าก้อนหินมีหลักฐานก็แล้วไปเถอะ แต่นี่ต้นหลิวและเจ้าก้อนหินไม่มีหลักฐานใด ๆ เขารู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรรม ทั้งยังไม่เต็มใจเป็นอย่างยิ่ง!
“ข้าพูดแล้ว ข้าพูดแล้ว!”
ในท้ายที่สุดเขาก็ไม่อาจทนไว้ เอ่ยสารภาพทุกอย่างออกมา บอกว่าเขาจงใจขุดหลุมพรางใส่จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลง โดยต้องการเห็นสภาพน่าขบขันของจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลง และให้กลายเป็นตัวแทนการถูกทุบตีแทนเขา
สุดท้ายเขาก็ถูกทุบตีรุนแรงยิ่งกว่าเดิม
หลังจากสั่งสอนจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงและตงฟางเวิ่นแล้ว ต้นหลิวกับเจ้าก้อนหินก็ถึงยอมปล่อยทั้งสองคนไป
“หากวันข้างหน้ายังกล้าทำเช่นนี้อีก คราวหน้าจะไม่เบามือกับพวกเจ้าแบบวันนี้แน่!”
เจ้าก้อนหินกล่าวอย่างดุร้าย
“ไม่กล้าแล้ว ไม่กล้าแล้ว!”
“จะไม่มีครั้งต่อไปอีกแล้ว!”
จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงกับตงฟางเวิ่นกล่าวทั้งน้ำตา
…
ภายในจักรวาลหมื่นดารา ร่างงดงามอย่างถึงที่สุดเดินทางผ่านดวงดาวนับไม่ถ้วนด้วยความรวดเร็ว ร่างกายรายล้อมด้วยแสงเซียน เมินเฉยต่อความกดดันของจักรวาลหมื่นดารา เดินท่องไปในอากาศราวกับกำลังอยู่บนพื้น
“ใกล้ถึงแล้ว…”
นางพึมพำกับตนเองยามใกล้ถึงอาณาจักรอันเป็นที่ตั้งของแดนบรรพโกลาหล