บทที่ 579 หลี่จิ่วเต้า ‘ผู้เฒ่าหวง ท่านต้องหัดเป็นฝ่ายรุกบ้าง!’
หลี่จิ่วเต้าและจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงเข้ามานั่งในศาลา ลั่วสุ่ยยกน้ำชาเข้ามา หลี่จิ่วเต้ารินน้ำชาถ้วยหนึ่งให้จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลง
หลังดื่มน้ำชาลงไปอึกหนึ่ง จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงยิ่งรู้สึกคุ้มค่า ที่เขาพยายามทำหน้าที่ในแดนสังสารวัฏสุดชีวิต มิได้ไม่มีผู้ใดสนใจ มิได้ไม่มีผู้ใดรับรู้ อย่างน้อยคุณชายรับรู้ นี่อย่างไร มีการให้รางวัลเขาแล้ว
พลังที่เจืออยู่ในน้ำชาแทบเกินกว่าที่เขาจะจินตนาการออก ชาเซียนก็คงเท่านี้เองกระมัง
พลังแต่ละด้านในกายเขาล้วนถูกกระตุ้น มีการผกผัน เขาสัมผัสถึงรสชาติแห่งวัยเยาว์ พลังชีวิตทวีคูณมหาศาล คล้ายว่าสามารถย้อนเวลากลับไปในวัยเยาว์ ความรู้สึกนั้นวิเศษเป็นที่สุด
หลี่จิ่วเต้าและจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงสนทนาสัพเพเหระไปสักครู่ แล้วจึงให้ลั่วสุ่ยยกกระดานหมากล้อมเข้ามา หมายจะเล่นหมากล้อมกับจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงสักตาสองตา
“ได้!”
ลั่วสุ่ยยกกระดานและหมากเข้ามา ตั้งวางบนโต๊ะในศาลา
จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงเต็มตื้นอย่างยิ่งยวด เขารู้ว่าคุณชายต้องการชี้แนะเขา
หลังเริ่มตาเดิน หลี่จิ่วเต้าให้จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงเดินหมากก่อน เขาประมือกับจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงอยู่สองสามตาเดิน ก็ชนะจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงได้
“ฝีมือเดินหมากไม่เลวนี่”
หลี่จิ่วเต้าออกความเห็นยิ้ม ๆ แม้ว่าเขาชนะจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงได้ในไม่กี่ตาเดิน ทว่า ผู้เชี่ยวชาญออกโรง ย่อมเห็นว่ามีกึ๋นหรือไม่ เขามองออกว่าจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงมีพื้นฐานหมากล้อมดีเยี่ยม และมีความเข้าใจในหมากล้อมล้ำเลิศ
หากเทียบกับตงฟางเวิ่น จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงเก่งกว่าตงฟางเวิ่นยามเล่นหมากล้อมกับเขาแรก ๆ มากโข
“มา ต่อกันเลย”
หลี่จิ่วเต้าเก็บตัวหมากกลับไป เล่นกับจักรพรรดิหมากล้อมต่ออีกกระดาน
จากหมากกระดานนี้ เขาดูออกว่าจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงมีพรสวรรค์ด้านหมากล้อมเยี่ยมยอด เห็นได้ชัดว่าได้บทเรียนจากกระดานก่อน ซ้ำยังเรียนรู้จากตาเดินเมื่อครู่ของเขาไปไม่น้อย
ข้อนี้ จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงเก่งกว่าตงฟางเวิ่น
เขาไม่สงสัยเลยว่า หากจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงได้รับการชี้แนะสั่งสอนจากเขา ความก้าวหน้าของจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงย่อมมากกว่าตงฟางเวิ่น สำเร็จได้สูงกว่า
“ไม่เลวเลย”
เขาเอ่ยยิ้ม ๆ จัดเรียงกระดานหมากใหม่ เริ่มเล่นกับจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงอีกครั้ง
กระดานแล้วกระดานเล่า อย่าให้พูดเลยว่าจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงสะท้านใจปานใด นี่หรือคือระดับวิถีหมากล้อมของคุณชาย?
เขาได้รับประโยชน์และก้าวหน้าได้อย่างมหาศาลในแต่ละตา และคิดว่าวิถีหมากล้อมที่คุณชายแสดงให้เห็นในแต่ละกระดานนั้นคือขีดสุดแล้ว แต่ต่อมา ถึงรู้ว่าความคิดของเขาโง่เขลาเพียงใด
วิถีหมากล้อมของคุณชายไร้ขีดจำกัดอย่างแท้จริง ขีดจำกัดที่รู้สึกได้ เป็นเพียงความรู้สึกของเขาฝ่ายเดียวเท่านั้น ยังห่างจากขีดจำกัดของคุณชายอีกไกล
หลี่จิ่วเต้าเล่นหมากล้อมกับจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงอยู่หลายตา และหลังจบไปอีกกระดาน ชายหนุ่มก็ขมวดคิ้วน้อย ๆ
เขาเอ่ย “พอมองออกว่าผู้เฒ่าหวงมีสภาวะจิตใจค่อนข้างมั่นคง ข้อนี้สะท้อนให้เห็นจากตาเดินหมากล้อม แน่นอนว่า ความมั่นคงนั้นดี ทว่าบางครั้ง มั่นคงเกินไปยิ่งง่ายต่อการเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด ควรต้องเป็นฝ่ายรุกบ้างเมื่อสบจังหวะ ชิงหัวใจสำคัญมาได้ แล้วถึงมีอำนาจควบคุมการวางหมากทั้งกระดาน”
จากนั้น เขายกตัวอย่างให้จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงโดยอ้างอิงจากกระดานหมากล้อมที่เล่นไปก่อนหน้านี้ ในกระดานก่อนหน้านี้ จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงมีโอกาสยึดจุดได้เปรียบกว่า ผลสุดท้ายกลับสูญเสียโอกาสเพราะฝักใฝ่ความมั่นคง กลับกลายเป็นทิ้งขว้างสถานการณ์อันได้เปรียบของตน จนนำไปสู่ความพ่ายแพ้
จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงพยักหน้ารัว ด้วยการยกตัวอย่างจากคุณชาย เขาพบจุดด้อยของตัวเอง เขาฝักใฝ่ในความมั่นคงเกินไปจริง ๆ กลับกลายเป็นสร้างความเสียเปรียบให้ตนเอง
หากมิได้คุณชายชี้ให้เห็น เขาคงยังไม่ตระหนักถึง
เดี๋ยวก่อน…
นี่จะเป็นคำสั่งที่คุณชายมีต่อเขาขณะชี้แนะฝีมือหมากล้อมของเขาไปด้วยหรือไม่
เขานึกไปถึงเหตุการณ์ในแดนสังสารวัฏ
ที่มาคราวนี้ นอกจากเยี่ยมเยียนคุณชาย เขายังคิดอยู่ว่าคุณชายจะมีรับสั่งอื่นใดหรือไม่
นึกถึงประสบการณ์คราวก่อนของเขา ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ คุณชายมิเคยเอ่ยสิ่งใดโจ่งแจ้ง กระทั่งครั้งก่อนที่ส่งเขาไปปฏิบัติหน้าที่ในแดนสังสารวัฏ คุณชายยังมิได้เอ่ยบอกเขา เพียงแต่เล่นหมากล้อมด้วยกระดานหนึ่งแล้วจากไป
บัดนี้ลองไตร่ตรองดูแล้ว เป็นไปได้ว่าหนก่อนคือบททดสอบเขาจากคุณชาย ทดสองดูว่าเขาเข้าใจความนัยได้หรือไม่ และทำภารกิจที่ได้รับมอบหมายได้ดีหรือไม่
เขาเข้าใจดี ทั้งยังสำเร็จลุล่วงในภารกิจที่คุณชายมอบหมายเขาได้เรียบร้อย ยามนี้ ก็ได้รับการยอมรับจากคุณชายเพราะเหตุนี้
“การเดินหมากล้อมเป็นเช่นนี้ ชีวิตคนเราหาได้ต่างออกไปไม่ การฝักใฝ่ความมั่นคงนั้นไม่ผิด เพียงแต่ไม่ควรพลาดโอกาสอันดี ควรเชี่ยวชาญในการเป็นฝ่ายรุก เช่นนี้จึงจะประสบความสำเร็จ”
หลี่จิ่วเต้าเอ่ยด้วยความสะท้อนใจ
หมากนั้นเสมือนชีวิต ชีวิตคนเราแตกต่างที่ไหน คนมากมายเสียโอกาสอันยอดเยี่ยมไปมากเพราะฝักใฝ่ความมั่นคงจนเกินไป
ความมั่นคงนั้นดีแล้ว กระนั้นไม่ควรใฝ่หาแต่เพียงความมั่นคงอย่างเดียว ควรต้องหัดเป็นฝ่ายรุกเสียบ้าง
เข้าใจแล้ว!
แจ่มแจ้งแล้ว!
นี่คือคำสั่งจากคุณชายจริง ๆ!
หลังได้ฟังคำกล่าวของคุณชาย จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงหมดสิ้นข้อกังขา หากถ้อยคำของคุณชายก่อนหน้านี้ยังชัดเจนไม่พอ เช่นนั้นท่อนหลังนี้เท่ากับเอ่ยกันซึ่งหน้า!
ชีวิตคนเราหาได้ต่างออกไปไม่!
ชีวิตคนเรา!
คุณชายกล่าวถึงชีวิตคนเราแล้ว ชัดเจนจนไม่อาจชัดเจนไปกว่านี้ได้อีกแล้ว!
“เป็นฝ่ายรุกหรือ?”
จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงท่องในใจ
คุณชายเน้นการเป็นฝ่ายรุกอยู่ตลอด แล้วการเป็นฝ่ายรุกที่ว่ามีความหมายอย่างไร?
เขายังคิดไม่ได้
“มา ๆ ต่อกันเถิด”
หลี่จิ่วเต้าคลี่ยิ้ม เล่นหมากล้อมกับจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงต่อ
ความสามารถในการเรียนรู้ของจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงนั้นเยี่ยมยอดอย่างแท้จริง เข้าใจได้ว่องไว ระหว่างการเล่นหมากล้อมหลังจากนั้น เห็นได้ชัดว่าจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงเปลี่ยนแปลงไปไม่น้อย ไม่เอาแต่ฝักใฝ่ในความมั่นคง รู้จักเป็นฝ่ายรุก ฝีมือหมากล้อมเก่งกาจขึ้นกว่าก่อนนี้เยอะมากอย่างเห็นได้ชัด
เวลาล่วงเลยผ่านไปเรื่อย ๆ ท้องฟ้าค่อย ๆ มืดลง
“ผู้เฒ่าหวงอยู่กินมื้อเย็นด้วยกันก่อนแล้วค่อยกลับเถิด หลังจบมื้อเย็น เราค่อยเล่นกันต่ออีกสักตาสองตา”
หลี่จิ่วเต้าขอให้จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงอยู่กินข้าวที่บ้าน
“ได้!”
จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงรีบพยักหน้ารับ แค่ชาถ้วยเดียวที่คุณชายให้เขาดื่มยังสูงส่งวิเศษปานนี้ มิได้ด้อยไปกว่าชาเซียน มื้อเย็นที่ได้กินย่อมต้องสูงส่งวิเศษยิ่งกว่าน้ำชานั้น
เขาเต็มตื้นยิ่งขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย รู้ดีว่าตนเองกำลังจะได้รับประโยชน์มโหฬาร
เดี๋ยวก่อน!
เวลานั้นเอง เขาพลันตระหนักถึงบางอย่าง
มาคราวนี้ คุณชายทั้งให้เขาได้ดื่มชาเซียน ทั้งชี้แนะฝีมือหมากล้อมให้เขารอบแล้วรอบเล่า ท้ายสุดยังรั้งให้เขาอยู่กินมื้อเย็นด้วยกันอีก
หลังเสร็จกิจทั้งหมดนี้ พลังของเขาย่อมต้องทวีคูณเป็นเท่าตัว!
คุณชายตั้งใจเพิ่มพูนความสามารถให้เขาหรือนี่!
มิฉะนั้น คุณชายไม่จำเป็นต้องรั้งให้เขาอยู่กินมื้อเย็นด้วยกัน ก่อนนี้ให้เขาดื่มชาเซียน ทั้งยังชี้แนะฝีมือหมากล้อมของเขารอบแล้วรอบเล่า รางวัลเท่านั้นเพียงพอแล้ว หรืออาจเกินควรด้วยซ้ำ
นี่ยังรั้งให้เขาอยู่กินมื้อเย็นด้วยกัน เขารู้สึกจากใจจริงว่ารางวัลที่คุณชายให้เขานั้นมากเกินไป เกินความจำเป็น!
เห็นได้ชัดว่า คุณชายหมายใจยกระดับพลังให้เขา
‘ยกระดับพลัง หัดเป็นฝ่ายรุก…’
เขาท่องเงียบ ๆ ในใจ ก่อนจะเข้าใจแจ่มแจ้ง
‘คุณชายตั้งใจให้ข้าเหนื่อยเพียงครั้งเดียว จัดการปัญหาในแดนสังสารวัฏจนราบคาบ!’
เขาคิดในใจ
คุณชายปรีชาสามารถทุกอย่าง ย่อมรู้ดีว่าเขามาด้วยเหตุอันใด
แม้ว่าบัดนี้ เขามีตำแหน่งสูงในแดนสังสารวัฏ แต่อย่างไรก็อยู่ใต้บัญชาผู้อื่น เบื้องบนยังมีสมาชิกระดับสูงคอยออกคำสั่ง และแดนบรรพโกลาหลใกล้ปรากฏออกมาในอาณาจักรนี้ อีกไม่นาน สมาชิกระดับสูงแห่งแดนสังสารวัฏก็จะมาเยือนอาณาจักรนี้ด้วย
เมื่อถึงครานั้น ประโยชน์ของเขาย่อมมีจำกัด สมาชิกระดับสูงในแดนสังสารวัฏจะบงการทุกสิ่ง
‘คุณชายยกระดับพลังข้าเพียงนี้ ซ้ำยังย้ำอยู่หลายหนว่าต้องหัดเป็นฝ่ายรุก หมายความว่าให้ข้าเป็นฝ่ายจู่โจมแดนสังสารวัฏใช่หรือไม่’
เขาเข้าใจแล้ว เอ่ยขึ้นในใจ
‘สังหารนายตำหนักหลัก ข้าก้าวขึ้นตำแหน่งนายตำหนักหลักด้วยตัวเอง!’
เขาแน่ใจในแผนการทันที
หลังเขาได้ครองตำแหน่งนายตำหนักหลัก ปัญหาทุกอย่างในแดนสังสารวัฏย่อมคลี่คลายลงในบัดดล