บทที่ 584 หรือว่าปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติจะดีกว่า!
ได้เห็นการฆ่าล้างตระกูลด้วยตาตนเอง หลี่จิ่วเต้าเข้าใจว่าซ่างกวนอิ๋งกำลังต้องการสิ่งใด แก้แค้น ทวงคืนความยุติธรรม ทั้งหมดก็เพื่อความศรัทธาให้ยึดมั่นในการมีชีวิตอยู่ต่อไป
นอกจากนี้ เขายังมีความชื่นชมต่อตัวซ่างกวนอิ๋ง
ซ่างกวนอิ๋งมีจิตใจดี ก่อนหน้านี้กลัวทำให้เขารับเคราะห์ไปด้วยจึงพยายามเกลี้ยกล่อมเขาให้จากไป หลังจากนั้นเมื่อเขาบอกว่าสามารถมอบพลังให้กับซ่างกวนอิ๋งโดยตรงได้ นางก็ไม่ยอมรับมันไป นี่แสดงให้เห็นภายในใจของซ่างกวนอิ๋น
สิ่งที่หาได้ยากเหล่านี้พบได้จากซ่างกวนอิ๋ง เป็นเหตุผลที่เขารู้สึกชื่นชมนาง
กล่างตามตรงแล้ว หากเขารู้วิธีการฝึกตน เขาก็ต้องการจะรับซ่างกวนอิ๋งมาเป็นศิษย์ของตนเองจริง ๆ
ทว่าเขาไม่รู้วิธีฝึกตน เลือกรับซ่างกวนอิ๋งเอาไว้ก็เป็นเพียงแค่การเสียเวลาโดยเปล่า
“หรือจะคืนชีพตระกูลซ่างกวนขึ้นมา?”
เขาคิดขึ้นมาในใจ ยังมีวิธีอีกวิธีหนึ่งในการแก้ปัญหานี้ นั่นก็คือการคืนชีพสมาชิกตระกูลซ่างกวนขึ้นมา
เขามีความสามารถมากพอจะทำเช่นนั้นอย่างแน่นอน ภายในโลกเสมือน ไม่มีสิ่งใดที่เขาทำไม่ได้ สามารถทำทุกสิ่งได้ตามต้องการ
ทว่าเขาก็ต้องสลัดความคิดนี้ทิ้งไป
สำหรับเขาแล้วทุกสิ่งบนโลกใบนี้ล้วนปลอมและว่างเปล่า มันเป็นเพียงแค่เกมสำหรับเขา แต่กับซ่างกวนอิ๋งและผู้ที่อาศัยอยู่ในโลกใบนี้แล้ว นี่คือโลกแห่งความจริงที่พวกเขามีชีวิตอยู่ ทั้งหมดล้วนเป็นประสบการณ์จริง เป็นสถานที่ที่พวกเขามีตัวตนดำรงอยู่
หลี่จิ่วเต้าตระหนักได้ในจุดนี้ดี ตัวเขานั้นเป็นเพียงแค่ผู้สัญจรไปมาในโลกใบนี้ เขาจะไม่เปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ตามใจชอบ
การคืนชีพตระกูลซ่างกวนขึ้นมาเป็นเรื่องง่ายดายสำหรับเขา เพียงแค่คิดก็สามารถทำได้ แต่หลังจากนั้นเล่า?
หากสมาชิกตระกูลซ่างกวนถูกฆ่าล้างอีกรอบ?
เขาก็ต้องมาคืนชีพให้ตระกูลซ่างกวนอีกครั้งหรือ?
นอกจากนี้ หากวันข้างหน้าเขาพบเจอเรื่องเช่นนี้ เขาจะต้อง…คืนชีพให้ทุกคนเลยหรือไม่?
หากทำเช่นนั้นแล้ว กฎเกณฑ์ของโลกใบนี้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ทั่วทั้งโลกจะได้รับผลกระทบครั้งใหญ่ หลังจากนั้นก็ยากจะคาดเดาว่าจะเกิดอะไรขึ้นตามมา
เขาไม่ต้องการจะทำให้เกิดเรื่องเช่นนั้น เขาไม่ต้องการเปลี่ยนกฎเกณฑ์ของโลกใบนี้
เมื่อพบกับความอยุติธรรม เขาจะไม่นิ่งดูดาย จะลงมือช่วยเหลือ แต่การกระทำของเขานั้นก็มี ‘ข้อจำกัด’ ไม่อาจเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ของโลกตามอำเภอใจ
การชุบชีวิตตระกูลซ่างกวนทั้งหมด ผมที่ตามมาหนักหนาจนเกินไป เกี่ยวพันกับเรื่องราวอื่นอีกเป็นจำนวนมาก ไม่ง่ายดายเหมือนการชุบชีวิตคนเพียงผู้เดียว
เขาถอนหายใจ ไม่พูดอะไรออกมาอีก เพียงแค่คิดร่างของเขาก็หายไปจากโลกนี้ในทันที
“ข้าทำอะไรให้ท่านขุ่นเคืองใจหรือ?”
เมื่อเห็นหลี่จิ่วเต้าหายไป ซ่างกวนอิ๋งก็ตื่นตระหนก นางคิดว่าตนเองทำให้อีกฝ่ายรู้สึกขุ่นเคือง
คิดดูให้ดีแล้ว อีกฝ่ายจะไม่ขุ่นเคืองใจได้อย่างไร ท่านผู้นี้แข็งแกร่งไร้ผู้ใดเปรียบ นางกลับเอาความปรารถนาของตนเองอยู่เหนือเหตุผล ต้องการเป็นศิษย์ ทั้งยังจะให้ท่านผู้นี้สั่งสอน นางช่างไม่รู้จักแยกแยะผิดชอบชั่วดี ไม่ประเมินตนเองเสียจริง!
กระทั่งตอนที่ท่านผู้นี้เสนอว่าจะมอบพลังให้ นางก็ยังปฏิเสธ เช่นนี้แล้วจะไม่ให้รู้สึกขุ่นเคืองขึ้นมาได้อย่างไร!?
แต่หากนางไม่สามารถทำให้ท่านผู้นี้ยอมสั่งสอนวิชาให้ นางก็ไม่รู้ว่าจะแก้แค้นได้อย่างไร
เป็นไปไม่ได้โดยสิ้นเชิง!
ตระกูลเฟ่ยยืนหยัดอยู่ในภพเซียนมาอย่างยาวนาน รอดพ้นผ่านกาลมานับไม่ถ้วน หากนางต้องการจะแก้แค้นและทวงคืนความยุติธรรมด้วยตัวเองเพียงลำพังผู้เดียว นี่ก็ไม่ต่างอะไรจากฝันกลางวันอันเป็นไปไม่ได้!
ตึง! ตึง! ตึง!
นางไม่กล่าวอะไรมาก เพียงแค่คุกเข่าโขกศีรษะลงบนพื้น นางไม่ต้องการจะยอมแพ้ นางยังต้องการให้ท่านผู้นี้สั่งสอนวิชาให้นาง
หลังจากเหล่าชายวัยกลางคนเห็นหลี่จิ่วเต้าจากไปแล้ว พวกเขาก็พากันหนีออกไปทันทีไม่กล้ารั้งรออยู่ที่นี่
สำหรับการสังหารซ่างกวนอิ๋งนั้น พวกเขาไม่ได้คิดเลยแม้แต่น้อย
ตลกน่า ด้วยความสามารถของคนผู้นั้น แม้ว่าตัวจะไม่ได้อยู่ที่นี่แล้วอย่างไร? หากต้องการจะสังหารพวกเขา เพียงแค่คิดก็ทำได้แล้ว
พวกเขาไม่ต้องการรนหาที่ตาย!
ในขณะเดียวกัน ความตื่นตกใจก็ระเบิดไปทั่วทั้งตระกูลเฟ่ย!
ประมุขตระกูลเฟ่ยถูกตีลอยกระเด็นกลับมาในพริบตาเดียว ชายหนุ่มผู้นั้นอยู่ในขอบเขตใดกันแน่?
กร๊อบ!
สีหน้าของประมุขตระกูลซีดขาว กระดูกทั่วทั้งร่างแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เลือดทะลักออกมาจากปาก ร่างของเขาดูเหมือนก้อนเนื้อและเลือด อวัยวะภายในร่างกายทั้งหมดแหลกลาญ!
จากส่วนลึกของตระกูลเฟ่ย มีร่างชราหลายคนทะยานออกมาหาประมุขตระกูล
ลมหายใจของพวกเขาน่ากวาดกลัวและทรงพลังยิ่งกว่าประมุขตระกูล พวกเขาคือ ‘เส้นสนกลใน’ และ ‘ผู้ค้ำจุน’ ที่แท้จริงของตระกูลเฟ่ย ทุกคนต่างอยู่ในกลุ่มผู้มีพลังการต่อสู้สูงสุดในภพเซียน!
“เกิดอะไรขึ้น?”
พวกเขาสอบถามประมุขตระกูล กลับไม่มีความตื่นตระหนก สีหน้าสงบนิ่งเป็นอย่างยิ่ง
หากเป็นผู้อื่นเมื่อได้เห็นประมุขตระกูลถูกเล่นงานจนสาหัสถึงเพียงนี้ คงเต็มไปด้วยความกังวลและโกรธเคือง แต่พวกเขาล้วนสุขุมไม่เห็นอารมณ์เหล่านั้นเลย
พวกเขาผ่านเรื่องราวมามากพอที่จะรู้ว่าความกังวลและความโกรธไม่อาจแก้ไขอะไรได้ รังแต่จะทำให้สิ่งต่าง ๆ แย่ลงไปอีก
“เกิดเรื่องร้ายขึ้นแล้ว!”
ประมุขตระกูลเอ่ยออกมาด้วยความยากลำบาก บอกเล่าเรื่องราวทุกอย่าง แม้ผู้เฒ่าเหล่านี้จะเต็มไปด้วยความสงบ แต่เมื่อได้ฟังสิ่งที่ประมุขตระกูลเล่าแล้ว ใบหน้าของพวกเขาก็พลันเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งแล้วครั้งเล่า
ชายหนุ่มคนนั้นเพียงโบกมือก็ตีส่งเหล่าผู้อาวุโสกลับมา เมื่อประมุขตระกูลไป ก็ถูกโบกมือไล่ตีกลับมาเช่นเดียวกัน
ไม่ต้องสงสัยเลย ขอบเขตของชายหนุ่มผู้นั้นจะต้องสูงล้ำเป็นอย่างยิ่ง อาจเท่าเทียมหรือกระทั่งแข็งแกร่งกว่าพวกเขาเสียด้วยซ้ำ
พวกเขาไม่พูดอะไร ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะมีคนเอ่ยออกมา “อยากให้ข้าไปดูหรือไม่?”
“ไม่ควร”
ประมุขตระกูลเอ่ย “เจตนาของเขาไม่ชัดเจน พวกเราไม่รู้ว่าเขาต้องการจะทำสิ่งใด แม้เขาจะตีส่งพวกเราทั้งหมดกลับมา แต่ก็ไม่ได้ลงมือสังหารผู้ใด ด้วยพลังของคนผู้นั้นย่อมสามารถทำได้อย่างง่ายดาย!”
อย่างไรเสียเขาก็เป็นประมุขปกครองตระกูลเฟ่ยมานานนับหมื่นปี แม้พลังจะไม่แข็งแกร่งเท่าผู้เฒ่าเหล่านี้ แต่ความคิดอ่านของเขาย่อมกว้างขวางล้ำลึกมากกว่า
“การไปยั่วยุคนผู้นั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่ใช่เรื่องดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อขอบเขตของเขาไม่กระจ่างชัด ทำให้พวกเราเสียเปรียบเป็นอย่างมาก พวกเราควรรออยู่ในตระกูลเงียบ ๆ เพื่อดูว่าเขาต้องการจะทำสิ่งใด!”
เขาเอ่ยต่อ “ในดินแดนของตระกูล พวกเราย่อมเข้าใจได้มากกว่า ทำให้มีความได้เปรียบมาก”
นับตั้งแต่ภพเซียนถูกสถาปนาขึ้นมา ตระกูลของพวกเขาก็ตั้งอยู่ที่นี่ เมื่อผ่านกาลเวลามานับไม่ถ้วน ตระกูลของพวกเขาก็ได้จัดการเสริมความแข็งแกร่งให้ดินแดนจนแกร่งยิ่ง หากคนผู้นั้นกล้ามาจริง ๆ ไม่ว่าจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็จะต้องถูกจัดการ เขาจึงหวังว่าชายผู้นั้นจะเข้ามาด้านในแดนของพวกเขา
“เป็นไปตามที่ประมุขว่า ในสถานการณ์อันไม่แน่นอน พวกเราก็ควรเตรียมเผชิญหน้ากับความเปลี่ยนแปลงเอาไว้”
“พวกเรามารอดูไปก่อน!”
คนอื่นต่างพยักหน้าและเอ่ยออกมา
…
เมืองชิงซาน
ด้านในลานเล็ก ๆ ของหลี่จิ่วเต้า
ล่วงเข้ายามดึกแล้ว ชายหนุ่มจึงเก็บ ‘แท็บเล็ต’ แล้วกลับเข้าห้องไปนอน
สำหรับเรื่องของซ่างกวนอิ๋นนั้น เขากำลังอยู่ในระหว่างการครุ่นคิด ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าควรจะจัดการอย่างไร
บางทีการปล่อยไปให้ทุกอย่างดำเนินไปธรรมชาติอาจเป็นเรื่องที่ดีกว่า
ด้านในบ่อน้ำ เหล่าปลามังกรต่างตื่นตกใจ
พวกมันต่างเห็นคุณชาย ‘ควบคุม’ แดนเซียนด้วยตาตัวเอง ภายในใจของพวกมันตกตะลึงอย่างถึงที่สุด
ผู้คนที่ปรากฏขึ้นในภพเซียนต่างปกคลุมไปด้วยแสงเซียนวนเวียน เซียนด้านในล้วนเปล่งประกายอายุขัยไม่อาจกร่ำกราย ที่แห่งนั้นย่อมเป็นภพเซียนแท้จริงอย่างไม่ต้องสงสัย แตกต่างจากแดนเซียนที่พวกมันอาศัยอยู่โดยสิ้นเชิง!
ใช่แล้ว พวกมันเรียกอาณาจักรของพวกมันเองว่าแดนเซียน!
แน่นอน นี่เป็นสิ่งที่พวกมันเรียกขึ้นมากันเอง อย่างไรเสียอาณาจักรแห่งนั้นก็เป็นเพียงภพเซียนเทียม ไม่มีสสารนิรันดร์อยู่แม้แต่น้อย นามว่าเซียนเป็นสิ่งที่พวกมันแต่งตั้งขึ้นมาเอง
ตระกูลเฟ่ย พวกมันไม่รู้ว่าตระกูลนี้ทรงพลังมากเพียงใด ทว่าพวกมันก็ได้ยินว่าเป็นถึงหนึ่งในมหาตระกูลแห่งภพเซียน!
สามารถเป็นถึงหนึ่งในมหาตระกูลแห่งภพเซียนได้ ไม่ต้องสงสัยเลย ความแข็งแกร่งของตระกูลเฟ่ยจะต้องมากมายมหาศาล ความแข็งแกร่งโดยรวมไม่อาจดูเบาได้
แต่ต่อหน้าคุณชายแล้ว ตระกูลเฟ่ยนั้นเล็กจ้อยราวกับฝุ่นธุลี ยอดฝีมือพุ่งเข้าหาครั้งแล้วครั้งเล่า คุณชายก็สามารถแก้ไขได้ด้วยการโบกมือ ความแข็งแกร่งของคุณชายอยู่เหนือความคาดหมาย ไกลเกินกว่าจะจินตนาการถึง!
พวกมันคิดถึงซ่างกวนอิ๋งขึ้นมา ต่างพากันแสดงสีหน้าดูถูกเหยียดหยาม
“คิดไร้สาระอะไรกัน ถึงกับต้องการเป็นศิษย์ของคุณชาย ช่างไม่ประมาณตนเองเสียเลย!”
“มีคุณสมบัติอันใดกัน!”
พวกมันหัวเราะออกมาไม่หยุด