Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน – ตอนที่ 425 สามคนรวมพลัง

ตอนที่ 425 สามคนรวมพลัง

ฉู่ขวงฆ่าหมดไม่สนลูกใครจริงๆ นั่นแหละ!

ราวกับว่าเกล็ดหิมะจากในนิทานโปรยลงมา ดอกไม้เริ่มผลิดอกอีกครั้งหลังจากร่วงโรย แต่งแต้มสีสันลงไปทั้งเรื่องราวของฉู่ขวง!

กระแสของนิทานซึ่งสมาคมวรรณกรรมเป็นผู้จุดขึ้น ก็มาถึงจุดสูงสุดโดยที่ไม่มีใครคาดคิด!

สิ่งที่ตามมาคือข้อพิสูจน์จากชาวเน็ต ประหนึ่งโปรยกลีบดอกไม้เฉลิมฉลองต่อหน้าผู้คนนับไม่ถ้วน

‘สมบูรณ์แบบจนโศกเศร้า บางทีในใจของผู้หญิงทุกคนอาจมีนางเงือกน้อยอยู่ นี่คือของขวัญที่ฉู่ขวงมอบให้แก่ผู้หญิงทุกคน เป็นของขวัญจากใจ!’

‘โลกใบนี้น่าเกลียดและหนาวเหน็บ ได้รับความงดงามและความอบอุ่นจากหนังสือของฉู่ขวง’

‘นี่เป็นหนังสือรวมนิทานที่ดีที่สุดเท่าที่ผมเคยอ่านมา ไม่มีคำว่าหนึ่งใน!’

‘เวลาจะให้ลูกอ่านหนังสือนอกเวลา ฉันเคยชินกับการอ่านเองก่อนหนึ่งรอบ เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกรับเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม ปรากฏว่าลูกยังไม่ทันได้เริ่มอ่านเลย ฉันก็กอดหนังสือแดนนิทานเป็นสมบัติล้ำค่าแล้ว’

‘ต่อให้สมาคมวรรณศิลป์จะไม่ออกคำสั่ง ผมก็จะให้ลูกอ่านแดนนิทานอยู่ดี’

‘ตอนแรกลูกชายกินข้าวเสร็จจะออกไปเล่น แต่จนถึงตอนนี้ยังอ่านแดนนิทานจนไม่ยอมออกจากบ้าน เพื่อนๆ มาตามถึงบ้านก็ไม่ไป เป็นครั้งแรกเลยนะคะที่ฉันเห็นเขาตั้งใจอ่านหนังสือนอกเวลาขนาดนี้’

‘ฉันที่อายุยี่สิบอ่านรวดเดียวจบ แต่ก็ยังรู้สึกไม่หนำใจ เป็นเพราะฉันยังไม่โต หรือเป็นเพราะโลกของนิทานช่วยให้ฉันหลีกหนีจากโลกแห่งความจริง’

‘ในฐานะแฟนคลับฉู่ขวง ถึงที่บ้านจะไม่มีเด็ก แต่ก็ซื้อหนังสือแดนนิทานมาหนึ่งเล่มเพื่อเป็นการสนับสนุนไอดอล ปรากฏว่าพออ่านถึงเรื่องเด็กหญิงขายไม้ขีดไฟเท่านั้นแหละ ฉันทนไม่ไหวร้องไห้เลย เป็นครั้งแรกที่สัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดจากในนิทาน’

‘ไม่ได้อ่านนิทานมาหลายปี ขอบคุณฉู่ขวงที่ทำให้ฉันหวนนึกถึงความสุขในวัยเด็กอีกครั้ง’

‘หลายคนบอกว่าภาพประกอบเรื่องแดนนิทานงดงามมาก แต่มีแค่คนที่อ่านจนจบเท่านั้นที่รู้ว่าภาพประกอบเหล่านี้งดงามแค่ไหน’

‘ซื้อแดนนิทานมาเล่มนึง ที่บ้านผมมีลูกสามคน ตอนนี้กำลังเถียงกันอยู่ว่าใครจะอ่านก่อน ผมทำได้แค่ให้พวกเขาผลัดกันอ่าน หลังจากนั้นผมถึงออกไปซื้ออีกสองเล่มกลับมา เดิมทีคิดว่าตอนที่ผมไม่อยู่ ลูกสามคนจะทะเลาะกันไหม กลับมาถึงได้พบว่าพวกเขากำลังคุยกันเรื่องนิทานที่เพิ่งอ่านจบ’

‘ภาพประกอบกับเนื้อหาของแดนนิทานเหมาะสมกันที่สุด อิ่งจือเติมเต็มช่องว่างที่เหนือจินตนาการ’

‘…’

ความชื่นชอบของผู้อ่านแตกต่างกัน

นักเขียนน้อยคนนักที่สามารถทำให้ทุกคนพึงพอใจได้

แต่เรื่องราวในแดนนิทานตอบสนองความพึงพอใจได้แทบทุกคน!

สนุกและตื่นตาตื่นใจ!

เปี่ยมความหมายและจินตนาการ!

ผู้ใหญ่หลายคนถึงขั้นหลงใหลด้วยซ้ำ!

แน่นอนว่าเรื่องราวที่ผู้คนส่วนมากชื่นชอบล้วนเป็นเรื่องราวประเภทเงือกน้อยผจญภัยที่เล่าถึงความยิ่งใหญ่ของความรักและจิตวิญญาณแห่งการเสียสละ

หรือเรื่องราวชวนซาบซึ้งใจอย่างเด็กหญิงขายไม้ขีดไฟ

เรื่องราวเหล่านี้หลินเยวียนคัดสรรด้วยความใส่ใจอย่างเต็มเปี่ยมจากเทพนิยายแอนเดอร์เซน

แอนเดอร์เซนได้รับสมญานามว่า ‘ดวงตะวันแห่งวรรณกรรมเด็ก’

และเทพนิยายแอนเดอร์เซนก็ได้รับการขนานนามว่าเป็นนิทานที่เด็กอ่านได้ผู้ใหญ่อ่านดี

หากผู้ใหญ่จะชื่นชอบเรื่องราวเหล่านี้ก็เป็นเรื่องปกติ

เพียงแต่…

ความปกติในสายตาของหลินเยวียน สำหรับชาวเน็ตกลับเป็นความตกตะลึงครั้งใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ได้เห็นคำชื่นชมอย่างท่วมท้นของผู้อ่านซึ่งอ่านแดนนิทานจบแล้ว!

นักเขียนผู้ทรงคุณวุฒิทั้งเก้าคนพยายามอย่างหนักเพื่อทำผลงานของตนให้โดดเด่น!

ทุกคนต่างคิดว่าครั้งนี้ฉู่ขวงต้องจบลงด้วยการคุกเข่าติดต่อกันเก้าครั้ง แม้แต่บรรดาแฟนคลับซึ่งเชื่อมั่นในฉู่ขวงมากที่สุดยังคิดว่าครั้งนี้ฉู่ขวงจะพ่ายแพ้ เนื่องจากครั้งนี้ฉู่ขวงสู้ศึกเก้าด้าน และคู่แข่งทั้งเก้าคนล้วนเป็นถึงนักเขียนนิทานสั้นชื่อดัง แต่กระนั้น ผลลัพธ์กลับพลิกผันอย่างเหลือเชื่อจนทุกคนต้องตกตะลึง!

‘ฆ่าหมดไม่สนลูกใคร!’

‘เหนือมนุษย์!’

‘ผมคิดว่าฉู่ขวงจะถูกนักเขียนเก้าคนล้อมโจมตีซะแล้ว แต่ผลที่เกิดขึ้นกลับบอกผมว่าที่จริงแล้วนักเขียนเก้าคนต่างหากที่ถูกฉู่ขวงล้อมโจมตี’

‘เป็นเทพลงมาจุติเพื่อสู้ศึกเก้าด้าน!’

‘แค่คนเดียวก็ไล่ทุบอีกเก้าคนได้ เหลือเชื่อสุดๆ!’

‘ถ้าสมาคมวรรณศิลป์แยกเล่มให้แดนนิทานเป็นหนังสืออ่านนอกเวลาสำหรับนักเรียนประถม ฉู่ขวงก็จะกลายเป็นเทพในวงการนิทานเชียวนะ!’

‘จู่ๆ ฉันก็แอบสงสัยว่าฉู่ขวงอาจลืมไปแล้วว่านักเขียนเก้าท่านไหนที่ส่งคำท้ามาให้เขาบ้าง’

‘ไม่งั้นพวกคุณคิดว่าทำไมหนังสือเรื่องนี้ถึงชื่อว่าแดนนิทานล่ะ จริงๆ แล้วแดนที่ว่า หมายถึงแดนประหารของวงการนิทานต่างหาก!’

‘เฮ้อ นี่จะไปซื้อแดนนิทานมาสักเล่ม อยากรำลึกความหลังในวัยเด็กสักหน่อย’

‘พี่ชายคอมเมนต์บน คุณจะไม่เสียใจ’

‘…’

ขณะเดียวกัน

ชาวเน็ตจอมกวนก็ได้แสดงความสามารถในที่สุด คอมเมนต์ตลกขบขันสารพัดประเภทปรากฏขึ้นอีกครั้ง

‘รุมโจมตี?’

‘รุมโจมตีถูกต้องแล้ว แต่ไม่ใช่นักเขียนเก้าคนรุมโจมตีฉู่ขวง แต่เป็นฉู่ขวงคนเดียวรุมโจมตีนักเขียนเก้าคน…’

‘คุกเข่าเก้าครั้งรวด?’

‘คุกเข่าเก้าครั้งรวดถูกต้องแล้ว ไม่ใช่ฉู่ขวงคุกเข่าเก้าครั้ง แต่เป็นนักเขียนเก้าคนคุกเข่าเก้าครั้งรวดต่อหน้าแดนนิทาน…’

‘ฉู่ขวง: พวกคุณเก้าคนถูกผมล้อมไว้แล้ว!’

‘นักเขียนเก้าคน: ทุกคนหนีเร็ว ด้านนอกมีแต่ฉู่ขวงเต็มไปหมด!’

‘ฉู่ขวง: ยังมีใครอีกไหม? ผมอยากเจอสักสิบคน!’

‘เมื่อนักเขียนทั้งเก้าคนพากันแสดงวรยุทธ์เตะสกัดขา ฉู่ขวงจึงค่อยๆ หยิบปืนกลออกมา หลังจากนั้นก็เห็นว่ากรรมการผู้ตัดสินการประลองยุทธ์ในครั้งนี้กำลังคุกเข่าอยู่ที่พื้น’

‘ฉู่ขวง: อันที่จริงผมเองก็เขียนนิทานได้แค่นิดเดี๊ยวววว’

ถึงกับมีชาวเน็ตหยิบยกบทพูดจากเรื่องถังปั๋วหู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศมาล้อเลียน ‘ทั้งเก้าคนแขวนคอพร้อมกัน น่าทึ่งเสียยิ่งกระไร’

‘…’

ชาวเน็ตยิงมุกกันอย่างสนุกสนาน ก็ใครให้นักเขียนชื่อดังทั้งเก้าคนรีโพสต์มีมของเทียนจี้ไป๋กันล่ะ

และวงการวรรณกรรมขณะนี้ตะลึงงันไม่ต่างกัน

หนึ่งต่อเก้าจริงๆ?

เป็นปีศาจจริงด้วย!

ทันใดนั้นนักเขียนบางคนในวงการวรรณกรรมสืบสวนสอบสวนนึกถึงเรื่องที่ในตอนนั้นเหลิ่งกวงประชันวรรณกรรมกับฉู่ขวงขึ้นมา และรู้สึกว่าเจ้าเหลิ่งกวงขี้บ่นคนนั้นยังมีจุดจบไม่อเนจอนาถสักเท่าไหร่

อย่างน้อยเขาก็พ่ายแพ้ในสังเวียนแบบหนึ่งต่อหนึ่ง

ผู้ที่ฟาดเคราะห์ตัวจริง น่าจะเป็นแบบนักเขียนเก้าคนนี้มากกว่า

แม้แต่ชื่อของพวกเขา ทุกคนยังขี้คร้านจะเอ่ยถึง

ตัวอักษรเยอะเกินไป

‘นักเขียนนิทานชื่อดังทั้งเก้า’ กลายเป็นแบ็กดร็อปประกาศชัยชนะหนึ่งต่อเก้าของฉู่ขวง!

และในตอนนั้นเอง

เซี่ยนอวี๋ก็โพสต์ความเคลื่อนไหวใหม่บนปู้ลั่ว ดึงดูดความสนใจจากชาวเน็ต ‘เพลงซึ่งใช้ชื่อเดียวกับหนังสือแดนนิทานได้ปล่อยออกมาแล้ว หวังว่าทุกคนจะชอบนะครับ’

การร่วมมือ!

ได้เห็นพวกเขาร่วมมือกันอีกแล้ว!

คราวนี้เป็นเพลง!

แถมยังใช้ชื่อเดียวกันอีก!

ชาวเน็ตปลื้มปริ่มขึ้นมาทันที นึกไม่ถึงว่าการต่อสู้หนึ่งต่อเก้าของฉู่ขวงในครั้งนี้ ไม่ใช่แค่ดึงตัวอิ่งจือมาช่วย แต่ยังมีเซี่ยนอวี๋มาเสริมทัพด้วยเช่นกัน!

สามสหาย!

มีสุขร่วมเสพ มีทุกข์ร่วมต้าน!

ไม่มีอะไรต้องสังเล แทบทันทีที่เซี่ยนอวี๋ประกาศปล่อยเพลงใหม่ ทุกคนก็รีบเข้าไปฟังอย่างไม่รีรอ

ต้องเข้าใจว่า

นี่เป็นครั้งแรกที่ฉู่ขวง เซี่ยนอวี๋ และอิ่งจือร่วมมือกันอย่างรอบด้าน เมื่อก่อนพวกเขาอย่างมากก็ร่วมมือกันเพียงสองคน ไม่เคยมีผลงานใดซึ่งร่วมมือกันสามคนพร้อมกัน

สามคนรวมพลัง!

………………………………………………….

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

Status: Ongoing

‘เขา’ ทะลุมิติมายังจักรวาลคู่ขนานซึ่งมีชื่อว่า ‘บลูสตาร์’

ดินแดนซึ่งอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของศิลปะวัฒนธรรม ศาสตร์ทุกแขนงซึ่งเกี่ยวข้องกับศิลปะ

ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ดนตรี จิตรกรรม วรรณกรรม หรือการเขียนพู่กันก็ล้วนเฟื่องฟูอย่างยิ่ง

ร่างที่เขามาสิงอยู่คือ ‘หลินเยวียน’ นักศึกษาปีสองที่กำลังจะเดบิวต์

แต่โชคชะตากลับเล่นตลกให้หลินเยวียนป่วยเป็นโรคที่รักษาไม่หาย ทำให้ร้องเพลงไม่ได้ และมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน

ครอบครัวก็หมดเงินไปกับค่ารักษาจนอยู่ในภาวะการเงินขัดสน

เป็นเหตุให้หลินเยวียนตัดสินใจจบชีวิตของตัวเองเพื่อไม่ให้เป็นภาระของครอบครัวต่อไป

แต่ ‘เขา’ ไม่คิดจะปลิดชีพตัวเองเหมือนหลินเยวียน

ถึงแม้ร่างนี้จะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน แต่ก็ยังพอเหลือเวลาให้ทำอะไรอยู่บ้าง

และแม้จะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของตัวเองไม่ได้ ก็ยังพอจะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของครอบครัวได้

เขาจะเขียนเพลง เขียนหนังสือ ถ่ายทอดความรู้ หารายได้ให้ครอบครัว!

ทันใดนั้น…

[กำลังตรวจเลือด…กำลังตรวจยีน…กำลังตรวจม่านตา…

ระดับความเข้ากันได้ร้อยละ 99.36…ตรงตามมาตรฐาน…

เลือกจากฐานข้อมูล…โลกในระบบสุริยจักรวาล…ระบบกำลังเชื่อมต่อ…]

[ดาวน์โหลดสำเร็จ เชื่อมต่อระบบศิลปะเสร็จสมบูรณ์!]

[สวัสดีโฮสต์ ยินดีสำหรับการเชื่อมต่อกับระบบศิลปะ

ระบบของเราจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่เพื่อให้ท่านได้เป็นศิลปินของบลูสตาร์!]

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท