องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที! – บทที่ 598 จับนางขัง

บทที่ 598 จับนางขัง

ก็ได้​ ​ช่องว่างระหว่างวัย​ของ​พวกเขา​ในเวลานี้​ก็​ค่อนข้าง​ห่าง​กัน​จริง​ดัง​ว่า

แต่​…

“​เจ้า​ไม่​คิด​ว่า​พี่สาว​คน​นี้​ดู​มีเสน่ห์​มากกว่า​เด็ก​พวก​นั้น​หรือ​”​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ถาม​ด้วย​น้ำเสียง​จริงจัง

เด็กชาย​หัวเราะ​เย็นชา​ ​เขามอง​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ราวกับ​กำลัง​มอง​สาวใช้​ของ​คนอื่น​อยู่​ ​พร้อมกับ​เอ่ย​ขึ้น​อย่าง​สุขุม​เยือกเย็น​ว่า​ ​“​พี่สาว​หรือ​ ​ท่าน​น่ะ​หรือ​ ​ดูเหมือน​ป้า​มากกว่า​”

“​วันนี้​ล่ะ​ข้า​จะ​ต้อง​สั่งสอน​เจ้า​ให้​ได้​!​”​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ชัก​เริ่ม​รู้สึก​หัวเสีย​กับ​องค์​ชาย​สาม​ฉบับ​ย่อส่วน​ขึ้น​มา​จริงๆ​ ​นาง​อยาก​ตี​เด็กชาย​แรง​ๆ​ ​สักที​เพราะ​กิริยาท่าทาง​อัน​เลวร้าย​ของ​เขา

เด็กชาย​กอดอก​ยืน​พิง​ประตู​อย่าง​สง่างาม​ ​พร้อมกับ​เอ่ย​ว่า​ ​“​ความรู้สึก​อับอาย​เป็น​บ่อเกิด​แห่ง​โทสะ​”

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​หายใจเข้า​ลึก​ๆ​ ​นาง​บอก​ตัวเอง​ว่า​อย่า​ได้​ถือ​คำพูด​ของ​เขา​เป็นจริงเป็นจัง​นัก​ ​เพราะ​อย่างไร​เขา​ก็​ยัง​เด็ก​อยู่​ ​เขา​ยัง​เป็น​แค่​เด็ก​เท่านั้น​!

“​ยิ่งกว่านั้น​ ​หน้าอก​ของ​เจ้า​ก็​ไม่น่า​ดึงดูดใจ​เอา​เสีย​เลย​”​ ​เด็กชาย​เบะ​ปาก​ ​พลาง​เอ่ย​ต่อ​ด้วย​น้ำเสียง​ราบเรียบ​ราวกับ​กำลัง​พูดความจริง​ ​“​จะ​มี​ผู้ชาย​ที่ไหน​ชอบ​ผู้หญิง​อย่าง​เจ้า​จริงๆ​ ​หรือ​”

ความ​มีเหตุผล​อันน้อย​นิด​ที่​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​เคย​มี​หายวับ​ไป​กับ​ตา

ฮ่า​ๆ​ๆ​ ​เขา​ยัง​เด็ก​อยู่​หรือ​ ​เด็ก​กับ​ผี​น่ะ​สิ​!

เขา​กล้า​ถึงขนาด​ตัดสิน​คน​ด้วย​ขนาด​หน้าอก​เชียว​นะ​!

“​มานี​่​เลย​”​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​พูด​พร้อมกับ​หรี่​ตาล​งอย​่า​งดุ​ร้าย

เด็กชาย​ไม่​ขยับ​แม้แต่​นิดเดียว​ ​แทนที่จะ​ทำ​เช่นนั้น​เขา​กลับ​ยืน​นิ่ง​อยู่​ตรงนั้น​และ​ส่งสายตา​มอง​นาง​อย่าง​เย็นชา

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ไม่ได้​พูด​อะไร​ต่อมาก​นัก​ ​นาง​ล้อเล่น​กับ​เขา​เพียง​เพราะ​ต้องการ​ให้​เขา​ลด​กำแพง​ลง​ ​และ​ตอนนี้​มัน​ก็​ลดลง​มามาก​ทีเดียว​ ​ดังนั้น​ถ้า​นาง​ลงมือ​จัดการ​เขา​ตอนนี้​ละ​ก็​ ​อย่างน้อย​นาง​ก็​คง​ไม่​ถูก​เขา​ฆ่า​ตาย​ในทันที

“​แม่นาง​ ​เจ้า​ทำ​อะไร​”​ ​นี่​เป็นครั้งแรก​ที่​มี​ผู้หญิง​กล้า​เลิก​เสื้อคลุม​ของ​เขา​ขึ้น​ใน​ที่สาธารณะ​!

น้ำเสียง​ของ​เด็กชาย​ทุ้ม​ต่ำ​ ​มัน​ทุ้ม​เสีย​จน​ไม่มีใคร​เดา​อารมณ์​ที่อยู่​ใน​นั้น​ออก​ ​แต่​มัน​ก็​สามารถ​ทำให้​ขน​แขน​ตั้งชัน​ได้​เป็น​อย่างดี

ใน​เสี้ยว​วินาที​นั้น​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​รู้สึก​เหมือน​เห็นภาพ​ตัวเอง​กำลัง​รับมือ​กับ​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋ย​ร่าง​ผู้ใหญ่​อยู่

แต่​เมื่อ​เห็น​ใบหน้า​เล็ก​ๆ​ที่อยู่​ตรงหน้า​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ก็​ยิ่ง​มี​ความกล้า​เพิ่มขึ้น​ ​นาง​ใช้​นิ้ว​ป้าย​ยา​ขึ้น​มา​ ​ก่อน​เคลื่อน​มือ​ไป​ตามรอย​แผล​ที่อยู่​บน​แผ่น​หลัง​ของ​เขา

เด็กชาย​ตัว​แข็งทื่อ​ ​เขา​หันกลับ​ไป​มอง​นาง​ ​ดวงตา​ของ​เขา​ค่อยๆ​ ​หรี่​ลง​ทีละน้อย

แกร​็​ก.​..

ฟืน​ท่อน​สุดท้าย​ใน​เตาผิง​ถูก​เปลวเพลิง​ลาม​เลีย​ ​เดิมที​ตำหนัก​แห่ง​นี้​ก็​หนาว​เป็น​ทุนเดิม​อยู่​แล้ว​เพราะ​ไม่มี​ผู้อยู่อาศัย​มาก​นัก​ ​แต่​ใคร​เล่า​จะ​รู้​ว่า​เด็กชาย​ที่นั่ง​อยู่​ตรงหน้า​นาง​จะ​ตัว​เย็น​ถึงขนาด​สามารถ​ทำให้​อุณหภูมิ​โดยรอบ​ลดลง​ได้​เช่นนี้

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​โยน​สิ่ง​ที่​น่าจะ​ใช้​เป็น​ฟืน​ได้​ลง​ใน​เตาผิง​พลาง​พยายาม​ทำให้​ไฟ​ร้อน​ขึ้น​ ​จากนั้น​นาง​จึง​หันหน้า​ไปหา​เด็กชาย​ ​“​เจ้า​อุ่น​ขึ้น​หรือยัง​”

เด็กชาย​ไม่​พูด​อะไร​ ​สายตา​เย็นชา​ปาน​น้ำแข็ง​ของ​เขา​คล้าย​กำลัง​บอกว่า​นาง​ติดหนี้​เขา​อยู่​เป็น​จำนวน​ไม่น้อย

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​รู้สึก​ว่านาง​จำเป็นต้อง​อธิบาย​ให้​เขา​เข้าใจ​ ​“​จาก​ที่​ข้า​สังเกตเห็น​เมื่อครู่นี้​ ​ที่นี่​มี​เพียงแค่​เรา​สอง​คน​เท่านั้น​ ​ดังนั้น​เจ้า​ไม่ต้อง​ห่วง​ ​สิ่ง​ที่​เจ้า​กังวล​ย่อม​ไม่มีทาง​เกิดขึ้น​แน่​ ​ข้า​เป็น​คนเดียว​ที่​เห็น​แผ่น​หลัง​ของ​เจ้า​”

เด็กชาย​ยังคง​เงียบ​ ​และ​เอาแต่​จ้องหน้า​นาง​ด้วย​สายตา​เย็นชา​อย่าง​ไม่​ลดละ

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ทน​สายตา​กดดัน​นี้​ไม่ไหว​อีกต่อไป​ ​“​ข้า​แค่​อยาก​รีบ​ทายา​ให้​เจ้า​ก็​เท่านั้น​”

เด็กชาย​เม้ม​ริมฝีปาก​ล่าง​ ​แล้ว​เอ่ย​ขึ้น​อย่าง​เย็นชา​ว่า​ ​“​สรุป​ว่า​เจ้า​เลิก​เสื้อ​ข้า​ขึ้น​ก็​เพราะ​แค่​ต้องการ​ทายา​หรือ​”

“​ถ้า​ข้า​ไม่​ทำ​เช่นนั้น​ ​ข้า​จะ​ทายา​ให้​เจ้า​ได้​อย่างไร​ล่ะ​”​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ขมวดคิ้ว

“​เจ้า​ไม่รู้​หรือว่า​เจ้า​สามารถ​ส่ง​ยามา​ให้​ข้า​ทา​เอง​ได้​”​ ​เด็กชาย​จัด​เสื้อคลุม​ของ​ตัวเอง​ ​แล้ว​นั่งลง​บน​บัลลังก์​ไม้​ ​เขา​ยก​ขา​ข้าง​หนึ่ง​ขึ้น​ไขว่ห้าง​แล้ว​วาง​ศอก​ลง​บน​ที่​เท้าแขน​พร้อมกับ​ใช้​นิ้วชี้​แตะ​คาง​ตัวเอง​ ​จากนั้น​เขา​จึง​เคลื่อน​สายตา​ลง​มอง​นาง​อย่าง​เกียจคร้าน​ทว่า​สง่างาม

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ ​:​ ​…

สายตา​แบบ​นั้น​คือ​อะไร

เขา​กำลัง​ล้อเลียน​สติปัญญา​ของ​นาง​อยู่​หรือ

เขา​จะ​เรียก​นาง​ว่า​โง่​ก็​ไม่เป็นไร​หาก​เขา​โต​เป็นผู้ใหญ่​แล้ว

แต่​เวลานี้​เขา​เพิ่งจะ​อายุ​ได้​เพียง​แปด​ขวบ​เท่านั้น​ ​แต่​เขา​กลับ​เริ่ม​รู้จัก​เยาะเย้ย​คนอื่น​แล้ว​หรือ

เขา​ถือตัว​และ​อวดดี​ถึง​เพียงนี้​เชียว​หรือ

แล้ว​ทำไม​เด็ก​ตัวเล็ก​ๆ​ ​อย่าง​เขา​ถึง​ได้​สวม​ถุงมือ​สีดำ​ล่ะ

เขา​มี​อาการ​ของ​โรค​คลั่ง​ความสะอาด​มาตั​้ง​แต่​เด็ก​แล้ว​จริงๆ​ ​ด้วย​!

“​แม่นาง​”

เด็กชาย​วาง​ถ้วย​ชา​ใน​มือ​ลง​ ​แล้ว​เริ่ม​กระชับ​ถุงมือ​สีดำ​ของ​ตัวเอง​ ​ดวงตา​ทรง​เสน่ห์​คู่​นั้น​ดู​เย็นชา​อย่างยิ่ง​ ​“​เจ้า​ควร​แก้ตัว​ให้​ดี​ ​ไม่อย่างนั้น​ข้า​จะ​ส่ง​เจ้า​ไป​ที่​กรม​ขุนนาง​ภายใน​ ​แล้ว​ให้​พวกเขา​สอบปากคำ​เจ้า​เสีย​ ​เจ้า​มาจาก​ไหน​ ​ทำไม​เจ้า​ถึง​มา​อยู่​ที่​ตำหนัก​แห่ง​นี้​ได้​ ​แล้ว​ทำไม​เจ้า​ถึง​ต้อง​พยายาม​ถึง​เพียงนี้​เพื่อ​เข้าใกล้​ข้า​ด้วย​”

แน่นอน​ว่า​องค์​ชาย​สาม​ย่อม​ไม่ใช่​คนที​่​จะ​สามารถ​หลอก​ตบตา​ได้​โดยง่าย​ ​ไม่ว่า​จะ​เป็น​เขา​ใน​ร่าง​ผู้ใหญ่​หรือ​ร่าง​เด็ก​ก็ตาม

เขา​ฉลาด​อย่างมาก

สายตา​ของ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ดำ​ดิ่ง​ ​สิ่ง​ที่เกิด​ขึ้นกับ​นาง​ตอน​อยู่​ที่​โลก​ปีศาจ​ทำให้​นาง​ตัดสินใจ​ว่า​จะ​เล่า​ทุกสิ่ง​ที่นาง​รู้​ให้​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋ย​ที่อยู่​ตรงหน้า​นาง​ฟัง​โดย​ไม่​ปิดบัง

ประการ​แรก​ ​เพราะ​เขา​เป็น​คน​คิดมาก​เกินไป​ ​แม้กระทั่ง​พิรุธ​เพียง​เล็กน้อย​ก็​สามารถ​ทำให้​เขา​ระแวง​ขึ้น​มา​ได้​ ​ดังนั้น​สู้​นาง​เปิดเผย​ทุกอย่าง​ออกมา​เสีย​ตั้งแต่​ตอนนี้​คงดี​กว่า​ตกเป็น​ผู้ต้องสงสัย​สำหรับ​เขา​ในอนาคต

ประการ​ที่สอง​ ​เขา​อาจจะ​ตาม​นาง​กลับ​ไป​ทันทีที่​ได้​ฟัง​เรื่อง​นี้

แต่​น่าเสียดาย​ที่​ความคาดหวัง​ประการ​ที่สอง​นั้น​กลับ​ไม่มีทาง​เป็นไปได้

เพราะ​ใบหน้า​ของ​เด็กชาย​ยังคง​ราบเรียบ​เช่น​เดิม​ตลอด​การอธิบาย​ของ​นาง​ ​ท่าทาง​ของ​เขา​ทำให้​นาง​รู้สึก​เหมือน​ตัวเอง​กำลัง​พูดเพ้อเจ้อ​อยู่​ก็​ไม่​ปาน​ ​และ​นั่น​ทำให้​นาง​รู้สึก​ท้อแท้​ทีเดียว

“​อันที่จริง​บางส่วน​จาก​ที่​เจ้า​เล่า​มาก​็​น่าเชื่อ​อยู่​”​ ​เด็กชาย​พูด​อย่าง​ไม่ใส่ใจ

“​จริง​หรือ​”​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​กลับมา​มีชีวิตชีวา​ในทันที​ ​นาง​คว้า​มือ​เขา​แล้ว​เขย่า​ไปมา​และ​เอ่ย​ชม​ว่า​ ​“​เจ้า​ยัง​เป็น​เด็ก​ที่​มีคุณ​งาม​ความดี​อยู่​กับ​ตัวจริง​ๆ​ ​ด้วย​”

ริมฝีปาก​ของ​เด็กชาย​โค้ง​ขึ้น​เป็น​รอยยิ้ม​พร้อม​พูด​ต่อ​เสียงหวาน​ว่า​ ​“​ยกตัวอย่างเช่น​เรื่อง​ที่​ข้า​จะ​เรียก​เจ้า​ว่า​โง่​ตอนที่​ข้า​โต​ขึ้น​ ​เรื่อง​นั้น​ดูจะ​มี​ความเป็นไปได้​สูง​ทีเดียว​ ​เพราะ​เจ้า​โง่​จริงๆ​”

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ ​:​ ​…

“​เมื่อครู่นี้​เจ้า​บอกว่า​พอ​ข้า​โต​ขึ้น​ ​ข้า​จะ​จับ​เจ้า​ขัง​ไว้​ใช่​หรือไม่​”​ ​เด็กชาย​เคาะ​โต๊ะ​ไม้​เบา​ๆ​ ​สีหน้า​ของ​เขา​ดูเหมือน​กำลัง​จม​อยู่​ใน​ภวังค์

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ขมวดคิ้ว​ ​แล้ว​ถาม​กลับ​ทันควัน​ว่า​ ​“​จาก​ทั้งหมด​ที่​ข้า​เล่า​ไป​ ​เจ้า​สนใจ​แค่​เพียง​เรื่อง​นี้​หรือ​”

เด็กชาย​ตอบ​อย่าง​เยือกเย็น​ว่า​ ​“​ดูเหมือน​เจ้า​จะ​ไม่​ชอบ​ ​เช่นนั้น​ในอนาคต​ข้า​จะ​เลี่ยง​ไม่​จับ​เจ้า​ขัง​ก็แล้วกัน​”​ ​อย่างไร​เขา​ก็​ชอบ​โซ่​มากกว่า​กุญแจมือ​ ​เขา​ไม่รู้​ว่า​ผู้หญิง​คน​นี้​กำลัง​พูด​เรื่องจริง​อยู่​หรือไม่​ ​แต่​เวลานี้​เขา​ชัก​อยาก​เก็บ​นาง​ไว้​ใน​ตู้​เลี้ยง​เหยื่อ​ของ​ตัวเอง​ขึ้น​มา​เสีย​แล้ว​ ​การ​ได้​นั่ง​มอง​นาง​กาง​กรงเล็บ​ก็​คง​น่าสนใจ​ดีที​เดียว

“​เจ้า​หนู​!​”​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ยื่นมือ​ออก​ไป​ดึง​เขา​เข้ามา​กอด​ ​“​แค่​เจ้า​ตระหนักถึง​เรื่อง​นี้​ได้​ก็​เก่ง​มาก​แล้ว​ ​อืม​ ​เก่ง​มาก​ๆ​ ​เลย​!​”

เจ้า​หนู​หรือ

หึ​…

เด็กชาย​เลิก​คิ้ว​อัน​งดงาม​ขึ้น​ ​ดี​ ​ดียิ่ง​ยัก​ ​เหยื่อ​ประเภท​นี้​สมควร​ถูกจับ​ล่าม​ไว้​ด้วย​โซ่​เหล็ก​หรือ​อะไร​ทำนอง​นั้น​จริงๆ​…

“​ทำ​หน้า​เช่นนี้​อีกแล้ว​!​”​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​เหมือน​เพิ่ง​ค้นพบ​สิ่งมหัศจรรย์​ ​นาง​บีบ​ใบหน้า​หล่อเหลา​ของ​เด็กชาย​หลายครั้ง​ ​“​สุภาพบุรุษ​อย่าง​เจ้า​ควร​พูด​ใน​สิ่ง​ที่​ตัวเอง​ต้องการ​พูด​ออกมา​ ​อย่า​เอาแต่​ทำ​หน้าตา​อม​ทุกข์​เช่นนี้​ตลอดเวลา​สิ​ ​มัน​จะ​พาโชค​ร้าย​มา​ให้​เจ้า​ได้​”

สรุป​ว่า​เจ้า​ก็​รู้​หรือว่า​โชคร้าย​กำลังจะ​มา​เยือน​ใคร​สัก​คน​เข้า​แล้ว​ ​เด็กชาย​ยิ้ม​อย่าง​มีเลศนัย​ ​ดวงตา​ของ​เขา​เป็นประกาย​ด้วย​ความ​ชั่วร้าย

แต่​น่าเสียดาย​ที่​ทั้งสอง​ไม่ได้​พูดคุย​กันต​่อ​ ​เพราะ​มี​หญิงสาว​สวม​ชุด​ของ​นางกำนัล​กำลัง​เดิน​เข้ามา​ทาง​พวกเขา​พร้อม​ถาด​อาหาร​ใน​มือ​ ​นาง​น่าจะ​มาที​่​นี่​เพื่อนำ​อาหาร​มาส​่ง​ให้​กับ​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋ย

แต่​กิริยาท่าทาง​ของ​นาง​ก็​แย่​เสีย​ไม่มี​ ​แม้แต่​น้ำเสียง​ที่นาง​ใช้​ตอน​เอ่ย​ทัก​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋​ยก​็​ยัง​เต็มไปด้วย​ความ​ดูถูก​ ​“​องค์​ชาย​ ​ได้เวลา​อาหารกลางวัน​แล้ว​เพ​คะ​ ​ป่านนี้​แล้ว​ทำไม​ท่าน​ยัง​ไม่​ล้างมือ​อีก​ล่ะ​เพ​คะ​ ​หาก​ฮองเฮา​ทรง​ทราบ​เข้า​ละ​ก็​ ​นาง​จะ​ต้อง​ไม่พอใจ​เป็นแน่​…​”

องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที!

องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที!

Status: Ongoing

นิยายโรแมนติก นักรบหญิงย้อนเวลามาเจอสังคมอุดมพลังปราณ…และองค์ชายสายคลั่งรัก!

“เจ้าต้องรับผิดชอบ”

“ก็ได้ ท่านต้องการให้ข้ารับผิดชอบอย่างไรหรือ อย่าบอกนะว่าท่านอยากให้ข้าแต่งงานด้วย”

“แต่งงานหรือ…” ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยจับคางของเฮ่อเหลียนเวยเวยอย่างหยอกล้อ

“ไหนๆ เราก็จะแต่งงานกันอยู่แล้ว ลองมาตรวจสอบเรื่องนี้กันก่อนดีไหม…

ไปเตรียมห้อง!”

เฮ่อเหลียนเวยเวย ราชินีนักรบแห่งศตวรรษที่ 21 ย้อนเวลามาอยู่ในร่างคุณหนูใหญ่ชื่อเดียวกัน

ย้อนมาวันแรกก็พบว่านางถูกยกเลิกงานแต่งงาน ทั้งยังเจอแม่เลี้ยงและน้องสาวต่างมารดาหมายหัวเอาชีวิต

ทั้งยังต้องพบว่า โลกนี้วัดค่าของคนด้วยพลังลมปราณ ทว่าร่างนี้ไม่มีลมปราณ จึงถูกเรียกว่า ‘นังคนไร้ค่า’

แต่จู่ๆ โชคชะตาให้นางได้บังเอิญพบหนังสือโบราณ ทำพันธะสัญญากับคนหูหมาป่า ทั้งยังมีหนังสือเรียกตัวจากสำนักไท่ไป๋

ยิ่งไปกว่านั้นยังมีบุรุษรูปงามที่ใครต่างก็เกรงใจ นาม ไป๋หลี่เจียเจวี๋ย ไล่ตามนางไปทุกที่

เพราะในเมื่อนางเคยขโมยจูบแรกเขามา และเขาก็คือบุรุษหน้ากากเงินที่นางเคยพบมาก่อน

ชีวิตใหม่นี้มีของดีอยู่ในมือ จะแกร่งขึ้น จะแก้แค้น จะร้ายกว่าเดิมจนทั่วหล้าต้องตกตะลึง นางไม่เคยกลัว!

กลัวเพียงอย่างเดียว… เขาคนนั้นจะไม่คืนชีวิตสุขสงบให้นาง เล่นไล่จับมันเหนื่อยมากนะรู้ไหม?!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท