รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 591 นายท่านจากแดนมรณาหรือ? ข้อจะรอเขามา!

บทที่ 591 นายท่านจากแดนมรณาหรือ? ข้อจะรอเขามา!

บทที่ 591 นายท่านจากแดนมรณาหรือ? ข้อจะรอเขามา!

จ้าวอาณาจักรไม่รู้ว่าจักรพรรดินีเป็น ‘ชนพื้นเมือง’ เหล่านั้นที่ตนเอ่ยถึง กล่าวตามจริงแล้ว จักรพรรดินีก็ไม่ธรรมดาและเหนือชั้น ไม่เหมือนกับผู้ที่มาจากอาณาจักรอ่อนแอเป็นอย่างยิ่งในตอนนี้

นอกเหนือจากนั้น พวกเขาก็ไม่ได้สังเกตเห็นถึงปฏิกริยาของพลังป้องกันที่แตกต่างออกไป ทำให้จ้าวอาณาจักรคิดว่าจักรพรรดินีมาจากต่างอาณาจักร

“มีความลับอันยิ่งใหญ่ซ่อนอยู่ในอาณาจักรแห่งนี้ น่าเสียดาย เหล่าชนพื้นเมืองที่ต่ำต้อยเหล่านี้กลับไม่รู้ว่าด้านหลังตนเองมีภูเขาทองคำอยู่ ชนพื้นเมืองที่โง่เขลาเช่นนี้ มีชีวิตอยู่ต่อก็นับเป็นความผิดพลาดอย่างสมบูรณ์!”

จ้าวอาณาจักรกล่าวต่อ “สหายไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิดแต่อย่างใด ที่พวกเรากำจัดชนพื้นเมืองที่โง่เขลาและต่ำต้อย มีแต่จะเป็นการทำคุณครั้งใหญ่เสียด้วยซ้ำ ทั้งยังช่วยปลดปล่อยพวกเขาไปเสียล่วงหน้า”

เขายิ้มกว้างเต็มใบหน้า ก่อนจะกล่าวถึงข้อดีจากการเข้าร่วมกับพวกเขา บอกว่าเมื่อเข้าร่วมแล้วจะได้รับผลประโยชน์มหาศาล การกลายเป็นเซียนในอนาคตไม่ใช่ปัญหาใดแม้แต่น้อย

ทว่าสิ่งที่เขาไม่คาดคิดก็ได้เกิดขึ้น จักรพรรดินียกมือตบอากาศโจมตีใส่เขา!

ตู้มมม!

เรือโบราณขนาดใหญ่ที่เขายืนอยู่ระเบิดออกในทันที สิ่งมีชีวิตบนเรือปลิวกระเด็น เขาเองก็ไม่เว้น ปลิวกระเด็นออกไปด้วยสภาพน่าสังเวช

“เจ้า!”

เขาพาลโกรธขึ้นมาทันใด อัดอั้นจนอวัยวะภายในแทบจะระเบิดออก ทุกอย่างที่พูดก็ล้วนดีแล้ว เหตุใดจักรพรรดินีจึงลงมือใส่เขาอย่างกะทันหัน?

“มีคำกล่าวว่า การค้าขายไม่สำเร็จแต่มิตรภาพยังคงอยู่ เจ้าไม่ต้องการเข้าร่วมก็ไม่ต้องเข้าร่วม เหตุใดต้องลงไม้ลงมือกันด้วย!?”

เขากัดฟัน นึกไม่ถึงเลยว่าจักรพรรดินีจะลงมืออย่างกะทันหัน

จักรพรรดินีไม่กล่าววาจาใด นางตบมือลงกลางอากาศอีกครั้ง เรือใหญ่ลำอื่น ๆ ก็พลันถูกหยุดยั้ง!

เสียงระเบิดดังขึ้น เรือทั้งหมดระเบิดออกทันใด สิ่งมีชีวิตทั้งหมดบนเรือลอยกระเด็นไม่อาจต้านทานพลังของจักรพรรดินีได้

“ยังไม่หยุดอีกหรือ!?”

จ้าวอาณาจักรกราดเกรี้ยว ไม่คิดว่าจักรพรรดินีจะกล้าลงมืออีกครั้ง

เหตุใดจึงทำเช่นนี้!?

หรือว่าคำพูดของเขามีอะไรผิดพลาดไป?

เจ้าคิดว่าแดนมรณาที่ข้าเพิ่งกล่าวถึงเมื่อครู่ไม่มีอยู่จริง เป็นเพียงการขู่ขวัญเจ้าอย่างนั้นหรือ? เจ้ากำลังคิดสิ่งใดอยู่! แดนมรณามีอยู่จริง อีกทั้งนายท่านจากแดนมรณาเองก็กำลังเดินทางมาที่นี่จริง!”

เขาจ้องเขม็งไปทางจักรพรรดินี ทว่าก็ไม่กล้าลงมือ เขารับรู้ได้ถึงช่องว่างตนเองกับจักรพรรดินี ด้วยการตบเพียงครั้งเดียวเมื่อครู่ หากเรือใหญ่ไม่สกัดกั้นการโจมตีไว้ส่วนหนึ่ง เกรงว่าหากเขาไม่ตายก็สาหัสปางตาย!

สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกไม่อยากจะเชื่อ!

จักรพรรดินีมาจากที่ใดกัน?

เหตุใดจึงแข็งแกร่งน่าหวาดกลัวถึงเพียงนี้!?

เขาเป็นถึงเทียนตี้ระดับสูงสุด เหตุใดจึงยังมีช่องว่างห่างไกลถึงเพียงนี้!

ท่ามกลางความสับสนงุนงง คล้ายกับเขาจะสามารถสัมผัสได้ถึงนิรันดร์ภายในการลงมือของจักรพรรดินี หรือว่าจักรพรรดินีจะเป็นเซียน!?

จะเป็นไปได้อย่างไร!

เขาปฏิเสธความคิดนี้ทิ้งไปอย่างรวดเร็ว คิดว่าตนเองอาจรู้สึกผิดพลาดไป อยู่ ๆ จะมีเซียนปรากฏตัวขึ้นมาเช่นนี้ได้อย่างไร!

จะเอาสสารนิรันดร์มาจากแห่งหนใดทำให้สิ่งมีชีวิตกลายเป็นเซียนได้!

ตู้ม!

จักรพรรดินียังคงไม่เอ่ยคำใด ตอบกลับคำพูดของจ้าวอาณาจักรด้วยหนึ่งฝ่ามือ

จ้าวอาณาจักรตกตะลึงสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด เขาไม่มีความมั่นใจแม้แต่น้อยที่จะหยุดยั้งมัน!

เขาไม่กล้าลังเล เรียกระดมพลังทั้งหมดของตัวเองออกมาเป็นอย่างแรกในทันที เขาไม่สามารถนั่งรอความตายเช่นนี้ได้

ทว่าทั้งหมดล้วนเปล่าประโยชน์ไม่อาจได้ผล เลือดเนื้อและกระดูกระเบิดออก ร่างกายของเขาปลิวกระเด็นกลายเป็นหมอกละอองโลหิตปลิวว่อน หลงเหลือเพียงแค่ดวงวิญญาณเท่านั้น

จักรพรรดินียังไม่ได้สังหารเขา นางต้องการจะทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแดนมรณา

เห็นได้อย่างชัดเจนว่าแดนมรณามีความมุ่งร้ายต่ออาณาจักรแห่งนี้เป็นอย่างมาก ถึงขั้นต้องการสังหารล้างสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในอาณาจักรแห่งนี้ ทำให้นางเกิดความอยากรู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด

ที่นี่เป็นบ้านเกิดเมืองนอนของนาง มีความทรงจำที่หลงเหลือเอาไว้มากมาย เมื่อนางได้รับรู้เรื่องนี้เรียบร้อยแล้ว นางก็ไม่อาจจะนิ่งดูดายได้

หากจำเป็น นางก็ไม่เกี่ยงที่จะต้องทำลายแดนมรณาลงให้สิ้น

ภายใต้การสอบถามของนาง จ้าวอาณาจักรไม่กล้าจะปิดบังสิ่งใด เรื่องทุกอย่างถูกเล่าออกมา อีกทั้งเขายังไม่อาจปิดบังอะไรได้ ตอนนี้ตนเองเหลือเพียงดวงวิญญาณ หากจักรพรรดินีลงมือก็สามารถอ่านความทรงจำทั้งหมดของเขาได้อย่างง่ายดาย

“เพราะเหตุใดจึงทำเช่นนี้!?”

สุดท้ายหลังจากบอกเรื่องราวทุกอย่างแล้ว เขาก็อดถามขึ้นมาไม่ได้ อยากรู้ว่าเหตุใดจักรพรรดินีจึงโกรธเกรี้ยวและลงมือกับเขา

“เพราะข้าคือ ‘ชนพื้นเมือง’ ที่เจ้ากล่าวถึงอย่างไรเล่า!”

จักรพรรดินีกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“หือ?”

จ้าวอาณาจักรตกตะลึง ทั่วทั้งดวงวิญญาณเปลี่ยนสี

ไม่น่าแปลกใจเลยที่จักรพรรดินีโกรธเกี้ยวขึ้นมาอย่างกะทันหัน!

เช่นนี้แล้ว ไม่ว่าเป็นผู้ใดก็ล้วนกราดเกรี้ยวออกมา!

ตอนนี้ ภายในใจของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกมากมาย เมื่อครู่เขาพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า ชนพื้นเมืองในอาณาจักรแห่งนี้ล้วนโง่เขลาและต่ำต้อย มีชีวิตอยู่ไปก็เปลืองทรัพยากรในการฝึกฝน ฆ่าไปเสียจะดีที่สุด ทั้งยังเชิญจักรพรรดินีให้เข้าร่วมกับฝ่ายตนเองอีกด้วย…

ตอนนี้เขาอยากจะพูดออกมาเหลือเกิน พี่สาว เหตุใดท่านจึงไม่พูดให้เร็วกว่านี้ หากท่านพูดตั้งแต่แรก ข้าคงไม่พูดสิ่งเหล่านี้ออกมาอย่างแน่นอน!

เขาอดน้ำตาไหลไม่ได้ นี่มันอัดอั้นตันใจเกินไปจริง ๆ

พรวด!

เลือดสาดกระเซ็นทุกหนแห่ง ราวกับมีฝนตกลงมาอย่างหนัก ทว่านั่นไม่ใช่น้ำฝนแต่อย่างใด ล้วนแต่เป็นหยดโลหิตอาบย้อมทั่วบริเวณให้กลายเป็นสีแดง

จักรพรรดินีลงมือ กวาดล้างสิ่งมีชีวิตจากอาณาจักรเทียนหยวนทั้งหมด กระทั่งวิญญาณของจ้าวอาณาจักรก็ดับสลาย ตายลงไปอย่างสมบูรณ์

ต่อหน้านางที่ฟื้นฟูกลับสู่จุดสูงสุดแล้ว สิ่งมีชีวิตจากอาณาจักรเทียนหยวนล้วนเป็นเพียงเศษธุลี ไม่มีค่าอันใดให้เอ่ยถึง

ไม่ต้องกล่าวถึงสิ่งมีชีวิตจากอาณาจักรเทียนหยวนเหล่านี้เลย กระทั่งเซียนกลุ่มหนึ่ง นางก็สามารถสังหารทิ้งทั้งหมดได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องพยายาม

ตอนที่อยู่ภพเซียน นางก็เคยสังหารเซียนมาไม่น้อย…

“แดนมรณาอย่างนั้นหรือ? ข้าจะรอเจ้ามา”

จักรพรรดินีเอ่ยเสียงแผ่วเบา ตัดสินใจจะรอนายท่านคนนั้นจากแดนมรณามา

จ้าวอาณาจักรเล่าทุกอย่างออกมาอย่างไม่ปิดบัง แต่ข้อมูลที่ได้ก็มีน้อยจนเกินไป จ้าวอาณาจักรรู้เรื่องเกี่ยวกับแดนมรณาเพียงแค่ผิวเผิน ไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง

นางนั่งลงบนซากเรือขนาดใหญ่ลำหนึ่ง รอคอยการมาถึงของนายท่านผู้นั้นของแดนมรณาอย่างเงียบงัน

ขณะเดียวกัน ภายในจักรวาลหมื่นดารามีร่างของชายวัยกลางคนผู้หนึ่งปรากฏตัวสลับหายตัวเคลื่อนผ่านดวงดารา ก้าวข้ามผ่านอากาศ ดูแล้วให้ความรู้สึกแปลกประหลาดและน่าหวาดหวั่นเป็นพิเศษ

เขาไม่ธรรมดาเป็นอย่างยิ่ง ทุกครั้งที่ปรากฏตัวออกมาล้วนข้ามผ่านดาวไปดวงแล้วดวงเล่า หายตัวครั้งหนึ่งไม่รู้ว่าเคลื่อนไปได้ไกลเท่าใด ความเร็วนั้นมากเสียยิ่งว่านาวาล่องนภาที่เร็วที่สุดเสียอีก

“ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนใกล้สิ้นสุดลงแล้ว และวันนี้ก็คือการเริ่มต้นของจุดสิ้นสุด!”

เขารำพึงกับตนเอง ประกายตาทอสว่างวาบราวสายฟ้า ลมหายใจเองก็ชวนน่าพรั่นพรึง เพียงแค่หายใจเข้าออกก็สามารถระเบิดดวงดาวที่รายล้อมกลายเป็นเศษกระจัดกระจายไปในจักรวาลหมื่นดารา

“ครั้งนี้เป็นข้าที่จะได้เปิดฉากโหมโรงบทจบ ปลุกวิญญาณวีรชนที่หลับใหลให้ตื่นขึ้น จากนั้นก็ยึดบ้านที่ควรจะเป็นของพวกเรากลับคืนมา!”

แววตาของเขาสว่างมากขึ้นเรื่อย ๆ ภายในน้ำเสียงเต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจอย่างชัดเจน

ใกล้จะถึงเวลาที่จะเปิดฉากโต้กลับยึดบ้านให้กลับมาเป็นของพวกเขา!

“แต่ทว่าอาณาจักรเทียนหยวนนั้นย่ำแย่เกินไป กระทั่งอาณาจักรที่ในตอนนี้อ่อนแอถึงเพียงนั้นก็ยังไม่อาจเข้าไปได้…”

เขากล่าวขึ้นมาด้วยความรู้สึกไม่พอใจอาณาจักรเทียนหยวนเป็นอย่างมาก

“ไม่จำเป็นต้องคงอยู่อีกต่อไป!”

สีหน้าของเขาไม่แยแส หลังจากผ่านเรื่องครั้งนี้ไป สิ่งแรกที่เขาจะทำคือการกวาดล้างสิ่งมีชีวิตทั้งหมดของอาณาจักรเทียนหยวน

ครั้งก่อนอาณาจักรเทียนหยวนจบลงด้วยความล้มเหลว ครั้งนี้ก็ไม่อาจกระทำการอย่างราบรื่น จนต้องร้องขอความช่วยเหลือ อาณาจักรเทียนหยวนนั้นย่ำแย่จนเกินไปจริง ๆ!

“หลังจากไปถึงแล้ว ข้าจะรับหน้าที่สังหารล้างสิ่งมีชีวิตทั้งหมดของอาณาจักรแห่งนั้นเอง!”

เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา ก่อนจะเร่งความเร็ว

เขาก็คือยอดฝีมือที่มาจากแดนมรณา!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท