รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 594 จักรพรรดินี ‘ข้าจะแบกรับทุกอย่างไว้เอง ขอมุ่งหน้าด้วยความกล้าหาญ!’

บทที่ 594 จักรพรรดินี 'ข้าจะแบกรับทุกอย่างไว้เอง ขอมุ่งหน้าด้วยความกล้าหาญ!'

บทที่ 594 จักรพรรดินี ‘ข้าจะแบกรับทุกอย่างไว้เอง ขอมุ่งหน้าด้วยความกล้าหาญ!’

อ้านเล่าเรื่องทุกอย่าง ไม่มีสิ่งใดต้องปิดบัง เพราะจักรพรรดินีล่วงรู้ทุกสิ่งอย่างแล้ว

“ภพเซียนส่งเจ้ามาหรือ พวกเขาคิดทำอันใด รู้สึกถึงอันตรายได้ล่วงหน้า จึงคิดชิงกำจัดพวกเขาลง มิให้พวกเขาเข้าไปในแดนบรรพโกลาหลได้งั้นหรือ”

เขาหันมองจักรพรรดินี เอ่ยเสียงเย็นยะเยือก

เขาไม่เชื่อว่าภพเซียนจะกล้าหมายตาแดนบรรพโกลาหล นอกเสียจากภพเซียนอยู่รอดต่อไปไม่ได้ หรืออยากตาย บางทีอาจมีความคิดบุกเข้าไปในแดนบรรพโกลาหล

ภพเซียนนำสสารนิรันดร์ไปด้วยมหาศาล แม้ในกาลเวลาอันยาวนานที่ผ่านมาคงผลาญสสารนิรันดร์ไปแล้วไม่น้อย กระนั้นภพเซียนก็ไม่ถึงขั้นอยู่รอดต่อไปมิได้แน่ และไม่ถึงขั้นจำต้องเข้าไปเสี่ยงในแดนบรรพโกลาหลด้วย

เขารู้สึกว่าที่ภพเซียนส่งจักรพรรดินีเข้ามา ก็เพื่อขัดขวางมิให้พวกเขาเข้าไปในแดนบรรพโกลาหล

เพราะไม่ว่าพวกเขาจะสำเร็จได้หรือไม่ ย่อมต้องเป็นภัยต่อภพเซียนอย่างใหญ่หลวง

“เจ้าคิดมากเกินไปแล้ว”

จักรพรรดินีสั่นศีรษะ ภพเซียนผนึกตัวเองไปนานแล้ว ยากจะเดินทางเข้าออก หาได้คิดต่อกรกับแดนมรณาไม่

นางกล่าวต่อ “พวกเจ้าประเมินตัวเองสูงเกินไปแล้ว ภพเซียน…ใช่ว่าจะเข้าไปได้ง่าย ๆ”

เห็นได้ชัดว่า แดนมรณามิได้รู้เรื่องสถานการณ์ปัจจุบันในภพเซียนมากนัก ไม่รู้ว่าด้านนอกภพเซียนมีพลังระดับใดคลี่ปกคลุมอยู่

พลังนั้นสยดสยองน่ากลัวเป็นที่สุด ขนาดจักรพรรดิเซียนยังต้านมิไหว ไม่อาจเข้าออกได้โดยง่าย ฝืนบุกเข้าไปก็อาจต้องจ่ายด้วยชีวิต

ภพเซียนลงทุนลงแรงกับสิ่งนี้ไปมาก!

นั่นทำให้นางยิ่งระแวงในความพิศวงและลางร้ายนั่น ภพเซียนหวาดผวาต่อความพิศวงและลางร้ายนั้นเกินไป

ความพิศวงและลางร้ายนั้นคือสิ่งใดกันแน่

จักรพรรดินีไม่ทราบ อ้านก็ไม่ทราบ

กระทั่งความพิศวงและลางร้ายครั้งสุดท้ายหายไปได้อย่างไร จักรพรรดินีก็ไม่ทราบ

ข้อนี้ อ้านก็ไม่ทราบเช่นกัน

สิ่งมีชีวิตในแดนมรณาและอ้านล้วนหนีไปตั้งแต่ก่อนความพิศวงและลางร้ายจบลง ไม่เคยรับรู้ถึงความจริงเบื้องหลังความพิศวงและลางร้าย

ต่อมา พวกเขาได้รู้จักความพิศวงและลางร้ายยังนึกแปลกใจอยู่มาก ทั้งที่สู้ไม่ได้ แล้วเหตุใดความพิศวงและลางร้ายอันไร้เทียมทานถึงหายไปทั้งที่ยังมิได้กล้ำกราย

แปลกยิ่งนัก!

“ไปเถิด ไปแดนมรณา!”

จักรพรรดินีเอ่ยปาก พาอ้านไปจากที่นี่ มุ่งหน้าไปยังที่ตั้งแดนมรณา

ในเมื่อนางรับรู้เรื่องนี้แล้ว ย่อมไม่อาจเมินเฉย แดนมรณาไม่มีทางออกโรงง่าย ๆ และรามือกันไป นางจึงต้องไป ‘เจรจา’ ที่แดนมรณาสักหน่อย

นี่มิใช่ความคิดที่ดีแน่ การเดินทางนี้คงเต็มไปด้วยอันตราย นางอาจไม่มีโอกาสได้กลับมาด้วยซ้ำ

จากสถานการณ์ที่นางได้รับรู้จากอ้าน ภายในแดนมรณามีกำลังรบระดับสูงกว่านั้น กล้าแกร่งทรงพลัง ขอบเขตสูงส่ง สูงยิ่งกว่านางด้วยซ้ำ!

หากไปทั้งแบบนี้ นางคงยากจะรอดกลับมา เกิดเรื่องกับนางได้ง่าย ๆ

ทว่านางต้องไปให้ได้

นอกจากนาง ในอาณาจักรแห่งนี้จะมีผู้ใดไปเจรจากับแดนมรณาได้อีกบ้าง

ไม่มีแล้ว…

บัดนี้ อาณาจักรแห่งนี้ด้อยพลังจนดูมิได้ ไม่มีเซียนแม้แต่ตนเดียว ไฉนเลยจะไปเจรจากับแดนมรณาได้ไหว ห่างชั้นกันเกินไป

นางต้องแบกรับภาระหน้าที่นี้ไว้ เดินทางไปเจรจากับแดนมรณา ดูว่าขอให้แดนมรณายกเลิกความคิดฆ่าล้างผลาญสิ่งมีชีวิตพื้นเมืองได้หรือไม่

ถึงอย่างไร ที่นี่ก็เป็นภูมิลำเนาของนาง นางไม่อาจทนเห็นสิ่งมีชีวิตซึ่งอาศัยอยู่ในบ้านเกิดเมืองนอนของตนต้องถูกฆ่าล้างบางไปทั้งอย่างนี้

สายลมเย็นเยียบพัดผ่าน จักรพรรดินีพาอ้านจากไป นี่อาจเป็นการเดินทางมรณะ ทว่าสายตาจักรพรรดินีกลับแน่วแน่เด็ดเดี่ยว ไร้ซึ่งความขี้ขลาดแม้แต่น้อย

ณ เมืองชิงซาน

ภายในเรือนเล็กหลี่จิ่วเต้า

“เดินท่องไปในอวกาศดีกว่าเห็น ๆ ทัศนียภาพงดงามยิ่งนัก”

หลี่จิ่วเต้าเอนตัวบนเก้าอี้โยก เล่นแท็บเล็ตไปมา ช่วงนี้มิได้ไปภพเซียน หากแต่เชยชมทิวทัศน์ดาราจักรเพริศพริ้งในจักรวาลเรื่อยมา

ส่วนลั่วสุ่ยคอยปรนนิบัติอยู่ด้านข้าง อย่าให้พูดเลยว่าหลี่จิ่วเต้าสำราญเพียงใด

เขานึกใจไป หากเล่น ‘แท็บเล็ต’ เล่นเกมตามใจชอบเช่นนี้ที่ดาวเคราะห์สีฟ้าเห็นทีคงมิได้ อายุน้อยต้องถูกผู้ปกครองดุ อายุมากต้องถูกภรรยาดุ มีหรือจะมีความสุขได้เหมือนเขาในยามนี้!

‘อยากเห็นเหลือเกินว่าหลังจิ้งจอกกลายร่างเป็นมนุษย์แล้วจะเป็นอย่างไร!’

หลี่จิ่วเต้าหันไปมองลั่วสุ่ยผู้มีโฉมสะคราญ ทั้งบริสุทธิ์ทั้งยั่วยวนข้างกาย ยิ่งใคร่รู้ในรูปลักษณ์จิ้งจอกหลังแปลงเป็นมนุษย์

ถึงอย่างไร โบราณว่าไว้ หญิงงามผู้จำแลงจากจิ้งจอกนั้น งามพิลาศไร้ผู้ใดทัดเทียม!

‘มีโอกาสต้องหาจิ้งจอกมาเลี้ยงสักตัว ไม่ต้องให้นางปรนนิบัติข้า ขอเพียงให้ข้าได้ยลว่างดงามได้เพียงใด!’

หลี่จิ่วเต้าคิดในใจ

แต่เขารู้ดีว่า เรื่องแบบนี้ใช่ว่าสมปรารถนากันได้ง่าย ๆ เสียที่ไหน ถึงอย่างไร ใช่ว่าจิ้งจอกก้าวสู่เส้นทางฝึกตนกันได้ดาษดื่น

‘แล้วแต่วาสนาจะนำพา!’

หลี่จิ่วเต้าไม่คิดฝืนสิ่งใด เขาบอกตัวเองในใจ

หากวันหน้าได้พบจิ้งจอกผู้ก้าวสู่เส้นทางฝึกตนย่อมเป็นเรื่องเยี่ยมยอด ถึงมิได้พบก็ไม่เป็นไร ขืนจิ้งจอกจำแลงเป็นหญิงงามพิลาศ แล้วเขาควบคุมตัวเองไม่อยู่คงไม่ดีแน่!

ณ ดินแดนฮวง

เมืองเก้าวิบัติ

อย่างไรเซียวฮุ่ยก็เป็นตัวตนเหนือเซียน นางฟื้นตัวได้ไม่ช้านัก บัดนี้พลังคืนกลับมาถึงขอบเขตมหาจักรพรรดิแล้ว

แน่นอนว่า สิ่งสำคัญที่สุดก็เพราะมีพลังความศรัทธาคอยเกื้อหนุน

ภายใต้การช่วยเหลือจากพระเก้าประทีปพุทธเจ้า นางได้รับพลังความศรัทธามากมาย และกุมแก่นสารพลังความศรัทธาไว้ได้อย่างรวดเร็ว ซ้ำนางยังเปลี่ยนแปลงพลังความศรัทธานี้ไปบ้างแล้วด้วย ให้พลังความศรัทธาแกร่งกล้ายิ่งขึ้น

และเพราะแรงเกื้อหนุนจากพลังความศรัทธาที่แกร่งกล้าขึ้นแล้ว นางถึงฟื้นตัวได้อย่างว่องไว กระทั่งทั้งเมืองเก้าวิบัติล้วนอยู่ในกำมือของนาง สิ่งมีชีวิตทั้งหมดในเมืองต่างเป็นสาวกของนาง!

“พระคุณท่าน คัมภีร์พระธรรมที่ท่านได้สรรสร้างขึ้นช่างมหัศจรรย์ยิ่งนัก เมื่อคืนข้าสวดอยู่หนึ่งร้อยรอบแล้วหนึ่งร้อยรอบเล่า ยิ่งทวีความสะท้าน พระคุณท่านเก่งกาจเหลือเกิน!”

ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งคุกเข่าอยู่เบื้องหน้าเซียวฮุ่ย เอ่ยต่อนางด้วยความเลื่อมใสสูงสุด

เขาคือยอดฝีมือเมืองเก้าวิบัติที่เซียวฮุ่ยเพิ่งรับไว้ใต้บัญชา กลายเป็นผู้ติดตามของเซียวฮุ่ย

‘ไอ้…ระยำ!’

หลังได้ยินวาจาของชายวัยกลางคนผู้นี้ พระเก้าประทีปพุทธเจ้าแทบเด้งตัวขึ้น ตะโกนในใจ

หนี่งร้อยรอบ!

เขาอ่อนไหวต่อวจีนี้อย่างยิ่ง!

‘พี่ชาย เจ้ากล้าดีอย่างไร!’

เขาคิดในใจอย่างอดมิได้ ชายวัยกลางคนผู้นี้กล่าวถึงหนึ่งร้อยรอบต่อหน้าเซียวฮุ่ย มิเท่ากับรนหาที่ตายหรือ!?

เซียวฮุ่ยอ่อนไหวต่อคำว่าหนึ่งร้อยรอบยิ่งกว่าเขาเสียอีก!

หวนนึกถึงเขาในครานั้น เพราะเอ่ยคำว่าหนึ่งร้อยรอบ ต้องพบชะตากรรมอย่างน่าสังเวช เซียวฮุ่ยทำให้เขาต้องเสียพรหมจรรย์ ทำเรื่องอย่างนั้นกับหมูตัวผู้ซ้ำไปซ้ำมาถึงหนึ่งพันรอบ…

เขามาคิดดูป่านนี้ยังระทมอยู่ไม่น้อย ไม่อาจปล่อยวางเรื่องนี้ลง เสียพรหมจรรย์ก็เสียเถิด แต่อีกฝ่ายดันเป็นหมูตัวผู้!

หมูตัวผู้ก็ตัวผู้เถิด แต่เขาดันทำไปตั้งหนึ่งพันรอบ!

เขาหันมองเซียวฮุ่ย อย่างที่คิด เซียวฮุ่ยซึ่งกำลังยิ้มอยู่ มีสีหน้าเย็นชาลงในบัดดล

เสียงดังพรวด เซียวฮุ่ยฟาดฝ่ามือเข้าไป กระแทกชายวัยกลางคนผู้นั้นจนร่างเละ กลายเป็นหมอกเลือด!

“บันทึกหนึ่งร้อยรอบลงไปในศีลข้อห้าม ห้ามมิให้ผู้ใดกล่าวถึง! นี่คือคำต้องห้าม ผู้ใด้หลุดปาก ต้องถูกลงโทษสถานหนัก!”

เซียวฮุ่ยเอ่ยเสียงเคียดแค้น ชิงชังคำว่า ‘หนึ่งร้อยรอบ’ เป็นอย่างยิ่ง!

“เข้าใจแล้ว!”

พระเก้าประทีปพุทธเจ้าตอบรับอย่างรวดเร็ว เขาเองก็ไม่อยากได้ยินคำนี้ มีบาดแผลในใจใหญ่หลวง

“เร่งมือพิชิตสองเมืองที่ติดกับเราให้ได้ ถึงเวลานั้น คงได้เวลาพวกเราบุกไปยังแดนฝอ เอาชนะพุทธศาสนา ทำให้ที่นั่นเป็นพุทธภูมิของเรา”

เซียวฮุ่ยเอ่ยเสียงเย็น

พลังความศรัทธานั้นน่าทึ่งยิ่งนัก หากพิชิตสองเมืองที่ติดกันอยู่นี้ได้ และทำให้ทั้งสองเมืองนับถือบูชานาง กลายเป็นสาวกของนางทั้งหมด นางคิดว่าคงฟื้นพลังไปถึงขั้นเทียนตี้ได้

ทันทีที่ฟื้นพลังถึงขั้นเทียนตี้ นางจักไม่เหลือความกังวลใด ๆ อีก

ถึงเวลานั้น ต่อให้ต้าเต๋อมีเต๋าสวรรค์คอยคุ้มกันก็เปล่าประโยชน์ นางสามารถปราบปรามได้ง่ายดาย!

“ได้!”

พระเก้าประทีปพุทธเจ้ารับบัญชา ไปจากที่ตรงนี้ ลงมือปฏิบัติอย่างรวดเร็ว

เขาอยากรีบเร่งบุกเข้าไปยังดินแดนฝอ ปราบปรามต้าเต๋อเสียยิ่งกว่า ประสบการณ์โศกสลดของเขา หากไล่ย้อนไปแล้วล้วนมีสาเหตุจากต้าเต๋อ!

‘ถึงคราวนั้น ข้าจะหาหมูตัวผู้ให้เจ้าบ้าง ให้เจ้าได้ทำอย่างนั้นกับหมูตัวผู้หนึ่งพันรอบไปเลย ให้เจ้าได้ลิ้มรสความทรมานที่เกิดขึ้นกับข้าบ้าง!’

เขาเอ่ยในใจด้วยเสียงเกือบร่ำไห้

ประสบการณ์หนึ่งพันรอบไปเลยหนึ่งพันรอบนั้น เจ็บปวดเหลือเกิน!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท