“ถ้าไม่มีอะไรอีก หลังจากจับปลาเสร็จเจ้าก็ขึ้นมาได้แล้ว น้ำเย็นจัดถึงเพียงนี้ เจ้าไม่รู้สึกอะไรบ้างหรือ” เด็กชายตัวน้อยปรายตามองเฮ่อเหลียนเวยเวยราวกับว่านางเป็นคนโง่ หลังจากพูดจบ เด็กชายก็หอบอาหารเดินหายไป
เฮ่อเหลียนเวยเวยเดินตามหลังเขาด้วยความรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก คิดว่านางทนหนาวเพื่อใครหรือ นางแค่อยากให้เขาได้กินของอร่อยก็เท่านั้น แต่เขากลับรู้จักหว่านเสน่ห์จีบสาวเป็นทั้งที่ยังเป็นแค่เด็ก!
ยิ่งเฮ่อเหลียนเวยเวยคิดถึงเรื่องนี้มากเพียงใด นางก็ยิ่งผ่าฟืนแรงขึ้นเท่านั้น นางทำหน้าบึ้งตึงตลอดเวลา
เด็กชายตัวน้อยมองนางจากด้านข้าง เขาไม่เข้าใจว่านางโกรธเรื่องอะไร
ข้อดีของเฮ่อเหลียนเวยเวยก็คือนางเป็นคนโกรธงานหายเร็ว หลังจากยุ่งอยู่พักใหญ่ รอยยิ้มก็พลันกลับคืนมาบนใบหน้าของนางอีกครั้ง นางพลิกปลาแล้วทาน้ำมันลงไป นางเจอผลไม้สองสามผล จึงนำพวกมันมาบดและทาลงไปบนตัวปลา ทันใดนั้นกลิ่นหอมก็ลอยคลุ้งไปทั่วบริเวณ
ถึงจะไม่มีคนถ่อมาส่งอาหารให้เขาถึงที่นี่ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่แต่อย่างใด
เพราะนางทำอาหารเป็น!
เหมือนอย่างที่สุภาษิตว่าไว้ กระเพาะอาหารคือหนทางมัดใจชาย
ถือได้ว่านางเป็นคนที่มีประสบการณ์ด้านความรักมาก่อน ในเมื่อนางสามารถมัดใจไป๋หลี่เจียเจวี๋ยฉบับผู้ใหญ่ได้ นางก็ต้องสามารถมัดใจเขาตอนเด็กได้เหมือนกัน!
เมื่อคิดได้ดังนี้ รอยยิ้มของเฮ่อเหลียนเวยเวยก็ยิ่งสว่างไสว นางถึงขั้นฮัมเพลงออกมาเลยด้วยซ้ำ เมื่อปลาย่างจนได้ที่ กลิ่นหอมก็แทรกไปทั่วอากาศที่อยู่รอบพวกเขา
เด็กชายตัวน้อยยืนอยู่ข้างๆ พร้อมกับเติมฟืนลงในกองไฟทุกครั้งที่นางบอก
เฮ่อเหลียนเวยเวยรู้สึกว่าเขาในร่างนี้ก็น่ารักดี เด็กชายทั้งเย็นชาและสง่างาม แต่เขากลับดูอ่อนโยนเมื่ออยู่ภายใต้แสงสว่างจากกองไฟอันร้อนแรง
เฮ่อเหลียนเวยเวยทนไม่ไหวอีกต่อไป นางยื่นหน้าเข้าไปจูบหน้าผากของเขา
หลังจากจูบเสร็จ นางก็ยิ้มให้กับไป๋หลี่เจียเจวี๋ย
เด็กชายตัวน้อยหยุดขว้างฟืนในทันใด เขาเบือนหน้าหนีไปอีกทางและไม่สนใจเฮ่อเหลียนเวยเวยอีกเลย
เฮ่อเหลียนเวยเวยรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคุณชายจอมเสเพลที่เพิ่งลวนลามเด็กสาวไปหมาดๆ นางย่างเนื้อต่ออย่างพออกพอใจ จากนั้นจึงหั่นเนื้อมาชิ้นหนึ่งแล้วส่งมันให้กับเขา “ลองชิมดูสิ แล้วบอกข้าหน่อยว่ารสชาติเป็นอย่างไร”
เด็กชายตัวน้อยมองนาง และเอ่ยเบาๆ ว่า “เจ้าอยากจะจูบข้าอีกทีตอนที่ข้ากำลังกินหรือ”
ความคิดของเฮ่อเหลียนเวยเวยถูกเปิดโปง นิ้วของนางชะงักไป จากนั้นนางจึงถามขึ้นด้วยรอยยิ้มว่า “เจ้าเห็นข้าเป็นคนเช่นนั้นหรือ”
“คราวหน้าอย่าได้เที่ยวไปจูบใครที่ไหนสุ่มสี่สุ่มห้าเช่นนี้อีก” เด็กชายตัวน้อยอบรมนางอย่างช้าๆ แล้วก้มลงกัดปลาย่างเข้าปากคำหนึ่ง เนื้อปลานุ่มมาก และทิ้งกลิ่นหอมหวานนั้นเอาไว้ในปากของเขา ดังนั้นเขาจึงกัดมันอีกคำอย่างอดใจไม่ไหว
เมื่อเห็นว่าเขากินมันอย่างเอร็ดอร่อย เฮ่อเหลียนเวยเวยก็ถือโอกาสนี้ล้างสมองเขา “คราวหน้าตอนที่เจ้าเลือกพระชายา เจ้าต้องหาคนที่ทำอาหารเป็นและต้องเป็นคนที่ย่างปลาเก่งด้วย”
เด็กชายตัวน้อยเลิกคิ้ว “เหมือนเจ้าน่ะหรือ”
“เจ้าหนู เจ้ามาถูกทางแล้ว!” เฮ่อเหลียนเวยเวยพูดด้วยรอยยิ้ม “ใช่ ต้องเก่งรอบด้านเหมือนอย่างข้านี่ ข้ายังสามารถช่วยขวางทางคนที่คิดจะเข้ามาขอความรักเจ้าได้ด้วย เจ้าคงยังไม่รู้ แต่พอเจ้าโตขึ้น จะมีผู้คนมากมายที่แอบชอบเจ้าอยู่ ถ้าไม่มีข้าเจ้าไม่มีทางหนีคนพวกนั้นพ้นแน่”
หลังจากได้ฟังคำพูดของนาง เด็กชายตัวน้อยก็กัดปลาเข้าปากอีกหนึ่งคำ แล้วเอ่ยช้าๆ ว่า “การมีคนรักมากมาย ควรจะเป็นเรื่องดีมิใช่หรือ ทำไมข้าถึงควรหยุดพวกเขาหรือ”
เฮ่อเหลียนเวยเวย : …จะว่าไปเขาก็พูดถูก! เฮ่อเหลียนเวยเวยพูดไม่ออก
“เจ้าหนู มานี่สิ เราต้องคุยกับเรื่องความซื่อสัตย์และประโยชน์ของการรักเดียวใจเดียวเสียแล้ว!” เฮ่อเหลียนเวยเวยคิดว่านางควรสอนเรื่องนี้ให้เด็กชายตั้งแต่อายุยังน้อย “อย่าเป็นเหมือนอย่างท่านพ่อของเจ้าล่ะ การที่ฮ่องเต้มีสนมมากเกินไปนั้นไม่ใช่เรื่องดี เพราะมันจะเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดอาการไตวายได้ เจ้ารู้หรือไม่ว่าไตวายคืออะไร”
เด็กชายตัวน้อยยกมือขึ้นกอดอก แล้วมองนางตั้งแต่หัวจรดเท้า “สรุปก็คือคนเดียวที่หลงรักเจ้าในอนาคตมีแค่… ข้าหรือ”
เฮ่อเหลียนเวยเวยรู้สึกผิดเล็กน้อย นางฝืนยิ้มเมื่อได้ยินคำพูดนั้น “ถูกต้อง”
“โกหก” เด็กชายตัวน้อยหันหน้าไปอีกทาง แล้วเริ่มกินปลาต่อ ผู้หญิงหน้าโง่นี่คิดว่าเขาโง่เหมือนนางหรือ นางงดงามถึงเพียงนี้ จะไม่มีใครตกหลุมรักนางได้อย่างไร
เฮ่อเหลียนเวยเวยรู้มาตลอดว่าองค์ชายเป็นคนฉลาด แต่นางนึกไม่ถึงว่าเขาจะฉลาดถึงเพียงนี้ นางน่าจะไม่ได้หลุดปากพูดเรื่องตัวเองออกไปเลยด้วยซ้ำ แต่เขารู้ได้อย่างไรว่านางกำลังโกหกอยู่
แต่เฮ่อเหลียนเวยเวยอ่านหนังสือมามาก นางรู้ดีว่าในสถานการณ์เช่นนี้ สิ่งที่ควรทำที่สุดย่อมเป็นการสารภาพรัก
เพราะนั่นเป็นสิ่งที่ประธานจอมเผด็จในหนังสือทำนั่นเอง!
นางต้องนำสิ่งที่นางได้เรียนรู้มาใช้!
ด้วยเหตุนี้เฮ่อเหลียนเวยเวยจึงย่อตัวลงไปหาเด็กชาย นางลดเสียงลงและพยายามทำตัวให้ดูมีเสน่ห์ยิ่งขึ้น “ถ้าพวกเขารักข้า มันก็เป็นเรื่องของพวกเขา คนที่อยู่ในหัวใจของข้ามาตลอดคือเจ้าต่างหาก”
เมื่อได้ยินดังนี้ เด็กชายตัวน้อยก็ชะงักไป
เฮ่อเหลียนเวยเวยคิดในใจ เขาซาบซึ้งแล้วใช่ไหม!
หึ นางไม่เชื่อหรอกว่านางจะไม่สามารถเอาชนะใจเด็กอายุแปดขวบได้!
นึกไม่ถึงว่าเด็กชายตัวน้อยจะมองนางและเยาะขึ้นว่า “พวกเขาหรือ ดูเหมือนว่าจะมีมากกว่าหนึ่งเสียด้วย แม่นาง เจ้าช่างเจ้าชู้จริงๆ ข้าตกหลุมรักเจ้าได้อย่างไรกัน”
เฮ่อเหลียนเวยเวย: … ไม่ มีบางอย่างไม่ถูกต้อง นางควรจะเป็นคนที่อบรมองค์ชายสิ ทำไมกลายเป็นองค์ชายเสียอีกที่อบรมนาง
เรื่องนี้ทำให้เฮ่อเหลียนเวยเวยหดหู่ยิ่งนัก ใครบอกว่าเด็กหลอกง่าย คนที่อยู่ตรงหน้านางช่างยากที่จะรับมือจริงๆ
“แต่ข้าให้สัญญากับเจ้าได้ว่าข้าจะเลือกเจ้าในวันคัดเลือกพระชายา” เด็กชายตัวน้อยพูดขึ้นอีกครั้งด้วยท่าทางเย็นชาไม่แยแส “แต่มีเงื่อนไขอยู่ข้อหนึ่ง”
ทีแรกเฮ่อเหลียนเวยเวยคิดว่านางคงล้มเหลวเสียแล้ว แต่ทันทีที่ได้ยินคำสัญญาของเขา ดวงตาของนางก็เป็นประกาย “เงื่อนไขอะไรหรือ”
“ห้ามทำให้ชายอื่นตกหลุมรักเจ้า” เด็กชายตัวน้อยเอ่ยอย่างเย็นชา “ในเมื่อเจ้าเก่งเรื่องขวางทางคนเช่นนั้นเจ้าก็ควรขวางคนที่คิดจะเข้ามาขอความรักจากเจ้าด้วยเหมือนกัน”
เมื่อได้ยินดังนั้น เฮ่อเหลียนเวยเวยก็ยิ้มออกมาโดยไม่ลังเล “ไม่มีปัญหา” สรุปว่าข้าก็แค่ต้องยับยั้งไม่ให้มีคนมาตกหลุมรักข้าก็พอใช่หรือเปล่า นี่ยังนับว่าเป็นเรื่องที่ง่ายเกินไปด้วยซ้ำ เพราะเมื่อถึงเวลานั้นใบหน้าของนางก็จะกลายเป็นสีดำ ดังนั้นจึงแทบไม่มีใครกล้ารักคนอย่างนาง
“เจ้าจะต้องซื่อสัตย์ต่อข้าเพียงคนเดียว” เด็กชายตัวน้อยยืนขึ้นพร้อมกับกดสายตาลงมองเฮ่อเหลียนเวยเวยที่ย่อตัวอยู่ตรงหน้าเขา ในดวงตาของเขามีแสงสีทองสว่างวาบเล็กน้อย
เฮ่อเหลียนเวยเวยพยักหน้า “แน่นอน” ความซื่อสัตย์เป็นสิ่งสำคัญสำหรับสามีภรรยา
“ดีมาก” การทำสัญญาเสร็จสิ้น แล้วเด็กชายตัวน้อยก็ยิ้มออกมา ในที่สุดเขาก็ได้นางมาไว้ในมือ
เฮ่อเหลียนเวยเวยเองก็คิดว่านี่เป็นเรื่องที่ดีเหมือนกัน แต่นางไม่ทันสังเกตเลยแม้แต่น้อยว่านางเพิ่งขายตัวเองให้กับเขาไป นางก้มหน้าลง แล้วกัดปลาย่างที่อยู่ในมืออย่างมีความสุข
เด็กชายตัวน้อยปรายตามองนางอีกครั้ง “อย่ากินปลาเยอะเกินไปล่ะ”
“ทำไมหรือ” เฮ่อเหลียนเวยเวยคิดในใจ ถ้าเขากล้าบอกว่านางอ้วน นางจะลากเขามาตีให้น่วมเชียว!
เด็กชายตัวน้อยขยับนิ้ว แล้วโยนสิ่งที่เขาเพิ่งหยิบขึ้นมาให้กับนาง “ยังมีเจ้าพวกนี้อยู่”
“ข้าไม่อยากกินของพวกนี้” เฮ่อเหลียนเวยเวยเป็นคนดื้อรั้น ต่อให้ขนมชิ้นนั้นจะหน้าตาน่ากินเพียงใด แต่ในฐานะราชินีนักรบผู้ดื้อรั้น นางย่อมไม่มีวันกินของที่มาจากศัตรูหัวใจเด็ดขาด