องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที! – บทที่ 614 ตระกูลหลี่พินาศย่อยยับกับองค์ชายผู้ชั่วร้าย

บทที่ 614 ตระกูลหลี่พินาศย่อยยับกับองค์ชายผู้ชั่วร้าย

เด็กชาย​ตัว​น้อย​มอง​ไป​ทาง​นั้น​ด้วย​ดวงตา​เย็นชา​ราวกับ​น้ำแข็ง

มือ​ที่​สั่น​อยู่​แล้ว​ของ​เงา​ทมิฬ​ยิ่ง​สั่น​มากขึ้น​อีก​ ​เขา​กลัว​ว่า​เรื่อง​นี้​อาจ​ก่อให้เกิด​ปัญหา​ตามมา​ได้​ ​ดังนั้น​เขา​จึง​อด​แนะนำ​ผู้​เป็น​นาย​ไม่ได้​ว่า​ ​“​แต่​หาก​เรา​ไม่มี​การ​รับมือ​ที่​ดีละ​ก็​ ​พระสนม​ซู​จะ​ต้องสงสัย​ฝ่า​บาท​อย่างแน่นอน​ ​และ​หาก​เป็น​เช่นนั้น​ ​ท่าน​จะ​ตกที่นั่งลำบาก​เอา​นะ​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​ ​เรา​รอ​ให้​อดีต​ฮ่องเต้​กลับมา​ก่อน​มิดี​กว่า​หรือ​พ่ะ​ย่ะ​…​”

“​ไม่จำเป็น​”​ ​เด็กชาย​ตัว​น้อย​ตัดบท​เขา​ ​เขา​ใช้​ตา​ข้าง​ซ้าย​ภายใต้​ผ้าพันแผล​นั้น​จ้องมอง​อีก​ฝ่าย​อย่าง​เย็นชา​และ​สั่ง​ว่า​ ​“​ทำตาม​ที่​ข้า​สั่ง​”

เงา​ทมิฬ​ไม่กล้า​พูด​อะไร​อีก​ ​และ​ทำได้​เพียงแค่​พยักหน้า​ ​“​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

คืน​นั้น​ ​หลังจาก​มู่​หร​งอ​๋​อง​ได้​อ่าน​ข้อความ​ที่​ถูก​ส่ง​มา​ ​ความเข้าใจ​ก็​พลัน​วาบ​ขึ้น​ใน​ดวงตา​ของ​เขา​ ​เขา​ตะโกน​ออกมา​ทันที​ว่า​ ​“​เข้ามา​ ​นำ​คำสั่ง​ของ​ข้า​ไป​บอก​ให้​คน​ของ​เรา​สกัดกั้น​ข้อความ​ของ​พระสนม​ซู​ไว้​ซะ​ ​บอก​ให้​เสนาบดี​จาก​กรม​ขุนนาง​ภายใน​และ​กรม​กลาโหม​เขียน​คำร้อง​เดี๋ยวนี้​!​”

พระสนม​มู่​หรง​ที่​เพิ่ง​ถูก​แต่งตั้ง​ขึ้น​เป็น​สนมเอก​อยู่​ที่​จวน​อ๋อง​มู่​หรง​เช่นกัน​ ​ทันทีที่​ได้ยิน​คำสั่ง​ของ​มู่​หร​งอ​๋​อง​ ​นาง​ก็​ยืน​ขึ้น​แล้ว​ถาม​ว่า​ ​“​ท่าน​พี่​ต้องการ​ให้​พวกเขา​เขียน​คำร้อง​เพื่อ​โน้มน้าว​ให้​เขา​เชื่อ​ว่า​ตระกูล​หลี​่​มีความผิด​จริง​หรือ​”

“​เปล่า​เลย​ ​ข้า​ใช้​คน​พวก​นี้​เพื่อ​ปกป้อง​พวกเขา​ต่างหาก​”​ ​มู่​หร​งอ​๋​อง​ยื่น​จดหมาย​ให้​นาง​ ​แล้ว​พยักหน้า​ ​“​ข้า​ไม่รู้​ว่า​คนที​่​ส่ง​ข้อความ​นี้​มาคือ​ใคร​ ​แต่​แผนการ​นี้​สมบูรณ์แบบ​ทีเดียว​!​”

พระสนม​มู่​หรง​ขมวดคิ้ว​ ​แล้ว​ถาม​เขา​ขึ้น​อีกครั้ง​ว่า​ ​“​ท่าน​พี่​ ​ท่าน​ตัดสินใจ​ได้​ด้วย​จดหมาย​เพียง​ฉบับ​เดียว​หรือ​ ​ท่าน​ไม่​ใจร้อน​ไป​หน่อย​หรือ​”

“​น้อง​ข้า​ ​เจ้า​ยัง​ใหม่​กับ​วัง​หลวง​อยู่​ ​ดังนั้น​เจ้า​คง​ยัง​ไม่เข้าใจ​ฮ่องเต้​มาก​นัก​ ​จดหมาย​ฉบับ​นี้​วิเคราะห์​สถานการณ์​ได้​อย่าง​สมบูรณ์แบบ​ ​ฮ่องเต้​ย่อม​มิ​อาจ​ทน​เห็น​องค์​ชาย​ร่วมมือ​กับ​เหล่า​เสนาบดี​ได้​ ​ถ้า​มี​ใคร​พยายาม​ปกป้อง​ตระกูล​หลี​่​ ​พวกเขา​ก็​มี​แต่​จะ​ยิ่ง​ได้​ตาย​เร็ว​ขึ้น​เท่านั้น​ ​ฮ่องเต้​เกลียดชัง​คน​จาก​กรม​ขุนนาง​ภายใน​และ​กรม​กลาโหม​เป็นพิเศษ​ ​ตระกูล​หลี​่​มี​อดีต​ผู้ใต้บังคับบัญชา​อยู่​ใน​สอง​กรม​นี้​เป็น​จำนวนมาก​ ​หาก​พวกเขา​ร้องขอ​ชีวิต​ให้​กับ​ตระกูล​หลี​่​ ​เมล็ดพันธุ์​แห่ง​ความสงสัย​ใน​ตัว​ฮ่องเต้​ย่อม​ถึงคราว​ระเบิด​ ​และ​เขา​จะ​ต้อง​ดับลม​หายใจ​ของ​ตระกูล​หลี​่​ในทันที​!​ ​แม้แต่​องค์​ชาย​ใหญ่​เอง​ก็​อาจจะ​…​ ​หึหึ​…​”​ ​มู่​หร​งอ​๋​อง​หัวเราะ​อย่าง​เย็นชา​ ​แม้​เขา​จะ​ไม่ได้​พูด​จน​จบ​ ​แต่​ข้อความ​นั้น​ก็​ชัดเจน​อย่างมาก

ดู​ชะตา​แล้ว​คืนนี้​คงจะ​วุ่นวาย​ยิ่งนัก

ลึก​เข้าไป​ใน​วัง​หลวง​ ณ​ ​ห้อง​ทรง​อักษร​ทางทิศใต้​ที่​สว่างไสว​ไป​ด้วย​แสงไฟ​ ​ฮ่องเต้​ปา​คำร้อง​ที่อยู่​ใน​มือ​ทิ้ง

บรรดา​นางกำนัล​และ​ขันที​ทุกคน​ที่​รับใช้​ฮ่องเต้​คุกเข่า​ลง​พร้อมกัน​ทันที

แม้กระทั่ง​ขันที​เกา​ที่​ใกล้ชิด​กับ​ฮ่องเต้​ที่สุด​ใน​ช่วงนี้​ก็​ยัง​ถูก​คำร้อง​กระแทก​เข้า​กลาง​หน้า​ ​แต่​เขา​ก็​ไม่กล้า​ส่งเสียง​ร้อง​ด้วย​ความเจ็บปวด​ ​เขา​ทำได้​เพียง​คำนับ​แล้ว​ร้อง​ออกมา​ว่า​ ​“​โปรด​ระงับ​โทสะ​ก่อน​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​ ​ฝ่า​บาท​!​”

“​ข้า​จะ​ระงับ​โทสะ​ได้​อย่างไร​”​ ​สีหน้า​ของ​ฮ่องเต้​ดำทะมึน​ ​เขา​ชี้​ไป​ที่​คำร้อง​นั้น​พร้อมกับ​คำราม​ว่า​ ​“​ผ่าน​ไป​ยัง​ไม่​ถึง​วัน​เลย​ด้วยซ้ำ​ ​แต่​คำร้อง​แปด​ใน​สิบ​กลับ​มี​แต่​ขอให้​ไว้ชีวิต​ตระกูล​หลี​่​ ​และ​พยายาม​ช่วย​พูด​เพื่อ​เฟิง​เอ๋อร​์​ ​เยี่ยม​ ​เยี่ยม​มาก​!​ ​ประกาศ​ราชโองการ​ของ​ข้า​ออก​ไป​บอกว่า​จากนี้​เป็นต้นไป​ข้า​จะ​ยก​ให้​กรม​ขุนนาง​ภายใน​เป็น​ผู้รับ​หน้าที่​จัดการ​เรื่อง​ของ​ตระกูล​หลี​่​ ​ถอด​เสนาบดี​หลี​่​จาก​กรม​นั้น​ซะ​ ​แล้ว​ให้​ใคร​สัก​คน​จาก​จวน​อ๋อง​มู่​หรง​ขึ้น​มาดู​แลค​ดีนี​้​แทน​!​”

“​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”​ ​ขันที​เกา​ออก​ไป​ทันที​หลังจาก​ได้รับ​คำสั่ง​จาก​เขา

วัน​ต่อมา​ ​ข้า​รับใช้​ที่​พระสนม​ซู​ส่ง​ไป​สืบ​เรื่อง​นี้​ก็​กลับมา

“​เป็น​อย่างไรบ้าง​ ​ฝ่า​บาท​ว่า​อย่างไร​”​ ​นาง​คิด​ว่า​ในเมื่อ​ฮ่องเต้​รักใคร่​เอ็นดู​เฟิง​เอ๋อร​์​ ​เขา​ก็​น่าจะ​ใจเย็น​ลง​บ้าง​หลังจาก​ผ่าน​ไป​หนึ่ง​วัน

คาดไม่ถึง​ว่า​ขันที​คน​นั้น​จะ​ส่ายหน้า​ ​แล้ว​เอ่ย​เสียง​เบา​ว่า​ ​“​ฮ่องเต้​สั่ง​ให้​มู่​หร​งอ​๋​อง​ขึ้น​มา​เป็น​ผู้รับผิดชอบ​เรื่อง​ของ​ตระกูล​หลี​่​แล้ว​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​ ​หลังจากนั้น​กระหม่อม​ก็​ไม่ได้​ข่าว​อัน​ใด​อีก​”

“​อะไร​นะ​”​ ​ใบหน้า​ของ​พระสนม​ซู​ถึงกับ​ซีดเผือด​ในทันที​ ​จากนั้น​นาง​จึง​หมดสติ​ไป

ทุกคน​ต่าง​ก็​รู้เรื่อง​การชิงดีชิงเด่น​อัน​รุนแรง​ระหว่าง​ตระกูล​หลี​่​และ​ตระกูล​มู่​หร​งดี​ ​ในเมื่อ​ฮ่องเต้​ส่ง​เรื่อง​นี้​ให้​จวน​อ๋อง​มู่​หรง​จัดการ​ ​มัน​ย่อม​หมายความว่า​เขา​ต้องการ​ให้​คน​ตระกูล​หลี​่​ตาย

ข้อความ​นั้น​ลุกลาม​ไป​อย่างรวดเร็ว​ราวกับ​ไฟลามทุ่ง​ ​และ​เกือบทุก​คน​ก็​ล้วนแต่​รู้เรื่อง​นี้​แล้ว​ทั้งสิ้น​ ​ยกเว้น​ก็​แต่​องค์​ชาย​ใหญ่​ที่​ถูก​กักบริเวณ​อยู่​เพียงผู้เดียว

เงา​ทมิฬ​คุกเข่า​ข้าง​หนึ่ง​ลง​กับ​พื้น​พร้อม​นำ​ข้อความ​นี้​มารา​ยงาน​ให้​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋ย​ทราบ​โดย​ไม่​ตกหล่น​แม้แต่​คำ​เดียว

เด็กชาย​ตัว​น้อย​ฟัง​และ​ยก​มุม​ปาก​ขึ้น​ ​เขา​กล่าวว่า​ ​“​นับว่า​เร็ว​ทีเดียว​ ​ดูเหมือน​นาง​คง​ไม่​แกร่ง​พอที่​จะ​ทน​รับ​เรื่อง​พวก​นี้​ได้​”

เงา​ทมิฬ​ไม่ได้​ตอบ​ ​ในเวลานั้น​นอกจาก​ความชื่นชม​ที่​เขา​มี​ให้​กับ​ผู้​เป็น​นาย​แล้ว​ ​ก็​ยัง​มี​ความหวาดกลัว​อัน​มหาศาล​ปน​อยู่​ด้วย

หาก​จะ​ว่า​กัน​ด้วย​เหตุผล​แล้ว​ ​เขา​ก็​ไม่​ควร​กลัว

เขา​เป็น​คนที​่​รู้​แผนการ​ทั้งหมด​ของ​ฝ่า​บาท​ ​เขา​เห็น​ทุกอย่าง​อย่างชัดเจน​ ​และ​นั่น​จึง​เป็นสาเหตุ​ที่​ทำให้​เขา​คิด​ว่า​องค์​ชาย​ที่อยู่​ตรงหน้า​เขา​นั้น​เฉลียวฉลาด​จน​ทำให้​ผู้คน​หายใจไม่ทั่วท้อง

หาก​ไม่ใช่​เพราะ​ความเข้าใจ​อัน​แม่นยำ​ที่​เขา​มีต​่อ​ทุกคน​ ​เขา​ย่อม​ไม่​สามารถ​คิด​แผนการ​นั้น​ขึ้น​มา​ได้

ทุกคน​ใน​วัง​หลวง​รู้​ว่า​จวน​อ๋อง​มู่​หร​งมี​ชัย​เหนือกว่า​ตระกูล​หลี​่​ใน​การ​ต่อ​สู่​ครั้งนี้

จวน​อ๋อง​มู่​หรง​ได้ประโยชน์​จาก​การแย่งชิง​อำนาจ​ภายใน​วัง​หลวง​ครั้งนี้​อย่างแท้จริง

แต่​เขา​ก็​เป็น​เพียงแค่​หมาก​ตัว​หนึ่ง​ที่​ฝ่า​บาท​ใช้​เพื่อ​กำจัด​ตระกูล​หลี​่​เท่านั้น

จนถึง​ตอนนี้​ ​เงา​ทมิฬ​ก็​ยัง​ไม่เข้าใจ​ว่า​ทำไม​ฝ่า​บาท​ถึง​ได้คิด​ที่จะ​เอาชีวิต​ตระกูล​หลี​่​อย่างกะทันหัน​เช่นนี้

เขา​คาดการณ์​ว่า​อาจ​เป็น​เพราะ​คน​พวก​นั้น​ไม่​ให้​ความเคารพ​เขา​ ​แต่​พวกเขา​ก็​ประพฤติ​ตัว​เช่นนั้น​มาต​ลอด

ทำไม​คราวนี้​เขา​ถึง​หมด​ความอดทน​กับ​คน​พวก​นั้น​ ​และ​ทำการ​กวาดล้าง​ตระกูล​หลี​่​ทั้ง​ตระกูล​แม้​มัน​จะ​เสี่ยง​ให้​เขา​ถูก​เปิดโปง​ก็ตาม

เงา​ทมิฬ​ครุ่นคิด​อย่าง​สงสัย​พร้อมกับ​มอง​ไป​ยัง​เด็กชาย​ตัว​น้อย​ที่นั่ง​อยู่​บน​เก้าอี้​ไม้

เด็กชาย​ตัว​น้อย​ไม่ได้​พูด​อะไร​อีก​ ​เขา​ทำ​เพียง​สั่ง​ด้วย​น้ำเสียง​อัน​เยือกเย็น​ว่า​ ​“​เจ้า​ออก​ไป​ได้​แล้ว​”

“​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”​ ​เงา​ทมิฬ​ยืน​ขึ้น​ ​และ​สังเกตเห็น​นางกำนัล​คน​ใหม่​ที่​เพิ่ง​เดิน​เข้ามา

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ไม่ได้​ถาม​ว่า​พวกเขา​คุย​เรื่อง​อะไร​กัน​ ​นาง​ถือ​หม้อ​ตุ๋น​เอาไว้​ใน​มือ​พร้อมกับ​มอง​เด็กชาย​ที่นั่ง​เขียน​อะไร​บางอย่าง​อยู่​เงียบๆ​ ​จากนั้น​นาง​จึง​หยิบ​พู่กัน​ออกจาก​มือ​เขา​ ​และ​กล่าวว่า​ ​“​ศีรษะ​ของ​เจ้า​ยัง​ไม่​หาย​ดี​ ​เลิก​เขียน​ได้​แล้ว​”

“​พรุ่งนี้​หมอ​หลวง​ถึง​จะ​มา​”​ ​เด็กชาย​แย่ง​พู่กัน​กลับมา​ ​แล้ว​ลงมือ​เขียน​ต่อ​ราวกับว่า​เมื่อครู่นี้​เขา​กำลัง​เขียน​เรื่องสำคัญ​อยู่

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​บอกว่า​ ​“​ข้า​จะ​ช่วย​เขียน​ให้​ ​ไป​ดื่ม​น้ำแกง​เสีย​”

“​เจ้า​จะ​เขียน​แทน​ข้า​หรือ​”​ ​เด็กชาย​เลิก​คิ้ว

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ไฟ​ลุก​หลังจาก​เห็น​สีหน้า​ยียวน​ของ​เขา​ ​และ​โต้กลับ​มา​ว่า​ ​“​มีปัญหา​อะไร​หรือ​”

“​ไม่มี​อะไร​มาก​ ​เจ้า​เพียงแค่​ต้อง​เขียน​สิ่ง​นี้​ยี่สิบ​ครั้ง​ก็​เท่านั้น​”​ ​เด็กชาย​ยัน​ตัว​ลุกขึ้น​ ​และ​ดื่ม​น้ำแกง​ที่​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ต้ม​มา​อย่างสบายใจ

ในเมื่อ​นาง​อยาก​ช่วย​เขา​เขียน​ ​เช่นนั้น​เวลานี้​เขา​ก็​ควร​ที่จะ​ได้​พัก

เพียงแต่ว่า​…

เด็กชาย​ตัว​น้อย​ชำเลือง​มอง​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ระหว่าง​ดื่ม​น้ำแกง​อยู่​ข้าง​นาง​ ​ทันใดนั้น​เขา​ก็​ไม่​สามารถ​ห้าม​ตัวเอง​ได้​อีกต่อไป​ ​เขา​ถาม​ขึ้น​ว่า​ ​“​ใคร​สอน​เจ้า​เขียนหนังสือ​”

“​มัน​ก็​ดู​เป็น​เอกลักษณ์​ดี​มิใช่​หรือ​”​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ทำ​หน้า​เหมือน​นาง​กำลัง​รอ​รับคำ​ชม

เด็กชาย​แค่น​หัวเราะ​ ​“​ถ้า​น่าเกลียด​ถือเป็น​เอกลักษณ์​ ​เช่นนั้น​ลายมือ​ของ​เจ้า​ก็​นับว่า​มี​เอกลักษณ์​จริงๆ​”

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ ​:​ ​ ​…​พูดจา​ใจดี​กว่านี​้​หน่อย​จะ​ตาย​หรือ​ไร

“​นั่ง​สิ​”​ ​น้ำเสียง​ของ​เด็กชาย​สุขุม​เยือกเย็น​ ​เขา​กุมมือ​ที่นาง​ใช้​ถือ​พู่กัน​ไว้​โดย​ไม่​รอ​ให้​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ได้​ตั้งตัว​ ​เขา​เอียง​ใบหน้า​สง่างาม​นั้น​ ​แล้ว​พูด​ช้าๆ​ ​ว่า​ ​“​เวลา​เจ้า​เขียน​เส้น​นี้​ ​เจ้า​ควรจะ​ใส่​แรง​ไป​ที่​ข้อมือ​…​”

ชั่วขณะหนึ่ง​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​คิด​ว่านาง​ได้​กลับ​ไป​ใน​อดีต​ตอนที่​เขา​กอด​นาง​จาก​ทาง​ด้านหลัง​ ​แล้ว​จับมือ​พานาง​เขียนหนังสือ​เหมือน​ใน​ตอนนี้

“​เมื่อไหร่​เจ้า​ถึง​จะ​กลับ​ไป​กับ​ข้า​หรือ​”​ ​นาง​เผลอ​โพล่ง​ขึ้น​มา

นิ้ว​ของ​เด็กชาย​ตัว​น้อย​ชะงัก​ไป​ ​ดวงตา​ของ​เขา​ลึกล้ำ​ยาก​จะ​หยั่งถึง

ทันใดนั้น​เงา​ทมิฬ​ก็​ผลัก​ประตู​ไม้​เข้ามา​ด้วย​สีหน้า​ตื่นตระหนก​พร้อมกับ​บอกว่า​ ​“​ฝ่า​บาท​ ​มี​ข่าวร้าย​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที!

องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที!

Status: Ongoing

นิยายโรแมนติก นักรบหญิงย้อนเวลามาเจอสังคมอุดมพลังปราณ…และองค์ชายสายคลั่งรัก!

“เจ้าต้องรับผิดชอบ”

“ก็ได้ ท่านต้องการให้ข้ารับผิดชอบอย่างไรหรือ อย่าบอกนะว่าท่านอยากให้ข้าแต่งงานด้วย”

“แต่งงานหรือ…” ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยจับคางของเฮ่อเหลียนเวยเวยอย่างหยอกล้อ

“ไหนๆ เราก็จะแต่งงานกันอยู่แล้ว ลองมาตรวจสอบเรื่องนี้กันก่อนดีไหม…

ไปเตรียมห้อง!”

เฮ่อเหลียนเวยเวย ราชินีนักรบแห่งศตวรรษที่ 21 ย้อนเวลามาอยู่ในร่างคุณหนูใหญ่ชื่อเดียวกัน

ย้อนมาวันแรกก็พบว่านางถูกยกเลิกงานแต่งงาน ทั้งยังเจอแม่เลี้ยงและน้องสาวต่างมารดาหมายหัวเอาชีวิต

ทั้งยังต้องพบว่า โลกนี้วัดค่าของคนด้วยพลังลมปราณ ทว่าร่างนี้ไม่มีลมปราณ จึงถูกเรียกว่า ‘นังคนไร้ค่า’

แต่จู่ๆ โชคชะตาให้นางได้บังเอิญพบหนังสือโบราณ ทำพันธะสัญญากับคนหูหมาป่า ทั้งยังมีหนังสือเรียกตัวจากสำนักไท่ไป๋

ยิ่งไปกว่านั้นยังมีบุรุษรูปงามที่ใครต่างก็เกรงใจ นาม ไป๋หลี่เจียเจวี๋ย ไล่ตามนางไปทุกที่

เพราะในเมื่อนางเคยขโมยจูบแรกเขามา และเขาก็คือบุรุษหน้ากากเงินที่นางเคยพบมาก่อน

ชีวิตใหม่นี้มีของดีอยู่ในมือ จะแกร่งขึ้น จะแก้แค้น จะร้ายกว่าเดิมจนทั่วหล้าต้องตกตะลึง นางไม่เคยกลัว!

กลัวเพียงอย่างเดียว… เขาคนนั้นจะไม่คืนชีวิตสุขสงบให้นาง เล่นไล่จับมันเหนื่อยมากนะรู้ไหม?!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท