รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 611 ซีไม่เคยถอดใจ ตามหาแดนบรรพโกลาหลต่อไป!

บทที่ 611 ซีไม่เคยถอดใจ ตามหาแดนบรรพโกลาหลต่อไป!

บท​ที่​ 611 ซีไม่เคย​ถอดใจ​ ตามหา​แดน​บรรพ​โกลาหล​ต่อไป​!

สายลม​เย็นเยียบ​พัดผ่าน​ เสียดแทง​กระดูก​คล้าย​ดาบ​เหมันต์​

ภายใต้​สภาพแวดล้อม​เช่นนี้​ เทียน​ตี้​ไม่มีทาง​ต้านทาน​ไหว​ เดิน​เพียง​ไม่กี่​ก้าว​ก็​คง​ต้อง​จบชีวิต​ลง​ แตกดับ​อย่าง​สมบูรณ์​

ซีมุ่งหน้า​ต่อ​ร่างกาย​ปะทะ​กับ​สายลม​เหน็บ​หนาว​ทั้งอย่างนั้น​ ทิ้ง​รอยเท้า​ไว้​เป็น​พรวน​ ทว่า​ไม่นาน​ก็​ถูก​หิมะ​กลบ​ทับ​ ที่นี่​ยังมี​หิมะ​ตกหนัก​อีกด้วย​

จะว่า​ยังมี​หิมะ​ตก​ก็​คง​มิได้​…

ที่นี่​หิมะ​ตก​ตลอดปี​ไม่เคย​หยุด​

หิมะ​แผ่น​ใหญ่​โปรยปราย​ แต่​บน​ตัว​ซีกลับ​ไม่มีหิมะ​สักนิด​ ประกาย​วาววาม​เปล่งปลั่ง​จาง ๆ อยู่​บน​ตัวนาง​ หิมะ​ที่​ปลิด​ปลิว​ลงมา​ใส่นาง​นั้น​ ไม่ทัน​ได้​แตะ​ตัว​ก็​ละลาย​ไป​เสีย​ก่อน​

นาง​ก้าวเดิน​อยู่​ใน​ส่วนลึก​ของ​ทุ่ง​เหมันต์​ สังเกตการณ์​ทุกอย่าง​โดยละเอียด​ ไม่ปล่อย​ผ่าน​แม้แต่​จุด​เดียว​

หากว่า​มีโอกาส​ค้นพบ​แดน​บรรพ​โกลาหล​ ซ้ำยัง​เข้าไป​ได้​นั้น​ ที่นี่​คือ​สถานที่​ที่​มีโอกาส​นั้น​มาก​ที่สุด​!

ก่อน​กาลเวลา​อัน​ยาวนาน​เริ่ม​ขึ้น​ ครั้ง​ภพ​เซียน​ยัง​มิได้​แยก​ออก​ไป​ อาณาจักร​แห่ง​นี้​ยังอยู่​ใน​ยุค​รุ่งโรจน์​และ​เรืองอำนาจ​ที่สุด​ มียอด​ฝีมือ​ดีเลิศ​ประเสริฐ​ศรี​ถือกำเนิด​คณานับ​ อารยธรรม​ฝึก​ตน​เปล่งประกาย​เจิดจ้า​ เรียก​ได้​ว่า​บุปผา​นานา​พันธุ์​เบ่งบาน​ถ้วนหน้า​ หมื่น​วิถี​ร่วม​สรรเสริญ​

อาจ​เพราะ​เมื่อ​ถึงจุดสูงสุด​แล้ว​ ย่อม​ต้อง​ตก​ลงมา​ในที่สุด​ และ​ใน​ยุค​ที่​อาณาจักร​แห่ง​นี้​รุ่งเรือง​ถึงขีดสุด​ ภัยพิบัติ​ครั้ง​ใหญ่​ปรากฏ​ ความ​พิศวง​ลางร้าย​คืบคลาน​เข้ามา​อย่าง​เงียบเชียบ​

เริ่มแรก​ สิ่งมีชีวิต​ทั้งหลาย​ยัง​ไม่ตระหนักถึง​อันตราย​ของ​ความ​พิศวง​ลางร้าย​ ครานั้น​ ความ​พิศวง​ลางร้าย​เพิ่ง​ได้​กระจาย​ออก​ไป​ ยัง​ไม่ก่อให้เกิด​หายนะ​มาก​นัก​ มีสิ่งมีชีวิต​เพียง​ส่วนน้อย​เท่านั้น​ที่​ได้รับ​ความเสียหาย​ เกิด​การเปลี่ยนแปลง​กับ​ร่างกาย​ ขน​ยาว​พิลึกพิลั่น​งอก​ตามตัว​ กลายเป็น​สัตว์ประหลาด​ไร้​คำนิยาม​

ทว่า​ต่อมา​ ความ​พิศวง​ลางร้าย​นี้​ปะทุ​รุนแรง​ จำนวน​สิ่งมีชีวิต​ที่​ถูก​ความ​พิศวง​ลางร้าย​กัด​กิน​นั้น​เพิ่มขึ้น​เรื่อย ๆ​ ถึงเวลา​นั้น​ สิ่งมีชีวิต​ทั้งหลาย​ถึงเพิ่ง​ตระหนักถึง​อันตราย​ของ​ความ​พิศวง​ลางร้าย​!

ถูก​ความ​พิศวง​ลางร้าย​กัดกร่อน​ ไม่เพียงแต่​จะเกิด​การเปลี่ยนแปลง​กับ​ร่างกาย​ แม้กระทั่ง​นิสัยใจคอ​ยัง​เปลี่ยนไป​อีกด้วย​ กลายเป็น​คน​อำมหิต​กระหายเลือด​ เมื่อคราว​ความ​พิศวง​ลางร้าย​ปะทุ​รุนแรง​ ทั้ง​อาณาจักร​ตก​อยู่​ใน​เภทภัย​พิฆาต​อัน​ไร้​ที่​สิ้นสุด​ เวลา​นั้น​ สิ่งมีชีวิต​ซึ่งยัง​ไม่ถูก​กัดกร่อน​ต่าง​เข้า​ต่อสู้​กับ​ความ​พิศวง​ลางร้าย​

ยุคสมัย​นั้น​ เรียก​ได้​ว่า​สิ่งมีชีวิต​ล้มตาย​บาดเจ็บ​กัน​นับไม่ถ้วน​ พินาศ​ไป​ทุกหน​แห่ง​ โลหิต​ที่​หลั่ง​ริน​ไหล​รวม​เป็น​มหาสมุทร​ ศพ​กองพะเนิน​จน​สูงยิ่งกว่า​ขุนเขา​!

ความ​พิศวง​ลางร้าย​นี้​น่า​ประหวั่นพรั่นพรึง​ยิ่งนัก​ อารยธรรม​ฝึก​ตน​ใน​ยุคสมัย​นั้น​รุ่งเรือง​ช่วงโชติ​ปานใด​ มียอด​ฝีมือ​มาก​ขนาด​ไหน​ก็​ไม่ไหว​ บรรพ​จารย์​เซียน​เก้า​ท่าน​จาก​โบราณกาล​ผู้​ไม่เคย​ปรากฏตัว​มาก่อน​ ก็​ก้าว​ออกมา​ในเวลานั้น​

แต่​ผลสุดท้าย​กลับ​น่าสังเวช​เป็น​ที่สุด​

บรรพ​จารย์​เซียน​เก้า​ท่าน​จาก​โบราณกาล​พ่ายแพ้​ลง​ตาม​ ๆ กัน​ ไม่แม้กระทั่ง​ได้​รู้​ว่าความ​พิศวง​ลางร้าย​คือ​สิ่งใด​ ไม่อาจ​มอง​ทะลุ​ได้​เลย​

นี่​ถือ​เป็นเรื่อง​น่าเศร้า​อย่างยิ่ง​

แม้กระทั่ง​คู่ต่อสู้​เป็น​อะไร​ยัง​ไม่รู้​ ไม่น่าเศร้า​หรือ​ไร​?

น่าเศร้า​อย่างยิ่งยวด​!

บรรพ​จารย์​เซียน​โบราณ​ทั้ง​เก้า​ท่าน​คือ​กำลัง​รบ​สูงสุด​ กระทั่ง​พวกเขา​ยัง​พ่ายแพ้​ยับเยิน​ สิ่งมีชีวิต​อื่น​ไฉน​เลย​จะต้าน​อยู่​

ไม่ได้​เลย​สักนิด​!

ครานั้น​ ความ​พิศวง​ลางร้าย​แทบ​ยึดครอง​ทั้ง​อาณาจักร​ได้​แล้ว​!

ทว่า​ใน​ตอนนั้น​เอง​ พลัง​ประหลาด​สาย​หนึ่ง​ปรากฏ​ บุก​จู่โจมความ​พิศวง​ลางร้าย​

ดูเหมือน​พวกเขา​รู้จัก​ความ​พิศวง​ลางร้าย​เป็น​อย่าง​ดี​ ยาม​ลงมือ​ สามารถ​สะกด​ความ​พิศวง​ลางร้าย​ได้​จน​ความ​พิศวง​ลางร้าย​ถูก​กำราบ​ลง​ทั้งสิ้น​

ท้ายที่สุด​ ภัยพิบัติ​ใหญ่​ครั้งนี้​ก็​จบ​ลง​

หาก​มิใช่ว่า​มีพลัง​สาย​นี้​ปรากฏ​ ครานั้น​ ภพ​เซียน​อยาก​ถอนกำลัง​ก็​ยัง​ทำ​ไม่ได้​

พลัง​พิศวง​ลางร้าย​นั้น​ร้ายกาจ​เกินไป​

แม้ว่า​ภัยพิบัติ​ใหญ่​จบ​ลง​แล้ว​ กระนั้น​ภพ​เซียน​ก็​ไม่ต้องการ​อยู่​ที่นี่​ต่อ​

“ใช่เพียง​ภพ​เซียน​ที่ไหน​ ใน​ช่วงเวลา​หลังจากนั้น​ ผู้ใด​ไป​ได้​ล้วน​ไป​กัน​หมด​…”

ซีพึมพำ​เสียง​เบา​

ระหว่าง​ที่​นาง​ตามหา​กล่อง​สี่เหลี่ยม​หลัง​ตื่นขึ้น​มาใน​อาณาจักร​นี้​ นาง​ได้รับ​รู้เรื่องราว​ใน​อดีต​มากมาย​ อาณาจักร​แห่ง​นี้​ยังมี​เก้า​แคว้น​ใหญ่​ ซึ่งท้ายที่สุด​ก็​แยก​ออกจาก​อาณาจักร​นี้​ไป​เช่นกัน​ กลายเป็น​อาณาจักร​เก้า​ตอน​บน​ที่อยู่​เหนือ​อาณาจักร​ทั้งปวง​

แม้ว่าความ​พิศวง​ลางร้าย​จะถูก​สะกด​ขับไล่​ แต่​ก็​ยังมี​สิ่งมีชีวิต​อีก​มากมาย​ที่​ตระหนัก​ได้​ว่า​ เรื่องราว​ทั้งหมด​มิอาจ​จบ​ลง​โดยง่าย​ สิ่งมีชีวิต​ผู้​เปี่ยม​ความสามารถ​ที่​ไป​ได้​นั้น​จากไป​หมด​แล้ว​

และ​ยาม​พวกเขา​ไป​ ก็ได้​นำ​ทุกสิ่ง​ไป​ด้วย​

ภพ​เซียน​นำ​ออก​ไป​ระลอก​หนึ่ง​ พวกเขา​นำ​ออก​ไป​อี​กระลอก​หนึ่ง​ อย่า​ให้​กล่าว​เลย​ว่า​อาณาจักร​นี้​อเนจอนาถ​ปานใด​ อารยธรรม​ฝึก​ตน​ขาดช่วง​ไป​นาน​ ถด​ถอยกลับ​ไป​มหันต์​ สิ่งแวดล้อม​ไม่อาจ​เทียบ​เทียม​อดีต​ ความรุ่งเรือง​ช่วงโชติ​ที่ผ่านมา​ไม่อาจ​เกิดขึ้น​อีกแล้ว​

“ไม่อยาก​อยู่​ต่อ​นั้น​เข้าใจ​ได้​ ทว่า​นำ​ทุกสิ่ง​ที่​นำ​ออก​ไป​นั้น​ มิเท่ากับ​กวาดล้าง​อาณาจักร​แห่ง​นี้​ใน​ช่วง​ลำบาก​หรือ​…” ซีเอ่ย​ขึ้น​อีกครั้ง​

ไม่ว่า​อย่างไร​ ที่นี่​ก็​เป็น​ภูมิลำเนา​ ปฏิบัติ​ต่อ​บ้านเกิดเมืองนอน​ของ​ตน​เยี่ยง​นี้​ น่ารังเกียจ​นัก​

สายลม​เย็นเยียบ​พัดผ่าน​อีกครั้ง​ ซีค้นหา​ต่อไป​

พลัง​ที่​สะกด​ขับไล่​ความ​พิศวง​ลางร้าย​ปรากฏ​ครั้งแรก​ที่นี่​

แม้ว่า​พลัง​นั้น​เป็นที่รู้จัก​เพียง​น้อย​นิด​ ไม่รู้​มีจุดกำเนิด​มาจาก​ไหน​

ทว่า​เมื่อ​วิเคราะห์​ดู​แล้ว​ คง​เกี่ยวข้อง​กับ​แดน​บรรพ​โกลาหล​

หา​กลอง​ไตร่ตรอง​ดู​ดี ๆ​ นอกจาก​แดน​บรรพ​โกลาหล​ ที่ไหน​เล่า​จะมีพลัง​ขนาดที่​สามารถ​สะกด​ขับไล่​ความ​พิศวง​ลางร้าย​ได้​

นอกจากนี้​ ผู้คน​ยัง​สงสัย​อี​กว่า​ ความ​พิศวง​ลางร้าย​อาจ​เกี่ยวข้อง​กับ​แดน​บรรพ​โกลาหล​

ถึงอย่างไร​ ความ​พิศวง​ลางร้าย​เยี่ยง​นี้​จู่ ๆ จะโผล่​ออกมา​ได้​อย่างไร​

และ​นี่​ก็​เป็นเหตุให้​ผู้คน​สงสัย​ว่า​ ความ​พิศวง​ลางร้าย​อาจ​รั่วไหล​ออกจาก​แดน​บรรพ​โกลาหล​

สรุป​ก็​คือ​ หาก​ไล่​ย้อนกลับ​ไป​ เรื่องราว​ทั้งหมด​คง​ไม่พ้น​เกี่ยวข้อง​กับ​แดน​บรรพ​โกลาหล​

ซีเดิน​วน​อยู่​ใน​ส่วนลึก​รอบ​แล้ว​รอบ​เล่า​ สืบค้น​อยู่​หน​แล้ว​หน​เล่า​ น่าเสียดาย​ที่​ไม่ได้​อะไร​ ไม่เคย​เจอ​ ‘ทางเข้า​’ ที่ว่า​

“หากว่า​ที่นี่​ยัง​มิใช่ คง​ได้​แต่​รอ​ให้​แดน​บรรพ​โกลาหล​ปรากฏ​ออกมา​เอง​แล้ว​…”

ซีถอนหายใจ​

นาง​ไม่ต้องการ​รอ​ต่อไป​แล้ว​จริง ๆ​

แม้แดน​บรรพ​โกลาหล​มีวี่แวว​ให้​เห็น​ว่า​กำลังจะ​ปรากฏ​ออกมา​ แต่​ก็​มิมีผู้ใด​รู้​ว่า​จะปรากฏ​ออกมา​เมื่อใด​

เวลา​นั้น​ไม่แน่นอน​อย่าง​มาก​ เป็นไปได้​ว่า​ยังอีก​ยาวนาน​

อีก​อย่าง​ นาง​อยาก​เข้าไป​ฝึกฝน​ใน​แดน​บรรพ​โกลาหล​ นาง​ต้อง​การแก้แค้น​ ต้อง​การถล่ม​ตระกูล​เซียว​ให้​ราบคาบ​ และ​หาก​นาง​ประสงค์​ให้​ทุกอย่าง​ลุล่วง​ นาง​จำต้อง​เข้าไป​ฝึกฝน​ใน​แดน​บรรพ​โกลาหล​!

นอกจาก​แดน​บรรพ​โกลาหล​ ยาก​จะมีที่ใด​ช่วย​ให้​นาง​ทรงพลัง​เหลือหลาย​ จน​สามารถ​ถล่ม​ตระกูล​เซียว​จน​ราบคาบ​ได้​อีก​

เดิม​นาง​คิด​จะหา​กล่อง​สี่เหลี่ยม​ให้​เจอ​ก่อน​ แล้ว​ค่อย​ไป​ตามหา​ที่ตั้ง​ของ​แดน​บรรพ​โกลาหล​ เพื่อ​เข้าไป​ฝึกฝน​ใน​นั้น​

เมื่อ​ครั้ง​พวกเขา​หนี​เข้ามา​ใน​อาณาจักร​นี้​ ก็​เพราะ​แดน​บรรพ​โกลาหล​อยู่​ใน​อาณาจักร​นี้​ พวกเขา​คิด​ยืม​พลัง​จาก​แดน​บรรพ​โกลาหล​ใน​การ​ชุบตัว​

“หากว่า​กล่อง​สี่เหลี่ยม​อยู่​ใน​แดน​บรรพ​โกลาหล​ย่อม​เป็นการ​ดี​ที่สุด​ หากว่า​ไม่อยู่​ ข้า​คง​ไม่หา​แล้ว​ ขอ​อยู่​ฝึกฝน​ใน​แดน​บรรพ​โกลาหล​ต่อไป​”

ซีพึมพำ​เสียง​เบา​กับ​ตัวเอง​

นาง​หา​ทุกที่​ข้างนอก​นั่น​จน​ครบ​แล้ว​ ทว่า​ก็​ยัง​ไม่พบ​ ไม่แม้แต่​จะมีเบาะแส​สักนิด​

ใน​เมื่อ​เป็น​เช่นนี้​ เป็นไปได้​สูงว่า​กล่อง​สี่เหลี่ยม​อยู่​ใน​แดน​บรรพ​โกลาหล​

หากว่า​กล่อง​สี่เหลี่ยม​ไม่อยู่​ใน​แดน​บรรพ​โกลาหล​ เหลือ​เพียง​ความเป็นไปได้​เดียว​

ความเป็นไปได้​นี้​คือ​ ระหว่าง​ที่​นาง​ยัง​ไม่ฟื้น​ คน​ตระกูล​เซียว​พบ​กล่อง​สี่เหลี่ยม​ และ​นำ​กลับ​ไป​แล้ว​

มิฉะนั้น​ ไม่มีทาง​ที่​นาง​ไม่พบ​เบาะแส​แม้แต่น้อย​

เพราะ​อย่างนั้น​ หน​นี้​ หาก​นาง​เข้าไป​ใน​แดน​บรรพ​โกลาหล​ได้​ ไม่ว่า​จะเจอ​กล่อง​สี่เหลี่ยม​หรือไม่​ นาง​จัก​อยู่​ใน​แดน​บรรพ​โกลาหล​ต่อ​

ต่อให้​เจอ​กล่อง​สี่เหลี่ยม​ นาง​ก็​ต้อง​ฝึกฝน​ใน​แดน​บรรพ​โกลาหล​ต่อ​เท่านั้น​ จึงจะแก้แค้น​สำเร็จ​

และ​หาก​ไม่เจอ​กล่อง​สี่เหลี่ยม​ บ่งบอก​ว่า​กล่อง​สี่เหลี่ยม​อาจ​ถูก​ตระกูล​เซียว​ค้นพบ​แล้ว​ ถ้าเป็น​เช่นนั้น​ นาง​ยิ่ง​ต้อง​ฝึกฝน​ใน​แดน​บรรพ​โกลาหล​ต่อ​ เช่นนี้​นาง​ถึงแก้แค้น​สำเร็จ​ จน​ชิงกล่อง​สี่เหลี่ยม​กลับมา​ได้​

“ไป​ต่อ​ก่อน​!”

นาง​มิได้​ถอดใจ​ ยังคง​ตามหา​ต่อไป​

นาง​ไม่อยาก​เป็น​ฝ่าย​ตั้ง​รับ​อยู่​ตลอด​ ทิ้ง​เวลา​ไป​กับ​การ​รอ​ นาง​อยาก​หา​แดน​บรรพ​โกลาหล​ให้​เจอ​โดย​ไว​ แล้ว​เข้าไป​อยู่​ใน​แดน​บรรพ​โกลาหล​

“แดน​บรรพ​โกลาหล​ใกล้​ปรากฏ​ออกมา​แล้ว​ ยัง​มีโอกาส​เข้าไป​!”

นาง​เอ่ย​ด้วย​ตา​เป็นประกาย​

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท