ตอนที่ 631 เปลี่ยนเรื่องคุย(1)
ครอบครัวของแม่ไป๋เดินทางกลับปักกิ่งในวันรุ่งขึ้น
ตอนนี้เป็นวันหยุดฤดูร้อน เนื่องจากแม่ไป๋เป็นครู หล่อนจึงมีวันหยุดงาน
แต่พ่อไป๋ไม่ได้มาทำงานเป็นเวลานานแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถขอลาหยุดได้อีกต่อไป
หลินม่ายและฟางจั๋วหรานส่งครอบครัวของแม่ไป๋กลับ
ย้อนกลับไปถึงเมื่อคืนนี้ ทั้งครอบครัวต่างปรึกษาหารือกันเป็นเวลานาน
ภายในตระกูลไป๋ทั้งหมด ยกเว้นแม่ไป๋ที่ยืนอยู่ข้างไป๋ซวงเหมือนคนโง่เขลาแล้ว ก็ไม่มีใครยืนเคียงข้างไป๋ซวงอีกต่อไป
จากนั้นพ่อไป๋และพี่น้องไป๋ก็หาทางขับไล่ไป๋ซวงออกจากบ้านตระกูลไป๋
ดังนั้นเมื่อครอบครัวของแม่ไป๋กำลังจะกลับไปปักกิ่ง หลินม่ายและฟางจั๋วหรานก็เดินทางมาส่งพวกเขา
ที่ทำไปนี้ไม่ใช่เพื่อสิ่งอื่นใด แต่เพื่อให้ได้มาซึ่งความโปรดปรานจากพ่อไป๋และพี่น้องไป๋ เพื่อที่พวกเขาจะได้รวมพลังกันขับไล่ไป๋ซวงออกจากบ้านตระกูลไป๋
หากมีหลินม่ายเพียงคนเดียว ก็จะเป็นเรื่องยากมากที่จะขับไล่ไป๋ซวงออกจากตระกูลไป๋
แม่ไป๋ยืนอยู่ข้างไป๋ซวง และอำนาจของแม่ไป๋ก็แข็งแกร่งมาก
ในครอบครัวส่วนใหญ่ แม่ก็คือราชินีของบ้าน
หลินม่ายและฟางจั๋วหรานไม่ได้มาหาพวกเขามือเปล่า ทั้งสองนำผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์ น้ำผึ้งบริสุทธิ์ และนมมากมายมามอบให้พ่อแม่ปู่ย่าตายาย และญาติสนิทที่หลินม่ายไม่เคยได้พบ
ผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์ น้ำผึ้งบริสุทธิ์ และนมเหล่านี้ล้วนถูกซื้อมาจากตลาดชายแดน จากนั้นจึงส่งไปยังเจียงเฉิงทางรถไฟ
แม่ของถ่าน่าเป็นนายหน้าซื้อสินค้าให้กับหลินม่าย หล่อนจัดการทุกอย่างได้อย่างสมบูรณ์แบบ
เมื่อเห็นว่าหลินม่ายปฏิบัติตนต่อครอบครัวดีขึ้น แม่ไป๋ก็เผยรอยยิ้ม
ไป๋ซวงเห็นดังนั้นก็กัดฟันด้วยความเกลียดชัง
ดูเหมือนว่าแม่ไป๋เองก็ไว้ใจไม่ได้แล้วเช่นกัน พอลูกสาวผู้ให้กำเนิดนำของขวัญมาให้ หล่อนก็ดูเหมือนจะพออกพอใจอีกฝ่ายเป็นอย่างมาก
ก่อนที่รถไฟจะมา สามพี่น้องของหลินม่ายก็นั่งคุยกันด้วยความรักใคร่
ฟางจั๋วหรานต้องไปทำงาน ดังนั้นเขาจึงออกไปก่อน
พ่อไป๋นั่งอยู่ข้าง ๆ เอียงศีรษะมองพี่น้องคุยกันด้วยรอยยิ้ม
แม่ไป๋และไป๋ซวงนั่งด้วยกันและพูดคุยกันอย่างเงียบงัน ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าพวกเธอกำลังพูดถึงอะไร
ขณะที่สนทนา ไป๋ลู่ก็พูดถึงวันชาติเมื่อปีที่แล้ว นั่นเป็นวันที่หล่อนกับไป๋เซี่ยมายังเจียงเฉิงเพื่อตามหาหลินม่าย
แม้ว่าไป๋ซวงกำลังคุยกับแม่ไป๋ แต่หล่อนก็พยายามเงี่ยหูฟังสิ่งที่สามพี่น้องกำลังพูดถึง
เมื่อได้ยินไป๋ลู่พูดถึงเรื่องนั้น หัวใจของหล่อนก็เต้นรัว
หล่อนรีบขัดการสนทนาทันที “พี่รอง ตอนที่พี่กับพี่ชายมางานวันชาติที่เจียงเฉิงเมื่อปีที่แล้ว อากาศเย็นกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ใช่ไหมคะ?”
ไป๋ลู่ชำเลืองมองหล่อน “ตอนนั้นเป็นฤดูใบไม้ร่วง แน่นอนสิว่าอากาศเย็นกว่าตอนนี้”
ไป๋ซวงพูดอย่างประจบสอพลอ “ไว้เราเดินทางมาเจียงเฉิงในฤดูใบไม้ร่วงปีหน้ากันเถอะค่ะ ในอนาคต พวกเราพี่น้องจะร่วมเดินทางเพื่อเยี่ยมชมความงามของธรรมชาติด้วยกัน”
เมื่อเห็นว่าหล่อนพยายามเปลี่ยนหัวข้อ หลินม่ายก็เดาได้ว่าต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้นระหว่างการเดินทางมายังเจียงเฉิงของพี่น้องไป๋เมื่อปีที่แล้ว
ดังนั้นเธอจึงพยายามดึงกลับสู่ประเด็นเดิมและพูดกับไป๋ลู่ “พี่รอง พี่กับพี่ชายมาหาฉันที่เจียงเฉิงในวันชาติเมื่อปีที่แล้วเหรอ? ทำไมฉันถึงไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะคะ?”
ไป๋ลู่โบกมือ “ไม่ต้องมาพูดเลย ที่อยู่ที่เธอให้มามันไม่ถูกต้อง ทำให้ฉันและพี่ชายพลาดอะไรไปหลายอย่างจนฉันเศร้าใจแทบตาย”
หลินม่ายรู้สึกประหลาดใจ “เป็นไปไม่ได้ ฉันจะให้ที่อยู่ผิดได้ยังไง?”
“เธอให้ที่อยู่มาผิดจริงๆ” ไป๋เซี่ยกล่าวด้วยความมั่นใจ
หลินม่ายพลันถามไป๋ลู่ “โน้ตนั้นยังอยู่ไหมคะ?”
ไป๋ลู่พยักหน้า “อยู่สิ แต่อยู่ที่บ้าน”
“พี่จำที่อยู่ที่ระบุไว้ในนั้นได้ไหม?”
“จำได้สิ” ไป๋ลู่ตอบ แล้วก็บอกที่อยู่แก่หลินม่าย
หลินม่ายตบหน้าผากตัวเองอย่างแผ่วเบา “ขนาดฉันเองก็ยังไม่รู้เลยว่ามีที่อยู่นั้น บอกได้ว่าไม่รู้จะมีที่อยู่นั้นในเจียงเฉิงจริงๆ หรือเปล่า”
ไป๋ลู่กล่าวอย่างจริงจัง “แต่นั่นคือที่อยู่ที่เธอทิ้งไว้ให้ฉันนะ”
“ที่อยู่ที่ฉันทิ้งไว้ให้พี่คือ เลขที่ 28 ถนนเจียฟาง” หลินม่ายกล่าวด้วยความมั่นใจ “ที่อยู่นี้ถูกดัดแปลงแล้วล่ะค่ะ”
เมื่อไป๋ลู่และพี่ชายของหล่อนได้ยินสิ่งนี้ พวกเขาก็มองไปยังไป๋ซวงอย่างพร้อมเพรียงกัน
ไป๋ซวงหลบสายตาของพวกเขา ตราบใดที่ไม่สบตา หล่อนก็สามารถสงบสติอารมณ์ได้
ไป๋เซี่ยถามอย่างตรงไปตรงมา “เธอปลอมแปลงที่อยู่ที่ม่ายจื่อเขียนขึ้นหรือเปล่า?”
ไป๋ซวงปฏิเสธอย่างเด็ดขาด “ฉันไม่ได้ทำ!”
ไป๋เซี่ยจ้องเขม็งไปที่หล่อน “เป็นเธอนั่นแหละ! นอกจากเธอแล้วก็ไม่มีใครในครอบครัวที่ไม่ยินดีจะให้ม่ายจื่อกลับบ้าน เธอมีแรงจูงใจในการกระทำแบบนี้ จะเป็นใครไปได้อีกถ้าไม่ใช่เธอ?!”
ไป๋ซวงพูดพลางน้ำตาคลอ “ไม่ว่าพี่จะพูดยังไง ฉันก็ไม่ได้ทำอยู่ดี”
ท่าทางเศร้าโศกนั้นทำให้ใคร ๆ ต่างคิดว่าไป๋เซี่ยทำผิดต่อเธอ
พ่อไป๋ถามไป๋ซวงอย่างจริงจัง “เธอปลอมแปลงที่อยู่ของม่ายจื่อและรู้เรื่องการมีอยู่ของม่ายจื่อมาก่อนแล้วใช่ไหม?”
ใบหน้าของไป๋ซวงซีดเซียวราวกับกระดาษ
หล่อนปฏิเสธอยู่เนิ่นนาน แต่สิ่งที่หล่อนทำไปล้วนไร้ประโยชน์
พ่อไป๋มั่นใจแล้วว่าไป๋ซวงเป็นคนแก้ไขที่อยู่ที่หลินม่ายทิ้งไว้ให้ไป๋ลู่ เพราะไม่อย่างนั้นหล่อนก็คงไม่พยายามเปลี่ยนเรื่องคุย
ไป๋ซวงพูดอะไรไม่ออก หยุดนิ่งไปครู่หนึ่งและพูดกับแม่ไป๋อย่างน่าสังเวช “แม่คะ หนูไม่เคยรับรู้เรื่องที่อยู่ของม่ายจื่อเลย เป็นไปไม่ได้ที่หนูจะทราบถึงการมีอยู่ของม่ายจื่อ”
หลินม่ายจ้องตาไป๋ซวงครู่หนึ่ง ก่อนพูดอย่างหนักแน่น “ไม่! เธอรู้ถึงการมีอยู่ของฉันเป็นอย่างดี!”
เมื่อมองไปยังดวงตาแข็งกร้าวของหลินม่าย ไป๋ซวงก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่นเทา
ผู้หญิงคนนี้จำหล่อนได้อย่างงั้นเหรอ?
เป็นไปไม่ได้
หล่อนกับหลินม่ายพบกันครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว แถมหล่อนยังสวมหน้ากากปิดหน้าอยู่ เป็นไปไม่ได้ที่ยัยสารเลวนี่จะจำหล่อนได้
เพราะถ้าเธอจำได้ก็ควรจะพูดไปแล้วในตอนที่ได้พบกันอีกครั้งที่วิลล่า แต่ยัยเดนตายนี่กลับไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้เลย
ยัยสารเลวนี่ก็แค่สร้างเรื่องกุคนอื่นเท่านั้นแหละ เชิญหลอกตัวเองไปเถอะ
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
หม้อไฟโป๊ะแตกหม้อใหญ่ๆ มาเสิร์ฟแล้วจ้า จะไถตัวไปทางไหนได้อีก สีข้างถลอกหมดแล้วม้างยัยไป๋ซวง
ขนาดยัยหวังหรงที่มาวุ่นวายกับม่ายจื่อยังดับอนาถไปแล้วหนึ่ง ยัยหลินเพ่ยพี่สาวหล่อนก็กำลังจะตามไปอีกคน ส่วนหล่อนนี่ไม่รู้เหมือนกันว่าจะได้ตายแบบไหน ใครมาทำร้ายม่ายจื่อพนันได้เลยว่าเจออาถรรพ์ตายศพไม่สวยซักคน
ไหหม่า(海馬)