บทที่ 612 สุนัขสีขาวหิมะน่ารักตัวหนึ่ง มาจากแดนบรรพโกลาหลหรือ?
หากมิใช่แดนบรรพโกลาหลมีวี่แววว่าจะปรากฏออกมา ซีคงไม่มาตามหาที่นี่
ก่อนกาลเวลาอันยาวนานเริ่มต้นขึ้น เมื่อครั้งอาณาจักรแห่งนี้ยังอยู่ในยุครุ่งเรืองโชติช่วง ยามภพเซียนยังไม่แยกตัวออกไป พวกเขาเคยตามหาเบาะแสของแดนบรรพโกลาหล หมายจะเข้าไปข้างใน
อนิจจา พวกเขาไม่พบเบาะแสแม้แต่น้อย ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงเข้าไปในแดนบรรพโกลาหล
ในยุคสมัยนี้ แดนบรรพโกลาหลมีวี่แววปรากฏออกมา บ่งบอกว่ามีโอกาส มีความเป็นไปได้ว่าสามารถล่วงล้ำเข้าไปในแดนบรรพโกลาหลล่วงหน้า
และเพราะตระหนักถึงข้อนี้ ซีถึงเดินทางมาตามหาที่นี่
หากมิใช่เช่นนี้ นางไม่มีทางมา เพราะต่อให้มานี่ ก็ไม่มีทางได้สิ่งใดกลับไป
“แดนบรรพโกลาหลปรากฏ ใช่ว่าเป็นเรื่องดี…”
ซีถอนหายใจ ไม่เห็นว่าอนาคตสดใสเท่าใด
ความพิศวงลางร้ายล้วนเกี่ยวกับแดนบรรพโกลาหล ในกาลเวลาอันยาวนาน คล้ายว่าแดนบรรพโกลาหลเคยปรากฏออกมาแล้วครั้งหนึ่ง
และครั้งนั้น เกี่ยวเนื่องกับความพิศวงลางร้าย
ครานั้น แดนบรรพโกลาหลมิได้ปรากฏออกมาเต็มกำลัง แต่หนนี้แดนบรรพโกลาหลกลับมีท่าทีว่าจะปรากฏออกมาอย่างสมบูรณ์ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเรื่องราวคงมิได้ธรรมดา!
“ระงับความพิศวงลางร้ายไม่อยู่แล้วหรือ”
นางมิใช่คนมองโลกในแง่ดี สิ่งที่คิดล้วนแต่เป็นไปในทางเลวร้าย
นางสงสัยว่า ที่แดนบรรพโกลาหลปรากฏออกมาครานี้ เป็นไปได้ว่าเพราะสถานการณ์บีบบังคับ ระงับความพิศวงลางร้ายในนั้นไม่อยู่แล้ว
“ขอให้ไม่เป็นเช่นนั้น”
หากว่าแม้แต่แดนบรรพโกลาหลยังระงับความพิศวงลางร้ายไว้ไม่อยู่ แล้วผู้ใดเล่าจะต่อกรกับความพิศวงลางร้ายไหว
นางหวังจากใจจริงให้ความจริงไม่เป็นดั่งที่นางคิด
นางสะบัดหัว ไม่ไปคิดถึงปัญหาเหล่านั้นอีก ปัญหาเหล่านั้นห่างไกลจากนางมาก สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับนางในตอนนี้คือหาแดนบรรพโกลาหลให้เจอ
ที่นี่คือสถานที่ที่แดนบรรพโกลาหลเผยตัวครั้งแรก นางคิดว่าจะพบ ‘ทางเข้า’ แดนบรรพโกลาหลจากที่นี่
หิมะโปรยปราย นางไม่ยอมถอดใจ ค้นหาในที่แห่งนี้ต่อไป
หนึ่งวัน สองวัน นางวนเวียนตามหาอยู่อย่างนั้น เคลื่อนไหวร่างกายด้วยความว่องไว จนกระทั่งมาถึงส่วนลึกแห่งหนึ่ง
นางสัมผัสได้ว่าที่นี่เกิดเรื่องผิดปกติบางอย่าง!
มีคลื่นพลังส่งออกมาจากห้วงอากาศ!
นางระมัดระวังอย่างยิ่งยวด มิกล้าประมาทแม้แต่น้อย มิได้เข้าใกล้ เพียงแต่สังเกตการณ์อยู่ไกล ๆ
ผู้ใดเล่าจะรู้ว่ามีเรื่องใดเกิดขึ้น นางจับตาดูสถานการณ์ด้วยความระวังไว้ก่อนดีกว่า
นางซ่อนตัวอยู่ในมุมมืด เก็บงำพลังปราณ คลื่นพลังที่ส่งออกจากห้วงมิตินั้นเป็นไปได้ว่าเพราะมีบางสิ่งกำลังพุ่งออกมาจากที่นั่น!
เปรี๊ยะ!
คลื่นพลังจากห้วงมิตินั้นทวีความรุนแรง มีรอยร้าวปรากฏ คล้ายว่าถูกบางอย่างฉีกกระชาก
ซีเคร่งเครียดอย่างมาก เรียกกระบี่ยาวสีขาวผ่องออกมาเล่มหนึ่ง พร้อมตั้งท่าไว้
ที่นี่ไม่ธรรมดาถึงเพียงนี้ ผู้ใดจะรู้ว่ามีสิ่งใดปรากฏออกมาได้บ้าง ระแวงไว้ก่อนไม่ผิดแน่
โฮ่ง!
ขณะนั้นเอง เสียงเห่าสุนัขดังมาจากที่นั่น ก่อนจะมีรอยร้าวเห็นเป็นรอยแยกใหญ่ หลุมดำมโหฬารปรากฏ
จากนั้น ซีเห็นสุนัขตัวน้อยขนขาวราวหิมะ หน้าตางดงามตัวหนึ่งวิ่งออกมาจากในนั้น
“หา?”
ซีชะงัก นี่ไม่เหมือนกับที่นางคิดไว้เลยสักนิด
ที่นางจินตนาการไว้ สิ่งที่กำลังปรากฏออกมาย่อมต้องเป็นสิ่งมีชีวิตสยดสยองน่ากลัว เพราะสถานที่แห่งนี้ไม่ธรรมดาอย่างยิ่งยวด แม้กระทั่งนางยังไม่อาจแหวกมิติออกไป
สิ่งมีชีวิตที่แหวกมิติออกมาจนถึงที่แห่งนี้ได้ ย่อมไม่ธรรมดาถึงขีดสุด!
ทว่าสิ่งที่ออกมากลับเป็นสุนัขสีขาวน่ารักตัวหนึ่ง จะให้นางคาดถึงได้เยี่ยงไร
สุนัขตัวน้อยสั่นศีรษะสะบัดหาง ดวงตาใสสกาวเหลือคณา ดูงดงามน่ารัก น่าเอ็นดูอย่างยิ่ง
ซียังอดมิได้ อยากออกไปอุ้มหมาน้อยตัวนี้ขึ้นมา ‘บู้บี้’ เสียหน่อย!
ทว่า ท้ายที่สุดนางก็อดกลั้นไว้ได้!
แม้ว่าหมาน้อยตัวนี้น่ารักอย่างยิ่งยวด ดูไม่มีพิษมีภัยแม้แต่น้อย แต่หมาน้อยตัวนี้แหวกมิติมาถึงที่นี่ได้ แล้วจะธรรมดาได้อย่างไร
โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง!
แต่หมาน้อยตัวนั้นกลับมาอยู่ตรงหน้านางในพริบตา ซ้ำยังสะบัดหัวสะบัดหางใส่นาง แสดงเจตนาดีออกมาเต็มที่ ไร้ซึ่งเจตนาร้าย
กระนั้นซีก็มิได้ชะล่าใจ ทิ้งระยะห่างจากหมาน้อยตัวนี้ทันทีด้วยความเด็ดขาด
“อย่าเข้ามา!”
นางชูกระบี่ยาวในมือ ชี้ไปที่หมาน้อยตัวนั้น สีหน้าเคร่งเครียด
โฮ่ง!
หมาน้อยเห่าอีกเสียงหนึ่ง มิได้เกรงกลัวแต่อย่างใด ปรี่เข้ามาอยู่ตรงหน้าซีทันทีอีกครั้ง สะบัดหัวสะบัดหางใส่ซี
“เจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่”
ซีผวาในใจ กระบี่ยาวที่ชูขึ้นมิได้ลดลง หมาน้อยตัวนี้ผิดปกติเกินไป นางมิกล้าผลีผลามลงมือ
“โฮ่ง ไม่ต้องกลัว ข้าไม่มีเจตนาร้าย เพียงแต่เพิ่งมาถึงอาณาจักรแห่งนี้ ยังไม่รู้เรื่อง จึงอยากสอบถามสถานการณ์ในอาณาจักรนี้กับท่าน”
หมาน้อยมองซีด้วยท่าทางน่าสงสาร ก่อนจะเอ่ยต่อ “เจ้านายของข้าตายอย่างน่าอนาถ นางถูกคู่อริสังหารอย่างโหดร้าย ก่อนตาย ได้แหวกมิติออกเป็นเส้นทางให้ข้าหนีไป ข้าก็ไม่รู้ว่าที่นี่คือที่ใด…”
ท่าทางของมันน่าสงสารอย่างยิ่ง ทว่าซีมิได้ตายใจ
“เจ้ามาจากที่ใด”
ซีถามหมาน้อย
หมาน้อยสั่นศีรษะ “ข้าก็ไม่รู้ ข้าติดตามเจ้านาย เร้นกายใช้ชีวิตอยู่ในที่ลับตาคนเรื่อยมา หาได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับโลกภายนอก และไม่รับรู้สถานการณ์ภายนอกแม้แต่น้อย เจ้านายก็ไม่เคยเล่าเรื่องพวกนั้นให้ข้าฟัง”
ท่าทางของมันราวกับไม่รู้เรื่องจริง ๆ ซีขมวดคิ้ว ทุกอย่างเป็นดั่งที่หมาน้อยว่าจริงหรือ
นางไม่อยากเชื่อเท่าใด ยังไม่เลิกระแวง เตรียมถามไถ่เรื่องอื่นจากหมาน้อย
ทว่าในตอนนั้นเอง เกิดเหตุการณ์บางอย่างที่หลุมดำ!
ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ!
ประกายเจิดจ้าเหลือคณาส่องสะท้อนออกจากหลุมดำ จนหลุมดำสว่างไสว พร้อมทั้งมีพลังปราณน่าประหวั่นพรั่นพรึงแผ่ซ่านออกมาจากข้างใน
ซียังไม่ทันได้รับรู้ถึงสิ่งใด ก็มีคนปราดออกจากข้างในร่างแล้วร่างเล่า ล้อมนางและหมาน้อยตัวนั้นไว้อย่างแน่นหนา
นางมีสีหน้าเคร่งเครียด วิตกเหลือแสน ยกกระบี่ขึ้นมาตั้งท่าระวัง
ร่างทั้งหมดนี้ล้วนเยาว์วัย และเป็นสตรีทั้งสิ้น แต่ละนางต่างมีใบหน้างามล่มเมือง พิลาสล้ำ ประกายแวววาวห้อมล้อมอยู่รอบตัว ดูสูงส่งไร้มลทินเป็นหนักหนา
ซีรู้สึกเหลือเชื่อ สตรีเหล่านี้มาจากที่ใดกัน เหตุไฉนถึงน่าสะพรึงได้ปานนี้
ดูจากพลังปราณที่แผ่ขยายออกจากสตรีเหล่านั้น นางรู้ได้เลยว่านางมิใช่คู่มือของสตรีเหล่านี้ ซ้ำยังห่างชั้นกันมากโข ประดุจหิ่งห้อยกับดวงอาทิตย์!
มาจากภพเซียนอย่างนั้นหรือ!?
นางนึกถึงภพเซียนขึ้นมาได้ทันที แต่ก็คิดว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ พลังที่ปกคลุมภพเซียนอยู่นั้นน่ากลัวอย่างยิ่งยวด ไฉนเลยจะมีสตรีออกมาได้ตั้งมากมาย
หรือว่าพลังที่ปกคลุมอยู่รอบนอกภพเซียนหายไปแล้ว
ไม่ใช่สิ!
พวกนางมาจากแดนบรรพโกลาหล!
หัวใจของซีเต้น ‘ตึกตัก’ รุนแรง นางจับสัมผัสพลังปราณที่แผ่ซ่านออกจากตัวสตรีเหล่านี้อย่างละเอียด พบว่าเป็นปราณโกลาหล!
“ที่นั่นเชื่อมต่อกับแดนบรรพโกลาหลหรือ!?”
นางหันมองหลุมดำ พลันตื่นเต้นขึ้นมา