นางรู้สึกท้อแท้อยู่บ้าง
หรือว่าหลังจากม้าถูกคนขี่ออกจากเมืองเลยหลังจากซื้อไป?
ไม่อย่างนั้นผ่านไปนานสองนานแล้ว ทำไมยังไม่เห็นม้าของนางอีก?!
“นังแพศยา! ในที่สุดก็ขวางเจ้าได้แล้ว!”
ในตอนที่ซูซูกำลังจมอยู่กับห้วงความคิด ข้างหลังพลันมีเสียงชั่วร้ายดังขึ้น
ซูซูหันหน้ากลับไป ก็เห็นเสี่ยวเอ้อร์ร้านเครื่องในแกะเมื่อวานมองมาทางนางด้วยสีหน้าโหดเหี้ยม
สายตานั้นแทบอยากจะถลกหนังนางจริงๆ!
ซูซูขมวดคิ้วเล็กน้อย ลอบด่าในใจว่าเป็นช่างวิญญาณตามติดไม่เลิกรา โลกใบนี้มันกลมจริงๆ!
นางยิ้มบางๆ มองเหยียดหยามคนที่มาเยือน “เหอะ…ทำไม? หรือเมื่อวานไม่ได้ทำให้เจ้าลำบากมากพอ วันนี้ถึงได้รีบมารนหาที่ตายอีก?”
ซูซูยังคงเข้าใจวิถีทางที่ถึงจำนวนคนจะน้อยกว่า แต่ก็ไม่อาจให้ฝ่ายตรงข้ามดูแคลนได้
เมื่อเอ่ยถึงเรื่องนี้ สีหน้าเสี่ยวเอ้อร์ผู้นั้นก็มีความโหดเหี้ยมเพิ่มมากขึ้น!
ล้วนเป็นเพราะนังแพศยานี่!
หากไม่ใช่เพราะนังเด็กสารเลวนี่ ทำไมเมื่อวานเขาต้องอับอายขายหน้าด้วย? ทั้งเกือบจะทำบารมีชื่อเสียงที่ตนเองสร้างเอาไว้มาหลายปีเสื่อมเสียหมดสิ้น!
ในใจเขาจะไม่รู้สึกเกลียดได้อย่างไร?
“นังเด็กสารเลว เจ้าอวดเก่งไปเถอะ! ข้ารู้ว่าจัดการเจ้าคนเดียวไม่ได้ ดังนั้นถึงได้เรียกสหายหลายคนมาร่วมด้วย! วันนี้ในปีหน้าเป็นวันครบรอบวันตายของเจ้า ใครใช้ให้เจ้ากระตุกหางเสือเล่า!”
เสี่ยวเอ้อร์เพิ่งเอ่ยจบ เขาก็โบกมือ! บุรุษที่มีท่าทางเหมือนอันธพาลหัวไม้ห้าหกคนพลันโผล่ออกมาจากด้านหลังเขา แต่ละคนล้วนมองซูซูด้วยสีหน้ามุ่งร้าย
ซูซูพลันกรีดร้องในใจว่าท่าไม่ดีแล้ว! คนหนึ่งสองคนนางยังสามารถจัดการได้ แต่คนเยอะแล้ว นางก็ไม่ไหวเช่นกัน!
“อิอิ! ซุนเกอ พวกเรามั่นใจในตนเองและสะเพร่าเกินไป ทำให้ผิดพลาดในเรื่องที่ไม่สมควร ถึงกับถูกนังหนูคนหนึ่งหลอกเอาได้”
“ใช่แล้ว แบบนี้…ระยะนี้การค้าพวกเราขาดทุน ไม่ได้ไปเที่ยวเล่นหอบุปผานานแล้ว แม้ว่านังสารเลวนี่จะสวมเสื้อผ้าซอมซ่อ ผอมแห้งไปหน่อย แต่ดวงหน้ารูปไข่กลับไม่เลวเลย ไม่อย่างนั้น…พวกเราจับได้แล้ว ก็หาความสุขกันสักหน่อยเป็นไง?”
ไม่รู้ว่าใครที่อยู่ข้างหลังเสี่ยวเอ้อร์ร้านเครื่องในแกะเอ่ยวาจานี้ แต่หลังจากเอ่ยจบ ที่แห่งนั้นพลันเงียบสงัด!
ซูซูรู้สึกได้ถึงสายตาที่จับจ้องและพิจารณาร่างของนางอย่างกำเริบเสิบสาน
แม้ว่านางจะตั้งใจทำให้ใบหน้าสกปรกมอมแมม แต่โครงหน้าและเครื่องหน้าทั้งห้ายังคงอยู่ตรงนั้น เมื่อพิจารณาให้ละเอียดแล้ว ก็มองออกไม่ยากว่าเป็นเด็กสาวที่งดงามคนหนึ่ง
“ฮ่าๆ…ยังคงเป็นเจ้า ต้าโก่วจื่ิอที่มีความคิด! ความคิดนี้ไม่เลว! สังหารนางทิ้งง่ายๆ บิดาก็ไม่อาจระบายความแค้นได้! เช่นนั้นก็ทำตามที่เจ้าบอกเถอะ!”
ซูซูได้ยินวาจานี้แล้วก็มองบุรุษหลายคนที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างเต็มที่ตรงหน้าด้วยสายตาเย็นชา แม้ว่าภายนอกจะดูแข็งแรงและสงบนิ่ง แต่ตอนนี้มีเพียงตัวนางเองที่รู้ว่า ในใจนางกระวนกระวายเช่นกัน
ฝ่ายตรงข้ามมีคนเยอะเกินไป แม้นางจะมีเพลงยุทธ์ปกป้องชีวิตตนเอง แต่กลับต้านทานคนจำนวนมากของฝ่ายตรงข้ามไม่ไหว
“พวกเจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่”
ถ้าหากว่าฝ่ายตรงข้ามต้องการเงินทองล่ะก็…นางก็ไม่มีเช่นกัน!
ช่างมันเถอะ วาจานี้ถามได้น่าขันเสียจริง ตอนนี้นางไม่มีเงินและไร้อำนาจ เห็นได้ชัดว่าคนกลุ่มนี้พุ่งเป้ามาที่ตนเอง
ชกต่อยกันรอบหนึ่งนับว่าไม่ยาก หากเห็นท่าไม่ดี อาจจะต้องเพิ่มแผนการสกปรกเข้าไป!
เห็นได้ชัดว่าเมื่อฝ่ายตรงข้ามได้ยินซูซูถาม ทั้งหมดก็แย้มรอยยิ้มที่มีเจตนาไม่ดีออกมา
“ทำอะไรน่ะหรือ” คนที่มีนามว่าต้าโก่วจื่ิอก้าวขึ้นมาข้างหน้าก้าวหนึ่ง กลัวก็กลัววรยุทธ์ของซูซู จึงทำได้แค่กล่าววาจาเล่นลิ้นโดยไม่ผ่านการใช้สมองอยู่วงนอกว่า “พวกเราที่เป็นบุรุษจำนวนมากขนาดนี้ขวางทางเจ้า เจ้าว่าพวกเราจะทำอะไรเล่า? ย่อมต้องเสพสุขกับเจ้า! ใช่หรือไม่เหล่าสหาย!”
“ฮ่าๆ…ถูกต้อง!”
“พี่โก่วจื่อเอ่ยได้ถูกต้อง!”
“จะจัดการเจ้าให้เต็มคราบ! เอาให้ถึงตาย!”
แต่ละประโยคที่ระคายหูลอยเข้าหูของซูซู ทำให้ท่านหญิงที่ได้รับการอบรมสั่งสอนดีมากมาโดยตลอดโทสะพวยพุ่งอย่างอดไม่ได้!
“ข้าว่าพวกเจ้ามารนหาที่ตาย!”
เพิ่งจะเอ่ยจบ ร่างของซูซูก็พุ่งออกไปถีบต้าโก่วจื่ิอที่กล่าววาจาสามหาวเมื่อครู่นี้เต็มแรง
เสียงพลั่กดังขึ้น นางถีบเจ้าคนไร้ประโยชน์ผู้นั้นกระเด็นออกไปไกล!
เป็นเพราะระยะนี้ซูซูกินอาหารไม่อิ่ม ขาดแคลนน้ำดื่ม จึงไม่มีท่าทางของท่านหญิงเลยสักนิดเดียว ทั่วร่างสกปรกมอมแมม ทั้งยังสวมเสื้อนวมซอมซ่อ สภาพเช่นนี้นั้นมีคุณสมบัติเป็นขอทานผู้หนึ่งจริงๆ!
แต่สีหน้าดุร้ายของนางกลับทำให้ทุกคนตกใจกลัวได้สำเร็จ!
เสี่ยวเอ้อร์ของร้านเครื่องในแกะที่มีนามว่าซุนเกอเห็นสีหน้าที่เต็มไปด้วยความดุร้ายของซูซูแล้วก็ตื่นตระหนกเล็กน้อย “เจ้า…เจ้าจะทำอะไร อย่าลืมเสียล่ะว่าคนของพวกเรามีมากกว่าเจ้า!”
ถึงตอนนี้แล้ว เขาก็ทำได้เพียงแค่แสร้งทำเป็นสงบนิ่งเพื่อให้กำลังใจตนเองกับเหล่าสหายข้างหลัง!
“เหอะ!” ซูซูแค่นเสียงเย็นเหยียดหยาม! ตอนนี้นางสุขภาพไม่อำนวย มิเช่นนั้นนางอยากจะจัดการคนพวกนี้ให้ตายแล้วตายอีกจริงๆ!
“รู้จักเอาตัวรอดก็รีบไสหัวไป! วันนี้ข้าอารมณ์ดี จะไม่ถือสาหาความกับพวกเจ้า!”
พวกเขามีคนมากมาย ตนเองโดดเดี่ยวตัวคนเดียว จะต้องไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขา เมื่อตกอยู่ในที่นั่งลำบากต้องสามารถยอมถอยเพื่อที่จะไม่ได้เป็นเบี้ยล่างในขณะนั้น นางจึงทำได้แค่ใช้แผนการที่ไม่ได้เรื่อง
“ไปๆๆ! พวกข้าจะไปเดี๋ยวนี้!” มีคนขี้ขลาดที่ได้ยินซูซูเอ่ยจบประโยคแล้ว ก็คิดจะจากไปทันที แต่กลับถูกซุนเกอรั้งเอาไว้!
เขามองไปทางซูซูด้วยแววตาโหดเหี้ยม คล้ายกับมองความคิดที่แท้จริงในใจของซูซูออกอย่างทะลุปรุโปร่ง!
“ไสหัวไป? เหอะๆ…วันนี้พวกเราสหายมองข้ามความหวังดีของผู้อื่นเสียแล้ว!”
นัยความหมายมีเงาของความต่ำทราม แววตานั่นเปี่ยมไปด้วยความน่ารังเกียจยิ่งนัก
“เหล่าสหายอย่าได้ถูกสตรีนางนี้ขู่เอาได้ หรือพวกเราที่เป็นบุรุษหลายคนจะยังจัดการนางไม่ได้กัน รอจัดการนางได้แล้ว ข้ารับประกันกับพวกเจ้าเลยว่า ในภายหลังจะปล่อยให้เจ้ากระทำอันใดกับนางก็ได้! และรับรองว่าจะไม่เอ่ยอันใดสักครึ่งคำ!”
นี่ก็คือสิ่งที่เรียกกันว่า เมื่อมีการตกรางวัลให้อย่างงาม ย่อมมีผู้กล้าเสนอตัวออกมาจัดการให้!
ซุนเกอผู้นี้ไม่มีเงินให้คนกลุ่มนี้ แต่ร่างกายนุ่มนิ่มของสตรีนางหนึ่ง นั้นเป็นสิ่งพวกเขาใฝ่ฝันถึงมานานแล้ว!
หลายคนซ้ายขวาร่วมมือกัน สตรีนางหนึ่งจะเก่งกาจเพียงใด อย่างมากก็ถูกตบสองสามที อีกอย่างสตรีนางหนึ่งจะตบคนได้เจ็บแค่ไหนกัน?
ถือเสียว่าถูกโสเภณีลูบคลำหนักมือไปหน่อย
ทันใดนั้น ฝีเท้าที่จะจากไปของทุกคนพลันหยุดชะงัก แล้วมองมาด้วยแววตาเป็นประกาย!
ตอนที่ซูซูเห็นสภาพเหตุการณ์เช่นนี้ ก็รู้ว่าท่าไม่ดีแล้ว!
“เหอะ…ดูท่าทางจะไม่กลัวตายจริงๆ!”
ทันใดนั้น สถานการณ์พลันชุลมุนวุ่นวายขึ้นมา!
นักเลงหัวไม้หลายคนกลายร่างเป็นเสือร้ายทันทีเพราะประโยคหนึ่งของซุนเกอ ยังจะมีใครรักษาพวกเขาได้อีก?
หมัดและเท้าของซูซูล้วนถูกใช้ทั้งหมด
แรกเริ่มยังสามารถกำราบพวกเขาไม่ให้เข้าใกล้ได้
แต่ฝ่ายตรงข้ามคนเยอะเกินไป พละกำลังของนางก็ไม่ได้มากเหมือนแต่ก่อน ดังนั้นจัดการไปได้คนหนึ่ง ก็มีอีกคนเข้ามา สลับกันลงมือ และนางก็ค่อยๆ รู้สึกว่ามีใจแต่ไร้กำลังกายอย่างช้าๆ