บทที่ 615 ไม่เพียงแต่ไม่ตาย ร่างกายยังมีความเปลี่ยนแปลงจนถึงแก่นอีกด้วย!
ท้องฟ้าสีคราม หมู่เมฆสีขาว วิหคมงคลบินผ่านเป็นครั้งคราว ม่านหมอกเบาบางปกคลุมยอดเขา เมื่อสูดจมูก ได้แต่กลิ่นอายแห่งความสดชื่น ที่นี่เสมือนแดนวิมาน ทัศนียภาพวิจิตรงดงามอย่างยิ่งยวด
ใบหน้าซีประดับไปด้วยรอยยิ้ม หากว่าโลกหลังความตายเป็นเช่นนี้ ความตายก็คงมิใช่เรื่องน่ากลัวเท่าใด
“ไม่สิ!”
ทันใดนั้น นางก็ลุกขึ้นนั่ง ดวงตาคู่นั้นทอประกายตกตะลึง ที่นี่มิใช่โลกหลังความตายแต่อย่างใด นางสัมผัสได้ถึงปราณโกลาหล มีปราณโกลาหลอันมากล้นกำลังห่อหุ้มร่างนางอยู่!
ที่นี่คือแดนบรรพโกลาหล!
นางยังไม่ตาย แต่นางเข้ามาอยู่ในแดนบรรพโกลาหลแล้ว!
“นี่มันเรื่องอะไรกัน!?”
หญิงสาวประหลาดใจ ในสถานการณ์ที่ตายแน่แล้ว นางรอดมาได้อย่างไร ซ้ำยังเข้ามาในแดนบรรพโกลาหลได้อีก
ทว่าความทรงจำช่วงนั้นว่างเปล่า นางนึกไม่ออกเลยสักนิดเดียว
“บาดแผลทั้งหมดก็หายไปด้วย!”
ยิ่งมองร่างกายตนเองแล้วก็ยิ่งตะลึงมากขึ้น ร่างกายที่เคยเต็มไปด้วยรอยร้าว บัดนี้กลับคืนสภาพเป็นปกติ ซ้ำผิวพรรณยังดียิ่งกว่าเดิม นุ่มลื่นประดุจทารกเกิดใหม่
“!!!”
เมื่อรู้สึกถึงพลังชีวิตในร่าง หัวใจนางเต้นรัวเร็ว เด้งตัวขึ้นจากพื้น
เปลี่ยนไปถึงแก่น!
ร่างกายของนางเปลี่ยนไปถึงแก่น!
ซีรับรู้ได้ว่าเลือดเนื้อทุกส่วนของนางเปลี่ยนไปถึงแก่น ยกระดับขึ้นมากโข นางสงสัยเหลือเกินว่ายามนี้ ไม่แน่ว่าอาวุธจักรพรรดิเซียนก็ไม่อาจแผ้วพานนางได้
“ลองดูแล้วกัน!”
นางเรียกกระบี่ยาวหิมะขาวออกมา กระบี่เล่มนี้เป็นกระบี่เซียน พลานุภาพรุนแรง นางรีดเร้นพลังไปที่กระบี่เซียน ลองกรีดแขนซ้ายของตน
กระบี่เซียนกรีดผ่าน อย่าว่าแต่ตัดทะลุผิวของนางเลย ตัดไม่ได้แม้แต่เส้นขนบนแขนนางด้วยซ้ำ ร่างกายของนางยกระดับขึ้นจากเดิมราวฟ้ากับเหวจริง ๆ!
หากเป็นเมื่อก่อน ไม่มีทางเป็นเช่นนี้ได้เลย กายเนื้อของนางในอดีตมิได้แข็งแกร่งปานนั้น ยังไม่ถึงขั้นต้านพลังกระบี่เซียนได้
นางมิได้รีดเร้นพลังสักนิด นี่คือพลังกายเนื้อล้วน ๆ
“ลองดูอีกรอบ!”
หนนี้ นางรีดเร้นพลังกระบี่เซียนเต็มกำลัง ฟันไปที่แขนซ้าย หากเป็นเมื่อก่อน ขืนนางไม่รีดเร้นพลังไว้ที่ร่างแล้วต้านแรงด้วยพลังกายอย่างเดียว คงไม่มีทางทานไว้ได้ แขนซ้ายจักถูกฟันขาดในพริบตา
ทว่าครั้งนี้ หลังกระบี่เซียนที่รีดเร้นพลังเต็มที่ฟันลงบนแขนซ้ายของนาง นางไม่เพียงแต่ไม่มีรอยขีดข่วน กระบี่เซียนกลับพังทลายในพริบตา ระเบิดออกทันควัน เศษซากระจายเต็มพื้น!
“นี่มัน!”
นางรู้สึกเหลือเชื่อถึงขีดสุด
สถานการณ์ที่ต้องตายแน่แล้ว นางกลับไม่ตาย รอดออกมาได้ ซ้ำยังได้เข้ามาในแดนบรรพโกลาหล กระทั่งกายเนื้อยังเปลี่ยนไปถึงแก่น!
ทั้งหมดนี้มันเรื่องอะไรกัน!
“ความเปลี่ยนแปลงทางร่างกายมิใช่แค่นั้น ข้ารู้สึกเหมือนกายเนื้อของข้าผสานเป็นหนึ่งกับเต๋า ราวกับตัวข้านี้คือมหาเต๋า!”
ซีมีสีหน้าอึ้งงัน ทดสอบดูอีกครั้ง ด้วยการบำเพ็ญวิชาเซียนแขนงหนึ่ง
นี่คือวิชาเซียนพิทักษ์ตระกูลภายในตระกูลนาง ระดับสูงส่ง รวมแล้วทั้งหมดเก้าขั้น นางจึงจะบำเพ็ญได้ถึงขั้นที่สาม ปรมัตถ์หลังจากนั้นลึกล้ำเกินไป นางเข้าไม่ถึง
ทว่าบัดนี้ นางกลับสำเร็จได้ในเฮือกเดียว ไม่มีติดขัดสักนิด รู้แจ้งปรมัตถ์ทั้งเก้าชั้นในคราเดียว บำเพ็ญวิชาเซียนนี้ถึงจุดสมบูรณ์!
“สุดยอดเกินไปแล้ว!”
นางเอ่ยในใจอย่างอดไม่ได้ ความรู้สึกบางอย่างปรากฏในใจ ไม่ว่าจะเป็นปรมัตถ์ของวิชาไหน ๆ หรือแม้กระทั่งวิชาจักรพรรดิเซียน นางยังสามารถสำเร็จได้ในพริบตา บำเพ็ญถึงขั้นสมบูรณ์ได้ในรวดเดียว
น่าเสียดาย นางมิเคยมีวิชาจักรพรรดิเซียนในครอบครอง มิฉะนั้น เวลานี้นางสามารถทดสอบดูได้แน่ ว่านางสามารถบำเพ็ญวิชาจักรพรรดิเซียนถึงขั้นสมบูรณ์ได้ในรวดเดียวหรือไม่!
“ทั้งหมดนี้น่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!”
นางเชื่อไม่ลงจริง ๆ ระหว่างที่อยู่หลุมดำมีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นกันแน่ นางถึงได้รับประโยชน์มหาศาลเยี่ยงนี้!
มีใครช่วยนางไว้หรือ
นางถอนหายใจ อยากรู้เหลือเกินว่าเกิดอันใดขึ้นในตอนนั้น อนิจจา ความทรงจำช่วงนั้นว่างเปล่า นางนึกไม่ออกเลยสักนิด
“บุญคุณใหญ่หลวงไม่อาจตอบแทนได้เพียงคำขอบคุณ วันหน้า หากข้าได้ล่วงรู้ความจริง ข้าจักตอบแทนเป็นเท่าตัว!”
นางโค้งคำนับไปทางทิศหนึ่ง ก่อนจะไปจากที่นั่น ตั้งใจสืบเสาะสถานการณ์ในแดนบรรพโกลาหล
ก่อนออกตามหากล่องสี่เหลี่ยม นางต้องรู้จักแดนบรรพโกลาหลก่อน การออกปฏิบัติการโดยไม่รู้เรื่องใดของแดนบรรพโกลาหล นางคงสำเร็จไม่ได้สักอย่าง
…
ณ ดินแดนฮวง
เมืองเก้าวิบัติ
ระดับพลังของเซียวฮุ่ยสูงขึ้นไปอีก พระเก้าประทีปพุทธเจ้าทำงานมีประสิทธิภาพยิ่งนัก เพียงไม่นานก็ยึดครองสองเมืองข้างเคียงได้ นำพาความศรัทธามาให้เซียวฮุ่ยได้มากขึ้น ช่วยให้เซียวฮุ่ยบรรลุถึงขั้นเทียนตี้
“พระปัญญาพุทธเจ้าสูงส่งอย่างหาที่สุดมิได้!”
“พระปัญญาพุทธเจ้าเมตตาใต้หล้าทั้งปวง!”
สิ่งมีชีวิตทั้งเมืองเก้าประทีป รวมถึงสองเมืองข้างเคียง ต่างท่องพระนามพระปัญญาพุทธเจ้า
พระปัญญาพุทธเจ้า คือนามฉายาที่เซียวฮุ่ยตั้งให้ตนเอง
“ไปได้ ออกเดินทาง มุ่งสู่ดินแดนฝอ!”
เซียวฮุ่ยเจิดจรัสแยงตา นำทัพสาวกทั้งสามเมืองกรีธาทัพไปยังดินแดนฝอ นางตั้งใจพิชิตดินแดนฝอแล้วเข้าแทนที่ เปลี่ยนดินแดนฝอให้เป็นพุทธภูมิของนาง
พลังความศรัทธาในดินแดนฝอบริสุทธิ์ทรงพลังเป็นพิเศษ หากว่านางเข้าแทนที่ได้ นางคิดว่านางจักฟื้นพลังกลับไปถึงขอบเขตเซียนได้
‘ต้าเต๋อ เตรียมตัวตายเสียเถิด!’
พระเก้าประทีปพุทธเจ้าเอ่ยในใจอย่างเคียดแค้น
เขาเชื่อในพลังของเซียวฮุ่ย ไปครานี้ ต่อให้ต้าเต๋อมีวิถีสวรรค์คอยคุ้มครองก็เท่านั้น วิถีสวรรค์อันอ่อนแรงไฉนเลยจะต่อกรกับเซียวฮุ่ยได้
เซียวฮุ่ยรับปากเขาแล้วว่า หลังจับต้าเต๋อได้ เซียวฮุ่ยจะยอมให้เขาได้ผสานร่างกับต้าเต๋อ
ทันทีที่ได้ผสานร่างกับต้าเต๋อ เขาจะคืนสู่ร่างสมบูรณ์!
ต้าเต๋อน่าทึ่งถึงเพียงนี้ เขาคิดว่าหากเขาได้ผสานร่างกับต้าเต๋อ เขาต้องแข็งแกร่งขึ้นได้แน่!
‘หนึ่งพันรอบใช่หรือไม่! สักวันหนึ่ง ข้าจะให้เจ้าได้ลิ้มรสหนึ่งหมื่นรอบ!’
เขาคิดในใจอย่างเคียดแค้น ลืมความเจ็บปวดหนึ่งพันรอบที่เซียวฮุ่ยเคยมอบให้เขาไม่ลง เขาสาบานว่าจะแก้แค้นให้ได้ กลับคืนให้เซียวฮุ่ยเป็นสิบเท่า!
ถึงแม้เซียวฮุ่ยนั้นแข็งแกร่งเหลือล้น ต่อให้เขาผสานร่างกับต้าเต๋อแล้วก็อาจมิใช่คู่มือของนาง
ทว่าเขาจะแฝงตัวอยู่ข้างกายเซียวฮุ่ย กล้ำกลืนความอัปยศ รอจนเขามีพลังเพียบพร้อมเมื่อใด ค่อยบุกโจมตีเซียวฮุ่ย!
สรุปแล้ว ความแค้นนี้เขาไม่มีวันลืมเลือน ต่อให้วันเวลาผ่านไปอีกนานเท่าใด เขาก็ไม่มีวันลืม!
ไฉนเลยจะลืมลง!
หนึ่งพันรอบ ซ้ำยังทำกับหมูตัวผู้ สวรรค์ แค่คิดขึ้นมาตอนนี้เขายังรู้สึกอยากตาย!
…
ณ นครพิศวงที่จ้าวตะเข้ประทับ
“ออกเดินทาง!”
เจ้าหลวงตาเป็นประกาย ความมั่นใจเอ่อล้นอยู่ทั่วร่าง จ้าวตะเข้เต็มใจช่วยเขาอย่างแท้จริง ส่งขุนพลใหญ่ให้เขาตั้งหลายนาย พลังอยู่เหนือกว่าเขา สสารพิศวงลางร้ายในตัวบริสุทธิ์กว่าเขา มีขนยาวสีเทา กำลังรบเทียนชั้นขอบเขตเซียน
และหากว่าขุนพลใหญ่เหล่านี้ใช้พลังพิศวงลางร้ายไปด้วย กำลังรบย่อมสูงขึ้นไปอีก ประชันกับเซียนสมบูรณ์ได้เลย!
หากว่าพลังระดับนี้บุกไปถึงอาณาจักรอวี้ซวี ย่อมต้องเป็นพลังที่กวาดล้างได้ทุกสิ่ง
ต่อให้ภายในอาณาจักรอวี้ซวีมีปีศาจเฒ่าที่ยังไม่ตาย ก็ไม่มีทางต่อกรด้วยได้!
ถึงเวลานั้น ทั้งอาณาจักรอวี้ซวีจักตกเป็นของเขา และเขาจะใช้อาณาจักรอวี้ซวีเป็นฐานทัพ สร้างนครพิศวงของเขาขึ้นอีกครั้ง!
“หากมีเรื่องอันใดติดต่อข้าได้ทุกเมื่อ ทว่าคงไม่มีเรื่องอันใดหรอก”
ก่อนจากกัน จ้าวตะเข้ตบบ่าเจ้าหลวงยิ้ม ๆ ขณะเอ่ยกับเจ้าหลวง
“ฮ่า ๆ ไม่มีทางเกิดเรื่องอันใดอยู่แล้ว ยึดครองได้สบาย ๆ เจ้ารอฟังข่าวดีจากข้าแล้วกัน!”
เจ้าหลวงตอบยิ้ม ๆ บอกลาจ้าวตะเข้
พวกเขาออกเดินทาง มุ่งหน้าไปยังอาณาจักรอวี้ซวี!