“คุณหาเสียงที่สามของคุณพบแล้ว แผนการฝึกฝนในขั้นถัดไปของเราคือการเรียนมิกซ์วอยซ์ ถ้าคุณสามารถใช้ทั้งสามเสียงเพื่อให้เกิดเอฟเฟ็กต์ที่พิเศษของมิกซ์วอยซ์ได้ นั่นจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่น่าทึ่งมากมาย…”
ร่างเสมือนยังคงบรรยายเสียงเรียบ
สายตาของหลินเยวียนกลับสว่างวาบขึ้นมา
ร่างเสมือนคิดเหมือนหลินเยวียน อันที่จริงหลังจากมีเสียงผู้หญิง หลินเยวียนก็คิดหาวิธีฝึกร้องมิกซ์วอยซ์เขามีสองเสียงซึ่งต่างกันอย่างสิ้นเชิง คงน่าเสียดายถ้าไม่ฝึกผสมเสียงที่มีเอกลักษณ์เช่นนี้ นอกจากนั้นในตอนนี้เขาก็มีเสียงที่สามแล้ว!
อะไรคือมิกซ์วอยซ์
ในทางเทคนิคแล้ว มิกซ์วอยซ์คือการควบคุมเสียงผ่านรูปแบบต่างๆ เพื่อให้ลักษณะเสียงและคีย์แตะถึงสมดุลซึ่งทำให้ฟังแล้วรู้สึกสบาย ทำให้การบันทึกเสียงต่างๆ ผสานกันเป็นภาพรวมที่ดีขึ้น และสร้างเอฟเฟ็กต์พิเศษต่างๆ
เรื่องนี้ต้องใช้เทคโนโลยีเข้าช่วย
เช่นเดียวกับการผัดอาหารในชีวิตประจำวัน วัตถุดิบต่างๆ เตรียมไว้หมดแล้ว เสียงผสมก็คืออาหารซึ่งผัดออกมาจนรสชาติถูกปาก ผู้ที่ทำหน้าที่ผสมเสียงจะควบคุมไฟ ปรับรสชาติ บางครั้งบางคราวก็จะผัดออกมาในรูปแบบต่างๆ
แต่ว่า…
มีนักร้องบางคนสามารถผสมเสียงเองได้โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเทคโนโลยี นี่คือหนึ่งในวิชาด้านดนตรีที่ต้องเรียน เพราะการออกเสียงมีสี่เรโซแนนซ์ แบ่งเป็นออรัลเรโซแนนซ์ เนซัลเรโซแนนซ์ เชสต์เรโซแนนซ์ และเฮดเรโซแนนซ์
เรื่องเหล่านี้หลินเยวียนเองก็รู้
แน่นอนว่าทำได้หรือไม่ได้นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ทำได้ดีหรือทำได้ไม่ดีก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง หลินเยวียนทำได้พอใช้ได้ แม้แต่เชสต์เรโซแนนซ์ซึ่งยากที่สุดเขายังจัดการได้อย่างน่าประทับใจ แต่นั่นคือมิกซ์วอยซ์ของคนทั่วไป
หลินเยวียนต่างออกไป
ตอนนี้เขามีสามเสียง ถึงแม้จะไม่สามารถเปล่งทั้งสามเสียงพร้อมกันได้ แต่หลินเยวียนสามารถผสานเสียงเหล่านี้เข้าหากันได้ เพื่อสร้างเสียงซึ่งคล้ายคลึงกับเสียงประสาน ความสมดุลนี้ทำได้ยากมาก แต่ขณะร้องเพลงเหน็บหนาว ประโยคสุดท้ายของเนื้อเพลงนั้นแฝงกลิ่นอายไว้แล้ว ตอนนั้นอู่หลงยังเอ่ยปากชมเรื่องนี้เป็นพิเศษ เห็นได้ชัดว่าเส้นทางนี้เดินต่อไปได้
“เลิกเรียนได้แล้ว”
ร่างเสมือนเอ่ย “การฝึกมิกซ์วอยซ์ของเสียงทั้งสามไม่ใช่สิ่งที่ทำได้ในชั่วข้ามคืน คุณรับมือกับเสียงแหบของคุณให้ดีก่อน ถ้าไม่มีเสียงแหบ ผลลัพธ์ของมิกซ์วอยซ์ไม่มีทางแตะถึงขั้นสมบูรณ์แบบได้”
“อืม”
หลินเยวียนใจสั่นขึ้นมา
เขากลับไปสู่โลกแห่งความเป็นจริง ยังคงอยู่บนเตียงนอนของตน เขาลุกขึ้นไปหาท่วงท่าที่เหมาะสมสำหรับการร้องเพลง จากนั้นก็หาเสียงแหบกลายพันธุ์ซึ่งตนเพิ่งค้นพบในมิติเสมือนของระบบ กลับพบว่าความรู้สึกนั้นหายไปอีกแล้ว
เห็นได้ชัด
ว่าสมองกระจ่างแล้ว
แต่เสียงยังทำไม่ได้
มิติเสมือนคือการศึกษาสมอง ภาพลักษณ์ของตนก็คือภาพเสมือนเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นการฝึกฝนในชีวิตจริงจึงสำคัญมาก แต่ในเมื่อสมองของเขากระจ่างแล้ว การเปล่งเสียงประเภทนี้ออกมาจะไม่ยากเกินไป
หลินเยวียนสูดลมหายใจเข้าลึก
ฝึกฝนต่อไป
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป เขาใช้เสียงแหบพื้นฐานได้แล้ว ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นสภาวะของเสียงของเขาในช่วงเวลาที่เสียงพังไป ใช้คำพูดของระบบมาอธิบายก็คือสิ่งที่เรียกว่าความทรงจำของกล้ามเนื้อนั้นมีอยู่จริง หลินเยวียนจะไม่รู้สึกแปลกใหม่เสียทีเดียว
“ทีนี้ก็ใช้ได้แล้ว”
หลินเยวียนผุดยิ้มออกมา
ถ้าเลือกเพลงไม่ผิดพลาด บางทีในการแข่งขันรอบหน้าเขาอาจยังได้อันดับที่ดี “ถ้าบอกว่าเสียงชายหญิงคือไพ่ใบแรกของฉัน งั้นเสียงแหบก็คือไพ่ตายของฉัน ยังมีเวลาอีกหลายวันกว่าจะถึงการแข่งขันในรอบต่อไป มากพอให้ฉันฝึกจนชำนาญ”
……
โลกภายนอก
เมื่อการบันทึกเทปในรอบแรกของรายการราชาหน้ากากนักร้องจบลง ก็มีการพูดคุยกันมากมายบนอินเทอร์เน็ต ชาวเน็ตบางคนติดตามถึงขั้นที่รู้ว่าตอนที่หนึ่งของรายการบันทึกเทปวันไหน
‘วันนี้รายการราชาหน้ากากนักร้องน่าจะบันทึกเทปตอนแรกแล้ว’
‘บ้าจริง! น่าจะอัดรายการเสร็จแล้วด้วย แต่ยังต้องรอวันอาทิตย์หน้ากว่าจะได้ดู!’
‘ดาบของข้ากระหายเลือดแล้ว!’
‘ทีมงานรายการบอกว่าตอนแรกมีราชาราชินีเพลง พวกคุณว่าจะมีราชาราชินีเพลงที่ตกรอบตั้งแต่ตอนแรกไหม?’
‘คิดมากไปแล้ว’
‘ในรายการที่ยุติธรรม ตราบใดที่ราชาราชินีเพลงแสดงฝีมือได้ตามปกติ โดยทั่วไปสี่อันดับแรกต้องนอนรอแล้ว นี่เป็นแค่คำพูดดักทาง ฉันสงสัยว่าราชาราชินีเพลงน่าจะได้สองอันดับแรก’
‘เข้าใจแล้ว รอดูว่าอันดับหนึ่งกับอันดับสองคือใคร สองคนนั้นน่าจะเป็นราชาราชินีเพลง’
‘รอนานๆ ก็อาจจะบั่นทอนหัวใจ…’
ความคาดหวังของสาธารณชนต่อรายการนี้สูงมาก!
และในแพล็ตฟอร์มวิดีโอ ก็ปรากฏปุ่มนัดหมายล่วงหน้าของรายการราชาหน้ากากนักร้องด้วย
ทั้งนี้ก็เพื่อแจ้งเตือนให้ผู้ชมเข้ามาดูได้ทันที
ปัจจุบันจำนวนผู้ที่กดนัดหมายล่วงหน้านั้นได้ทำลายสถิติของรายการอื่นๆ ไปแล้ว!
นอกจากนั้น
ผู้ชมบางคนซึ่งได้เข้าร่วมการบันทึกเทปปรากฏตัวบนโลกออนไลน์
เนื่องจากหลักจรรยาบรรณพื้นฐานและกฎการรักษาความลับของรายการ พวกเขาจึงไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลบนโลกออนไลน์มากเกินไป แต่เพียงแสดงความตื่นเต้นเป็นระยะๆ
‘ดูตอนที่หนึ่งมาแล้ว ควรค่าแก่การรอคอย’
‘ตื่นเต้นกว่าที่ผมคิดไว้ซะอีก สมแล้วที่เป็นรายการระดับแนวหน้าของบลูสตาร์!’
‘ตอนถอดหน้ากากคือตะลึงมาก!’
‘นักร้องที่สวมหน้ากากบางคนแข็งแกร่งมากจนเพื่อนไม่คบ!’
‘ดูรายการนี้จบ ฉันถึงรู้ว่าทักษะในการร้องเพลงคืออะไร เมื่อก่อนฟังคนพูดถึงร้องเพลงแล้วรู้สึกว่าเข้าไม่ถึง’
‘ความรู้สึกของการฟังสดนี่ฟินจริงๆ หูเคลือบทอง!’
‘โพรดักชันรายการนี้อลังการสุด แทบอยากเก็บลำโพงข้างขวาของผมกลับบ้าน นี่มันคลังขุมทรัพย์ชัดๆ!’
‘…’
ไม่เพียงผู้ชมทั่วไป
เหล่าดาราและคนดังซึ่งเป็นคณะกรรมการประเมินก็เริ่มดันรายการเช่นกัน
‘รายการที่น่าทึ่งที่สุดในประวัติศาสตร์ของบลูสตาร์ได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว น่าทึ่งที่ผมพูดถึงคือน่าทึ่งในทุกๆ ด้าน!’
‘เซอร์ไพรส์! ต่อให้เป็นนักร้องซึ่งตกรอบในตอนที่หนึ่ง ฝีมือก็ไม่ธรรมดา!’
‘ได้ดูแค่กระบวนการและการถอดหน้ากากในตอนสุดท้าย ไม่รู้ผลของนักร้องท่านอื่นๆ คนที่ได้ดูรายการแล้ว ตอนรายการออนแอร์อาจไม่ได้ตื่นเต้นมากเท่าคนที่ยังไม่ได้ดู!!’
‘อ๊ากกกก คณะกรรมการตัดสินคือดรีมทีมของจริง!!’
‘นี่คือรายการเพลงที่เดือดที่สุดในประวัติศาสตร์ ทั้งวงการเพลงจะตัวสั่น เซี่ยนอวี๋ก็มาด้วยนะ!’
‘…’
บทบาทในการดันกระแสของรายการนั้นชัดเจน
เมื่อชาวเน็ตและเหล่าดาราซึ่งเป็นคณะกรรมการประเมินส่งเสียง ความตื่นเต้นที่ชาวเน็ตมีต่อรายการราชาหน้ากากนักร้องก็ทวีคูณสูงขึ้นไปอีก!
จำนวนผู้ที่กดนัดหมายล่วงหน้าพุ่งสูงขึ้นกว่าเดิม!
ทุกคนใส่ใจกับข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวโยงถึงจุดสำคัญ
อะไรคือ ‘คณะกรรมการตัดสินคือดรีมทีมของจริง’?
และอะไรคือ ‘เซี่ยนอวี๋ก็มาด้วยนะ’?
หรือว่าเซี่ยนอวี๋ผู้ลึกลับปรากฏตัว!?
แต่คุณทำตัวเอียงหมายความว่ายังไง!
ทำไมทั้งวงการเพลงจะต้อง ‘ตัวสั่น’
คนที่ถูกถอดหน้ากากในตอนที่หนึ่งคือใคร ทำไมถึงทำให้ทุกคนตื่นเต้นกันขนาดนั้น
บ้าชะมัด!
อยากดูแล้ว!
อยากดูจนนอนไม่หลับ!
ขณะเดียวกันในฉีโจว จู่ๆ นักแสดงคนหนึ่งซึ่งเป็นกรรมการประเมินก็โทรศัพท์หาเพื่อนสนิท
“หยวนซี”
“ว่าไง”
ผู้ที่รับสาย คือราชินีเพลงจากฉีโจว หยวนซี
“เธอไม่ได้เข้าร่วมรายการราชาหน้ากากนักร้องใช่ไหม”
“เปล่าหนิ”
“เอาเถอะ ดูท่าคนคนนั้นจะไม่ใช่เธอจริงๆ ฉันแค่อยากมาเตือนน่ะ อย่าลืมดูรายการราชาหน้ากากนักร้อง”
“หมายความว่าไง”
“เดี๋ยวเธอดูเองก็รู้ ต้องเตรียมตัวเตรียมใจไว้ดีๆ นะ อย่าโกรธ โกรธไปก็ไม่มีประโยชน์ ในฐานะเพื่อนสนิท ฉันแค่อยากฉีดภูมิคุ้มกันให้เธอก่อน…”
หยวนซี “…”
เธอกำลังเล่นมุกอะไรอยู่น่ะ
ช่วงนี้รายการราชาหน้ากากนักร้องคล้ายว่าจะกลืนกินทั้งวงการเพลงไปแล้ว ราวกับว่าทั่วทั้งบลูสตาร์จะพูดถึงกันแต่รายการนี้
คำถามคือ…
แล้วเรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับฉันด้วย
หรือว่ามีนักร้องสวมหน้ากากแอบอ้างตัวเป็นฉัน?
ความสงสัยของหยวนซี ใช้เวลาไม่นานก็ได้รับคำตอบ
เพราะเจ็ดวันหลังจากนั้น…
ราชาหน้ากากนักร้องก็ออกอากาศ!!!
คนที่อยากดูรายการนี้จนนอนไม่หลับ คล้ายกับได้รับหนทางปลดปล่อย รีบกดดูรายการนี้อย่างอดใจรอไม่ไหว…
…………………………………………………….