องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที! – บทที่ 636 ฟางเส้นสุดท้าย

บทที่ 636 ฟางเส้นสุดท้าย

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​สังเกตเห็น​ถึง​ความผิดปกติ​ทันทีที่​นาง​ก้าว​เข้ามา​ใน​วัง​หลวง

มีนัก​พรต​ถูก​ส่ง​มาจาก​จวน​ผู้อาวุโส​มากเกินไป​ ​อีกทั้ง​ยังอยู่​ที่นี่​มาตั​้ง​แต่แรก​โดย​ไม่มี​ทีท่า​จะ​กลับ​ ​ท่าทาง​ของ​พวกเขา​เหมือนกับ​กำลัง​ค้นหา​ใคร​สัก​คน​อยู่

“​ดูเหมือน​จะ​มีเรื่อง​เกิดขึ้น​ใน​วัง​หลวง​”​ ​น้ำเสียง​ชั่วร้าย​ของ​หยวน​หมิง​ดัง​ขึ้น​จาก​ทาง​ด้านหลัง​ของ​นาง​ ​”​ปราณ​แห่ง​ความเคียดแค้น​หนาแน่น​รุนแรง​ยิ่งนัก​ ​อาจมี​ใคร​บางคน​ตก​สู่​วิถี​แห่ง​ปีศาจ​แล้วก็​เป็นได้​”

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​เอียง​ศีรษะ​เล็กน้อย​ขณะที่​ฟัง​คำพูด​ของ​เขา​ ​นาง​รีบ​คว้า​ตัวนาง​กำนัล​คน​หนึ่ง​เข้ามา​ ​แล้ว​ถาม​ว่า​ ​”​นี่​มัน​เกิด​อะไร​ขึ้น​”

“​พระ​ชายา​สาม​!​”​ ​นางกำนัล​คน​นั้น​สะดุ้ง​ด้วย​ความตกใจ​ ​นาง​รีบ​ลง​ไป​นั่งคุกเข่า​กับ​พื้น​อย่างรวดเร็ว​เพื่อ​ทำความเคารพ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ ​”​คารวะ​พระ​ชายา​สาม​เพ​คะ​”

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ยื่นมือ​ออก​ไป​ฉุด​นาง​ขึ้น​ ​จากนั้น​จึง​เอ่ย​ว่า​ ​”​ไม่จำเป็น​ต้อง​คุกเข่า​หรอก​ ​แค่​บอก​ข้ามา​ก็​พอ​ว่า​มัน​เกิด​อะไร​ขึ้น​กัน​แน่​ ​ทำไม​ที่นี่​ถึง​มีนัก​พรต​เต็มไปหมด​เช่นนี้​ได้​”

“​ท่าน​…​ ​ท่าน​ไม่รู้​หรือ​เพ​คะ​”​ ​นางกำนัล​ประหลาดใจ​ ​จากนั้น​นาง​จึง​เหลือบมอง​นาง​ ​แล้ว​ตอบ​อย่าง​ตะกุกตะกัก​ว่า​ ​”​ดูเหมือนว่า​ที่จริง​แล้ว​องค์​ชาย​เจ็ด​จะ​เป็น​ปีศาจ​เพ​คะ​ ​ฮ่องเต้​ก็​เลย​มี​รับสั่ง​ให้​คน​มา​จับตัว​เขา​”

“​ปีศาจ​หรือ​”​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ขมวดคิ้ว​แน่น​ ​และ​ถาม​ต่อ​ ​”​ใคร​บอก​หรือ​”

นางกำนัล​ตกใจ​กับ​น้ำเสียง​ที่นาง​ใช้​ ​นาง​ตอบ​ว่า​ ​”​หม่อมฉัน​เอง​ก็​ไม่​มั่นใจ​เช่นกัน​เพ​คะ​ ​แต่​ข่าว​นี้​ดูจะ​แพร่​ออกมา​จาก​ตำหนัก​เฉียน​ชิง​ ​ว่า​กัน​ว่า​คนที​่​ถูก​ฆ่า​ตาย​ใน​วัง​หลวง​ใน​ระยะนี้​ต่าง​ก็​ถูก​องค์​ชาย​เจ็ด​ตัว​น้อย​ดูด​เลือด​จน​แห้ง​ไป​หมดตัว​เพ​คะ​”

“​ตำหนัก​เฉียน​ชิง​หรือ​”​ ​ดวงตา​ของ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ดำทะมึน​ขึ้น​ ​ที่​แห่ง​นั้น​คือ​ที่​ที่​อดีต​ฮ่องเต้​ประทับ​อยู่​มิใช่​หรือ​ ​นาง​จำได้​ว่า​หยวน​หมิง​เอง​ก็​เคย​บอกว่า​ที่นั่น​มีบา​งอย​่าง​ไม่ชอบมาพากล​…

“​เจอ​แล้ว​ ​พวกเรา​เจอ​ตัว​องค์​ชาย​เจ็ด​แล้ว​!​”

ทันใดนั้น​ก็​มีเสียง​เอะอะ​ดัง​ขึ้น​มา​แต่ไกล

หัวใจ​ของ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ดิ่ง​วูบ​ ​นาง​รีบ​ตาม​นักพรต​เหล่านั้น​ไป​ทันที

ทหาร​รักษา​พระองค์​กว่า​ร้อย​นาย​ยืน​ล้อม​โรง​เก็บ​ฟืน​หลัง​เล็ก​ใน​สวน​ของ​ตำหนัก​เฉียน​ชิง

ฮ่องเต้​และ​เสนาบดี​จาก​กรม​ขุนนาง​ภายใน​ยืน​อยู่​นอก​วง​นั้น

“​บุกเข้าไป​ซะ​!​”​ ​ฮ่องเต้​สั่งการ​ด้วย​น้ำเสียง​หนักแน่น

บรรดา​เสนาบดี​จาก​กรม​ขุนนาง​ภายใน​มองหน้า​กัน​ด้วย​ความ​ไม่แน่ใจ​ ​สุดท้าย​พวกเขา​จึง​เอ่ย​ถาม​ขึ้น​อย่าง​อด​ไม่ได้​ว่า​ ​”​ฝ่า​บาท​ ​นี่​เป็นเรื่อง​เข้าใจผิด​หรือเปล่า​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​ ​องค์​ชาย​เจ็ด​ยัง​เด็ก​นัก​ ​เขา​จะ​ฆ่า​คน​ได้​อย่างไร​”

ฮ่องเต้​ยังคง​เงียบ

ผู้อาวุโส​ที่อยู่​ข้าง​เขา​แค่น​หัวเราะ​พลาง​เอ่ย​ขึ้น​ว่า​ ​”​ใต้เท้า​จาง​ ​ท่าน​คง​แก่​เกินไป​แล้ว​กระมัง​!​ ​องค์​ชาย​เจ็ด​เป็น​ปีศาจ​ ​ดังนั้น​เขา​ย่อม​สามารถ​เข่นฆ่า​ผู้คน​ได้​อย่างแน่นอน​ ​เรื่อง​นี้​หา​ได้​เกี่ยวข้อง​กับ​อายุ​ไม่​”​ ​จากนั้น​เขา​จึง​หันหน้า​ไป​ทาง​ฮ่องเต้​พร้อมกับ​ประสานมือ​เข้าหา​กัน​แล้ว​พูด​ต่อ​ ​”​ฝ่า​บาท​ ​กระหม่อม​คิด​ว่า​เรา​ควร​จุดไฟ​เผา​โรง​เก็บ​ฟืน​หลัง​นั้น​เพื่อ​บีบ​ให้​เขา​ออกมา​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​ ​จากนั้น​เรา​จะ​ให้​เหล่า​เสนาบดี​ได้​เห็น​มัน​อย่างชัดเจน​ด้วย​ตา​ตัวเอง​”

บรรดา​เสนาบดี​จาก​กรม​ขุนนาง​ภายใน​ไม่ได้​เตรียมใจ​มาสำ​หรับ​เรื่อง​นี้​ ​พวกเขา​ไม่ได้​มี​วาทศิลป์​และ​มีไหวพริบ​มาก​เท่า​ผู้อาวุโส​ผู้​นั้น​ ​อีกทั้ง​ท่าที​ของ​ฮ่องเต้​ที่​มีต​่อ​เรื่อง​นี้​ก็​ยัง​ชัดเจน​เกินไป

พวกเขา​ไม่​สามารถ​ทำ​อะไร​ได้​เลย​!

พวกเขา​คง​ไม่​สามารถ​ยืน​เฉย​รอดู​องค์​ชาย​เจ็ด​ถูก​ไฟ​คลอก​ได้​หรอก​ใช่ไหม

ดู​จาก​นิสัย​ของ​ฝ่า​บาท​แล้ว​ ​เขา​ย่อม​ไม่มีทาง​ไว้ชีวิต​พวกเขา​แน่​หาก​พวกเขา​รู้เรื่อง​นี้​เข้าที​หลัง​!

ในเวลานี้​ไม่มี​สิ่งใด​ที่​พวกเขา​สามารถ​ทำได้​จริงๆ​…

“​จุดไฟ​!​”​ ​ผู้อาวุโส​เอ่ย​เสียงดัง​ ​สะเก็ด​ไฟ​สะท้อน​อยู่​ใน​ดวงตา​ของ​เขา​ขณะที่​เขา​ประกาศ​ก้อง​ว่า​ ​”​ฟัง​ให้​ดี​!​ ​ปีศาจ​ตัว​นี้​จำต้อง​จับเป็น​!​”​

“​ขอรับ​!​”​ ​นักพรต​เหล่านั้น​ตั้งแถว​ ​และ​กำลัง​เตรียมตัว​ที่จะ​จุดไฟ

แต่​ทันใดนั้น​ ​น้ำเสียง​แจ่มชัด​ก็​พลัน​ดังก้อง​ไป​ทั่ว​อากาศ​พร้อมกับ​บรรยากาศ​กดดัน​อัน​หนาแน่น​ ​เสียง​นั้น​ถาม​ว่า​ ​”​ท่าน​เรียก​ใคร​ว่า​ปีศาจ​หรือ​”

บรรยากาศ​ตก​สู่​ความ​เงียบ​ใน​ชั่วพริบตา​ ​กลิ่นอาย​แห่ง​ความตาย​ที่​ใกล้​เข้ามา​นั้น​กุม​หัวใจ​ของ​พวกเขา​เอาไว้​ราวกับ​มือ​ที่​มองไม่เห็น

หาก​บิด​เพียงแค่​ครั้ง​เดียว​ก็​สามารถ​ทำให้​เลือด​ของ​พวกเขา​สาด​กระเซ็น​ ​และ​คร่าชีวิต​ของ​พวกเขา​จน​เหลือ​เพียง​เถ้า​ธุลี​!

สายฟ้า​แลบ​พาด​ผ่าน​ท้องฟ้า​ ​แสง​ของ​มัน​สว่าง​มาก​พอที่​จะ​ทำให้​รูม่านตา​ของ​ทุกคน​หด​ลง​ทันที

ตอนนั้น​เอง​ที่​พวกเขา​ได้​เห็น​ใบหน้า​อัน​งดงาม​อย่าง​ยาก​จะ​หา​ใด​เปรียบ​ปรากฏ​อยู่​ใต้​แสงสว่าง​เจิดจ้า​นั้น

เป็น​ใบหน้า​ของ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​นั่นเอง​ ​นางสาว​เท้า​เข้ามา​อย่าง​คุกคาม​และ​เย็นชา​ราวกับ​ภูตผี​ ​ทันใดนั้น​นาง​ก็​ขยับ​ฝ่ามือ​อย่างรวดเร็ว​!

หิมะ​ปลิว​ขึ้น​มาจาก​พื้นดิน​ราวกับ​พายุหมุน​ ​และ​กลืน​กิน​เปลวไฟ​ทันที

ผู้อาวุโส​ยืน​อยู่​กลาง​พายุ​นั้น​ ​ใบหน้า​ของ​เขา​เจ็บ​แปลบ​จาก​สายลม​อัน​รุนแรง​ ​เขา​ยก​แขน​ขึ้น​บัง​ลม​พร้อมกับ​หรี่​ตาลง​ ​และ​ตะโกน​ว่า​ ​”​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​!​ ​เจ้า​อีกแล้ว​หรือ​!​ ​เจ้า​รู้​หรือไม่​ว่า​ตัวเอง​กำลัง​ทำ​อะไร​อยู่​?​!​”

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ค่อยๆ​ ​ก้าว​ออกมา​ข้างหน้า​ ​แขน​เสื้อ​ของ​นาง​ที่​สะบัด​อยู่​ใน​สายลม​ทำให้​นาง​ดูเหมือน​ตัวแทน​จาก​นรก​ไม่มี​ผิด​ ​สายตา​เย็นชา​ของ​นาง​จับจ้อง​อยู่​ที่​ผู้อาวุโส​ขณะ​เอ่ย​ถาม​ว่า​ ​”​ข้า​ก็​กำลังจะ​ถาม​ท่าน​อยู่​เหมือนกัน​ ​ท่าน​ผู้อาวุโส​ ​ท่าน​รู้​หรือไม่​ว่า​ตัวเอง​กำลัง​ทำ​อะไร​อยู่​ ​เจ้า​เจ็ด​มีสาย​เลือด​ของ​ราชวงศ์​ไหลเวียน​อยู่​ใน​ร่าง​ ​แต่​ท่าน​กลับ​ไม่สน​ใจ​ฐานะ​ของ​เขา​ ​และ​สั่ง​ให้​จุดไฟ​โดย​ไม่​แม้แต่​จะ​คิด​ซ้ำสอง​ได้​เช่นนี้​ ​ท่าน​มี​จุดประสงค์​อะไร​กัน​แน่​!​”

ผู้อาวุโส​ถึงกับ​พูดไม่ออก​ไป​ครู่หนึ่ง

ขันที​ตัว​น้อย​ที่​ยืน​อยู่​ข้าง​ฮ่องเต้​เห็น​ว่า​ผู้​เป็น​นาย​ของ​เขา​พยักหน้า​เล็กน้อย​ ​เขา​จึง​เอ่ย​ขึ้น​ว่า​ ​”​พระ​ชายา​สาม​ ​พวกเรา​ทุกคน​ล้วนแต่​รู้​ว่า​ท่าน​ต้องการ​ปกป้อง​องค์​ชาย​เจ็ด​ ​แต่​ท่าน​ไม่​ควร​ปกป้อง​เขา​ด้วย​วิธี​นี้​!​ ​เวลานี้​องค์​ชาย​เจ็ด​ได้​กลายร่าง​เป็น​ปีศาจ​และ​เข่นฆ่า​ผู้คน​ใน​วัง​หลวง​ไปมา​กมาย​ ​แต่​ท่าน​ก็​ยัง​กล้า​หันไป​ตั้งคำถาม​กับ​ท่าน​ผู้อาวุโส​ว่า​มี​จุดประสงค์​อะไร​!​ ​นี่​ท่าน​กำลัง​พยายาม​ปกป้อง​ฆาตกร​อยู่​ชัดๆ​!​”

“​นี่​เป็นความ​คิดเห็น​ของ​เจ้า​ ​หรือ​เจ้า​กำลัง​พูด​แทน​ฮ่องเต้​อยู่​”​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​มอง​ไป​ทาง​ฮ่องเต้​อย่าง​ช้าๆ

ฮ่องเต้​ขมวดคิ้ว

ขันที​ตัว​น้อย​ฉลาด​พอที่​จะ​ไม่​เปิดโปง​ผู้​เป็น​นาย​ ​เขา​เอ่ย​เสียงดัง​ว่า​ ​”​กระหม่อม​เพียงแค่​พูด​แทน​นางกำนัล​ทุกคน​ที่​ถูก​ฆ่า​ตาย​ไป​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​!​”

โครม​!

เสียง​ไม้​หัก​ดัง​ขึ้น​ใน​ทันใด​ ​พร้อมกับ​เศษไม้​ติดไฟ​ที่​ร่วง​ลงมา​ที่​เท้า​ของ​ขันที​ตัว​น้อย​!

ขันที​ตัว​น้อย​สะดุ้งโหยง​ด้วย​ความตกใจ​กลัว​ ​และ​เมื่อ​เขา​เงยหน้า​ขึ้น​ ​เขา​ก็​เห็น​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ที่​มอง​เขา​อยู่​ ​ดวงตา​ดำขลับ​ราว​น้ำหมึก​ของ​นาง​ดูเหมือน​กับ​มหาสมุทร​อัน​ไร้​ก้นบึ้ง​ ​แม้แต่​เสียง​ของ​นาง​ตอนที่​พูด​ก็​ยัง​เยือกเย็น​จน​ชวน​ขนลุก​ ​”​พูด​อีกที​สิ​”

ขันที​ตัว​น้อย​ตัว​แข็ง​ ​จากนั้น​เขา​ก็​กรีดร้อง​ขึ้นเสียง​แหลม​ ​”​กระหม่อม​พูดความจริง​มิได้​หรือ​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​!​?​ ​องค์​ชาย​เจ็ด​เป็น​ปีศาจ​จริงๆ​…​”

พูด​ยัง​ไม่ทัน​จบ​ประโยค​ ​ร่าง​ของ​เขา​ก็​ล้ม​ลง​กระแทก​พื้น​!

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​เหยียบ​ลง​บน​ข้อมือ​ของ​เขา​ ​ในเวลาเดียวกัน​นั้น​สายลม​ที่​พัด​อยู่​รอบตัว​ของ​นาง​ก็​พลัน​ร้อน​ขึ้น​ด้วย​เหตุผล​บางประการ​เช่นกัน​ ​มัน​ร้อน​เสีย​จน​ขันที​ตัว​น้อย​รู้สึก​เหมือน​มัน​กำลัง​แผดเผา​ร่างกาย​ของ​เขา​จน​เป็น​รู​!

แต่​ที่​น่ากลัว​ยิ่งกว่านั้น​คือ​การ​ที่​เขา​ไม่​สามารถ​เปล่งเสียง​ใดๆ​ ​ออกมา​ได้​เลย​แม้แต่​นิดเดียว​ ​เขา​ทำได้​เพียง​อ้าปากค้าง​และ​ดิ้น​อยู่​เงียบๆ​ ​ราวกับ​คน​กำลังจะ​สิ้นลม​ด้วย​ฝีมือ​ของ​ยมทูต

“​ใคร​บอก​เจ้า​ว่านา​งกำ​นัล​พวก​นั้น​ถูก​เจ้า​เจ็ด​ฆ่า​”​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ถาม​อย่าง​เย็นชา​ ​”​ขันที​ธรรมดา​คนเดียว​กล้า​ใส่ความ​องค์​ชาย​หรือ​ ​สมควร​ตาย​ยิ่งนัก​!​”

ฮ่องเต้​นึกไม่ถึง​ว่า​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​จะ​กล้า​ใช้​ความรุนแรง​ต่อหน้า​เขา​ ​เขา​ไม่​สามารถ​รักษา​ความเยือกเย็น​ที่อยู่​บน​ใบหน้า​ได้​อีกต่อไป​ ​เขา​เค้น​เสียง​ออกมา​จาก​ริมฝีปาก​ขณะ​คำราม​ว่า​ ​”​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​…​”

แต่​เฮ่อ​หลี​ยน​เวย​เวย​กลับ​ไม่​เปิดโอกาส​ให้​เขา​ได้​พูด​ ​นาง​รีบ​คำนับ​ลง​ตรงหน้า​เขา​ด้วย​ท่าทาง​จงรักภักดี​เท่าที่​นาง​จะ​สามารถ​ทำได้​ ​พร้อมกับ​เอ่ย​ขัด​ขึ้น​ว่า​ ​”​ฝ่า​บาท​!​ ​หม่อมฉัน​จัดการ​คน​ทรยศ​ที่​ใส่ความ​องค์​ชาย​เจ็ด​ให้​แล้ว​เพ​คะ​!​ ​หม่อมฉัน​หวัง​ว่า​ท่าน​จะ​ไม่ถือสา​อัน​ใด​ใน​การกระทำ​ของ​หม่อมฉัน​!​”

ใบหน้า​ของ​ฮ่องเต้​กระตุก​ด้วย​ความ​เดือดดาล​ ​แต่​เขา​ไม่​สามารถ​ทำ​อะไร​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ได้

ถ้า​เขา​ทำ​ ​มัน​จะ​ชัดเจน​เกินไป

มัน​ย่อม​สร้าง​ความสงสัย​ให้​กับ​ทุกคน​อย่างแน่นอน

ดังนั้น​เขา​จึง​ทำได้​เพียง​รักษา​สีหน้า​เฉยเมย​ของ​ตัวเอง​ไว้​ ​และ​เอ่ย​ขึ้น​ว่า​ ​”​เจ้า​ลุกขึ้น​เถอะ​”

“​ขอบ​พระทัย​ฝ่า​บาท​”​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ยืน​ตัวตรง

ผู้อาวุโส​คน​นั้น​เย้ย​ขึ้น​ ​”​ต่อให้​พูดดี​เพียงใด​ ​เรื่อง​บาง​เรื่อง​เรา​ก็​จำเป็นต้อง​สืบสวน​กัน​ให้​ชัดเจน​ ​องค์​ชาย​เจ็ด​จะ​เป็น​ปีศาจ​หรือไม่​นั้น​ ​เรา​จะ​มั่นใจ​ได้​ก็ต่อเมื่อ​ได้​เห็น​เขา​!​ ​ใครก็ได้​!​ ​เคาะ​ประตู​ต่อไป​อย่า​ได้​หยุด​!​ ​ถ้า​ไม่มีใคร​ตอบ​ก็​จุดไฟ​เผา​ซะ​!​”

แต่​ทันใดนั้น​เอง​…

องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที!

องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที!

Status: Ongoing

นิยายโรแมนติก นักรบหญิงย้อนเวลามาเจอสังคมอุดมพลังปราณ…และองค์ชายสายคลั่งรัก!

“เจ้าต้องรับผิดชอบ”

“ก็ได้ ท่านต้องการให้ข้ารับผิดชอบอย่างไรหรือ อย่าบอกนะว่าท่านอยากให้ข้าแต่งงานด้วย”

“แต่งงานหรือ…” ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยจับคางของเฮ่อเหลียนเวยเวยอย่างหยอกล้อ

“ไหนๆ เราก็จะแต่งงานกันอยู่แล้ว ลองมาตรวจสอบเรื่องนี้กันก่อนดีไหม…

ไปเตรียมห้อง!”

เฮ่อเหลียนเวยเวย ราชินีนักรบแห่งศตวรรษที่ 21 ย้อนเวลามาอยู่ในร่างคุณหนูใหญ่ชื่อเดียวกัน

ย้อนมาวันแรกก็พบว่านางถูกยกเลิกงานแต่งงาน ทั้งยังเจอแม่เลี้ยงและน้องสาวต่างมารดาหมายหัวเอาชีวิต

ทั้งยังต้องพบว่า โลกนี้วัดค่าของคนด้วยพลังลมปราณ ทว่าร่างนี้ไม่มีลมปราณ จึงถูกเรียกว่า ‘นังคนไร้ค่า’

แต่จู่ๆ โชคชะตาให้นางได้บังเอิญพบหนังสือโบราณ ทำพันธะสัญญากับคนหูหมาป่า ทั้งยังมีหนังสือเรียกตัวจากสำนักไท่ไป๋

ยิ่งไปกว่านั้นยังมีบุรุษรูปงามที่ใครต่างก็เกรงใจ นาม ไป๋หลี่เจียเจวี๋ย ไล่ตามนางไปทุกที่

เพราะในเมื่อนางเคยขโมยจูบแรกเขามา และเขาก็คือบุรุษหน้ากากเงินที่นางเคยพบมาก่อน

ชีวิตใหม่นี้มีของดีอยู่ในมือ จะแกร่งขึ้น จะแก้แค้น จะร้ายกว่าเดิมจนทั่วหล้าต้องตกตะลึง นางไม่เคยกลัว!

กลัวเพียงอย่างเดียว… เขาคนนั้นจะไม่คืนชีวิตสุขสงบให้นาง เล่นไล่จับมันเหนื่อยมากนะรู้ไหม?!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท