องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที! – บทที่ 637 ปกป้องเจ้าเจ็ด

บทที่ 637 ปกป้องเจ้าเจ็ด

แอ๊ด

ประตู​ของ​โรง​เก็บ​ฟืน​ที่​เคย​ปิด​สนิท​พลัน​เปิด​ออก

หิมะ​จำนวนนับ​ไม่​ถ้วน​ลอย​ขึ้น​ตาม​แรง​เปิด​นั้น

ลม​พัด​แรง​จน​ทุกคน​ลืมตา​แทบ​ไม่​ขึ้น

ท่ามกลาง​หิมะ​ ​มี​ร่าง​เล็ก​ๆ​ ​สีเทา​ก้าว​ออกมา​จาก​ตรงนั้น

เด็กชาย​ตัว​น้อย​เดิน​ก้มหน้า​งุด​ ​ดังนั้น​จึง​ไม่มีใคร​มองเห็น​สีหน้า​ของ​เขา​ได้​ชัดเจน

ทันทีที่​เห็น​เขา​ ​สีหน้า​หวาดกลัว​เหนือคำบรรยาย​ก็​พลัน​ปรากฏ​ขึ้น​บน​ใบหน้า​ของ​บรรดา​ทหาร​รักษา​พระองค์​ที่​ยืน​อยู่​ใกล้​กับ​โรง​เก็บ​ฟืน​แห่ง​นั้น​ ​ดวงตา​ของ​พวกเขา​เบิก​กว้าง​ระหว่าง​จำใจต้อง​ชัก​เท้า​กลับ​หนึ่ง​ก้าว

ผู้อาวุโส​ต่อว่า​พวกเขา​ทันทีที่​เห็น​เช่นนั้น​ ​”​มัว​ทำ​อะไร​อยู่​ ​รีบ​จับตัว​เขา​เอาไว้​สิ​!​”

บรรดา​ทหาร​รักษา​พระองค์​หันไป​มอง​ฮ่องเต้​ด้วย​ความกลัว​ ​พวกเขา​ไม่​ขยับ​เลย​แม้แต่น้อย​ ​อีกทั้ง​ยัง​ไม่​สามารถ​เปล่งเสียง​ออกมา​ได้​ราวกับ​มีพลัง​ที่​มองไม่เห็น​บีบ​คอ​ของ​พวกเขา​อยู่​ ​ทันทีที่​เห็น​องค์​ชาย​เจ็ด​เดิน​ออกมา​ ​ทุกอย่าง​ก็​ดู​ผิดปกติ​ไป​!

เด็กชาย​ตัว​น้อย​เดิน​ต่อ​ ​กระแส​พลัง​อัน​ไร้​ที่มา​สร้าง​ความปั่นป่วน​ให้​กับ​ร่างกาย​ของ​เขา​และ​ทำให้​เขา​ทั้ง​เจ็บ​และ​คัน​ไป​ทั่ว​ร่าง​ ​เขา​รู้สึก​เหมือน​มี​ฝูง​แมลง​ตัวเล็ก​ๆ​ ​วิ่ง​พล่าน​อยู่​ใน​เส้นเลือด​ ​และ​กำลัง​พยายาม​ที่จะ​เจาะ​ร่าง​ของ​เขา​ออกมา

หลัง​มือ​ของ​เขา​คัน​อย่างรุนแรง​ ​และ​หน้าผาก​ของ​เขา​ก็​ร้อน​ฉ่า​ ​เขา​ทน​อยู่​ใน​โรง​เก็บ​ฟืน​ไม่ไหว​อีกต่อไป​เพราะ​เขา​หิว​ ​แต่​เขา​ไม่​อยาก​ยอมรับ​ว่า​ตัวเอง​เป็น​ปีศาจ​ ​ดังนั้น​เขา​จึง​เลียนแบบ​พี่​สาม​ ​และ​ใช้​สายตา​เย็นชา​มอง​ทหาร​รักษา​พระองค์​เหล่านั้น​พร้อมกับ​คำราม​ขึ้น​ว่า​ ​”​ถอย​ไป​!​”​ ​ถ้า​ยัง​ไม่​ไป​ ​เขา​จะ​จัดการ​บดขยี้​คน​พวก​นี้​เสีย

แต่​ทันทีที่​เขา​ก้าว​ขาออก​ไป​ ​ยันต์​รูป​ดาว​ห้า​แฉก​ก็​พลัน​ปรากฏ​ขึ้น​จาก​ใต้​ฝ่าเท้า​ของ​เขา​ ​มัน​ลอย​ขึ้นไป​ใน​อากาศ​ตาม​มุม​ทั้ง​สี่​ทิศ​ ​สุดท้าย​จึง​กลายเป็น​ตาข่าย​เรืองแสง​ร่วง​ลงมา​จาก​ฟ้า​แล้ว​คลุม​ร่าง​ของ​องค์​ชาย​เจ็ด​ตัว​น้อย​ไว้​!

มัน​ทำ​มาจาก​ลวดทอง​แดง​ ​และ​เป็น​ค่าย​กลอา​คม​ที่​พวกเขา​เตรียม​เอาไว้​ล่วงหน้า

ผู้อาวุโส​หัวเราะ​อย่าง​ผู้ชนะ​ ​แล้ว​เอ่ย​ว่า​ ​”​องค์​ชาย​เจ็ด​ ​อาคม​นี้​เป็น​อาคม​ที่​ซับซ้อน​ที่สุด​ใน​โลก​ ​มัน​จะ​บังคับ​ให้​ปีศาจ​กลับคืน​สู่​ร่าง​ที่แท้​จริง​ของ​ตัวเอง​เมื่อ​ถูกจับ​ ​กระหม่อม​ขอ​แนะนำ​ว่า​อย่า​ขัดขืน​เลย​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​ ​ท่าน​มี​แต่​จะ​ยิ่ง​ทำให้​ตัวเอง​ต้อง​เจ็บตัว​เสียเปล่า​ๆ​”

เด็กชาย​ตัว​น้อย​ขมวดคิ้ว​ ​เขา​ยก​แขน​ขึ้น​แล้ว​ขยับตัว​ไปมา

ทันใดนั้น​ ​ตาข่าย​ทำ​จาก​ลวดทอง​แดง​อันนั้น​ก็​รัด​ร่าง​ของ​เด็กชาย​ตัว​น้อย​แน่น​ ​ลวด​แต่ละ​เส้น​กรีด​ลง​ไป​บน​ผิว​อัน​อ่อนนุ่ม​บริเวณ​หลัง​มือ​ของ​เขา​ ​เรียก​เลือด​ให้​ไหล​ลงมา​ตาม​ง่าม​นิ้ว​ก่อน​หลั่ง​ลง​บน​พื้นดิน

เด็กชาย​ตัว​น้อย​หยุด​เคลื่อนไหว​ ​แล้ว​ใช้​ดวงตา​กลม​โต​เหมือนตา​เสือ​มอง​ไป​ที่​เท้า​ ​แสง​นั้น​ให้ความรู้​สึก​รวดร้าว​และ​แสบ​ร้อน​ตอนที่​มัน​สัมผัส​กับ​ผิว​ของ​เขา​ ​ประกาย​ระยิบระยับ​ใน​ดวงตา​ของ​เขา​ค่อยๆ​ ​เลือนหาย​ไป​ทีละน้อย​ราวกับ​ลูกเสือ​หมดแรง​สู้​ ​แต่​อะไร​บางอย่าง​ที่อยู่​ใต้​นั้น​กลับ​ทำให้​ทุกคน​รู้สึก​ไม่สบายใจ

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​กำมือ​แน่น​ด้วย​ความเจ็บปวด​ใจ​ ​และ​สั่ง​ว่า​ ​”​หยวน​หมิง​ ​ทำลาย​อาคม​นี้​ซะ​!​”

“​ตอนนี้​น่ะ​หรือ​”​ ​หยวน​หมิง​เลิก​คิ้ว​ขึ้น​ข้าง​หนึ่ง​ ​เขา​ถาม​ด้วย​น้ำเสียง​เจ้าเล่ห์​ว่า​ ​”​การ​ทำลาย​อาคม​นี้​ต่อหน้า​ผู้คน​มากมาย​ย่อม​ไม่​ต่าง​จาก​การฉีก​หน้า​ฮ่องเต้​ต่อหน้า​สาธารณชน​ ​ฮ่องเต้​จะ​ต้อง​เห็น​เจ้า​เป็น​กบฏ​และ​จับกุม​เจ้า​ไป​พร้อมกับ​เจ้า​หนู​ตรงนั้น​แน่​ ​เจ้า​แน่ใจ​แล้ว​หรือ​”

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​หัวเราะ​เย้ยหยัน​ ​”​แน่นอน​ ​ในเมื่อ​เจ้า​เจ็ด​ของ​เรา​ถูก​รังแก​ ​ข้า​ย่อม​ไม่มีเหตุผล​ให้​ต้อง​ออม​มือ​หรือ​รักษาหน้า​ใคร​ทั้งนั้น​!​ ​เป็น​กบฏ​ก็​กบฏ​!​”

นาง​ไม่​เสียเวลา​พูด​ต่อ​ ​สายลม​เริ่ม​ส่งเสียง​ร้อง​หวีดหวิว​ ​เมฆ​บน​ฟ้า​หมุน​เคว้ง​ยาม​นาง​ยกนิ้ว​ขึ้น​ ​ใบ​มีด​คมกริบ​สีเงิน​กรีด​ผ่าน​อากาศ​ ​พวก​มัน​ล้วนแต่​พุ่งตรง​ไป​ยัง​เหล่า​นักพรต​ที่​ควบคุม​อาคม​นั้น​อยู่

เมื่อ​นักพรต​เหล่านั้น​ตก​อยู่​ใน​ความโกลาหล​ ​อาคม​ของ​พวกเขา​ก็​ย่อม​ได้รับ​ผลกระทบ​เช่นกัน

ความ​เดือดดาล​วาบ​ขึ้น​ใน​ดวงตา​ของ​ผู้อาวุโส​ระหว่าง​ที่​เขา​ตะโกน​ขึ้น​ว่า​ ​”​ทหาร​!​ ​จับตัว​กบฏ​ที่​กล้า​กวัดแกว่ง​อาวุธ​ของ​นาง​ต่อหน้า​ฝ่า​บาท​ซะ​!​”

บรรดา​ทหาร​รักษา​พระองค์​มอง​ฮ่องเต้​ที่​ยืน​อยู่​ไกล​ออก​ไป​ ​เมื่อ​ไม่เห็น​ว่า​อีก​ฝ่าย​จะ​คัดค้าน​ ​พวกเขา​ก็​ยก​หอก​และ​คันธนู​ขึ้น​ ​ปลาย​หอก​ของ​พวกเขา​ชี้​ตรง​ไป​ยัง​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ที่​ยืน​อยู่​ด้านหน้า​ของ​เด็กชาย​ตัว​น้อย

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ขยับตัว​เล็กน้อย​พร้อมกับ​หยิบ​ร่ม​พับ​สีดำ​ออกมา​ ​เกล็ด​หิมะ​ขนาดใหญ่​ร่วงหล่น​ลงมา​และ​กระทบ​เข้ากับ​ร่ม​คัน​นั้น​ ​นาง​พลิก​ด้ามจับ​อย่างรวดเร็ว​แล้ว​ใช้​มัน​กัน​ลูกธนู​ที่​ร่วง​กราว​ลงมา​เป็น​ห่า​ฝน​นั้น

“​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​!​”​ ​ฮ่องเต้​ที่​เงียบ​มาต​ลอด​พลัน​ส่งเสียง​ขึ้น​ ​เขา​จ้องมอง​นาง​ด้วย​สีหน้า​มืด​ทะมึน​ ​แล้ว​ตะโกน​ขึ้น​ว่า​ ​”​เจ้า​คิด​จะ​เป็น​กบฏ​หรือ​!​”

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​เผชิญหน้า​อย่าง​สง่าผ่าเผย​ ​แล้ว​เหยียด​ยิ้ม​ให้​กับ​ข้อกล่าวหา​นั้น​ ​นาง​เอ่ย​ช้าๆ​ ​ด้วย​น้ำเสียง​เยือกเย็น​และ​เฉื่อยชา​ว่า​ ​”​เวย​เวย​ไม่กล้า​ทำ​เช่นนั้น​หรอก​เพ​คะ​ ​แต่​ฝ่า​บาท​ ​ครั้งนี้​ท่าน​จะ​มิ​ใจร้อน​ไป​หน่อย​หรือ​ ​เจ้า​เจ็ด​เป็น​โอรส​ของ​ท่าน​นะ​เพ​คะ​ ​อีก​อย่าง​เรา​ก็​ยัง​ไม่มี​หลักฐาน​ที่จะ​พิสูจน์​ได้​เลย​ว่า​เขา​เป็น​คน​ฆ่า​นางกำนัล​เหล่านั้น​ ​จาก​วิธีการ​ที่​ท่าน​ใช้​ไล่ต้อน​เขา​จน​จนมุม​เช่นนี้​ ​ดูแล​้ว​ไม่​เหมือนกับ​ว่า​ท่าน​กำลัง​ตามหา​ตัว​ฆาตกร​เลย​นะ​เพ​คะ​”

“​เจ้า​พูด​เช่นนี้​หมายความว่า​อย่างไร​ ​เจ้า​กำลัง​กล่าวหา​ข้า​หรือ​”​ ​แสงสี​แดง​วาบ​ขึ้น​ใน​ดวงตา​ของ​ฮ่องเต้​ก่อน​จะ​เลือนหาย​ไป​ในขณะที่​เขา​คำราม​ขึ้น​ ​”​ข้า​ยอม​ปล่อย​เจ้า​ไป​นับ​ครั้ง​ไม่​ถ้วน​และ​ไม่ถือสา​หาความ​กับ​ความหยาบ​คาย​ของ​เจ้า​เพียง​เพราะ​เจ้า​เป็น​ลูกหลาน​ของ​ชาย​ผู้ทรงเกียรติ​ ​แต่​เจ้า​กล้า​ตำหนิ​ข้า​เชียว​หรือ​!​ ​ดียิ่ง​นัก​!​ ​จับ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ไป​ขัง​คุก​!​”

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​หรี่​ตาม​อง​ทหาร​ที่​ล้อม​นาง​เข้ามา​ ​จากนั้น​นาง​จึง​เหลือบมอง​ไป​ยัง​บรรดา​เสนาบดี​จาก​กรม​ขุนนาง​ภายใน​ ​แล้ว​เอ่ย​ขึ้น​ทันที​ด้วย​เสียง​อัน​ดัง​ว่า​ ​”​นางกำนัล​พวก​นั้น​ล้วนแต่​ถูก​เรียกตัว​ไป​ที่​ตำหนัก​เฉียน​ชิง​ก่อน​ตาย​ ​ตอนที่​พวก​นาง​ถูก​พบ​ตัว​อีกครั้ง​ ​ร่าง​ของ​พวก​นาง​ก็​จม​อยู่​ใต้​วัชพืช​ใน​แม่น้ำ​เสีย​แล้ว​ ​เลือด​ของ​พวก​นาง​ถูก​สูบ​ออก​จน​หมดตัว​ ​เหลือ​แต่เพียง​ผิวหนัง​เหี่ยว​ย่น​ ​หาก​ไม่ใช่​เพราะ​ระดับน้ำ​ใน​แม่น้ำ​สูง​ขึ้น​จน​ทำให้​ศพ​ของ​พวก​นาง​ลอย​ขึ้น​มา​ ​เบาะแส​หลายอย่าง​คง​สูญหาย​ไป​จน​หมดสิ้น​ ​ต้อง​ขอบคุณ​การ​ปกปิด​หลักฐาน​ของ​ฆาตกร​จริงๆ​ ​ที่​ทำให้​การสืบสวน​ของ​บรรดา​เจ้าหน้าที่​มี​ความ​ท้าทาย​ถึง​เพียงนี้​ ​จะ​ว่า​ไป​แล้ว​ ​พวก​ท่าน​ไม่รู้​สึก​ว่า​มัน​น่าสงสัย​หรือ​ที่​จู่ๆ​ ​ระดับน้ำ​ใน​แม่น้ำ​ก็​สูง​ขึ้น​กลาง​ฤดูหนาว​ ​ทั้งที่​เห็น​กัน​ชัดๆ​ ​อยู่​ว่า​ฝน​ก็​ไม่ได้​ตก​บ่อย​ถึง​เพียงนั้น​ ​ที่​เป็น​เช่นนั้น​ก็เพราะว่า​…​”

“​ไร้สาระ​!​”​ ​ฮ่องเต้​ตัดบท​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ก่อนที่​นาง​จะ​ทัน​ได้​พูด​จบ​ ​ความ​ชั่วร้าย​พุ่ง​ออกมา​จาก​ดวงตา​ของ​เขา​ ​”​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ ​ข้า​ให้โอกาส​เจ้า​แล้ว​ ​ในเมื่อ​เจ้า​ไม่​คิด​ที่จะ​สำนึก​ ​เช่นนั้น​ข้า​ก็​ไม่จำเป็น​ต้อง​มี​เมตตา​ต่อ​เจ้า​อีกต่อไป​!​ ​บอก​ให้​พล​ธนู​เพลิง​เตรียม​ลงมือ​!​”

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​กวาดตา​มอง​ธนู​เพลิง​พวก​นั้น​พร้อมกับ​กระชับ​ร่ม​สีดำ​ใน​มือ​ ​นาง​เป็นห่วง​อย่างยิ่ง​ว่า​หนึ่ง​ใน​ลูกธนู​เหล่านั้น​จะ​ตกลง​มา​โดน​เจ้า​เจ็ด​เข้า

หนึ่ง​ใน​เสนาบดี​จาก​กรม​ขุนนาง​ภายใน​ประสานมือ​เข้าหา​กัน​ทำความเคารพ​ ​พร้อมทั้ง​เอ่ย​ทูล​ว่า​ ​”​ฝ่า​บาท​ ​ทำไม​เรา​ไม่​ฟัง​สิ่ง​ที่​พระ​ชายา​สาม​พูด​กัน​สักประเดี๋ยว​ล่ะ​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​ ​มัน​อาจจะ​เป็นประโยชน์​ก็ได้​”

ใบหน้า​ของ​ฮ่องเต้​กระตุก​อีกครั้ง​ ​เขา​ตอบ​ด้วย​น้ำเสียง​เย็นชา​ว่า​ ​”​อะไร​กัน​ ​เหล่า​หลี​่​ ​เจ้า​ก็​คิด​ที่จะ​ต่อต้าน​ข้า​เหมือนกัน​หรือ​?​!​”

“​กระหม่อม​มิก​ล้า​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​ ​เพียงแต่ว่า​…​”​ ​ผู้อาวุโส​หลี​่​ดูเหมือน​อยาก​จะ​พูด​อะไร​อีก

ฮ่องเต้​เหยียด​ยิ้ม​ ​”​ข้อมูล​มีประโยชน์​อัน​ใด​เล่า​จะ​ออกมา​จาก​ผู้หญิง​ไร้มารยาท​เช่น​นาง​!​ ​จาก​ที่​ข้า​เห็น​ ​พวก​เจ้า​ทุกคน​คงอยู่​กับ​องค์​ชาย​สาม​มานาน​เกินไป​แล้ว​กระมัง​ ​และ​คง​นาน​พอที่​จะ​ทำให้​พวก​เจ้า​มี​ความคิด​ก่อ​กบฏ​เช่นนี้​ได้​!​”

เสนาบดี​เหล่านั้น​ตัว​แข็ง​กับ​คำกล่าวหา​ของ​ฮ่องเต้​ ​น้ำเสียง​ของ​เขา​สั่นเครือ​ใน​ยาม​ที่​ตอบ​ว่า​ ​”​กระหม่อม​ไม่ได้​หมายความ​เช่นนั้น​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

“​เหล่า​หลี​่​ ​ข้า​ไม่สน​ใจ​ว่า​เจ้า​จะ​หมายความว่า​อย่างไร​ ​จากนี้ไป​ ​ใคร​ที่​กล้า​ขอ​ความเมตตา​ให้​กับ​กบฏ​นาง​นั้น​จะ​ต้อง​ถูก​ลงโทษ​!​”​ ​ฮ่องเต้​ไม่​เปิดโอกาส​ให้​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ได้​พูด​แต่อย่างใด​ ​เพราะ​เขา​ไม่​สามารถ​ปล่อย​ให้​นาง​พูด​เรื่อง​นี้​ต่อ​ได้​นั่นเอง​!​ ​ผู้หญิง​คน​นี้​วิเคราะห์​ไป​ไกล​ถึง​เพียงนั้น​ได้​อย่างไร​ ​แม้นาง​จะ​ไม่ได้​พูดถึง​กุญแจ​สำคัญ​ของ​เรื่อง​นี้​ออกมา​ ​แต่​นาง​ก็​สามารถ​ทำให้​ทุกอย่าง​ชี้​ไป​ยัง​ตำหนัก​เฉียน​ชิง​ได้​ ​หาก​นาง​ยังคง​พูด​ต่อไป​ ​เรื่อง​ทั้งหมด​เกี่ยวกับ​ระดับน้ำ​ใน​แม่น้ำ​จะ​ต้อง​ถูก​เปิดเผย​ออกมา​แน่​ ​แล้ว​จากนั้น​คนที​่​จะ​ตกเป็น​ผู้ต้องสงสัย​ก็​คือ​ข้า​!​ ​ข้า​คง​ปล่อย​ให้​นาง​มีชีวิต​อยู่​ไม่ได้​เสีย​แล้ว​!

องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที!

องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที!

Status: Ongoing

นิยายโรแมนติก นักรบหญิงย้อนเวลามาเจอสังคมอุดมพลังปราณ…และองค์ชายสายคลั่งรัก!

“เจ้าต้องรับผิดชอบ”

“ก็ได้ ท่านต้องการให้ข้ารับผิดชอบอย่างไรหรือ อย่าบอกนะว่าท่านอยากให้ข้าแต่งงานด้วย”

“แต่งงานหรือ…” ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยจับคางของเฮ่อเหลียนเวยเวยอย่างหยอกล้อ

“ไหนๆ เราก็จะแต่งงานกันอยู่แล้ว ลองมาตรวจสอบเรื่องนี้กันก่อนดีไหม…

ไปเตรียมห้อง!”

เฮ่อเหลียนเวยเวย ราชินีนักรบแห่งศตวรรษที่ 21 ย้อนเวลามาอยู่ในร่างคุณหนูใหญ่ชื่อเดียวกัน

ย้อนมาวันแรกก็พบว่านางถูกยกเลิกงานแต่งงาน ทั้งยังเจอแม่เลี้ยงและน้องสาวต่างมารดาหมายหัวเอาชีวิต

ทั้งยังต้องพบว่า โลกนี้วัดค่าของคนด้วยพลังลมปราณ ทว่าร่างนี้ไม่มีลมปราณ จึงถูกเรียกว่า ‘นังคนไร้ค่า’

แต่จู่ๆ โชคชะตาให้นางได้บังเอิญพบหนังสือโบราณ ทำพันธะสัญญากับคนหูหมาป่า ทั้งยังมีหนังสือเรียกตัวจากสำนักไท่ไป๋

ยิ่งไปกว่านั้นยังมีบุรุษรูปงามที่ใครต่างก็เกรงใจ นาม ไป๋หลี่เจียเจวี๋ย ไล่ตามนางไปทุกที่

เพราะในเมื่อนางเคยขโมยจูบแรกเขามา และเขาก็คือบุรุษหน้ากากเงินที่นางเคยพบมาก่อน

ชีวิตใหม่นี้มีของดีอยู่ในมือ จะแกร่งขึ้น จะแก้แค้น จะร้ายกว่าเดิมจนทั่วหล้าต้องตกตะลึง นางไม่เคยกลัว!

กลัวเพียงอย่างเดียว… เขาคนนั้นจะไม่คืนชีวิตสุขสงบให้นาง เล่นไล่จับมันเหนื่อยมากนะรู้ไหม?!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท