บทที่ 619 ถามถึงสถานการณ์แล้ว หลี่จิ่วเต้าวางใจลงได้!
ผ่านไปไม่นาน ลั่วสุ่ยก็กลับมา เซี่ยเหยียนตามมาอยู่ด้านหลังลั่วสุ่ย
หลี่จิ่วเต้าก้าวออกจากห้อง
“คุณชายต้องการพบข้าหรือ”
หลังเห็นคุณชายก้าวออกจากห้อง เซี่ยเหยียนก็รีบก้าวเข้าไป เอ่ยทักทายคุณชาย
หลี่จิ่วเต้าพยักหน้ากับเซี่ยเหยียน “อืม ข้ามีธุระไหว้วานเจ้าหน่อย”
“มีเรื่องใดคุณชายโปรดว่ามาได้เลย!”
“ยังไม่รีบ ไปสนทนากันด้านโน้นเถิด” หลี่จิ่วเต้าคลี่ยิ้ม เข้าไปนั่งในศาลาพร้อมเซี่ยเหยียน
หลังนั่งลงแล้ว หลี่จิ่วเต้าก็ถามเซี่ยเหยียนว่า “เซี่ยเหยียนเอ๋ย สำนักไท่หัวของเราในตอนนี้มีศักยภาพเช่นไร วาจามีน้ำหนักในอาณาจักรแห่งนี้หรือไม่”
หมายความ…ว่าอย่างไร
เซี่ยเหยียนฉงนใจเป็นหนักหนา เหตุใดจู่ ๆ คุณชายถึงถามว่าสำนักไท่หัวมีศักยภาพอย่างไร
นางตอบ “ไม่มีปัญหา มีน้ำหนักแน่นอน!”
ต่อหน้าคุณชาย นางมิกล้าปิดบัง
วันนี้ไม่เหมือนวันเก่า บัดนี้ วาจาของสำนักไท่หัวมีน้ำหนักแน่นอน และมีอิทธิพลต่อทั้งอาณาจักรด้วย
คุณชายประทานภาพวาดล้ำค่าใบหนึ่งแก่ท่านเวิงอู๋โยว…ภาพวาดเขาไท่หัว ผู้เฒ่าเวิงเก็บภาพวาดล้ำค่านั้นไว้ในสำนักไท่หัว
ภาพวาดล้ำค่านี้ไม่เพียงแต่แฝงไว้ซึ่งจังหวะแห่งเต๋าสูงส่ง และวิชาอภินิหาร ทั้งยังเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมฝึกตนของสำนักไท่หัวให้ดีขึ้นอย่างมาก จนทั้งสำนักไท่หัวกลายเป็นพื้นที่ล้ำค่าสำหรับการฝึกฝน!
ยามลูกศิษย์สำนักไท่หัวฝึกฝน ได้ผลเกินความทุ่มเทนั้นยังเป็นเพียงผลพลอยได้เล็กน้อย ฝึกฝนหนึ่งวัน ได้ผลเทียบเท่าฝึกฝนหลายปี โดยเฉพาะภายใต้การปกคลุมของภาพวาดล้ำค่านั้น ลูกศิษย์ทั้งหลายยิ่งบรรลุวิถีได้ง่ายขึ้น ก้าวหน้าได้รวดเร็วอย่างยิ่งยวด!
บัดนี้ ภายในสำนักไท่หัวมีผู้อาวุโสหลายท่านบรรลุขอบเขต ก้าวสู่ระดับนักบุญ ส่วนบรรพชนสำนักไท่หัวอย่างเวิงอู๋โยวนั้นยิ่งบรรลุได้รวดเร็วขึ้นไปใหญ่!
เวิงอู๋โยวได้คลุกคลีกับคุณชาย เคยดื่มชาเซียนของคุณชาย ประกอบกับฝึกฝนใต้ภาพวาดล้ำค่านั้นทั้งวันทั้งคืน ทำให้เวิงอู๋โยวในเวลานี้ ก้าวสู่ขอบเขตจักรพรรดิ กลายเป็นจักรพรรดิตนหนึ่งไปแล้ว!
ด้วยศักยภาพพลังที่สำนักไท่หัวมีในตอนนี้ แค่มีน้ำหนักในอาณาจักรแห่งนี้ที่ไหน เรียกได้ว่ามีอำนาจเบ็ดเสร็จ!
สำนักเมฆาลับฟ้าในเวลานี้ก็อยู่ในสถานการณ์เดียวกัน
โจวตงของสำนักเคยคลุกคลีกับคุณชายเช่นกัน ได้รับผลประโยชน์ใหญ่หลวง แม้ว่าบัดนี้จะยังมิได้ก้าวสู่ขอบเขตจักรพรรดิ กระนั้นก็เอื้อมถึงแล้ว ยามนี้เป็นว่าที่จักรพรรดิตนหนึ่ง
“วาจามีน้ำหนักก็เพียงพอแล้ว”
หลี่จิ่วเต้าหัวเราะ เริ่มสบายใจขึ้นมา
มีประโยคนี้ของเซี่ยเหยียน การออกเดินทางทั่วโลกของเขาในครานี้ยิ่งปลอดภัยเข้าไปใหญ่
เขากลัวแต่ว่าสำนักไท่หัวปกป้องพวกเขามิได้ เช่นนั้นรังแต่จะยิ่งทวีความอันตราย
ถึงอย่างไรที่นี่ก็เป็นอาณาจักรฝึกตนแห่งหนึ่ง มีผู้ฝึกตนอยู่มากมาย ซ้ำยังมีผู้ฝึกตนนิสัยแปลกประหลาดอยู่ไม่น้อย บางทีผิดใจเพียงประโยคเดียวก็ชักกระบี่ห้ำหั่นก็มี
มิหนำซ้ำ โลกนี้ยังมีสัตว์อสูรดุร้ายมากมาย โหดเหี้ยมเป็นอย่างยิ่ง หากปราศจากหลักประกัน คงไม่อาจออกเดินทางได้ง่าย ๆ
“เจ้าในตอนนี้ทรงพลังกล้าแกร่งมากใช่หรือไม่”
หลี่จิ่วเต้าทอดมองเซี่ยเหยียน เอ่ยขึ้นยิ้ม ๆ
เขาเคยเห็นเซี่ยเหยียนลงไม้ลงมือ เมื่อคราวออกล่องเรือบนทะเลสาบ เซี่ยเหยียนออกโรงอย่างแข็งกร้าว เก่งกาจไม่ใช่เล่น
“พอใช้ได้ แข็งแกร่งขึ้นกว่าเก่าหลายเท่า!” เซี่ยเหยียนตอบ
แข็งแกร่งขึ้นกว่าเก่าหลายเท่าหรือ?
หลังหลี่จิ่วเต้าได้ยินประโยคนี้ ก็ยิ่งสบายใจขึ้น
ก่อนหน้านี้นางก็แข็งแกร่งมากแล้ว บัดนี้ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นอีกหลายเท่า ประกอบกับภูมิหลังอย่างสำนักไท่หัว เขายังมีเรื่องใดให้ไม่สบายใจอีก
เขาสบายใจอย่างยิ่งยวด!
การเดินทางท่องโลกในครานี้ เขาสามารถไปได้อย่างรื่นอารมณ์!
“ช่วงนี้พอมีเวลาหรือไม่ อยากออกเดินทางกับข้าไปยังที่ต่าง ๆ หรือไม่”
หลี่จิ่วเต้าเอ่ยด้วยใบหน้ายิ้มกริ่ม เชื้อเชิญเซี่ยเหยียนร่วมออกเดินทางท่องโลกกับเขา
“มี ๆๆ!”
เซี่ยเหยียนตอบทันควัน “ข้ามีเวลาเหลือเฟือ!”
“ครั้งนี้ไม่เหมือนกัน อาจต้องใช้เวลานาน เจ้าแน่ใจหรือว่ามีเวลามากพอ”
หลี่จิ่วเต้าเอ่ย “ข้าตั้งใจเดินทางให้ทั่วอาณาจักรนี้”
เดินทางให้ทั่วอาณาจักรนี้!
คุณชายตั้งใจทำการใหญ่แล้วหรือ
ก่อนนี้คุณชายมิค่อยได้ไปไหนนัก ประทับแต่ในเมืองชิงซานอยู่ตลอด
เซี่ยเหยียนคิดในใจ ตระหนักถึงความร้ายแรงได้ทันที
“ย่อมพอ ไม่มีปัญหาแน่นอน!”
เซี่ยเหยียนรีบบอก
ไม่ว่าคุณชายต้องการทำสิ่งใด นางจะติดตามอยู่ข้างกายคุณชายไปตลอด ไม่มีทางโอดครวญหรือแปรพักตร์!
“ดี!”
หลี่จิ่วเต้าพยักหน้า “รถลากคันนั้น รวมทั้งสัตว์อสูรเหล่านั้นยังอยู่หรือไม่ หากยังอยู่ ถึงเวลา พวกเราสามารถใช้รถลากคันนั้นเดินทาง”
บอกตามตรง เขาชอบรถลากคันนั้นมากจริง ๆ ภายในสบายไปเสียทุกอย่าง ทั้งยังมีที่ว่างกว้างขวาง เสมือนโลกเล็ก ๆ ใบหนึ่ง
“อยู่ ๆ!” เซี่ยเหยียนตอบ
“เช่นนั้นก็ดี พวกเราออกเดินทางด้วยรถลากคันนั้น”
หลี่จิ่วเต้ากล่าว “เจ้าไปนำรถลากคันนั้นมาเสีย จริงสิ หากอสูรเหล่านั้นจำแลงกายได้ ให้พวกมันแปลงกายเป็นม้าธรรมดา จะได้ไม่ทำให้ผู้คนในเมืองตกใจ”
เขาอยากให้เซี่ยเหยียนนำรถลากคันนั้นมาก่อน หนนี้ต้องออกเดินทางเป็นเวลานาน ของที่เขาอยากพกไปด้วยมีอยู่นานัปการ จึงอยากนำไปเก็บไว้ในรถลากก่อน
“ไม่มีปัญหา ข้าจะไปนำรถลากมาเดี๋ยวนี้”
เซี่ยเหยียนบอก นางอำลาคุณชาย และออกจากลานเล็ก เดินทางกลับไปยังสำนักไท่หัว
ทั้งรถลากและสัตว์อสูรเหล่านั้น ล้วนอยู่ในสำนักไท่หัวมาโดยตลอด
“ได้เป็นสัตว์พาหนะให้คุณชายอีกแล้วหรือ”
“ดีเลย ๆ!”
หลังเซี่ยเหยียนอธิบายสถานการณ์ให้สัตว์อสูรทั้งเก้าตัวฟัง อย่าให้เอ่ยเลยว่าพวกมันตื่นเต้นดีใจปานใด นับแต่พวกมันได้ลากรถพาคุณชายไปเยือนเขาหยงหมิงคราวก่อน ก็นึกอยากลากรถเป็นพาหนะให้คุณชายเรื่อยมา
น่าเสียดาย จวบจนบัดนี้คุณชายยังมิได้เรียกใช้งานพวกมัน
พวกมันนึกผิดหวังอยู่มาก นึกว่าคุณชายหลงลืมพวกมันไปเสียแล้ว
“ถ้าอย่างนั้นเราไปกันเถิด จริงสิ รอบนี้ต้องพาพวกเจ้าเข้าเมือง ไปยังลานเล็กของคุณชาย คุณชายมีรับสั่งให้พวกเจ้าแปลงกายเป็นม้าธรรมดา เพื่อให้ชาวบ้านในเมืองมิต้องตกใจ”
เซี่ยเหยียนกล่าว
“ไปลานเล็กของคุณชายหรือ!?”
“พวกเราจำแลงได้เดี๋ยวนี้เลย!”
หลังได้ยินคำกล่าวของเซี่ยเหยียน สัตว์อสูรทั้งเก้าเต็มตื้นขึ้นไปใหญ่ พวกมันได้ยินมานานว่าลานเล็กของคุณชายอัศจรรย์ถึงขีดสุด อนิจจา ยังมิเคยได้ไปเยือน
เมื่อคราวลากรถให้คุณชายคราวก่อน คุณชายสั่งให้พวกมันหยุดรออยู่นอกเมืองชิงซาน อย่าว่าแต่เข้าไปในลานเล็กคุณชายเลย กระทั่งเมืองชิงซานยังมิมีโอกาสไปเยือน
จากนั้น พวกมันแปลงกายเป็นม้าอย่างรวดเร็ว มีทั้งม้าขาว ม้าน้ำตาล และสีอื่น ๆ
“ไปกันเถิด”
เซี่ยเหยียนเอ่ย พาสัตว์อสูรทั้งเก้ากลับเมืองชิงซาน คุณชายยังรออยู่
ผ่านไปเพียงไม่นาน พวกเขาก็มาอยู่นอกเมืองชิงซาน
เซี่ยเหยียนพาสัตว์อสูรทั้งเก้าทักทายต้นหลิวและก้อนหิน
“คุณชายจะออกเดินทางอีกแล้วหรือ”
ต้นหลิวเห็นรถลาก จำได้ว่าเมื่อครั้งคุณชายออกเดินทางคราวก่อนก็นั่งรถลากคันนี้
“ใช่แล้ว คุณชายตั้งใจท่องไปทั่วทั้งอาณาจักร!”
เซี่ยเหยียนตอบ
“ท่องไปทั่วทั้งอาณาจักรเชียวหรือ!”
ก้อนหินเอ่ยด้วยความอิจฉาสุด ๆ “ข้าก็อยากไปด้วยเหมือนกัน!”
สถานที่ที่มันเคยไปนั้นมีจำกัด อย่าว่าแต่ทั้งอาณาจักรนี้เลย ลำพังแดนบูรพาทิศ มันยังมิเคยได้ไปไหนมากนัก แทบตั้งอยู่ที่ริมลำธารตลอดมา
การเดินทางท่องอาณาจักรเยี่ยงนี้ มันอยากไปด้วยจากใจจริง!
“คิดอะไรอยู่! คุณชายจะพาก้อนหินเส็งเคร็งอย่างเจ้าไปทำอะไร!”
ต้นหลิวหวดก้านหลิวกระแทกก้อนหิน “ต่อให้คุณชายจะพาไป ก็ต้องพาข้าไป! ข้ามีประโยชน์กว่าเจ้ามากนัก ช่วยบดบังฟ้าฝนให้คุณชายได้!”
“ก็จริง พี่หลิว ท่านเก่งกาจกว่าข้ามากนัก!”
ก้อนหินหัวเราะ มันสู้ต้นหลิวมิได้จริง ๆ ห่างชั้นกับต้นหลิวเป็นวา
ทว่ามันก็ยังอยากออกท่องอาณาจักรกับคุณชายอยู่ดี!