บทที่ 620 หลี่จิ่วเต้า ‘เก็บข้าวเก็บของ เตรียมออกเดินทาง!’
เซี่ยเหยียนพาสัตว์อสูรทั้งเก้าบอกลาต้นหลิวและก้อนหิน ก่อนจะเข้าไปในเมือง
สัตว์อสูรทั้งเก้าจำแลงกายเป็นเหมือนม้าธรรมดา ดูจากด้านนอก รถลากคันนี้เรียบง่ายธรรมดา มิได้เป็นแปลกตาแต่อย่างใด
“สวัสดีแม่นางเซี่ยเหยียน!”
“มาหาคุณชายหลี่อีกแล้วหรือ!”
ชาวบ้านในเมืองพากันทักทายนางอย่างสนิทสนม เจ้าตัวเองก็ตอบกลับชาวบ้านเหล่านี้ด้วยรอยยิ้มกว้าง
เซี่ยเหยียนมาหาคุณชายในเมืองชิงซานบ่อย ๆ จึงสนิทสนมกับชาวบ้านในเมืองมานาน
ชาวบ้านในเมืองสะท้อนใจอย่างอดมิได้ คุณชายหลี่นี่สุดยอดจริง ๆ กระทั่งผู้ฝึกตนยังเกรงอกเกรงใจคุณชาย นอบน้อมมีมารยาทนัก!
พวกเขารู้ดีว่า พวกเขาเองมีผลพลอยได้จากบารมีของคุณชายหลี่ มิฉะนั้น อย่างพวกเขามีหรือจะสามารถพานพบผู้ฝึกตนบุคลิกไม่ธรรมดาอย่างเซี่ยเหยียนทุกวัน
ซ้ำแล้วนางยังสนทนากับพวกเขาอย่างมีมารยาท
ทั้งหมดนี้เป็นไปไม่ได้เลย!
เซี่ยเหยียนเดินทะลุผ่านถนนหนทาง นำทัพสัตว์อสูรทั้งเก้ามายังลานเล็กคุณชาย
“คุณชาย ข้ากลับมาแล้ว!”
เซี่ยเหยียนก้าวเข้าไปด้วยใบหน้าแย้มยิ้ม สัตว์อสูรทั้งเก้าลากรถเข้ามาในลานเล็กด้วย
นี่หรือคือลานเล็กของคุณชาย
เปรียบดั่งแดนวิมานจริง ๆ ด้วย!
ถุย!
เปรียบดั่งแดนวิมานที่ไหน!
ที่นี่คือแดนวิมานอย่างแท้จริง!
สัตว์อสูรทั้งเก้าต่างสะท้านในใจ ทุกสิ่งที่อยู่ในการมองเห็นพวกมันล้วนเกินความนึกคิดพวกมันไปมาก
แม้ว่าส่วนใหญ่แล้วพวกมันจะไม่รู้จัก แต่ก็ยังสัมผัสถึงความสูงส่งวิเศษนั้นได้ เหนือกว่าที่พวกมันจะจินตนาการออก!
ก่อนมา สัตว์อสูรทั้งเก้าเพ้อฝันถึงลานเล็กของคุณชายไปต่าง ๆ นานา เพ้อฝันว่าลานเล็กของคุณชายล้ำเลิศเพียงใด
ทว่าหลังมาถึงที่นี่ พวกมันถึงได้ตระหนักว่าความรู้ประสบการณ์ของพวกมันนั้นต่ำต้อยเพียงใด ลานเล็กของคุณชายในจินตนาการพวกมันนับว่าสุดยอดมากแล้ว แต่เมื่อเทียบกับลานเล็กของจริง ต่างกันราวฟ้ากับเหว ไม่อาจทัดเทียมได้เลย!
“สวรรค์…หญ้าพวกนั้น เป็นโอสถจักรพรรดิหมดเลยหรือ คุณชายกลับใช้เป็นอาหารวัว! ซ้ำดูแล้ววัวเหล่านั้นยัง…กินจนเบื่อ ไม่อยากกินเท่าไหร่แล้วด้วย”
“เปรียบเทียบกับผู้อื่นรังแต่จะสร้างความอัดอั้นตันใจแก่ตน! ไม่สิ เปรียบเทียบกับอสูรตัวอื่นรังแต่จะสร้างความอัดอั้นตันใจแก่ตน พวกเจ้ากินจนเบื่อ ไม่อยากกินแล้ว แต่พวกเราอยากกินนี่!”
สัตว์อสูรทั้งเก้าเห็นอสูรฟ้าชิงหนิวสี่ตัวในลานด้านข้างมีท่าทีกินโอสถจักรพรรดิจนเบื่อ ไม่ต้องการกินอีกต่อไป พลันรู้สึกอิจฉาอย่างสุดซึ้ง อยากแลกเปลี่ยนสถานะกับอสูรฟ้าชิงหนิวสี่ตัวนี้อย่างยิ่งยวด!
บอกตามตรง ใช่ว่าอสูรฟ้าชิงหนิวสี่ตัวนี้กินจนเบื่อ หากแต่เพราะพวกมันอยากกินอาหารโอชะฝีมือคุณชายมากกว่า อาหารเหล่านั้นลำพังกลิ่นก็ชวนให้กระหายเหลือแสน อยากเคี้ยวสักคำ คราวได้กินโอสถจักรพรรดิเหล่านี้ต่อ รสชาติจึงจืดจางลงไปมากเป็นธรรมดา
“กลับมาเร็วเพียงนี้เชียวหรือ ไม่เลว ๆ”
หลี่จิ่วเต้าหัวเราะ เซี่ยเหยียนว่องไวยิ่งนัก นี่เพิ่งผ่านไปไม่ถึงหนึ่งเค่อ นางก็กลับมาแล้ว
และรูปลักษณ์อาชาที่สัตว์อสูรทั้งเก้าจำแลงมาก็เป็นที่พึงใจของเขามาก
ไม่เอิกเกริก ไม่เป็นที่สะดุดตา!
เช่นนี้ย่อมเป็นการดีที่สุด!
เขารู้ดีว่ายิ่งเอิกเกริกยิ่งโชคร้าย จุดจบของคนโอ้อวดมักน่าสังเวช
“ถึงคราวออกเดินทางให้คงสภาพนี้ไว้ รูปลักษณ์อาชานั้นดูดียิ่ง!”
หลี่จิ่วเต้ากล่าวต่อ
“ได้ ไม่มีปัญหา!”
เซี่ยเหยียนพยักหน้า รู้ว่าคุณชายมิชอบให้ประเจิดประเจ้อ มิชอบให้เป็นที่โดดเด่น
หากคุณชายชอบทำตัวโดดเด่น ชื่อเสียงคงเลื่องลือไปทั่วหล้าแล้ว!
ไม่สิ!
คงกระฉ่อนไปทั้งเอกภพ เป็นที่รู้จักของอาณาจักรทั้งปวง!
“จริงสิ เซี่ยเหยียน เจ้าไปถามอ้ายฉานและพวกเด็ก ๆ ทีว่ามีเวลาหรือไม่ หากว่ามีเวลา ให้พวกเขามาหาข้า แล้วออกเดินทางด้วยกัน”
หลี่จิ่วเต้านึกถึงเด็ก ๆ อย่างพวกอ้ายฉาน
อ่านตำรานับหมื่น มิสู้เดินทางหมื่นลี้ แม้นเขามิเคยฝึกตน กระนั้นคิดแล้วสัจธรรมการฝึกตนคงเป็นเช่นนี้กระมัง การบำเพ็ญเพียงอย่างเดียวมิสู้ออกเคี่ยวกรำเพิ่มประสบการณ์
เขาเคยบอกพวกอ้ายฉานอย่างนี้แล้ว
หนนี้ เขาตั้งใจเดินทางไปทั่วโลก ถือเป็นโอกาสอันดีสำหรับเด็ก ๆ เขาอยากพาพวกอ้ายฉานไปด้วย
เซี่ยเหยียนมีภูมิหลัง มีความสามารถ เป็นหลักประกันให้การออกเดินทางครานี้ พวกอ้ายฉานออกเดินทางฝึกฝนด้วยกันนับเป็นเรื่องดีเยี่ยม
“ได้!” เซี่ยเหยียนพยักหน้า
“เจ้าเด็กต้าเต๋อก็ไม่เลว เจ้าถือโอกาสถามต้าเต๋อด้วย หากมีเวลา ก็พามาด้วยกัน”
หลี่จิ่วเต้านึกถึงเณรหัวโล้นต้าเต๋อ
ต้าเต๋อถูกใจเขามาก การบำเพ็ญธรรมนั้นบำเพ็ญที่จิตใจ หาใช่ศีลข้อห้ามซึ่งเป็นเพียงเปลือกนอก ต้าเต๋อมีหัวใจธรรม ซ้ำยังไม่จำกัดตนเองด้วยศีลข้อห้ามทั้งหลายในพุทธศาสนา นับว่าเยี่ยมยอดยิ่ง
ฮ่า ๆ แน่นอนว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือเขาดื่มสุรากับต้าเต๋อได้หนำใจที่สุด เทียบกับคนอื่น ๆ ต้าเต๋อคอแข็งมาก
หนทางยาวไกล มีผู้ร่วมดื่มสุราก็นับว่าไม่เลว!
“ไม่มีปัญหา หลังข้าไปหาพวกอ้ายฉานแล้ว จะเลยไปถามต้าเต๋อด้วย” เซี่ยเหยียนตอบ
“จริงสิ ออกเดินทางครานี้ ไม่รู้จะได้กลับมาเมื่อใด ลานเล็กแห่งนี้ต้องมีคนคอยดูแล เซี่ยเหยียน เจ้าช่วยหาใครสักคนมาทำความสะอาดลานเล็กบ่อย ๆ ได้หรือไม่” หลี่จิ่วเต้าเอ่ย
เซี่ยเหยียนครุ่นคิด ก่อนจะเอ่ยตอบ “เสี่ยวหลาน นางกำนัลของข้าบำเพ็ญตนอยู่ในสำนักไท่หัวมาตลอด ให้นางช่วยทำความสะอาดลานเล็กได้”
นางเชื่อใจเสี่ยวหลานมาก ซ้ำคุณชายยังเคยพบเสี่ยวหลาน อีกทั้งประทานจี้หยกคุ้มกายให้เสี่ยวหลาน คิดแล้ว คุณชายก็คงเชื่อใจเสี่ยวหลานมากเช่นกัน ให้เสี่ยวหลานรับหน้าที่ทำความสะอาดลานเล็ก นับว่าเหมาะสมยิ่งนัก
“อืม ได้”
หลี่จิ่วเต้ารู้จักเสี่ยวหลาน ถูกชะตากับเสี่ยวหลานไม่น้อย
เขาเอ่ยต่อ “เจ้าไปเถิด ข้าจะรอพวกเจ้าในลาน”
“ได้เลยคุณชาย!”
เซี่ยเหยียนบอกลาคุณชาย ก่อนจะออกจากลานเล็ก ตรงไปส่งข่าวให้พวกอ้ายฉานและต้าเต๋อ
“มาเถิด เสี่ยวไป๋ เราขนของขึ้นไปไว้บนรถกัน” หลี่จิ่วเต้าบอกลั่วสุ่ย
“ได้เลยคุณชาย!”
ลั่วสุ่ยเก็บข้าวเก็บของกับคุณชายด้วยรอยยิ้มร่า
ที่ว่างภายในรถลากกว้างขวาง หลี่จิ่วเต้าแทบขนไปหมดลานเล็ก นำไปด้วยทั้งฉิน พู่กัน กระดานหมากล้อม และสิ่งของอื่น ๆ ของเขา
แน่นอนว่า เครื่องครัวในห้องครัวนั้น เขามิได้ตกหล่นแม้แต่ชิ้นเดียว
ในฐานะผู้ที่พิถีพิถันด้านการกิน สิ่งเหล่านี้คือของจำเป็นต้องพกไปด้วย
ไม่ว่าจะเป็น ‘ตู้เย็น’ ‘แท็บเล็ต’ เขามิได้ทิ้งไว้ที่นี่สักชิ้น ติดไปด้วยทั้งหมด
ถึงอย่างไรพกไปก็มิได้ลำบากอะไร อีกทั้งไม่กินที่
“ยอดไปเลย ได้ท่องอาณาจักรพร้อมคุณชาย!”
“ดียิ่งนัก! ในที่สุดก็จะได้ออกไปดูโลกภายนอกแล้ว!”
ของวิเศษที่ถูกพาไปด้วยต่างตื่นเต้นดีใจ มีพวกมันจำนวนไม่น้อยที่ไม่เคยออกจากลานเล็กมาก่อน ใฝ่ฝันถึงโลกภายนอกเป็นหนักหนา อยากรู้อยากเห็นอย่างยิ่ง!
“แย่แล้ว แย่แล้ว…ดูท่า ข้าคงไม่ได้ไปด้วยแล้ว!”
ข้างกำแพง ญาณจอบเซียนน้ำตาไหลพราก มันก็อยากตามคุณชายออกไป แต่ดูแล้ว มันคงมิได้อยู่ในขอบข่ายการพิจารณาของคุณชาย
“…”
อีกด้าน อสูรฟ้าชิงหนิวเฒ่าสัมผัสถึงความโศกเศร้าของญาณจอบเซียน รู้ว่าญาณจอบเซียนเสียใจเรื่องใด
มันนึกในใจไปว่า จอบเซียน ท่านช่างกล้าคิด ไยคุณชายต้องพาท่านไปด้วย หรือออกไปข้างนอกแล้วยังต้องพรวนดินหรือไร
คิดอันใดอยู่!
ความคิดเช่นนี้ไม่ควรมีตั้งแต่ต้น!
“ข้าอยากตาย!”
มัจฉาสัตมายาร่ำไห้เช่นกัน
ดูจากสถานการณ์ มันก็คงไม่อยู่ในข่ายการพิจารณาของคุณชายด้วย