แม่ปากร้ายยุค​ 80 [八零辣妈飒爆了] – ตอนที่ 645 รอยร้าวในความสัมพันธ์

ตอนที่ 645 รอยร้าวในความสัมพันธ์

ตอนที่​ 645 รอยร้าว​ใน​ความสัมพันธ์​

ขณะที่​เพื่อนบ้าน​ใน​ละแวก​นั้น​ซุบซิบ​กัน​เกี่ยวกับ​ตระกูล​ไป๋​ หลิน​ม่าย​ พ่อ​ไป๋​ และ​คนอื่น​ ๆ ก็​ไป​ถึงร้านอาหาร​เป็ด​ย่าง​ฉวน​จวี้เต๋อ​แล้ว​

ร้าน​เป็ด​ย่าง​ฉวน​จวี้เต๋อ​นับ​เป็น​ร้าน​ที่​มีชื่อเสียง​ และ​มีรสชาติ​ดี​สมคำ​ร่ำ​ลือ​

หลิน​ม่าย​ไม่ชอบ​เป็ด​ย่าง​มาก​นัก​ แต่​พ่อ​ไป๋​และ​คนอื่น​ ๆ ชอบ​ ดังนั้น​เธอ​จึงจำเป็นต้อง​ตามใจ​ผู้อาวุโส​

ทุกคน​พูดคุย​กัน​ขณะ​รับประทาน​อาหาร​ และ​เรื่องราว​ก็​ดำเนิน​มาถึงเรื่อง​ไป๋​ซวง​

ไป๋​ลู่​บอ​กว่า​ใน​วัน​ที่สาม​หลังจากที่​หล่อน​คุย​กับ​หลิน​ม่าย​ครั้ง​ล่าสุด​ พ่อแม่​ของ​ไป๋​ซวง​ก็​มาที่​ประตู​บ้าน​

หลิน​ม่าย​รู้สึก​ประหลาดใจ​เล็กน้อย​ที่​หลิน​เจี้ยนกั๋ว​และ​ภรรยา​ของ​เขา​กล้า​เข้าใกล้​ตระกูล​ไป๋​

เธอ​คิด​ว่า​หลิน​เจี้ยนกั๋ว​และ​ภรรยา​ขอ​ที่อยู่​ครอบครัว​ไป๋​จาก​คนอื่น​ เพราะ​พวกเขา​ต้องการ​มาพบ​ไป๋​ซวง​

แต่​ไม่คาดคิด​ว่า​พวกเขา​จะไม่ได้​พบ​กับ​ตระกูล​ไป๋​ เป็นไปได้​หรือไม่​ว่า​สามีภรรยา​คู่​นั้น​เดินทาง​มาที่นี่​เพื่อ​ต้องการ​บางอย่าง​จาก​ตระกูล​ไป๋​?

หลิน​ม่าย​ถามด้วย​ความสงสัย​ “ทำไม​คน​ตระกูล​หลิน​ถึงมาที่​บ้าน​นี้​? พวกเขา​ไม่กลัว​ว่า​พ่อ​และ​พี่ชาย​จะทุบตี​พวกเขา​หรือ​คะ​?”

ไม่ว่า​คู่รัก​ตระกูล​หลิน​จะสลับ​ตัว​หลิน​ม่าย​กับ​ไป๋​ซวง​ด้วย​เจตนาร้าย​หรือไม่​ก็ตาม​

แต่​เขา​และ​ภรรยา​ก็​ทำให้​เธอ​ทุกข์ทรมาน​ใน​ครอบครัว​หลิน​ พ่อ​ไป๋​รัก​ลูกสาว​ของ​เขา​เป็นอย่างมาก​ และ​ไป๋​เซี่ย​ใน​ฐานะ​พี่ชาย​ก็​ทน​ไม่ได้ที่​เห็น​น้องสาว​ของ​เขา​ถูก​หลิน​เจี้ยนกั๋ว​และ​ภรรยา​ข่มเหง​ ดังนั้น​จะให้​เขา​ปล่อย​หลิน​เจี้ยนกั๋ว​และ​ภรรยา​ไป​ได้​อย่างไร​?

ไป๋​ลู่​แสดง​ความ​ดูถูก​เหยียดหยาม​ “คน​ไร้ยางอาย​แบบ​นั้น​ยัง​จะต้อง​กลัว​ถูก​ใคร​ทุบตี​อีก​เหรอ​? ทันทีที่​พ่อแม่​ผู้ให้กำเนิด​ของ​ไป๋​ซวง​มายัง​บ้าน​หลัง​นี้​ พวกเขา​ก็​เรียกร้อง​ค่าเลี้ยงดู​บุตร​จาก​พ่อ​กับ​แม่”

หลิน​ม่าย​หยิบ​แผ่น​แป้ง​ขึ้น​มาชิ้น​หนึ่ง​ ใช้ตะเกียบ​จิ้มซอส​หวาน​ทา​ลง​ไป​เล็กน้อย​ วาง​เป็ด​ย่าง​สอง​สามชิ้น​ วาง​หัวหอม​ซอย​ แตงกวา​ซอย​ ก่อน​ม้วน​แผ่น​แป้ง​แล้ว​กัด​

เธอ​มอง​ไป​ทาง​พ่อ​ไป๋​ “พ่อ​ไม่ได้​ให้​พวกเขา​ไป​ใช่ไหม​คะ​?”

พ่อ​ไป๋​กลอกตา​ด้วย​ความ​ดูถูก​เหยียดหยาม​ “ตระกูล​หลิน​ทำให้​ลูก​ลำบาก​มาก​ พ่อ​จะให้​ค่าเลี้ยงดู​พวกเขา​ได้​ยังไง​? พ่อ​เลี้ยงดู​ไป๋​ซวง​เป็น​อย่าง​ดี​ สามีและ​ภรรยา​ตระกูล​หลิน​ต่างหาก​ที่​ต้อง​ให้​ค่าเลี้ยงดู​พ่อ​ พอ​บอก​สอง​สามีภรรยา​คู่​นั้น​ว่า​ หาก​อยาก​ได้เงิน​ก็​ให้​นำ​ตัว​ลูก​ของ​พวกเขา​กลับ​ไป​ด้วย​ สอง​สามีภรรยา​กลับ​วิ่งหนี​ด้วย​ความตกใจ​ทันที​”

“แล้ว​หลังจากนั้น​พวกเขา​ก็​ไม่กลับมา​อีก​เลย​หรอ​คะ​?”

พ่อ​ไป๋​พยักหน้า​ “ตอนนี้​ยัง​หรอก​”

หลิน​ม่าย​ไม่เชื่อ​ว่า​หลิน​เจี้ยนกั๋ว​และ​ภรรยา​ของ​เขา​ที่​เดินทาง​มาแต่ไกล​จะยอม​กลับ​ไป​มือเปล่า​

หาก​พวกเขา​ไม่ได้​รับประโยชน์​ใด​ ๆ จาก​พ่อ​ไป๋​ พวกเขา​จะต้อง​ขอ​ผลประโยชน์​จาก​ไป๋​ซวง​อย่าง​แน่นอน​

ไม่รู้​ว่า​หลิน​เจี้ยนกั๋ว​และ​ภรรยา​ของ​เขา​จะได้​รับประโยชน์​จาก​เธอ​หรือไม่​ และ​พวกเขา​จะได้​รับประโยชน์​มาก​น้อย​เพียงใด​

พวกเขา​จะยังอยู่​ใน​เมืองหลวง​หรือไม่​?

ตราบใดที่​พวกเขา​ไม่ได้​อยู่​ใน​เมืองหลวง​ ก็​หมายความว่า​ผลประโยชน์​ที่​พวกเขา​ได้รับ​จาก​ไป๋​ซวง​ก็​เพียง​พอที่จะ​ทำให้​พวกเขา​กลับ​สู่ชนบท​ด้วย​ความพึงพอใจ​

หลิน​ม่าย​โทษ​ตัวเอง​ที่​ไม่เตือน​พี่น้อง​ไป๋​ให้​จับตาดู​ไป๋​ซวง​

บางที​พวกเขา​อาจ​จับได้​ว่า​ไป๋​ซวง​ติดต่อ​กับ​พ่อแม่​ผู้ให้กำเนิด​อย่าง​ลับ​ๆ จะได้​ขับไล่​หล่อน​ออกจาก​บ้าน​ตระกูล​ไป๋​เสีย​ตั้งแต่​ตอนนั้น​

หลิน​ม่าย​นึก​เสียดาย​อยู่​ใน​ใจ

พ่อ​ไป๋​เห็น​ว่า​หลิน​ม่าย​ไม่ค่อย​กิน​เป็ด​ย่าง​ จึงเดา​ว่า​เธอ​อาจ​เลี่ยน​

เมื่อ​เห็น​ว่า​บริกร​กำลัง​เสิร์ฟ​ซุป​เป็ด​ เขา​จึงตัก​ให้​หลิน​ม่าย​และ​ขอให้​เธอ​กิน​

จากนั้น​จึงเอ่ย​ถาม “ม่าย​จื่อ​ ลูกคิด​จะย้าย​ทะเบียนสำมะโนครัว​เข้าสู่​ครอบครัว​เรา​เมื่อไหร่​? พ่อ​คิด​ชื่อ​ใหม่​ให้​กับ​ลูก​แล้ว​ว่า​ไป๋​เจีย​อวี๋​ หมายความว่า​ลูก​เป็น​หยก​ล้ำค่า​แห่ง​ตระกูล​ไป๋​ของ​เรา​ ชอบ​ชื่อ​นี้​หรือเปล่า​ล่ะ​?”

พ่อ​ไป๋​มอง​หลิน​ม่าย​อย่าง​กระตือรือร้น​เหมือน​เด็ก​ที่​รอ​ให้​พ่อแม่​ชื่นชม​

หลิน​ม่าย​ตกตะลึง​ไป​ครู่หนึ่ง​

เธอ​ไม่เคย​คิด​ว่า​พ่อ​ไป๋​จะตั้งชื่อ​ให้​เธอ​

เธอ​ยิ้ม​และ​ปฏิเสธ​ “ฉัน​ขอ​ไม่เปลี่ยน​ชื่อ​และ​ย้าย​ทะเบียนสำมะโนครัว​เข้าสู่​บ้าน​ตระกูล​ไป๋​ค่ะ​”

สีหน้า​ของ​พ่อ​ไป๋​พลัน​เคร่งเครียด​ “ลูก​กลัว​ว่า​แม่กับ​ไป๋​ซวง​จะไม่ต้องการ​ให้​ลูก​ย้าย​ทะเบียนสำมะโนครัว​เข้า​บ้าน​เรา​ใช่ไหม​? หรือ​กลัว​ว่า​พวก​หล่อน​จะไม่เห็นด้วย​ที่​ลูก​ใช้แซ่ไป๋​?​​ ไม่ต้อง​กังวล​ไป​นะ​ มีพ่อ​อยู่​ตรงนี้​ ไม่สำคัญ​หรอ​กว่า​พวก​หล่อน​จะเต็มใจ​หรือ​เห็นด้วย​หรือเปล่า​!”

หาก​ไม่ยอมให้​ลูกสาว​แท้ ๆ​ ใช้นามสกุล​ของ​ครอบครัว​ ก็​คงจะ​ดู​ใจร้าย​มากเกินไป​

ตราบใดที่​ภรรยา​ของ​เขา​กล้า​จะคัดค้าน​ เขา​จะหย่า​กับ​หล่อน​และ​ปล่อย​ให้​หล่อน​อยู่​กับ​ลูกสาว​บุญธรรม​สุดที่รัก​ของหล่อน​ไป​เสีย​!

หลิน​ม่าย​หัวเราะเยาะ​ใน​ใจ หาก​เธอ​กลัว​แม่ไป๋​ขนาด​นั้น​ เธอ​คง​ชวน​แม่ไป๋​มากิน​เป็ด​ย่าง​ไป​แล้ว​

เธอ​อธิบาย​ด้วย​รอยยิ้ม​ “เหตุผล​ไม่ใช่อย่าง​ที่​พ่อ​พูด​เลย​ค่ะ​ แต่​เหตุผล​เป็น​เพราะ​หนู​กำลังจะ​แต่งงาน​กับ​จั๋ว​หรา​น​ และ​จะต้อง​ย้าย​ทะเบียนสำมะโนครัว​เข้าสู่​บ้าน​ของ​จั๋ว​หรา​น​ การ​ย้าย​ไปมา​หลายครั้ง​คง​ลำบาก​ไม่น้อย​ ส่วน​เหตุผล​ที่​หนู​ไม่อยาก​เปลี่ยน​ชื่อ​เป็น​เพราะ​ผลกระทบ​ของ​การ​เปลี่ยน​ชื่อ​มีมากเกินไป​”

หลังจาก​หยุด​ครู่หนึ่ง​ เธอ​จึงอธิบาย​ต่อ​ “ชื่อ​เป็น​เพียง​สัญลักษณ์​ใน​สายตา​ของ​หนู​ มัน​ไม่ได้​สำคัญ​ขนาด​นั้น​”

พ่อ​ไป๋​คิด​อย่าง​รอบคอบ​และ​เข้าใจ​ว่า​สิ่งที่​หลิน​ม่าย​พูด​ก็​มีเหตุผล​

เขา​กล่าว​ขึ้น​ “ถ้าอย่าง​งั้น​เอา​แบบนี้​ดี​ไหม​? ลูก​ไม่จำเป็นต้อง​เปลี่ยน​ชื่อ​ แต่​เรา​จะตั้ง​ชื่อเล่น​ให้​กับ​ลูก​ เป็น​เพราะ​ลูก​มีจิตใจ​ที่​บริสุทธิ์​และ​อ่อนโยน​ ดังนั้น​เรา​จะเรียก​ลูก​ว่า​ เสวี่ย​เป่า​”

ทั้ง​ไป๋​ลู่​และ​ไป๋​เซี่ย​ต่าง​มีท่าทาง​ลิงโลด​ “ชื่อ​นี้​ฟังดูดี​ ต่อไปนี้​เรา​จะเรียก​ม่าย​จื่อ​ว่า​เสวี่ย​เป่า​” ​

ไม่ว่า​อย่างไร​นี่​ก็​เป็น​เพียง​ชื่อเล่น​ มีเพียง​พ่อ​ไป๋​และ​พี่น้อง​ไป๋​เท่านั้น​ที่จะ​เรียก​เธอ​ และ​ชื่อ​นี้​จะไม่ส่งผลกระทบ​ต่อ​ชีวิต​ทางสังคม​ของ​เธอ​ ดังนั้น​หลิน​ม่าย​จึงตอบ​ตกลง​ด้วย​รอยยิ้ม​

พ่อ​ไป๋​เรา​อย่าง​เด็ดเดี่ยว​ “แต่​ไม่ว่า​อย่างไร​ลูก​ก็​ต้อง​ย้าย​ทะเบียนสำมะโนครัว​เข้าสู่​ครอบครัว​ของ​เรา​นะ​ แม้ในอนาคต​ลูก​จะต้อง​ย้าย​ทะเบียนสำมะโนครัว​เข้าสู่​บ้าน​ของ​จั๋ว​หรา​น​และ​อาจ​เป็นเรื่อง​ที่​ลำบาก​ แต่​ด้วย​วิธี​นี้​พ่อ​ก็​จะได้​สบายใจ​ว่า​ลูก​ได้​แต่งงาน​กับ​เขา​อย่าง​ถูกต้อง​แล้ว​”

หลิน​ม่าย​ครุ่นคิด​เป็นเวลา​นาน​ แต่​ก็​พยักหน้า​เห็นด้วย​

ใน​เมื่อ​พ่อ​ไป๋​เต็มใจ​ที่จะ​ปฏิบัติ​ต่อ​เธอ​อย่าง​ดี​ เธอ​ก็​ไม่ควร​ปฏิเสธ​เขา​

หลังจากนั้น​พ่อ​ไป๋​และ​พี่น้อง​ไป๋​ต่าง​ก็​กิน​จน​อิ่มหนำสำราญ​

สามพ่อ​ลูก​ไป​ส่งหลิน​ม่าย​กลับ​โรงแรม​

พ่อ​ไป๋​เห็น​ว่า​โรงแรม​ที่​หลิน​ม่าย​พัก​มีคุณภาพดี​ จึงพา​ลูก​ทั้งสอง​กลับ​ไป​ด้วย​ความมั่นใจ​

อย่างไรก็ตาม​ พวกเขา​ก็ได้​นัดหมาย​กัน​ไว้​ว่า​ใน​เวลา​เที่ยง​ของ​วันพรุ่งนี้​ ครอบครัว​ทั้ง​ห้า​คน​จะเดินทาง​ไป​กิน​ปิ้ง​ย่าง​และ​จะเดินทาง​ไป​เยี่ยมเยียน​คุณปู่​และ​คุณย่า​ไป๋​ใน​ตอนเย็น​

หลิน​ม่าย​ยิ้ม​และ​ตอบ​ตกลง​ด้วย​ความ​ไม่มั่นใจ​ว่า​ครอบครัว​ทั้ง​ห้า​คน​จะเดินทาง​ไป​กิน​ปิ้ง​ย่าง​นี้​นับ​รวม​ไป๋​ซวง​ด้วย​หรือไม่​?

ไป๋​เซี่ย​กล่าว​ “เธอ​ยังคง​มีจิตใจ​เมตตา​เสมอ​เลย​นะ​! ครอบครัว​ของ​เรา​ห้า​คน​หมายถึง​พวกเรา​และ​เธอ​ เรา​สามพี่น้อง​รวม​พ่อ​กับ​แม่ นั้น​ก็​ครบ​ห้า​คน​แล้ว​ไม่ใช่เหรอ​?

หลิน​ม่าย​เข้าใจ​ทันที​

พ่อ​ไป๋​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​และ​กล่าว​ “ลอง​โทร​หา​พี่เขย​ของ​พวก​เธอ​สิ เขา​เอง​ก็​จะเป็นหนึ่งเดียว​กับ​ครอบครัว​ของ​เรา​ในไม่ช้า​เหมือนกัน​”

พ่อ​ลูก​กลับบ้าน​ด้วย​ความสุข​ จน​แม่ไป๋​เห็น​แล้ว​ถามขึ้น​ทันที​ “กิน​ดื่ม​กัน​มาจน​อิ่มหนำ​แล้ว​ใช่ไหม​คะ​?”

ไป๋​ซวง​ยืน​อยู่​ข้าง​หล่อน​และ​มอง​ไป​ยัง​พ่อ​และ​ลูก​ทั้ง​สามคน​อย่าง​ขุ่นเคือง​ จน​คน​ที่​ไม่รู้​อาจ​คิด​ว่า​พ่อ​ไป๋​และ​ลูก​ของ​เขา​ทำ​อะไร​ให้​แม่และ​ลูกสาว​คู่นี้​ขุ่นเคือง​ใจ

อารมณ์​ชื่นบาน​ของ​พ่อ​ไป๋​ถูก​ทำ​ลายอย่าง​สมบูรณ์​ รอยยิ้ม​บน​ใบหน้า​ของ​เขา​พลัน​หายวับ​

เขา​จงใจเผชิญหน้า​อีก​ฝ่าย​ “ม่าย​จื่อ​ชวน​เรา​ไป​กิน​เป็ด​ย่าง​ ตอนนี้​เริ่ม​ฤดูใบไม้ร่วง​แล้ว​ เป็น​ฤดู​ของ​เป็ด​ย่าง​ตัว​อ้วน​ คุณ​คิด​ว่า​เรา​จะกิน​ดื่ม​จน​อิ่มหนำ​หรือยัง​ล่ะ​?”

แม่ไป๋​กล่าว​ด้วย​ความเสียใจ​ “พวก​คุณพ่อ​ลูก​สามคน​ออก​ไป​กิน​อาหาร​แสน​อร่อย​ข้าง​นอกบ้าน​ แต่​ฉัน​กับ​ซวงเอ๋อร์​กลับ​ต้อง​กิน​บะหมี่​ที่​บ้าน​เนี่ย​นะคะ​”

พ่อ​ไป๋​เห็น​ดวงตา​ที่​เศร้าสร้อย​ของ​แม่ไป๋​แดงก่ำ​ก็​รู้สึก​ทน​ไม่ได้​

เขา​และ​แม่ไป๋​ตกหลุมรัก​กัน​ตั้งแต่แรก​พบ​ ทั้งสอง​มีความสัมพันธ์​ที่​ดี​ต่อกัน​

เนื่องจาก​ฐานะ​ทาง​ครอบครัว​ของ​แม่ไป๋​และ​การ​ถูก​ตี​กรอบ​ พ่อตา​และ​แม่ยาย​จึงตก​อยู่​ภายใต้​การ​ดูแล​ของ​เขา​

หลาย​คน​เกลี้ยกล่อม​ให้​พ่อ​ไป๋​หย่าร้าง​กับ​แม่ไป๋​เพื่อ​ไม่ให้​เป็น​ผลร้าย​กับ​ตัว​เขา​เอง​ แต่​เขา​กลับ​ยืนกราน​ที่จะ​ไม่หย่า​

พ่อ​ไป๋​เชื่อ​ว่า​ทั้งคู่​จะจับมือ​และ​อยู่​ร่วมกัน​ไป​ได้​จน​แก่เฒ่า​

ตอนนี้​พวกเขา​จับมือ​กัน​มาได้​จน​ถึงขนาด​นี้​แล้ว​ ไม่ว่า​จะต้อง​ผ่าน​พายุฝน​รุนแรง​ขนาด​ไหน​ก็​ต้อง​ไป​ต่อ​ให้ได้​

แม้สามีและ​ภรรยา​เป็น​นก​ใน​ป่า​เดียวกัน​ แต่​พวกเขา​ก็​บิน​แยกกัน​เมื่อ​เกิด​ภัยพิบัติ​

ดังนั้น​แม้ว่า​เขา​จะผิดหวัง​กับ​แม่ไป๋​อย่าง​สิ้นเชิง​ แต่​หัวใจ​ของ​เขา​ก็​ยัง​อ่อนโยน​เมื่อ​เห็น​ท่าทาง​เศร้าสร้อย​ของหล่อน​

พ่อ​ไป๋​ลด​ระดับเสียง​ลง​ “บ้าน​เรา​มีเนื้อสัตว์​เหลืออยู่​มากมาย​ ทำไม​ถึงไม่ขอให้​แม่บ้าน​ช่วย​ทำอาหาร​ให้​ล่ะ​”

เมื่อ​พูด​อย่างนั้น​ เขา​ก็​เหลือบมอง​ไป​ยัง​ไป๋​ซวง​และ​พูด​ประชดประชัน​ “โชคดี​ที่​ไป๋​ซวง​มีสุขภาพ​ดี​ การ​กิน​บะหมี่​ผัด​แห้ง​คง​ไม่ส่งผลกระทบ​อะไร​กับ​หล่อน​หรอก​”

ใน​อดีต​ พ่อ​ไป๋​คง​ไม่กล้า​ป้อน​บะหมี่​ผัด​แห้ง​ให้​ไป๋​ซวง​ เพราะ​เกรง​ว่า​สารอาหาร​จะไม่เพียงพอ​และ​จะไม่ดี​ต่อ​สุขภาพ​ของหล่อน​

แต่​เมื่อ​เขา​คิดถึง​การ​แกล้ง​ป่วย​เป็นเวลา​หลาย​ปี​เพื่อ​แย่งชิง​ความรัก​ของ​ไป๋​ซวง​ พ่อ​ไป๋​ก็​รู้สึก​เกลียดชัง​หล่อน​เป็นอย่างมาก​

เดิมที​แม่ไป๋​ต้องการ​จะหาเรื่อง​ทะเลาะ​กับ​พ่อ​ไป๋​ แต่​เมื่อ​เห็น​ว่า​เขา​ไม่ได้​ปฏิบัติ​ต่อ​หล่อน​ดี​เหมือน​เมื่อก่อน​ หล่อน​จึงไม่กล้า​เอะอะโวยวาย​

ใน​อดีต​ หาก​หล่อน​บ่น​เรื่อง​อาหารการกิน​ พ่อ​ไป๋​คง​ไป​ซื้อ​อาหาร​อร่อย​ ๆ ให้​หล่อน​ และ​เขา​จะไม่ตำหนิ​หล่อน​ที่​ไม่ขอให้​คนรับใช้​เตรียม​อาหาร​อร่อย​ ๆ ให้​

หล่อน​จำได้​ว่า​ตอนที่​ตัวเอง​ตั้งครรภ์​ครั้งหนึ่ง​แล้ว​อยาก​กิน​ซาลาเปา​จาก​ร้านอาหาร​ราคาแพง​

ในเวลานั้น​ร้าน​ซาลาเปา​ยัดไส้​ได้​ปิด​ไป​แล้ว​ แต่​พ่อ​ไป๋​ก็​ยืนกราน​ที่จะ​อ้อนวอน​เถ้าแก่​ร้าน​ขอให้​เขา​นึ่ง​ซาลาเปา​ให้​

เมื่อ​พ่อ​ไป๋​กลับมา​พร้อม​ซาลาเปา​นึ่ง​ด้วย​ความตื่นเต้น​ หล่อน​กลับ​เผลอ​หลับ​ไป​เสียแล้ว​…

มีคำ​กล่าวว่า​ผู้หญิง​กลัว​ทุกอย่าง​ยกเว้น​ผู้ชาย​

และ​ภาคภูมิใจ​ที่​ได้​เป็น​ที่รัก​

แม่ไป๋​รู้สึก​ผิด​อย่าง​มาก​ เมื่อ​ถึงเวลา​เข้านอน​ตอนกลางคืน​ หล่อน​ก็​แอบ​ร้องไห้​เบา​ๆ

แม้เสียง​นั้น​จะไม่ดัง​มาก​ แต่​พ่อ​ไป๋​ก็​ได้ยิน​ชัดเจน​

นี่​เป็น​กลอุบาย​ที่​แม่ไป๋​เคย​ใช้ใน​อดีต​ หล่อน​ร้องไห้​ก็​เพราะ​กำลัง​รอ​การ​ปลอบโยน​จาก​พ่อ​ไป๋​

หาก​เป็น​เมื่อก่อน​ พ่อ​ไป๋​คง​เป็น​คน​ยอม​ปลอบ​หล่อน​ก่อน​

หาก​ผู้หญิง​ใช้อารมณ์​อย่าง​เหมาะสม​กับ​สถานการณ์​ ชีวิต​ก็​จะมีความสุข​มากขึ้น​ ตราบใดที่​มัน​ไม่ใช่การ​ใช้อารมณ์​อย่าง​ไร้เหตุผล​

แต่​เพราะ​เห็นแก่​ไป๋​ซวง​ แม่ไป๋​ตอนนี้​จึงมักจะ​สร้าง​ปัญหา​โดย​ไม่มีเหตุผล​ และ​หล่อน​ก็​โกหก​เป็น​หลายครั้ง​

พ่อ​ไป๋​รำคาญ​แทบตาย​ แม้ว่า​บางครั้ง​เขา​จะใจอ่อน​ แต่​ส่วนใหญ่​ก็​คือ​รำคาญใจ​

เขา​ไม่เพียง​ไม่พยายาม​เกลี้ยกล่อม​แม่ไป๋​เท่านั้น​ แต่​ยัง​ลุกขึ้น​จาก​เตียง​ แล้ว​หยิบ​ผ้านวม​ผืน​บาง​ออกจาก​ตู้​

แม่ไป๋​หยุด​ร้องไห้​และ​มอง​เขา​อย่าง​งุนงง​ “นี่​มัน​กลางดึก​แล้ว​ คุณ​จะเอา​ผ้าห่ม​ไป​ทำ​อะไร​คะ​?”

ความสัมพันธ์​ระหว่าง​สามีและ​ภรรยา​นั้น​ดีมาก​ และ​พวกเขา​ก็​ห่ม​ผ้า​ผืน​เดียวกัน​ตั้งแต่​แต่งงาน​

แต่​ตอนนี้​พ่อ​ไป๋​กลับ​พูด​อย่าง​เฉยเมย​ “ผม​จะไป​นอน​อีก​ห้อง​”

จากนั้น​เขา​ก็​เดิน​ออกจาก​ห้อง​ไป​พร้อมกับ​ผ้านวม​ผืน​บาง​ใน​อ้อมแขน​โดย​ไม่รอ​การ​ตอบสนอง​ของ​แม่ไป๋​

แม่ไป๋​ตกตะลึง​และ​สับสน​เป็นอย่างมาก​ ราวกับว่า​หล่อน​และ​สามีกำลัง​เผชิญ​วิกฤต​ชีวิตคู่​ สามีไม่ยอม​นอน​ร่วม​เตียง​กับ​หล่อน​แล้ว​…

…………………………………………………………………………………………………………………………

สาร​จาก​ผู้แปล​

เริ่ม​มีสัญญาณว่า​พ่อ​ไป๋​จะขอ​หย่า​แล้ว​สิ ยัย​แม่ไป๋​จะตาสว่าง​ทัน​ไหม​นะ​

ไหหม่า​(海馬)

แม่ปากร้ายยุค​ 80 [八零辣妈飒爆了]

แม่ปากร้ายยุค​ 80 [八零辣妈飒爆了]

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท