ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 662 ผิดหวัง (ปลาย)

ตอนที่ 662 ผิดหวัง (ปลาย)

สวี​ซื่อ​จุน​กลับ​เรือน​ต้านปั​๋ว​ไจ​อย่าง​ไม่เต็มใจ​ ​นอน​อยู่​บน​เตียง​แต่​ก็​นอนไม่หลับ​ ​พอ​หลับตา​คำพูด​เหล่านั้น​ของ​บิดา​ก็​เริ่ม​ก้อง​อยู่​ใน​หู

หรือว่า​จะ​ต้อง​ปล่อย​เถา​เฉิง​ทิ้ง​ไป​ ​ไม่สน​ใจ​เขา​แล้ว​อย่างนั้น​หรือ​…

แค่​คิด​เขา​ก็​รู้สึก​ไม่สบายใจ​แล้ว

เมื่อ​ไป​เรียน​ที่​เรือน​ซวงฝู​ใน​ตอนบ่าย​ก็​ใจลอย​เล็กน้อย

อาจารย์​จ้าว​อยาก​จะ​พูด​อะไร​บางอย่าง​แต่​ก็​เงียบ​ไป​ ​สุดท้าย​ก็​ไม่ได้​ถาม​อะไร

ใน​ภายภาคหน้า​สวี​ซื่อ​จุน​จะ​ต้อง​เป็น​ผู้รับผิดชอบ​จวน​หย่ง​ผิง​โหว​ ​ตอน​เล็ก​ๆ​ ​ยัง​พอ​พูด​ง่าย​ ​แต่​ตอนนี้​สวี​ซื่อ​จุน​โต​แล้ว​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เริ่ม​สอน​วิธีการ​จัดการ​สิ่ง​ต่างๆ​ ​แก่​เขา​ ​บาง​เรื่อง​หาก​สวี​ซื่อ​จุน​ไม่​เอ่ยปาก​ ​เขา​เอง​ก็​ไม่​อาจ​เป็น​ฝ่าย​เริ่ม​ถาม​ได้

โชคดี​ที่​หลังจาก​ไป​คารวะ​ไท่ฮู​หยิน​แล้ว​ ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยกั​บส​วี​ซื่อ​จุน​ก็​กลับ​เรือน​ต้านปั​๋ว​ไจ​ด้วยกัน

“​เป็น​เพราะ​เรื่อง​ของ​เถา​เฉิง​หรือ​”​ ​อากาศ​ยังคง​เย็น​ใน​เวลา​กลางคืน​ใน​ช่วง​กลาง​ฤดูใบไม้ผลิ​ ​กลิ่นหอม​ของ​ดอก​เย​่ว​์​ไหล​เซียง​ยามค่ำคืน​ตลบอบอวล​ไป​ทั่วทั้ง​สวน​ ​สอง​พี่น้อง​นั่ง​เอนกาย​พิง​เก้าอี้​เหม่ย​เห​ริน​อยู่​ใต้​ชายคา​เรือน​ ​ทาน​ผล​อิง​เถา​ที่​ปี้​หลัว​ล้าง​มา​ให้

“​อืม​!​”​ ​สวี​ซื่อ​จุน​คิ้ว​ขมวด​เป็น​ปม​ ​“​เขา​เป็น​ผู้ติดตาม​ที่​ท่าน​แม่​เหลือ​เอาไว้​ให้​!​”

สวี​ซื่อ​เจี​้ย​เคย​เห็น​เถา​เฉิง​สอง​สาม​ครั้ง​ ​คิด​ว่า​เขา​ไม่​ต่าง​จาก​ผู้ดูแล​ที่​ชอบ​ประจบประแจง​เหล่านั้น​ ​ไม่​นับว่า​เป็นความ​ประทับใจ​ที่​ดี​ ​แต่​ก็​ไม่ใช่​ความประทับใจ​ที่​ไม่ดี

“​ท่าน​สามารถ​ปฏิบัติ​ต่อ​เขา​เหมือนกับ​ที่​ปฏิบัติ​ต่อ​ผู้ดูแล​คนอื่นๆ​ ​ได้​”​ ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ก่อน​จะ​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​หาก​เขา​มีเรื่อง​อัน​ใด​ ​ท่าน​ก็​ให้เงิน​เขา​เป็นการ​ส่วนตัว​ก็​พอแล้ว​ ​เหมือน​ที่​ท่าน​แม่​ปฏิบัติ​ต่อ​สะใภ้ก​่​วน​ชิง​ ​เวลา​ควร​ทำ​อะไร​ก็​ทำ​ ​หาก​ทำผิด​พลาด​ก็​ต้อง​ลงโทษ​ด้วย​เช่นกัน​ ​แต่​มักจะ​มอบ​เสื้อผ้า​กับ​เครื่องประดับ​ของ​ตัวเอง​ให้​กับ​สะใภ้ก​่​วน​ชิง​ ​ข้า​คิด​ว่า​ท่าน​สามารถ​ลอกเลียนแบบ​วิธี​ของ​ท่าน​แม่​ได้​ ​เช่นนี้​ก็​จะ​สามารถ​ดูแล​เขา​ ​แล้วก็​ไม่​ถึงขั้น​ทำให้​ผู้ดูแล​คนอื่นๆ​ ​รู้สึก​ว่า​ไม่​ยุติธรรม​”

สะใภ้ก​่​วน​ชิง​ก็​คือ​หู่​พั่ว

สวี​ซื่อ​จุน​ตา​เป็นประกาย​ ​“​เหตุใด​ข้า​ถึง​คิดไม่ถึง​นะ​!​”

สวี​ซื่อ​เจี​้ย​รู้สึก​ดีใจ​มาก​ที่​ได้​ช่วยเหลือ​พี่ชาย

“​เพราะ​เป็นห่วง​ก็​เลย​เลอะเลือน​กระมัง​!​”​ ​เขา​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เป็น​เพราะ​พี่​สี่​กังวล​มากเกินไป​!​”

สวี​ซื่อ​จุน​พยักหน้า​ ​ยอมรับ​อย่างจริงใจ​ว่า​ ​“​ใช่​แล้ว​ ​พอ​ข้า​คิด​ว่า​แม้แต่​คนที​่​ท่าน​แม่​เหลือ​ไว้​ให้​ก็​ไม่​สามารถ​ดูแล​ได้​ ​ใน​ใจ​พลัน​รู้สึก​ไม่ดี​…​”​ ​จากนั้น​ก็​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​คำพูด​ของ​เจ้า​ช่วย​เตือนสติ​ข้า​ ​ข้า​จำได้​ว่า​ไท่ฮู​หยิน​ก็​ทำ​เช่นนี้​เหมือนกัน​ ​เวลา​มีเรื่อง​อัน​ใด​แล้ว​อยาก​จะ​มอบ​รางวัล​ให้​แก่​บ่าว​รับใช้​ข้าง​กาย​ ​ก็​จะ​นำ​เงิน​ส่วนตัว​ของ​ตัวเอง​ออกมา​ ​ข้า​ต้อง​คิด​ให้​ดี​ว่า​จะ​จัดการ​กับ​เถา​เฉิง​อย่างไร​…​”

******

สือ​อี​เหนียง​ตบเท้า​น้อย​ๆ​ ​ผิวขาว​ละเอียด​ของ​บุตรชาย​แรง​ๆ​ ​“​เสร็จ​แล้ว​!​”​ ​จากนั้น​ก็​ส่งสัญญาณ​ให้​สาวใช้​ยก​น้ำ​ล้าง​เท้า​ออก​ไป

จิ​่น​เกอ​เอา​มือจับ​เท้า​แล้ว​ร้อง​อุทาน​ว่า​ ​“​โอ๊ย​!​”

“​ท่าน​แม่​!​”​ ​เขา​บุ้ยปาก​ ​ท่าทาง​น้อยใจ​ ​“​ท่าน​มือหนัก​มาก​ ​ข้า​เจ็บ​เท้า​!​”

“​เจ็บ​หรือ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​นั่งลง​บน​เตียง​เตา​ ​“​โต​ขนาด​นี้​แล้ว​ ​ยัง​งอแง​ให้​แม่​ล้าง​เท้า​ให้​ ​หาก​ไม่​ตี​แรง​ๆ​ ​สักที​เจ้า​ก็​จะ​ได้ใจ​”

จิ​่น​เกอ​หัวเราะ​คิกคัก​ ​กอด​สือ​อี​เหนียง​จาก​ด้านหลัง

“​ท่าน​แม่​ ​วันนี้​พวกเรา​ไปดู​ไร่นา​ของ​พี่​สี่​มา​ขอรับ​!​”​ ​พอ​เขา​กลับมา​ใน​ตอนเช้า​ก็​หลับ​ไป​ชั่วขณะหนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​ไป​ฝึก​ย่อเข่า​ที่​เรือน​ซิ่ว​มู่​ ​พอตอ​นบ​่า​ยก​็​คัดตัว​อักษร​อยู่​ที่​ห้อง​หนังสือ​ของ​สวิลิ​่​งอี​๋​ ​ไม่มีเวลา​แอบ​มาบ​อก​สือ​อี​เหนียง​ ​“​ที่ดิน​ของ​พี่​สี่​ใหญ่​มาก​ ​นั่ง​อยู่​ใน​รถม้า​ตั้ง​นาน​กว่า​จะ​ออกมา​ได้​ ​วันนี้​ท่าน​พ่อ​ยัง​สั่งสอน​พี่​สี่​อีกด้วย​ ​บอกว่า​พี่​สี่​ไม่​ควร​ให้เงิน​เถา​เฉิง​มากมาย​ขนาด​นั้น​…​”

สือ​อี​เหนียง​รู้​ตั้ง​นาน​แล้ว

วันนี้​ตอนเช้า​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​นอน​อยู่​บน​เตียง​ตลอดทั้ง​ช่วง​เช้า​เช่นกัน​ ​แม้ว่า​เขา​จะ​ไม่ได้​ถอนหายใจ​ ​แต่​ก็​อารมณ์ไม่ดี​อยู่​ตลอดเวลา

“​เจ้า​สายลับ​ตัว​น้อย​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​ตบมือ​เล็ก​ๆ​ ​ของ​บุตรชาย​ที่​วาง​อยู่​บน​ไหล่​ของ​นาง​ ​“​รีบ​ไป​นอน​เถิด​ ​พรุ่งนี้​ยัง​ต้อง​ไป​เรือน​ซิ่ว​มู่​แต่เช้า​ตรู่​!​”

“​ขอรับ​!​”​ ​จิ​่น​เกอ​มุด​เข้าไป​ใน​ผ้าห่ม​อย่าง​เชื่อฟัง​ ​“​หาก​รู้​ว่า​ท่าน​พ่อ​จะ​ออก​ไป​ค้างคืน​ข้างนอก​ข้า​ก็​คง​ไม่​ไป​ด้วย​หรอก​ ​ทำเอา​ข้า​เกือบจะ​ทำท่า​ย่อเข่า​ไม่ได้​”​ ​เขา​บ่น​ต่อ​อีกว่า​ ​“​แต่​ข้า​คิด​ว่า​แม้ว่า​เรื่อง​นี้​เถา​เฉิง​จะ​ผิด​ ​แต่​พี่​สี่​นั้น​ผิด​ยิ่งกว่า​”

สือ​อี​เหนียง​ชะงัก​ไป​ครู่หนึ่ง

“​เงิน​หนึ่งร้อย​ตำลึง​ ​สามารถ​ซื้อ​สาวใช้​ได้​ตั้ง​หลาย​คน​ ​พี่​สี่​ให้เงิน​ก้อน​ใหญ่​แก่​เถา​เฉิง​เช่นนี้​ ​หาก​เถา​เฉิง​ผู้​นั้น​ไม่ใช่​คนเล​อะ​เลือน​ ​ถึงอย่างไร​ก็​ต้อง​มี​ความคิด​ที่​ไม่​ซื่อ​ ​หาก​เถา​เฉิง​ไม่มีความคิด​เช่นนี้​สิ​ถึง​จะ​น่าแปลก​!​สุดท้าย​ก็​ถูก​ท่าน​พ่อ​ตำหนิ​ ​แต่​พี่​สี่​ก็​ไม่​สามารถ​ลงโทษ​เถา​เฉิง​ได้​”​ ​เขา​พูด​พลาง​พลิกตัว​หันไป​มอง​สือ​อี​เหนียง​ ​“​หาก​เป็น​ข้า​ ​ข้า​จะ​พูด​กับ​เขา​ให้​ชัดเจน​ ​อย่างเช่น​ ​เงิน​ยี่สิบ​ตำลึง​ให้​เจ้า​เอา​ไป​ซื้อ​สุรา​ดื่ม​ ​เงินแปด​สิบ​ตำลึง​ให้​เจ้า​นำ​ไป​ซื้อ​กระดาษ​เงิน​ ​ลองดู​สิว​่า​เขา​จะ​กล้า​ใช้​เงิน​เพียง​สิบ​ตำลึง​ไป​ซื้อ​กระดาษ​เงิน​หรือไม่​”​ ​เขา​เลียน​เสียง​แบบ​ผู้ใหญ่​ ​แกล้งทำ​เป็น​พูด​ด้วย​ท่าทาง​จริงจัง

สือ​อี​เหนียง​เข้าใจ​ความหมาย​ของ​บุตรชาย

บอก​ให้​ชัดเจน​ว่า​สิ่ง​ไหน​เป็น​งาน​ให้​เถา​เฉิง​ทำ​ ​สิ่ง​ไหน​เป็น​รางวัล​ที่​มอบให้​เถา​เฉิง​ ​หาก​ตรวจสอบ​แล้ว​พบ​ว่า​เถา​เฉิง​ไม่ได้​ทำงาน​ตามคำสั่ง​ก็​จะ​สามารถ​ลงโทษ​เถา​เฉิง​อย่างรุนแรง​ได้​ ​สวี​ซื่อ​จุน​ไม่ได้​พูด​อย่าง​เจาะจง​ ​หาก​เถา​เฉิง​เล่น​ตุกติก​ขึ้น​มา​ ​ก็​จะ​สามารถ​บอก​ได้​ว่า​เถา​เฉิง​เข้าใจ​ว่า​ให้​ใช้​เงิน​สิบ​ตำลึง​ซื้อ​กระดาษ​เงิน​ให้​ป้า​เถา​ ​ส่วนที่เหลือ​ก็​เป็น​เงินราง​วัล​ที่​มอบให้​ ​แน่นอน​ว่า​แทบจะ​เป็นไปไม่ได้​เลย​ที่​บ่าว​จะ​กล้า​เล่น​ตุกติก​กับ​เจ้านาย​ ​แต่​อย่างไร​เสียวิ​ธี​การ​จัดการ​ของ​สวี​ซื่อ​จุน​นั้น​ค่อนข้าง​หละหลวม

“​เจ้า​ไป​เรียนรู้​จาก​ใคร​มา​”​ ​ถึงกระนั้น​นาง​ก็​ยัง​แปลกใจ​ต่อ​การเรียนรู้​อย่างรวดเร็ว​ของ​บุตรชาย

“​ตอนที่​คอกม้า​ใน​เขต​เป่า​ติ้ง​จะ​ส่ง​ม้า​ไป​ที่​กรม​กลาโหม​ ​ท่าน​พ่อ​ก็​พูด​กับ​ผู้ดูแล​คอกม้า​เช่นนี้​”​ ​สีหน้า​ของ​จิ​่น​เกอ​แฝง​ไว้​ด้วย​ความภาคภูมิใจ​เล็กน้อย​ ​“​ท่าน​พ่อ​มอบ​เงิน​ให้​คน​ผู้​นั้น​สอง​พัน​ตำลึง​ ​บอกว่า​หนึ่ง​พัน​แปด​ร้อย​ตำลึง​ให้​เขา​นำ​ไป​จัดการ​รายจ่าย​ ​ที่​เหลือ​อีก​สอง​ร้อย​ตำลึง​มอบให้​ผู้ดูแล​คน​นั้น​ไป​ซื้อ​สุรา​ดื่ม​ ​ตอนนั้น​ผู้ดูแล​คน​นั้น​ดีใจ​อย่างมาก​ ​คิดไม่ถึง​ว่า​ท่าน​พ่อ​จะ​มอบ​เงิน​ให้​เขา​ ​ซ้ำ​ยัง​โขก​ศีรษะ​ขอบคุณ​ท่าน​พ่อ​ด้วย​!​”

สือ​อี​เหนียง​อด​หัวเราะ​ไม่ได้​ ​“​เจ้า​นี่​จริงๆ​ ​เลย​ ​เอาแต่​ทำ​เรื่องไร้สาระ​ทั้งวันทั้งคืน​”​ ​จากนั้น​ก็​พูด​ด้วย​สีหน้า​จริงจัง​ว่า​ ​“​เจ้า​ดู​สิ​ ​เป็น​เพราะ​เจ้า​เห็น​ว่า​ท่าน​พ่อ​จัดการ​กับ​ปัญหา​เหล่านี้​อย่างไร​ ​จึง​ได้​รู้​ว่า​เมื่อ​เจอ​ปัญหา​เช่นนี้​ควรจะ​ทำ​อย่างไร​ ​แต่​พี่​สี่​ของ​เจ้า​ไม่เคย​เห็น​ก็​ย่อม​ไม่รู้​ ​เจ้า​ไม่​ควร​ภาคภูมิใจ​เพราะเหตุนี้​ ​อย่า​คิด​ว่า​พี่​สี่​ไม่เก่ง​เท่า​เจ้า​แล้วไป​ตำหนิ​เขา​ ​อย่า​ลืม​ว่า​หาก​พี่น้อง​ไม่​สามัคคี​กัน​ก็​จะ​ถูก​คนนอก​รังแก​ได้​ ​เขา​เป็น​พี่ชาย​ของ​เจ้า​ ​ใน​ฐานะ​น้องชาย​ ​การ​ที่​พูด​เรื่อง​ของ​พี่ชาย​เช่นนี้​นั้น​ไม่ดี​เลย​!​ ​เจ้า​จะ​ต้อง​จำ​คำพูด​ของ​แม่​เอาไว้​ให้​ดี​ ​รู้​หรือไม่​”

“​ข้า​เข้าใจ​แล้ว​ขอรับ​!​”​ ​จิ​่น​เกอ​ยิ้ม​ด้วย​ความรู้สึก​อาย​เล็กน้อย​ ​ไถล​ตัว​ลง​ไป​แล้ว​ใช้​ผ้าห่ม​ปิดหน้า

“​เมื่อ​ครู่​ยัง​ชม​ว่า​ตัวเอง​เก่ง​อยู่​เลย​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ดึง​ผ้าห่ม​ลง​ ​เผย​ให้​เห็น​ใบหน้า​ของ​จิ​่น​เกอ​ ​“​ทำไม​เล่า​ ​ตอนนี้​รู้จัก​เขิน​แล้ว​หรือ​ ​ระวัง​จะ​หายใจไม่ออก​เอา​ได้​”

จิ​่น​เกอ​เม้มปาก​ยิ้ม

สือ​อี​เหนียง​เดิน​ไป​บิด​ไส้​ตะเกียง​ให้​หรี่​ไฟ​ลง​ ​ท่า​กึ่ง​นั่ง​กึ่ง​นอน​พลาง​ลูบ​หลัง​จิ​่น​เกอ​เบา​ๆ​ ​“​หลับตา​ลง​เถิด​”

จิ​่น​เกอ​หัวเราะ​คิกคัก​ ​เอาหน้า​มุด​เข้าไป​ใน​อ้อมกอด​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​ไม่นาน​ก็​ผล็อย​หลับ​ไป

สือ​อี​เหนียง​จ้องมอง​ใบหน้า​แดงก่ำ​ของ​บุตรชาย​ภายใต้​แสงไฟ​ ​ยก​มุม​ปาก​ขึ้น​สูง​ ​เป็น​เช่นนี้​อยู่นาน​ ​จากนั้น​นาง​ก็​ช่วย​จัด​ผ้าห่ม​ให้​จิ​่น​เกอ​อย่างเบามือ​ ​แล้ว​ค่อยๆ​ ​เดิน​ออก​ไป​จาก​เรือน​ปีก

“​หลับ​แล้ว​หรือ​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​วาง​หนังสือ​ใน​มือ​ลง​ ​สีหน้า​ดู​ผิดหวัง​เล็กน้อย​

“​เป็น​เพราะ​เรื่อง​ของ​จุน​เกอ​หรือ​เจ้า​คะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​นั่งลง​ข้างๆ​ ​เขา​ ​“​จุน​เกอ​เป็น​เด็ก​ไร้เดียงสา​ ​และ​เรื่อง​นี้​ก็​เกี่ยวข้อง​กับ​มารดา​ของ​เขา​ ​เป็นไปได้​ที่​เขา​จะ​ยัง​คิด​ไม่ได้​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​วันนี้​ท่าน​โหวตัก​เตือน​เขา​แล้ว​ ​หลังจากนี้​เขา​จะ​ต้อง​ไตร่ตรอง​เรื่อง​นี้​อย่างแน่นอน​ ​ท่าน​โหว​ไม่ต้อง​กังวล​ ​รอดู​ไป​ก่อน​ ​ถ้าหาก​ยัง​ไม่ดี​ขึ้น​ ​ท่าน​โหว​ค่อย​หน้านิ่วคิ้วขมวด​ก็​ยัง​ไม่​สาย​!​”

พอได้​ฟัง​คำพูด​เช่นนี้​ ​ก็​ทำเอา​สวี​ลิ่ง​อี๋​หลุด​หัวเราะ​ออกมา

นาง​อาศัย​โอกาส​นี้​พูด​หยอกล้อ​ว่า​ ​“​ต่อไป​ท่าน​โหว​จะ​ทำ​แบบนี้​ไม่ได้​แล้ว​ ​หาก​ใน​ใจ​รู้สึก​ไม่สบาย​ ​ข้า​ก็​ต้อง​มาคอ​ยดู​สีหน้า​ของ​ท่าน​ ​ข้า​ก็​ไม่ใช่​คนที​่​ชอบ​สร้าง​ปัญหา​ ​แล้ว​จะ​ต้อง​มารับ​เคราะห์​ทั้งๆ​ ​ที่​ไม่ได้​ทำ​…​”

“​ใช่​ ​ใช่​ ​ใช่​…​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​จับมือ​นาง​ ​“​เป็น​เพราะ​ข้า​ไม่ดี​เอง​…​”​ ​ขณะที่​พูด​รอยยิ้ม​บน​ใบหน้า​ของ​เขา​ก็​ค่อยๆ​ ​จาง​ลง​ ​สายตา​ที่​มอง​สือ​อี​เหนียง​พลัน​เปลี่ยนเป็น​จริงจัง​ขึ้น​มา​ ​“​มั่ว​เหยี​ยน​ ​โชคดี​ที่​มี​เจ้า​อยู่​ที่นี่​…​”

บรรยากาศ​จริงจัง​แบบนี้​ ​พลอย​ทำให้​สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​เขิน​เล็กน้อย

“​พรุ่งนี้​ข้า​นัด​ตรวจ​บัญชี​กับ​พี่ใหญ่​”​ ​นาง​ยืน​ขึ้น​ ​“​ข้า​ขอตัว​ไป​ล้างหน้าล้างตา​ก่อน​…​”​ ​ยัง​ไม่ทัน​พูด​จบ​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​ออกแรง​เบา​ๆ​ ​ดึง​สือ​อี​เหนียง​มา​อยู่​ใน​อ้อมแขน​ของ​เขา

“​ข้า​ก็​ยัง​ไม่ได้​ล้างหน้า​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​กระซิบ​ที่​ข้าง​หู​ของ​นาง​ ​“​พวกเรา​ไป​ด้วยกัน​เถิด​…​”

******

เช้าตรู่​วันรุ่งขึ้น​ ​สาวใช้​น้อย​มารา​ยงา​นว​่า​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​มาถึง​แล้ว​ ​สือ​อี​เหนียง​ไป​ที่​ห้องโถง​บุปผา​ด้วย​ท่าทาง​เขินอาย​เล็กน้อย​ ​ห้อง​ชำระ​และ​ห้อง​ด้านใน​ต่าง​ก็​เปียกชื้น​ไป​หมด​ ​ชิว​อวี​่​และ​คนอื่นๆ​ ​บ้าง​ก็​เก็บกวาด​ห้อง​ชำระ​ ​บ้าง​ก็​เปลี่ยน​มุ้ง​กับ​เครื่อง​นอน

“​วัน​แต่งงาน​ของ​จุน​เกอ​ถูก​กำหนด​ไว้​แล้ว​หรือยัง​”​ ​พอนั​่ง​ลง​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​ก็​ถาม​ขึ้น​มาทัน​ที

“​พวกเรา​ขอให้​สำนัก​ดาราศาสตร์​ช่วย​หาวัน​ให้​แล้ว​ ​ได้​ขอให้​คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​ส่ง​ไป​ที่​จวน​สกุล​เจียง​แล้ว​ ​เพียงแต่​รอ​ข่าวสาร​จาก​ทาง​ฝั่ง​นั้น​เจ้าค่ะ​”

หลัว​เจิ่น​ซิ่ง​พยักหน้า​ ​พูด​อย่าง​ลังเล​ว่า​ ​“​ท่าน​โหว​…​ไม่​มา​หรือ​”

เป็นเวลา​หลาย​ปี​แล้ว​ที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่เคย​ถามถึง​ทรัพย์สิน​ที่​หยวน​เหนียง​เหลือ​ทิ้ง​ไว้

“​ท่าน​โหว​ไป​จวน​ติ้งกั​๋​วกง​แล้ว​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​ผิด​เล็กน้อย​เมื่อ​นึกถึง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ที่​กำลัง​นั่ง​อ่านหนังสือ​อยู่​ที่​เตียง​เตา​ริม​หน้าต่าง​ห้อง​ชั้นใน​อย่างสงบ​สุข

หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​ถอนหายใจ​เบา​ๆ​ ​กำลังจะ​พูด​อะไร​บางอย่าง​ ​สวี​ซื่อ​จุน​ก็​มา​พอดี​ ​ทุกคน​หยุด​บทสนทนา​ลง​และ​พูดคุย​เกี่ยวกับ​เรื่อง​การ​ส่งมอบ​ทรัพย์สิน​แทน

ส่วน​สิ่ง​ที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​ให้ความสนใจ​คือ​สวี​ซื่อ​จุน

หลังจากที่​ส่งมอบ​ผู้ติดตาม​ของ​หยวน​เหนียง​ให้​สวี​ซื่อ​จุน​ได้​ไม่​กี่​วัน​ ​วัน​แต่งงาน​ของ​สวี​ซื่อ​จุน​ก็​ถูก​กำหนด​ขึ้น​ ​สวี​ซื่อ​จุน​เรียก​เถา​เฉิง​เข้า​จวน​มา​ ​ก่อนอื่น​เขา​บอก​เถา​เฉิง​อย่าง​อ้อมค้อม​ว่า​เมื่อ​ไม่​กี่​วันก่อน​เขา​ไป​ทำ​ธุระ​ที่​ต้า​ซิ่ง​ ​ก็​เลย​แวะเยี่ยม​หลุมศพ​ป้า​เถา​ด้วย​ ​เขา​ให้เงิน​เถา​เฉิง​อีก​สามสิบ​ตำลึง​ ​ให้​เถา​เฉิง​นำ​ไป​ซื้อ​กระดาษ​เงิน​และ​เครื่องบูชา​ให้​ป้า​เถา​ทั้งหมด​ ​ให้​ไป​บอก​วัน​แต่งงาน​ของ​ตัวเอง​แก่​ป้า​เถา​ ​แล้ว​ถาม​เถา​เฉิง​ว่า​เขา​ขาดเงิน​หรือไม่​ ​ถ้าหาก​ขาดเงิน​ก็​ให้​มา​เอา​ที่​เขา​ ​ซ้ำ​ยัง​เป็นครั้งแรก​ที่​ไม่ได้​ให้​เถา​เฉิง​อยู่​ทานข้าว​ต่อ​ที่​จวน

เถา​เชิงกลับ​ไป​ด้วย​ความรู้สึก​ทั้ง​อาย​ทั้ง​รู้สึก​ผิด

สวี​ลิ่ง​อี๋​รู้สึก​โล่งอก​ ​ช่วย​สือ​อี​เหนียง​เตรียมการ​งานแต่ง​ของ​สวี​ซื่อ​จุน​อย่างตั้งใจ​ ​“​…​วันที่​ยี่สิบ​หก​เดือน​เก้า​เป็น​วันดี​ ​เรือน​ใหม่​จะ​ซ่อม​เสร็จ​ก่อน​เดือน​หก​ ​ผ้าม่าน​ ​มุ้ง​ ​และ​มู่ลี่​ควร​เปลี่ยน​ก่อน​เดือน​เจ็ด​ ​เดือน​แปด​เริ่ม​เชิญ​แขก​ ​พอ​เข้า​เดือน​เก้า​ก็​เตรียมการ​เรื่อง​งานเลี้ยง​ทันที​ ​ข้า​คิด​ว่า​มี​เวลา​เหลือเฟือ​”​ ​แล้ว​พูด​ต่อ​อีกว่า​ ​“​มี​ข่าว​จาก​ทาง​อวี​๋​หัง​หรือไม่​”

“​พี่ใหญ่​ได้​ส่ง​คน​ไป​อวี​๋​หัง​แล้ว​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​พี่สะใภ้​ใหญ่​และ​คนอื่นๆ​ ​จะ​ต้อง​มา​อย่างแน่นอน​ ​เพียงแต่​ไม่รู้​ว่า​ท่าน​พ่อ​จะ​มาด​้วย​หรือไม่​”

“​ทาง​ฝั่ง​หนาน​จิง​จะ​มากัน​หมด​ทุกคน​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูดถึง​เครือญาติ​ของ​สกุล​สวี​ ​“​เจ้า​ต้อง​ให้​คน​ไป​ทำความสะอาด​ที่​เรือน​ทาง​ฝั่ง​ไป๋ฮ​วาก​่​วน​ตั้งแต่​เนิ่นๆ​ ​เมื่อถึง​เวลา​จะ​ได้​มีที​่​พัก​เพียงพอ​”

ทั้งสอง​คน​ปรึกษา​กัน​อยู่นาน​เกี่ยวกับ​งานฉลอง​วันเกิด​ให้​ไท่ฮู​หยิน​ ​และ​เมื่อ​เทศกาล​ไหว้​บ๊ะ​จ่าง​ผ่าน​ไป​ ​เรือน​ใหม่​ก็​ทาสี​เสร็จ​แล้ว​ทั้ง​หลัง

สือ​อี​เหนียง​ให้​คน​นำ​ของ​ของ​หยวน​เหนียง​ย้าย​กลับมา​เหมือนเดิม​ ​“​ด้านหน้า​ห้องโถง​ทางเดิน​มี​ห้อง​ปีกซ้าย​และ​ขวา​ ​จะ​ทำเป็น​ห้อง​หนังสือ​ก็ได้​ ​หรือ​จะ​ทำเป็น​ห้องโถง​บุปผา​ไว้​รับแขก​ก็ได้​ ​เมื่อ​เจียง​ซื่อ​เข้า​จวน​มานาง​จะ​เป็น​คน​จัดการ​เอง​ ​ห้องโถง​ที่สอง​ทำเป็น​ห้อง​หอ​ของ​พวก​เจ้า​ ​ของ​ของ​มารดา​เจ้า​ให้​จัด​ไว้​ที่​ห้องโถง​ที่สาม​ ​ใน​ทุกๆ​ ​วัน​ตรุษจีน​หรือ​วัน​ครบรอบ​มารดา​ของ​เจ้า​ ​เจ้า​ก็​จะ​ได้​เข้าไป​กราบไหว้​บูชา​”

“​ท่าน​แม่​!​”​ ​สีหน้า​ของ​สวี​ซื่อ​จุน​ดู​ตื่นเต้น​ ​ดวงตา​ของ​เขา​แดง​เล็กน้อย​ ​“​มารดา​ของ​ข้า​จากไป​หลาย​ปี​แล้ว​ ​ข้า​คิด​ว่า​ช่างมัน​เถิด​…​”​ ​แม้ว่า​จะ​เป็น​คำพูด​ปฏิเสธ​ ​แต่​น้ำเสียง​ของ​เขา​แฝง​ไว้​ด้วย​ความลังเล​เล็กน้อย

หาก​ไม่ใช่​เพราะ​สวี​ซื่อ​จุน​เป็นห่วง​เกี่ยวกับ​ความรู้สึก​ของ​นาง​ ​แล้ว​เขา​จะ​ลังเล​ทำไม​ ​การ​ที่​ทำ​เช่นนี้​นับว่า​เป็นการ​ยืนยัน​นางใน​ฐานะ​แม่เลี้ยง​แล้ว

“​เอา​ตามนั้น​เถิด​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​ส่ง​แขก

สวี​ซื่อ​จุน​มอง​นาง​ด้วย​สีหน้า​สับสน​พลาง​ถอนหายใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท