แม่ปากร้ายยุค​ 80 [八零辣妈飒爆了] – ตอนที่ 652 รางวัลชนะเลิศอันดับหนึ่งตัวจริงและตัวปลอม

ตอนที่ 652 รางวัลชนะเลิศอันดับหนึ่งตัวจริงและตัวปลอม

ตอนที่​ 652 รางวัล​ชนะเลิศ​อันดับ​หนึ่ง​ตัวจริง​และ​ตัว​ปลอม​

เมื่อ​คิดได้​ว่า​ต้อง​ออก​ไปหา​ซื้อ​เสื้อผ้า​กับ​ไป๋​ลู่​และ​ไป๋​เซี่ย​ใน​ตอน​เที่ยงวัน​ หลิน​ม่าย​จึงตั้งใจ​ว่า​จะกลับมา​สะสางกับ​ว่าน​ฮุ่ย​ใน​ตอนบ่าย​

หลิน​ม่าย​รีบ​ไป​ที่​สถานที่​นัดหมาย​ พบ​ว่า​ไป๋​ลู่​และ​พี่ชาย​มาถึงแล้ว​

ทั้ง​สามคน​ยัง​ไม่ได้​กินข้าว​เที่ยง​ ดังนั้น​ไป๋​เซี่ย​จึงเสนอ​ขึ้น​ “ไป​เถอะ​ พี่ชาย​จะพา​พวก​เธอ​ไป​กิน​เกี๊ยว​ ต้อง​ท้อง​อิ่ม​ก่อน​ถึงจะมีแรง​เดิน​ซื้อ​ของ​”

หลังจาก​กิน​เกี๊ยว​เสร็จ​แล้ว​ สามพี่น้อง​จึงเริ่ม​ซื้อ​ของ​

ระหว่างทาง​ไป๋​ลู่​ก็​แนะนำ​ให้​หลิน​ม่าย​ซื้อ​เสื้อผ้า​จิ่น​ซิ่ว​

หล่อน​ชมอย่าง​เกิน​จริง​ว่า​เสื้อผ้า​จิ่น​ซิ่ว​เป็น​เสื้อผ้า​ที่​ดี​ที่สุด​ที่​ใต้​ฟ้าและ​บน​โลก​เคย​มีมา ว่า​กัน​ว่า​ไม่ว่า​จะเป็น​ใคร​ที่​สวมใส่​เสื้อผ้า​จิ่น​ซิ่ว​ ก็​จะเป็น​คน​ที่​สวย​ที่สุด​บน​ถนน​เส้น​นั้น​

ไป๋​เซี่ย​พยักหน้า​รับ​อย่าง​จริงจัง​อยู่​ข้าง ๆ​

ถึงแม้ใน​ตอน​โปรโมท​เสื้อผ้า​จิ่น​ซิ่ว​ หลิน​ม่าย​จะยอม​ให้ข่าว​ค่ำ​ปักกิ่ง​สัมภาษณ์ แต่​เธอ​ก็​ไม่ได้​เปิดเผย​ใบหน้า​

ส่วน​โฆษณาเสื้อผ้า​จิ่น​ซิ่ว​ที่​ออกอากาศ​บน​ CCTV ก็​ไม่ได้​เอ่ยถึง​เธอ​

นอกจากนี้​หลิน​ม่าย​ไม่เคย​เปิดเผย​กับ​ใคร​ใน​ครอบครัว​ไป๋​ว่า​เธอ​เป็นเจ้าของ​เสื้อผ้า​จิ่น​ซิ่ว​ ดังนั้น​ไป๋​เซี่ย​และ​ไป๋​ลู่​จึงไม่รู้​ว่า​เสื้อผ้า​จิ่น​ซิ่ว​เป็น​ของ​หลิน​ม่าย​

หลิน​ม่าย​ไม่พูด​อะไร​ ปล่อย​ให้​ไป๋​ลู่​และ​ไป๋​เซี่ย​เลือก​เสื้อผ้า​ให้​เธอ​

ก่อนหน้านี้​หลิน​ม่าย​ไม่ได้​บอก​ใคร​ใน​ครอบครัว​ไป๋​ว่า​เธอ​มีบริษัท​ เนื่องจาก​เรา​ไม่ควร​คิดร้าย​ต่อ​คนอื่น​ แต่​ควรระวัง​คนอื่น​ที่​อาจ​คิดร้าย​ต่อ​เรา​

ตอนนี้​เธอ​ยัง​ไม่บอก​ เป็น​เพราะ​รู้สึก​ว่า​ตอนนี้​ยัง​ไม่ถึงโอกาส​ที่​เหมาะสม​

ยิ่งกว่านั้น​เธอ​อยาก​จะดูท่าทาง​ของ​พ่อ​ไป๋​และ​คนอื่น​ ๆ ไป​ก่อน​ จึงยัง​ไม่รีบร้อน​ที่จะ​เอ่ยถึง​เรื่อง​นี้​

หลิน​ม่าย​เดินตาม​ไป๋​ลู่​และ​ไป๋​เซี่ย​ไป​ที่​ร้าน​เสื้อผ้า​จิ่น​ซิ่ว​

สอง​พี่น้อง​เลือก​เสื้อผ้า​ให้​หลิน​ม่าย​คนละ​หนึ่ง​ชุด​ จากนั้น​บอ​กว่า​เสื้อผ้า​ที่​พวกเขา​เลือก​หลิน​ม่าย​ใส่แล้ว​ดู​ดีมาก​ ให้​หลิน​ม่าย​ซื้อ​เสื้อผ้า​ที่​ตน​เป็น​คน​เลือก​

หลิน​ม่าย​เห็น​พวกเขา​เถียง​กัน​หน้าดำหน้าแดง​ ตน​จะเลือก​ฝ่าย​ไหน​ก็​ไม่เหมาะ​ทั้งนั้น​ แบบ​นั้น​จะทำ​จะเป็น​การทำร้าย​จิตใจ​อีก​ฝ่าย​

หลิน​ม่าย​จึงทำการ​จับฉลาก​ ได้​ชุด​กระโปรง​ฤดูใบไม้ผลิ​และ​ฤดูใบไม้ร่วง​ที่​ไป๋​ลู่​เลือก​ให้​เธอ​

ไป๋​ลู่​ทั้ง​มีความสุข​และ​ภูมิใจใน​ตนเอง​

ไป๋​เซี่ย​ทำ​แก้ม​ป่อง​ หยิบ​กระเป๋าสตางค์​ออกมา​ จากนั้น​จึงซื้อ​ชุด​เด​รส​ที่​เขา​ชอบ​ให้​หลิน​ม่าย​

หลิน​ม่าย​ห้าม​ไม่ทัน​ ได้​แต่​รับ​ชุด​นั้น​มา

เธอ​ถามอย่าง​ลังเลใจ​ “พี่​คะ​ พี่​เอา​เงิน​มาซื้อ​เสื้อผ้า​ให้​ฉัน​ พี่​ยัง​มีเงิน​เหลือ​ไหม​คะ​?”

ถึงแม้ไป๋​เซี่ย​จะอายุ​ยี่สิบ​สามปี​แล้ว​ แต่​ก็​ยัง​ศึกษา​ใน​ระดับ​บัณฑิตศึกษา​อยู่​ ใน​มือ​จึงมีเงิน​ไม่มาก​

ไป๋​เซี่ย​หน้าแดง​เล็กน้อย​ เขา​มีเงิน​ไม่มาก​ แต่​เขา​จะตระหนี่​ตอน​ซื้อ​เสื้อผ้า​ให้​น้องสาว​คน​เล็ก​ไม่ได้​

เขา​จึงพูด​เป็น​เชิงตบหน้า​ตัวเอง​ให้​อ้วน​(1) “ถึงพี่ชาย​เธอ​จะมีเงิน​ไม่มาก​ แค่​เงิน​ซื้อ​เสื้อผ้า​ให้​เธอ​สอง​สามตัว​ยัง​พอ​มีบ้าง​”

หลิน​ม่าย​เห็น​แบบนี้​ก็​ไม่พูด​อะไร​อีก​

ถ้าขืน​ยัง​พูด​เรื่อง​นี้​ต่อไป​อาจจะ​ทำร้าย​จิตใจ​ของ​ไป๋​เซี่ย​

เธอ​ตั้งใจ​จะหา​โอกาส​ทดแทน​ให้​พวกเขา​ทีหลัง​

เงิน​ที่​พ่อ​ไป๋​ให้​มาสามารถ​ใช้ซื้อ​เสื้อผ้า​ได้​มากมาย​ นอกจากนี้​ไป๋​ลู่​และ​พี่ชาย​ยัง​ซื้อ​รองเท้าหนัง​แกะ​ราคา​มากกว่า​หกสิบ​หยวน​ให้​หลิน​ม่าย​อีก​คู่​หนึ่ง​

รายได้​โดยเฉลี่ย​ใน​ปักกิ่ง​โดยทั่วไป​แล้วก็​สูงกว่า​ทั่ว​ทั้ง​ประเทศ​ ค่าแรง​ของ​ลูกจ้าง​ส่วนใหญ่​มากกว่า​หนึ่งร้อย​หยวน​ขึ้นไป​

รองเท้าหนัง​แกะ​ราคา​มากกว่า​หกสิบ​หยวน​นับว่า​แพง​มาก​

หลังจาก​ซื้อ​ของ​เสร็จ​แล้ว​ ก็​เกือบจะ​ถึงเวลา​เข้าเรียน​

ทั้ง​ไป๋​ลู่​และ​ไป๋​เซี่ย​เรียน​อยู่​ที่​มหา​วิทยา​ลับ​ ถึงแม้พวกเขา​ไม่ได้​เรียน​อยู่​ที่​มหาวิทยาลัย​ชิงหวา​หรือ​มหาวิทยาลัย​ปักกิ่ง​ แต่​ก็​เป็น​นักศึกษา​ระดับ​มหาวิทยาลัย​ทุกคน​

ทั้งสอง​คน​บอกลา​หลิน​ม่าย​ จากนั้น​ก็​รีบ​ไป​มหาวิทยาลัย​เพื่อ​เข้าเรียน​

หลิน​ม่าย​กลับ​ไป​ที่​บ้าน​ เก็บ​เสื้อผ้า​และ​รองเท้า​ที่​ซื้อ​มา แล้วจึง​นำ​ใบรับรอง​หลาย​ฉบับ​ไป​ที่​มหาวิทยาลัย​ชิงหวา​ จากนั้น​ก็​ไปหา​เจ้าหน้าที่​ฝ่ายรับ​นักศึกษา​เพื่อ​ลงทะเบียน​

เจ้าหน้าที่​ฝ่ายรับ​นักศึกษา​ให้​เธอ​แสดง​จดหมายตอบรับ​เข้าเรียน​

หลิน​ม่าย​บอก​เขา​ว่า​จดหมายตอบรับ​เข้าเรียน​ส่งไป​ไม่ถึงเธอ​

เจ้าหน้าที่​ฝ่ายรับ​นักศึกษา​ผาย​มือ​ “คุณ​ไม่มีจดหมายตอบรับ​เข้าเรียน​ ผม​ก็​ดำเนินการ​ลงทะเบียน​ให้​คุณ​ไม่ได้​ เอา​แบบนี้​ คุณ​ไป​ที่​ภูมิลำเนา​ของ​คุณ​ ไป​ทำ​ใบรับรอง​มาก่อน​ เตรียม​เอกสาร​ให้​ครบถ้วน​ จากนั้น​ค่อย​มาลงทะเบียน​อีกครั้ง​”

หลิน​ม่าย​หยิบ​เอกสาร​และ​ใบรับรอง​มากมาย​ออก​มาจาก​กระเป๋า​หลุยส์​ วิ​ต​ตอง​ของ​เธอ​ “ฉัน​ไป​ทำ​ใบรับรอง​มาทุก​ประเภท​แล้ว​ค่ะ​ เอกสาร​ที่​ต้อง​เตรียม​มาก็​เตรียม​มาครบ​แล้ว​ค่ะ​”

เจ้าหน้าที่​ฝ่ายรับ​นักศึกษา​หยิบ​ใบรับรอง​และ​เอกสาร​ต่าง ๆ​ ขึ้น​มาด้วย​สีหน้า​เหลือเชื่อ​

เขา​ขมวดคิ้ว​เล็กน้อย​แล้ว​ถามด้วย​ความสงสัย​ “คุณ​ชื่อ​หลิน​ม่าย​หรือ​? ที่​จบ​จาก​โรงเรียนสาธิต​มหาวิทยาลัย​การแพทย์​ผู่​จี้จาก​เจียง​เฉิงใช่หรือไม่​?”

หลิน​ม่าย​พยักหน้า​เป็นการ​ยืนยัน​

“ถ้าอย่างนั้น​คุณ​ไม่ใช่คน​ที่​ได้​อันดับ​หนึ่ง​ใน​การ​สอบ​เข้า​มหาวิทยาลัย​ปี​นี้​หรอก​หรือ​?”

หลิน​ม่าย​พยักหน้า​อีกครั้ง​ “ใช่ค่ะ​”

เจ้าหน้าที่​ฝ่ายรับ​เข้า​ศึกษา​พึมพำ​เสียง​เบา​ “จะมีนักเรียน​ที่​สอบ​เข้า​ได้​อันดับ​หนึ่ง​สอง​คน​ได้​ยังไง​ล่ะ​เนี่ย​!”

หลิน​ม่าย​แสร้ง​ถามอย่าง​งุนงง​ “นักเรียน​ที่​สอบ​เข้า​มหาวิทยาลัย​อัน​ใด​หนึ่ง​สอง​คน​อะไร​คะ​?”

เจ้าหน้าที่​ฝ่ายรับ​เข้า​ศึกษา​ไม่ตอบคำถาม​ของ​เธอ​ แต่​ให้​เธอ​นั่ง​อยู่​ใน​ห้อง​สักครู่​ จากนั้น​เขา​ก็​ออก​ไป​สักพัก​

ใน​ตอนที่​เจ้าหน้าที่​ฝ่ายรับ​เข้า​ศึกษา​กลับ​เข้ามา​ใน​ห้องทำงาน​ ก็​นำ​ชาย​ใน​ชุด​เครื่องแบบ​พนักงานรักษาความปลอดภัย​คน​หนึ่ง​กลับมา​ด้วย​

เจ้าหน้าที่​ฝ่ายรับ​นักศึกษา​พูด​กับ​หลิน​ม่าย​ด้วย​ท่าทาง​ใจดี​ “คุณ​ไม่ต้อง​กลัว​ คน​นี้​เป็น​หัวหน้า​ฝ่าย​รักษา​ความปลอดภัย​ของ​เรา​ เขา​มาที่นี่​เพื่อ​ตรวจสอบ​ความถูกต้อง​ของ​ใบรับรอง​และ​เอกสาร​ของ​คุณ​”

หลิน​ม่าย​พยักหน้า​ “ไม่มีปัญหา​ค่ะ​ แต่​คุณ​พึ่ง​พูดว่า​มีคน​ได้รับ​อันดับ​หนึ่ง​สอง​คน​ เกิดเรื่อง​อะไร​ขึ้น​กัน​แน่​ บอก​ฉัน​ได้​ไหม​คะ​?”

เจ้าหน้าที่​ฝ่ายรับ​นัก​ศึก​คิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ จากนั้น​ก็​บอก​เธอ​ว่า​เมื่อวาน​นี้​มีนักศึกษา​ชื่อ​หลิน​ม่าย​มารายงานตัว​แล้ว​

เจ้าหน้าที่​ฝ่ายรับ​เข้า​ศึกษา​บอ​กว่า​ ข้อมูล​ของ​หลิน​ม่าย​ทั้งสอง​ตรงกัน​ นี่​ไม่ใช่ว่า​มีคน​ที่​ได้รับ​อันดับ​หนึ่ง​ใน​การ​สอบ​เข้า​มหาวิทยาลัย​สอง​คน​หรือ​?

หลิน​ม่าย​พูด​ยิ้ม​ ๆ “จะมีคน​ที่​ได้​อันดับ​หนึ่ง​ใน​การ​สอบ​เข้า​สอง​คน​ได้​อย่างไร​คะ​ จะต้อง​มีคน​หนึ่ง​เป็น​ตัวจริง​ และ​คน​หนึ่ง​เป็นตัว​ปลอม​แน่นอน​ค่ะ​ อันที่จริง​เรื่อง​นี้​แก้​ได้​ง่าย​มาก​ แค่​เชิญครูประจำชั้น​ของ​นักเรียน​ที่​สอบ​เข้า​ได้​อันดับ​หนึ่ง​มาชี้ตัว​ก็ได้​แล้ว​ไม่ใช่หรือ​คะ​? หรือไม่​ก็​เอา​ข้อสอบ​ปี​นี้​ออกมา​ให้​ฉัน​กับ​นักศึกษา​ที่​ได้​อันดับ​หนึ่ง​คน​นั้น​ทำ​อีก​ดู​อีกครั้ง​ แค่นี้​ก็​สามารถ​บอ​กว่า​ใคร​ปลอมแปลง​ตัวตน​ได้​แล้ว​”

ว่าน​ฮุ่ย​พึ่ง​เรียน​มัธยม​ปลายปี​หนึ่ง​ ปี​นี้​กำลังจะ​ขึ้น​มัธยม​ปลายปี​ที่สอง​ หลิน​ม่าย​ไม่เชื่อ​ว่า​หล่อน​จะทำ​ข้อสอบ​เข้า​มหาวิทยาลัย​ของ​ปี​นี้​ได้​

ว่าน​ฮุ่ย​คน​นี้​ช่างกล้า​จริง ๆ​ ถึงกับ​กล้า​แอบอ้าง​เป็น​นักศึกษา​ปี​หนึ่ง​

ถึงแม้ว่าน​ฮุ่ย​จะสามารถ​ฉกฉวย​ประโยชน์​ได้​จาก​ช่องโหว่​ เปลี่ยน​ข้อมูล​ส่วนตัว​ของ​เธอ​ทั้งหมด​เป็น​ของ​ตัวเอง​ จากนั้น​ใช้ประโยชน์​จาก​ความคิด​ที่ว่า​คง​ไม่มีใคร​กล้า​แอบอ้าง​เป็น​นักเรียน​ที่​ได้​อันดับ​หนึ่ง​ใน​การ​สอบคัดเลือก​เข้า​มหาวิทยาลัย​ ปะปน​เข้ามา​

แต่​ด้วย​ความรู้​ระดับ​มัธยม​ปลายปี​ที่หนึ่ง​ของหล่อน​ ถึงแม้ตน​จะไม่เปิดโปง​หล่อน​ ก็​เป็นไปไม่ได้​ที่​หล่อน​จะตาม​หลักสูตร​ทัน​หลังจาก​เข้า​มหาวิทยาลัย​ชิงหวา​ไป​แล้ว​ ผลสุดท้าย​ก็​คือ​ต้อง​ถูก​ไล่ออก​อยู่ดี​ไม่ใช่หรือ​?

สุดท้าย​ก็​กลาย​เป็นการ​ใช้ตะกร้า​ไม้ไผ่​ตัก​น้ำ​(2)

เจ้าหน้าที่​ฝ่ายรับ​นักศึกษา​คิด​สักพัก​แล้ว​พูด​ขึ้น​ “พวกเรา​มาตรวจ​เอกสาร​และ​ใบรับรอง​ของ​คุณ​และ​หลิน​ม่าย​อีก​คน​ก่อน​เถอะ​ ถ้าตัดสิน​จาก​การ​ตรวจสอบ​เอกสาร​กับ​ใบรับรอง​ได้​ว่า​ใคร​เป็น​คน​ที่​ได้​อันดับ​หนึ่ง​ใน​การ​สอบคัดเลือก​เข้า​มหาวิทยาลัย​ตัวจริง​ ก็​ไม่จำเป็นต้อง​ขอให้​อาจารย์​ลำบากลำบน​มาถึงที่นี่​ และ​ไม่จำเป็นต้อง​สอบ​ใหม่​”

หัวหน้า​ฝ่าย​รักษา​ความปลอดภัย​ตรวจสอบ​เอกสาร​และ​ใบรับรอง​ของ​หลิน​ม่าย​เป็นเวลา​นาน​ จากนั้น​พูด​กับ​เจ้าหน้าที่​ฝ่ายรับ​เข้า​ศึกษา​ “ใบรับรอง​เหล่านี้​ตอนนี้​ยัง​บอก​ไม่ได้​ว่า​เป็น​ของปลอม​ครับ​ แต่​ก็​มีความเป็นไป​ได้ที่​เทคโนโลยี​ที่​ใช้ใน​การ​ปลอมแปลง​สูงมาก​ ไม่สามารถ​ยืนยัน​ได้​ว่า​เป็น​ของจริง​ครับ​”

ยุค​นี้​ล้าหลัง​เกินไป​ การ​ตรวจสอบ​เอกสาร​ทั้งหมด​ต้อง​อาศัย​สายตา​ของ​มนุษย์​ทั้งหมด​

อย่าง​ที่​หัวหน้า​ฝ่าย​รักษา​ความปลอดภัย​บอก​ ถ้ามีคน​ที่​ใช้เทคโนโลยี​ปลอมแปลง​ขั้นสูง​ ก็​ไม่สามารถ​มองออก​ด้วย​ตาเปล่า​

เจ้าหน้าที่​ฝ่ายรับ​เข้า​ศึกษา​พยักหน้า​ “ผม​จะไปหา​เอกสาร​ของ​หลิน​ม่าย​อีก​คน​มาตรวจสอบ​ดู​”

ใบรับรอง​และ​เอกสาร​ของ​หลิน​ม่าย​คน​นี้​ดู​ไม่ออ​กว่า​เป็น​เอกสาร​ปลอม​ ดังนั้น​มีความเป็นไปได้​ที่จะ​เป็น​ฉบับ​จริง​สูงมาก​

ใบรับรอง​ของ​หลิน​ม่าย​อีก​คน​เป็นไปได้​ที่จะ​เป็น​เอกสาร​ปลอม​

เขา​กำชับ​หลิน​ม่าย​ ว่า​ถ้าเรื่อง​นี้​ยัง​ไม่ได้​ตรวจสอบ​ให้​ชัดเจน​ ก็​ยัง​ไม่สามารถ​ให้​เธอ​ออก​ไป​จาก​ห้อง​ได้​

ว่า​กัน​ตามเหตุผล​แล้ว​เจ้าหน้าที่​ฝ่ายรับ​เข้า​ศึกษา​ทำ​แบบนี้​ไม่ถูกต้อง​ มหาวิทยาลัย​ไม่ใช่หน่วยงาน​บังคับใช้​กฎหมาย​ ย่อม​ไม่มีสิทธิ​ลิดรอน​เสรีภาพ​ของ​คนอื่น​

แต่​หลิน​ม่าย​รู้​ว่า​เจ้าหน้าที่​ฝ่ายรับ​เข้า​ศึกษา​ไม่ได้​มีเจตนาร้าย​ เพียงแค่​คนใน​ยุค​นี้​ไม่ได้​รู้​กฎหมาย​มาก​นัก​ ไม่รู้​ว่า​นี่​คือ​การ​จำกัด​เสรีภาพ​ส่วนบุคคล​ที่​ผิดกฎหมาย​

ดังนั้น​เธอ​จึงไม่โต้แย้ง​อะไร​ ตอบ​ตกลง​อย่าง​เชื่อฟัง​

ตั้งแต่​ว่าน​ฮุ่ย​ล้มเหลว​ใน​การ​สอบ​เข้า​โรงเรียนมัธยม​ เรื่อง​นี้​ก็​กลายเป็น​เงามืด​ใน​จิตใจ​ของหล่อน​มาโดยตลอด​ ยิ่ง​อยาก​เรียน​ให้​เก่ง​เท่าใด​ ก็​ยิ่ง​เรียน​ไม่เข้า​สมอง​ ผลการเรียน​ย่ำแย่​ลง​เรื่อย ๆ​

นี่​ไม่ใช่สิ่งที่​หล่อน​เกลียด​ที่สุด​ แต่​สิ่งที่​หล่อน​เกลียด​มากกว่า​ คือ​ผลการเรียน​ของ​ว่าน​เสีย​น​พี่สาว​ของหล่อน​กลับ​ดีขึ้น​เรื่อย ๆ​

อย่างไรก็ตาม​อาจารย์​ของ​มหาวิทยาลัย​ทางไกล​ของ​พวกเขา​ก็​เปิดเผย​ข่าว​ว่า​ ถึงแม้ว่าน​เสีย​น​และ​นักศึกษา​ปี​นี้​จะไม่ได้​รับประกัน​การมีงานทำ​ แต่​ก็​มีหน่วยงาน​ของ​รัฐ​บางแห่ง​ทำ​ข้อตกลง​กับ​มหาวิทยาลัย​ทางไกล​ นักเรียน​ที่​ผลการเรียน​ดี​ครึ่งหนึ่ง​จะถูก​คัดเลือก​ หลังจาก​ผ่าน​ระยะเวลา​ทดลอง​งาน​แล้ว​ พวกเขา​ก็​จะได้​เป็น​พนักงานประจำ​

ด้วย​ผลการเรียน​ปัจจุบัน​ของ​ว่าน​เสีย​น​ ขอ​แค่​ผลการเรียน​ของหล่อน​ไม่ตก​ หล่อน​จะต้อง​ถูก​หน่วยงานรัฐ​จ้างหลัง​เรียนจบ​แน่นอน​ อย่าง​น้อย​ในอนาคต​ก็​จะได้​เป็น​ข้าราชการ​เล็ก​ ๆ

เมื่อ​เปรียบเทียบ​พี่สาว​น้องสาว​สอง​คน​แล้ว​ แน่นอน​ว่า​แม่ว่าน​จะต้อง​ขัดหู​ขัดตา​ว่าน​ฮุ่ย​มากกว่า​เดิม​

อยู่​ที่​บ้าน​ทุกวัน​ก็​เอาแต่​ต่อว่า​ด่าทอ​หล่อน​ บอ​กว่า​การเรียน​ของหล่อน​ทำให้​เปลืองเงิน​เปล่า​ ๆ

เงิน​ที่​ครูประจำชั้น​และ​ครู​คนอื่น​ ๆ ให้​ว่าน​ฮุ่ย​เป็น​ทุนการศึกษา​ เพียง​พอให้​หล่อน​เรียน​แค่​หนึ่ง​ปี​เท่านั้น​

หล่อน​กำลังจะ​ขึ้น​มัธยม​ปลายปี​ที่สอง​แล้ว​ กลับ​ไม่มีค่า​เทอม​ หวัง​ให้​พ่อแม่​ของ​ตน​จ่าย​ให้​ นั่น​เป็นเรื่อง​ที่​เป็นไปไม่ได้​เลย​

แม่ว่าน​อยาก​ให้​หล่อน​เป็น​ลูกจ้างชั่วคราว​ของ​โรงงาน​รัฐ​เพื่อ​หาเงิน​ให้​พี่สาว​กับ​น้องชาย​เรียน​ ว่าน​ฮุ่ย​จะยอม​ได้​อย่างไร​?

หล่อน​พยายาม​ทุก​วิธี​เพื่อ​หาเงิน​

ไม่ว่า​จะเป็น​แอบ​แคะ​มุมกำแพง​ห้อง​ของ​พี่สาว​ หรือว่า​ตามตื๊อ​หลี่หมิง​เฉิง ก็​ไม่ได้เงิน​แม้แต่​เฟิน​เดียว​

หล่อน​ร้อนรน​กระวนกระวาย​ราวกับ​มด​ที่อยู่​ใน​กระทะ​ร้อน​ ๆ เมื่อ​อยู่​ที่​โรงเรียน​ หล่อน​ก็​เห็น​หลิน​ม่าย​ที่​ภาคภูมิใจ​กับ​คะแนน​สอบ​เข้า​มหาวิทยาลัย​สูง ๆ ของ​เธอ​

หล่อน​คิด​ว่า​มัน​ช่างระคายเคือง​ลูกตา​หล่อน​เหลือเกิน​ ดังนั้น​จึงอยาก​เล่นลูกไม้​กับ​หลิน​ม่าย​ จึงไป​ที่​ไปรษณีย์​เพื่อ​รับ​จดหมายตอบรับ​เข้าเรียน​ของ​หลิน​ม่าย​

อยาก​จะลอง​ทำลาย​จดหมายตอบรับ​เข้าเรียน​ของ​เธอ​ ดู​ซิว่า​หลิน​ม่าย​จะไป​รายงานตัว​ที่​มหาวิทยาลัย​ชิงหวา​อย่างไร​

แต่​เมื่อ​คิด​ว่า​ตน​จะไม่มีโอกาส​ได้​เรียน​อีกแล้ว​ หลิน​ม่าย​กลับ​ได้​ไป​เรียน​ที่​มหาวิทยาลัย​ชิงหวา​ และ​ในอนาคต​พี่สาว​ของหล่อน​กำลังจะ​ได้​เป็น​ข้าราชการ​เล็ก​ ๆ

ทันใดนั้น​หล่อน​นึก​อยาก​ลอง​เสี่ยง​ดวงขึ้น​มา วางแผน​ที่จะ​ไป​ที่​มหา​วิทยา​ลับ​ชิงหวา​ภายใต้​ชื่อ​ของ​หลิน​ม่าย​

ถึงอย่างไร​หล่อน​ก็​ไม่มีอะไร​จะเสียแล้ว​ ถึงแม้จะแทนที่​ไม่ได้​ อย่าง​มาก​ก็​แค่​กลับ​ไป​ที่​เดิม​

แต่​ถ้าแทนที่​ได้​สำเร็จ​ ก็​จะได้​เป็น​นักศึกษา​ของ​มหาวิทยาลัย​ชิงหวา​ ดู​ซิว่า​พ่อแม่​จะกล้า​ดูถูก​หล่อน​อีก​หรือไม่​

ด้วย​ความคิด​เช่นนี้​ อันดับ​แร​กว่าน​ฮุ่ย​ก็​ใช้วาทศิลป์​ของหล่อน​หลอก​แม่ว่าน​

บอ​กว่า​ตราบใดที่​หล่อน​ได้​เข้า​มหาวิทยาลัย​ชิงหวา​ ไม่ต้อง​เอ่ย​ถึงว่า​จะมีอนาคต​ที่​แสน​สดใส​ แม้แต่​ค่า​เทอม​และ​ค่าใช้จ่าย​ใน​ชีวิตประจำวัน​ครอบครัว​ก็​ไม่ต้อง​ออก​ด้วยซ้ำ​

แค่​ให้​แม่ว่าน​ซื้อ​เสื้อผ้า​ดี ๆ​ ให้​หล่อน​ หล่อน​จะไม่ได้​ถูก​เพื่อนร่วมชั้น​ดูถูก​เพราะ​มอซอ​เกินไป​ใน​ตอนที่​ไป​มหาวิทยาลัย​

แม่ว่าน​คิด​ว่า​ถึงอย่างไร​การเรียน​มหาวิทยาลัย​สี่ปี​ก็​ไม่จำเป็นต้อง​ใช้เงิน​จาก​ครอบครัว​แม้แต่​แดง​เดียว​ และ​ในวันหน้า​ว่าน​ฮุ่ย​อนาคต​ไกล​ ยัง​สามารถ​ช่วยเหลือ​น้องชาย​ของหล่อน​ได้​อีก​

ดังนั้น​จึงทำ​ตามที่​หล่อน​ต้องการ​ ซื้อ​เสื้อผ้า​ชุด​ใหม่​ให้​หล่อน​ อีก​ทั้ง​ยัง​ให้​ค่าใช้จ่าย​ใน​การ​เดินทาง​ไป​ยัง​ปักกิ่ง​

ใน​ตอนที่​มาถึงปักกิ่ง​ ว่าน​ฮุ่ย​ก็​ไม่ใจร้อน​

ในทางตรงกันข้าม​หล่อน​คอย​สังเกต​สถานการณ์​อย่าง​ลับ​ ๆ เป็นเวลา​สิบ​วัน​ ก็​ไม่มีวี่แวว​ว่า​หลิน​ม่าย​จะมารายงานตัว​

คิด​ว่า​เพราะ​เธอ​ไม่ได้รับ​จดหมายตอบรับ​เข้าเรียน​ จึงคิด​ว่า​ตัวเอง​พลาด​สิทธิ์​แล้ว​ ดังนั้น​จึงไม่มารายงานตัว​ที่​มหาวิทยาลัย​ชิงหวา​

ไมแปลกใจ​ว่า​ถึงแม้คะแนน​สอบ​เข้า​มหาวิทยาลัย​จะสูงมาก​ แต่​ก็​มัก​มีคน​ที่​พลาด​สิทธิ์​เพราะ​เขียนแบบ​แสดง​ความประสงค์​เข้า​มหาวิทยาลัย​(3)ไม่เป็นอยู่​ทุกปี​ ซึ่งไม่ใช่เรื่อง​น่า​ประหลาดใจ​

ตั้งแต่​เริ่มต้น​การ​สอบคัดเลือก​เข้า​มหาวิทยาลัย​ เนื่องจาก​ขาด​ความต่อเนื่อง​ของ​ข้อมูล​ ทำให้​มีนักเรียน​แอบอ้าง​ตัวตน​แทบ​ทุกปี​

นักศึกษา​หลาย​ ๆ คน​หมด​สิทธิ์​ไป​เพราะ​จดหมายตอบรับ​เข้าเรียน​ของ​พวกเขา​ถูก​คน​สวมรอย​ เนื่องจาก​ไม่ได้รับ​จดหมายตอบรับ​เข้าเรียน​ จึงคิด​ว่า​ตน​มีคะแนน​ไม่เข้าเกณฑ์​มหาวิทยาลัย​

จนกระทั่ง​ผ่าน​ไป​หลาย​ปี​ถึงจะรู้​ว่า​มีคน​แอบอ้าง​เป็น​ตัวเอง​ ก็​ไม่สามารถ​เปลี่ยนแปลง​อะไร​ได้​แล้ว​

เพราะ​คน​ที่​สวมรอย​เรียนจบ​โรงเรียนอาชีวศึกษา​หรือ​มหาวิทยาลัย​ไป​แล้ว​ ได้รับ​ใบรับรอง​การ​จบ​การศึกษา​ เริ่ม​ทำงาน​ และ​กลาย​มาเป็น​คน​ที่​มีความสามารถ​ที่​สังคม​ต้องการ​ไป​แล้ว​

ส่วน​คน​ที่​ถูก​ขโมย​โอกาส​ใน​การศึกษา​เล่าเรียน​ ก็​กลาย​มาเป็น​คนไร้ความสามารถ​

ถึงแม้จะวิ่ง​ไป​ป่าวประกาศ​เรื่อง​ตัวเอง​ ก็​ไม่สามารถ​ดึงดูด​ความสนใจ​ของ​ใคร​ได้​ ทำได้​เพียง​ยอมรับ​ความ​โชคร้าย​ของ​ตัวเอง​

ว่าน​ฮุ่ย​กล้า​สวมรอย​หลิน​ม่าย​ก็​อาศัย​ความจริง​ข้อ​นี้​

ขอ​แค่​หล่อน​เรียน​ที่​มหาวิทยาลัย​ชิงหวา​ให้​จบ​สี่ปี​ หลังจาก​ได้รับ​ใบ​ปริญญา​แล้ว​ หล่อน​ก็​จะกลายเป็น​คน​มีประโยชน์​ต่อ​ประเทศ​และ​สังคม​

หาก​หลิน​ม่าย​อยาก​จะฉุด​หล่อน​ให้​ตกต่ำ​ ก็​เป็น​แค่​ฝันกลางวัน​เท่านั้น​

ถึงอย่างไร​การ​ที่​ประเทศ​จะฝึกฝน​คน​มีความสามารถ​ขึ้น​มาหนึ่ง​คน​ก็​ไม่ใช่เรื่อง​ง่าย​ อีก​อย่าง​คนเก่ง​ก็​เป็นที่ต้องการ​ จะลงโทษ​คน​มีความสามารถ​ได้​อย่างไร​?

ว่าน​ฮุ่ย​มีความสุข​กับ​ช่วงเวลา​ดี ๆ​ ที่​ตน​ขโมย​มาอย่าง​สบายใจ​เฉิบ​ขณะที่​เรียน​อยู่​ที่​มหาวิทยาลัย​ชื่อดัง​แห่ง​นี้​

สนุกสนาน​กับ​เพื่อน​ร่วม​มหาวิทยาลัย​ รับน้อง​อย่าง​มีความสุข​

สิ่งที่​หล่อน​กังวล​ใน​ตอนนี้​มีเพียง​อย่าง​เดียว​คือ​ ตอนนี้​หล่อน​พึ่ง​อยู่​มัธยม​ปลายปี​ที่หนึ่ง​ ในขณะที่​หลิน​ม่าย​เลือก​วิชาเอก​วิ​ศก​รร​มอิเล็กทรอนิกส์​และ​สารสนเทศ​

วิชาเอก​นี้​มีคน​เลือก​น้อย​มาก​ กล่าว​ได้​ว่า​มัน​ยาก​มาก​

แบบนี้​หล่อน​จะเรียน​เข้าใจ​ได้​อย่างไร​?

ดูเหมือน​มีแต่​ต้อง​เรียน​ให้​หนัก​มากขึ้น​เท่านั้น​

ขณะที่​ว่าน​ฮุ่ย​และ​เพื่อน​ของหล่อน​กำลัง​เข้า​พิธี​รับน้อง​ เจ้าหน้าที่​รับ​เข้า​ศึกษา​ก็​เรียก​หล่อน​ออก​มาจาก​กลุ่ม​

ให้​หล่อน​แสดง​จดหมายตอบรับ​เข้าเรียน​ สำเนาทะเบียนบ้าน​ และ​เอกสาร​อื่น​ ๆ ออกมา​

ลางสังหรณ์​พลัน​ผุด​ขึ้น​ใน​ใจของ​ว่าน​ฮุ่ย​ หล่อน​ข่ม​ความ​ตระหนก​ไว้​ใน​ใจแล้ว​ถาม “ทำไม​ถึงต้องการ​เอกสาร​พวก​นี้​คะ​?”

เจ้าหน้าที่​ฝ่ายรับ​เข้า​ศึกษา​บอก​ตรง ๆ​ “เพราะ​มีหลิน​ม่าย​อีก​คน​มารายงานตัว​น่ะ​สิ พวกเรา​ต้อง​ตรวจสอบ​ว่า​ใคร​เป็น​ตัวจริง​ ใคร​สวมรอย​มา”

ใน​ใจของ​ว่าน​ฮุ่ย​ตื่นตระหนก​มาก​ นึกไม่ถึง​ว่า​ตอนที่​หล่อน​กำลัง​สวมรอย​ หลิน​ม่าย​จะตลบหลัง​จู่โจมหล่อน​แบบนี้​

ถ้าไม่ใช่เพราะ​แผน​ของหล่อน​ไม่มีใคร​รู้​ หล่อน​คง​คิด​ว่า​หลิน​ม่าย​กำลัง​ขุด​หลุม​รอ​ให้​ตน​กระโดด​ลง​ไป​แล้ว​

ถึงแม้ใน​ใจหล่อน​จะสั่น​ไหว​อย่าง​รุนแรง​ แต่​ภายนอก​กลับ​นิ่ง​สงบ​ รีบ​ไป​ที่​หอพัก​นักศึกษา​เพื่อ​เอา​เอกสาร​ทันที​

ผ่าน​ไป​สักพัก​ หล่อน​ก็​มาที่​ห้อง​ของ​เจ้าหน้าที่​รับ​เข้า​ศึกษา​พร้อมกับ​สอง​มือ​ที่ว่างเปล่า​ แล้ว​บอก​เขา​ด้วย​ความ​ตื่นตกใจ​ว่า​หอพัก​นักศึกษา​ของ​พวก​เธอ​ถูก​ขโมย​ขึ้น​และ​บัตรประจำตัว​ของหล่อน​ก็​หาย​ไป​แล้ว​

เจ้าหน้าที่​รับ​เข้า​ศึกษา​ไม่ได้​ไร้​สมอง​ เขา​บอ​กว่า​เขา​อยาก​ตรวจสอบ​เอกสาร​ จากนั้น​ว่าน​ฮุ่ย​ก็​บอ​กว่า​เอกสาร​ของหล่อน​ถูก​ขโมย​ไป​หมด​แล้ว​ ใคร​จะเชื่อ​!

หัวขโมย​จะขโมย​บัตรประจำตัว​ของหล่อน​ไป​ทำไม​? มัน​ขาย​แลก​เงินได้​หรือไง​?

เจ้าหน้าที่​ฝ่ายรับ​เข้า​ศึกษา​ยืนยัน​ได้​ทันที​ว่า​ว่าน​ฮุ่ย​เป็นตัว​ปลอม​

แต่​ตอนนี้​เขา​ยัง​ไม่มีหลักฐาน​ จะยืนกราน​ว่า​หล่อน​เป็น​คน​สวมรอย​นั้น​ไม่ง่าย​เลย​

เขา​จึงขู่​ว่าน​ฮุ่ย​ด้วย​สีหน้า​ใจดี​ “ไม่เป็นไร​ ผม​ได้​แจ้งครูประจำชั้น​ของ​คุณ​แล้ว​ว่า​ให้​บิน​มาปักกิ่ง​พรุ่งนี้​ เพื่อ​ชี้ตัว​ว่า​ใคร​เป็น​หลิน​ม่าย​ตัวจริง​”

ว่าน​ฮุ่ย​หน้าเผือดสี​ทันที​

เจ้าหน้าที่​ฝ่ายรับ​เข้า​ศึกษา​พูด​ต่อ​ “คุณ​บอ​กว่า​ห้องพัก​นักศึกษา​ของ​คุณ​ถูก​ขโมย​ขึ้น​ใช่ไหม​? งั้น​ผม​จะไป​แจ้งความ​ ให้​ตำรวจ​มาตรวจสอบ​ หัวขโมย​ต้อง​ถูกจับ​และ​ถูก​ลงโทษ​ตามกฎหมาย​ ให้​เขา​ถูกกฎหมาย​ลงโทษ​ ผม​จะไม่ให้​นักศึกษา​ที่​ไร้ศีลธรรม​อยู่​ใน​มหาวิทยาลัย​ของ​เรา​เป็นอันขาด​!”

หลังจากนั้น​ก็​หันหลัง​จากไป​

เป็น​สำนวน​ แปล​ว่า​พยายาม​ทำให้​ตัวเอง​ดู​มีฐานะ​ทั้งที่​จริงๆ​ แล้ว​ยากจน​ เหมือนกับ​การ​ตบหน้า​ตัวเอง​ให้​บวม​เพื่อให้​ดูเหมือน​คน​อ้วน​ที่​อยู่ดีกินดี​

เป็น​สำนวน​ แปล​ว่า​กระทำ​เรื่อง​บางอย่าง​แล้ว​ได้​ผลลัพธ์​สูญเปล่า​

แบบ​แสดง​ความประสงค์​เข้า​มหาวิทยาลัย​ เป็น​แบบฟอร์ม​ที่​ต้อง​กรอก​มหาวิทยาลัย​และ​คณะ​ที่​อยาก​เข้า​หลังจาก​ผ่าน​การ​สอบคัดเลือก​เข้า​มหาวิทยาลัย​แล้ว​ หลังจาก​ผล​คะแนน​ออก​ก็​เลือก​ไป​มหาลัย​ที่​ตรง​ตาม​คะแนน​ของ​ตัวเอง​

สาร​จาก​ผู้แปล​

ของ​ที่​ไม่ใช่ของ​เธอ​ ต่อให้​ขโมย​มามัน​ก็​กลับ​ไป​อยู่​ใน​มือ​เจ้าของ​ตัวจริง​อยู่ดี​จ้ะยัย​ว่าน​ฮุ่ย​ จงโดน​ไล่ออก​ไป​ซะ

ไหหม่า​(海馬)

แม่ปากร้ายยุค​ 80 [八零辣妈飒爆了]

แม่ปากร้ายยุค​ 80 [八零辣妈飒爆了]

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท