บทที่ 631 สหายรังเกียจข้า ดังนั้นข้าจึงทิ้งเจ้าวิ่งหนี นี่ไม่เกินไปหรอกกระมั้ง!
ดุร้ายเกินไปแล้ว เจ้าหลวงกลัวจนแทบปัสสาวะราด มือสั่นจนไม่อาจถือดาบยาวเอาไว้ได้ สิ่งเหล่านี้คืออะไรกัน? กระทั่งสิ่งมีชีวิตพิศวงขนสีเทาลุยเองก็ไม่อาจทำสิ่งใดได้ ประหนึ่งแตงถูกผ่าภายในพริบตา!
พรวด!
หมอกโลหิตกระเซ็น สิ่งมีชีวิตพิศวงขนเทาอีกตัวถูกสังสาร สสารพิศวงสลายหายไป ตายลงอย่างสมบูรณ์
ผู้ที่ลงมือคือสิ่วที่มีรูปร่างคล้ายพลั่วหกเล่มพุ่งเข้าโจมตีกันทุกทิศทาง สิ่งมีชีวิตพิศวงขนสีเทาถูกสังหารตายทันทีอย่างไม่อาจต้านทานได้เลยแม้แต่น้อย!
พริบตาต่อมา สิ่งมีชีวิตพิศวงขนสีเทาอีกตัวก็สิ้นชีพลงทันที มีดแกะสลักทั้งเก้าเล่มดุร้ายน่าสะพรึงกลัว สิ่งมีชีวิตพิศวงขนสีเทายังไม่ทันแม้จะได้ตอบสนอง ไม่รู้เสียด้วยซ้ำว่าตายเช่นไร และถูกผู้ใดสังหาร!
“จอบเซียนผู้เที่ยงธรรมมาแล้ว ความชั่วร้ายจะถูกจำกัดสิ้น!”
จอบเซียนดูน่าเกรงขามชวนหวาดหวั่น การลงมือเรียกได้ว่าโหดเหี้ยมไร้ผู้ต้านทาน สิ่งมีชีวิตพิศวงขนสีทองที่ต่อกรด้วยราวกับเต้าหู้ ตายสนิททันทีที่ถูกทุบลงไป!
โลหิตสาดกระเซ็น ชิ้นเนื้อปลิวกระจาย เหล่าของวิเศษนั้นไร้เทียมทาน กระทั่งสิ่งมีชีวิตพิศวงขนสีเทาที่แข็งแกร่งที่สุดก็ไม่อาจจะสร้างผลกระทบอันใดได้ ถูกกวาดล้างจนหมดสิ้นภายในชั่วพริบตา!
สิ่งมีชีวิตพิศวงขนสีเทาที่แข็งแกร่งที่สุดราวกับเป็นแตง ถูกสังหารทิ้งภายในพริบตาเดียว ไม่ต้องพูดถึงสิ่งมีชีวิตพิศวงที่ระดับต่ำกว่า สิ่งมีชีวิตพิศวงขนสีเขียวตายก่อนครบชั่วพริบตาเสียด้วยซ้ำ ยกเว้นเจ้าหลวงแล้ว สิ่งมีชีวิตพิศวงขนสีเทา สีเขียว และสีขาวล้วนถูกกวาดล้างจนหมดสิ้น!
“อ...อะไรกัน!”
“สวรรค์ จะเดือดเกินไปแล้ว!”
สิ่งมีชีวิตทั้งหมดในอาณาจักรอวี้ซวีตื่นตกใจจนหนังศีรษะชาหนึบ จิตวิญญาณสั่นสะท้าน นิ่งค้างพูดอันใดไม่ออก!
สิ่งมีชีวิตพิศวงจำนวนมากถึงเพียงนั้น กลับถูกกำจัดสิ้นในชั่วพริบตา เครื่องใช้เหล่านั้นคือสิ่งใดกันแน่!
เครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน…นี่แสดงให้เห็นว่าต้องมีผู้ใช้งานเครื่องใช้เหล่านี้
คนผู้นั้นคือใครกัน?
พวกเขาไม่อาจจินตนาการได้ เครื่องใช้เหล่านี้ล้วนน่าสะพรึงกลัว พลังล้ำลึกยากหยั่งถึง เช่นนั้นแล้วเจ้าของเครื่องใช้เหล่านี้จะน่าหวาดหวั่นถึงเพียงใด?!
จะต้องเป็นตัวตนที่ยิ่งใหญ่เพียงใด!
พวกเขาอดคิดขึ้นมาไม่ได้ บางทีต้นหลิวไร้เทียมทานอาจถูกปลูกโดยผู้ยิ่งใหญ่ท่านนั้น?
ฟิ้ว!
มัจฉาสัตมายาทะยานขึ้นไปบนเวหา จัดการพลังที่พันธนาการชางเหยาออกไป จากนั้นก็รับชางเหยามาไว้ในอ้อมแขน แล้วกลับไปทางเหล่าของวิเศษ
“พี่มู่ชวน ท่านยอดเยี่ยมเสียจริง ข้ารู้ดีว่าพี่ชวนนั้นเป็นวีรบุรุษที่ไม่มีผู้ใดเทียบได้ และเป็นผู้ที่จะมาช่วยเหลือข้าเอาไว้!”
ชางเหยาที่อยู่ในอ้อมแขนของมัจฉาสัตมายา เอ่ยออกมาด้วยเสียงนุ่มนวล
คนผู้นี้คือชายที่นางชื่นชอบ ชื่นชอบตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เห็น
“ข้า…ไม่ได้ยอดเยี่ยม! ที่ยอดเยี่ยมคือเหล่าพี่ชายพี่สาวต่างหาก ข้ายังไม่ได้ลงมือแม้แต่น้อย!”
มัจฉาสัตมายาปฏิเสธออกมาทันที
“ถ้าไม่มีพี่ชวน เหล่าพี่ชายพี่สาวก็ไม่มาหรอก! ดังนั้นแล้วพี่ชวนยังคงสุดยอดอยู่ดี!”
ชางเหยาซบอกอย่างมีความสุขภายในอ้อมแขนของมัจฉาสัตมายา ความเจ็บปวดบนร่างกายที่รู้สึกได้ก่อนหน้านี้ถูกย้อมด้วยความรู้สึกหวานละมุนแทน นางหวังว่าตนเองจะถูกมัจฉาสัตมายากอดเอาไว้เช่นนี้ตลอดไป
“พี่ชายพี่สาว พวกท่านโปรดช่วยรักษาบาดแผลให้ชางเหยาด้วยเถิด!”
มัจฉาสัตมายามองขึ้นไปยังไม้ประดับที่ลอยอยู่ด้านบน ในแววตาปรากฏคำวิงวอนของความช่วยเหลือ
มันต้องการให้ไม้ประดับช่วยรักษาอาการบาดเจ็บให้ชางเหยา เช่นนั้นแล้วมันก็ไม่จำเป็นต้องอุ้มชางเหยาเอาไว้อีก
แต่มันก็ไม่คาดคิดว่าเหล่าไม้ประดับจะไม่สนใจตัวมันเลย ต่างพากันพูดคุยอย่างประดักประเดิด
“วันนี้อากาศดีเสียจริง!”
“ใช่แล้ว ใช่แล้ว หากมีฝนตกอีกสักหน่อยคงจะสมบูรณ์แบบ”
เหล่าไม้ประดับจะมองไม่เห็นความชอบที่ชางเหยามีต่อมัจฉาสัตมายาได้อย่างไร อีกทั้งพวกมันก็มองออกมามัจฉาสัตมายาเองก็มีใจให้ชางเหยา
ไม่เช่นนั้น มัจฉาสัตมายาคงวางชางเหยาลงบนพื้นแล้ว ไม่จำเป็นต้องอุ้มเอาไว้เช่นนี้
พูดให้ชัดเจนก็คือมัจฉาสัตมายาใส่ใจชางเหยาเกินธรรมดา
“ขอบคุณพี่ชายพี่สาว!”
ปากเล็ก ๆ ของชางเหยาหวานเป็นอย่างยิ่ง เอ่ยขอบคุณเหล่าไม้ประดับด้วยเสียงหวานราวน้ำผึ้ง
อีกด้านหนึ่ง เจ้าหลวงกำลังยืนตัวสั่นเทา ตอนนี้เหลือมันอยู่เพียงผู้เดียวแล้ว
“สหายรีบมาเร็วเข้าเถิด!”
มันรีบขอความช่วยเหลือจากจ้าวตะเข้อีกครั้ง ร้องขอให้จ้าวตะเข้รีบมา หัวใจของมันแทบจะอดทนไม่ไหว มันจะสามารถยื้อเวลาจนกว่าจ้าวตะเข้จะมาได้หรือไม่?
“จะลงโทษมันอย่างไรดี?”
“มันส่งเสียงออกมามากที่สุด เช่นนั้นก็น่าจะเป็นตัวหัวหน้า คงไม่อาจปล่อยมันไปได้ใช่หรือไม่?”
“ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น! พวกเรากว่าจะออกมาได้สักคราไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นจะกลับไปทั้งเช่นนี้ไม่ได้”
เหล่าของวิเศษแย่งกันพูดออกมา ไม่มีความคิดจะฆ่าเจ้าหลวงโดยง่าย และต้องการจะ ‘เล่น’ กับเจ้าหลวง
อย่างไรเสียก็ไม่ง่ายเลยที่จะได้ออกมา จะจบการเล่นสนุกแล้วกลับไปเลยก็ชวนให้เสียดายแย่
“ตกลง!”
ไม้เขี่ยฟืนตอบกลับคนแรก มันประหนึ่งผีสาง ปรากฏตัวด้านหลังเจ้าหลวงภายในพริบตา ก่อนจะตีก้นของเจ้าหลวง
“อ๊าก!”
เจ้าหลวงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ก้นที่ถูกตีรู้สึกเหมือนแยกออกเป็นแปดส่วน ปวดร้อนไปจนถึงขั้วหัวใจ!
โป๊ก!
กระบวยไม้พุ่งเข้าไปตีศีรษะของเจ้าหลวง ทำให้หัวของเจ้าหลวงบวมเป่ง
“เจ้าดูอัปลักษณ์เป็นอย่างมาก ให้พวกเราช่วยแปลงโฉมให้เจ้าเถิด!”
เครื่องมือแกะสลักครบชุดพุ่งเข้ามา เพื่อแปลงโฉมให้เจ้าหลวง จับมันแกะสลักราวกับเป็นหินก้อนหนึ่ง
“!!!”
ชั่วขณะนั้นเอง เจ้าหลวงก็ได้สัมผัสถึงความรู้สึกที่ว่าอยู่ไม่สู้ตาย!
อย่างไรก็ตาม มันยัง ‘ด้อยประสบการณ์’ เกินไป ไม่รู้ว่าเหตุการณ์ถัดจากนี้ต่างหากที่เป็นการอยู่ไม่สู้ตายอย่างแท้จริง!
ถังขยะลอยขึ้นมาอยู่บนเหนือหัวมันตรง ๆ กลิ่นระเบิดออกมาทำให้น้ำตาของมันไหลอาบหน้า นี่คือการอยู่ไม่สู้ตายอย่างแท้จริง แม้จะปิดกั้นประสาทการรับกลิ่นไปก็ไร้ผล กลิ่นเหม็นเน่าตรงเข้าสู่ส่วนลึกของจิตวิญญาณ!
จากนั้นเหล่าสมบัติทั้งหมดก็ตามมาเล่นสนุก เจ้าหลวงร้องไห้จนไร้น้ำตาแล้ว มันรู้สึกเจ็บปวดจนมีความคิดอยากจะตายเป็นร้อยครั้ง!
“บังอาจ! สหายที่แสนดีของข้า!”
ยังดีที่จ้าวตะเข้มาถึงแล้ว เมื่อเห็นว่าเจ้าหลวงกำลังถูกทรมาน มันก็ลงมืออย่างดุเดือดเพื่อช่วยเหลือเจ้าหลวงทันที
“ในที่สุดท่านก็มาถึงแล้ว!”
เจ้าหลวงรู้สึกตื่นเต้นดีใจราวกับสวรรค์มาโปรด กอดจ้าวตะเข้ร่ำไห้ น่าเสียดายที่น้ำตาของมันไม่ไหลออกมาแม้แต่นิดเดียว ทำให้เป็นการร้องไห้แห้ง ๆ
“นี่…สหาย พวกเรารักษาระยะห่างกันไว้ก่อนเถิด!”
จ้าวตะเข้วิ่งหนีออกห่างจากเจ้าหลวง ร่างกายของเจ้าหลวงเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นเน่า มันไม่อาจทนได้จริง ๆ เพียงแค่ได้กลิ่นก็อยากอาเจียนเอาเครื่องในออกมา
“สหายท่านรังเกียจข้า!”
เจ้าหลวงยิ่งร้องไห้หนักกว่าเดิม เจ็บปวดราวกับมีมีดเสียดแทงหัวใจ น่าเสียดายที่ยังคงไม่มีน้ำตาไหลออกมา
“ไม่…ไม่ใช่เช่นนั้น เหตุผลก็เพราะไม่อาจทนกลิ่นบนตัวเจ้าได้ไหวจริง ๆ!”
จ้าวตะเข้รีบอธิบาย บัดซบ แม้ปิดกั้นประสาทสัมผัสการรับกลิ่นไปแล้วก็ไม่ได้ผล กลิ่นน้ำเน่านั้นพุ่งตรงเข้าไปยังส่วนลึกของจิตวิญญาณ
“สหายคอยดูให้ดี วันนี้ข้าจะล้างแค้นให้เจ้าเอง!”
จ้าวตะเข้ไม่ได้สนทนาในหัวข้อนี้ต่อ หันไปจับจ้องทางเหล่าของวิเศษด้วยจิตสังหารบนร่าง
มันแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ลมหายใจที่แผ่ออกมาสะท้านฟ้าสะเทือนดิน กดดันจนทำให้ผู้คนหายใจไม่ออก สสารพิศวงสีดำกระโดดโลดเต้นราวกับเปลวเพลิงสีดำ ประหนึ่งสามารถแผดเผาท้องนภาได้!
ร่างกายของมันเป็นจระเข้ แต่ทั้งใบหน้าเป็นของเผ่ามนุษย์ที่ถูกแบ่งออกเป็นสามส่วน ด้านหลังเต็มไปด้วยเดือยกระดูก ทั่วทั้งตัวปกคลุมไปด้วยขนสีดำยาวจำนวนนับไม่ถ้วนขยับไปมาราวกับอสรพิษสีดำอัปลักษณ์ ไม่ต้องกล่าวเลยว่าชวนน่าขนลุกถึงเพียงใด!
หลังจากนั้น สิ่งมีชีวิตพิศวงที่มีขนสีดำเหมือนกันหกตัวก็ออกมายืนอยู่ด้านหลังจ้าวตะเข้ ลมหายใจถูกปลดปล่อยออกมาอย่างไม่มีเก็บงำไว้ พลังของพวกเขาล้วนน่าสะพรึงกลัว แต่ละคนล้วนสามารถต่อกรกับขั้นจ้าวแห่งเซียนได้
สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ต่างโอบกอดความพิศวงเอาไว้ ได้รับสสารพิศวงสีดำเข้าไป แต่พวกมันไม่ได้แข็งแกร่งเท่ากับจ้าวตะเข้ จึงถูกจ้าวตะเข้กำราบให้กลายเป็นสมาชิกนครพิศวง
“ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยม!”
“ได้เล่นอีกแล้ว!”
เหล่าของวิศษไม่ได้เกิดความเกรงกลัวแม้แต่น้อย กลับกันยังตื่นเต้นเสียยิ่งกว่าเดิม สิ่งมีชีวิตพิศวงขนสีดำที่เพิ่งมาดูแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก พวกมันน่าจะเล่นสนุกได้ด้วยหน่อย
“สหาย ล้างแค้นให้ข้าด้วย!”
เจ้าหลวงที่อยู่ด้านหลังตะโกนออกมา “ข้าเชื่อในตัวท่าน!”
“วางใจเถิด ข้าจะจัดการพวกมันเอง!”
จ้าวตะเข้ดูไม่แยแส เห็นได้ชัดว่าของวิเศษเหล่านี้ไม่ธรรมดา
ทว่าตัวมันที่ระเบิดพลังทั้งหมดออกมา กระทั่งระดับสูงสุดของขั้นจ้าวแห่งเซียนก็สามารถสังหารได้ เช่นนั้นมันจะเกิดความหวาดกลัวได้อย่างไร?
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสิ่งมีชีวิตพิศวงขนสีดำอีกหกตนมาพร้อมกับมันด้วย!
“ฆ่า!”
มันลงมือโจมตีก่อน พลังพิศวงควบแน่นออกมาจากเดือยกระดูกพุ่งเข้าโจมตี
“ฆ่า ฆ่า ฆ่า!”
เหล่าสิ่งมีชีวิตพิศวงทั้งหกตนพุ่งออกไปด้านหน้าพร้อมกับจ้าวตะเข้
“สหายไร้เทียมทานในใต้หล้า ผู้ใดจะสามารถหยุดยั้ง? พวกเจ้าเหล่าเครื่องใช้จะต้องถูกจัดการ!”
เจ้าหลวงที่อยู่ด้านหลังส่งเสียงดังขึ้นมาอีกครั้ง “สหายลุยเลย ให้เครื่องใช้เหล่านี้ได้รู้ว่าท่านแข็งแกร่งเพียงใด!”
มันตะโกนด้วยความเลือดร้อน ทว่าพริบตาต่อมามันก็หันหลังวิ่งหนี!
ใช่แล้ว มันวิ่งหนี วิ่งจากไปอย่างไม่ลังเลโดยไม่มีการยั้งคิด
มันรู้ซึ้งแล้วว่าเหล่าของวิเศษนั้นร้ายกาจเป็นอย่างมาก ไม่สามารถใช้สามัญสำนึกคาดเดาได้ เกรงว่าจ้าวตะเข้ก็อาจไม่ใช่คู่มือของวิเศษเหล่านี้
“สหายรังเกียจข้า ดังนั้นข้าจึงทิ้งเจ้าวิ่งหนี นี่ไม่เกินไปหรอกกระมั้ง?”
มันบ่นพึมพำ ก่อนวิ่งให้เร็วกว่าเดิม หนีจากอาณาจักรอวี้ซวีไปในชั่วพริบตา