เดิมนึกว่าจะสงบราบรื่นไปเช่นนี้ตลอดชีวิต แต่จนกระทั่งได้พบกับซูชีในวันนี้ ในใจซินซื่อชิวก็กระวนกระวายอย่างควบคุมไม่อยู่!
คนอื่นไม่รู้จักซูชี แต่เขา ซินซื่อชิวเคยเสียเปรียบให้กับซูชี ไอ้เด็กนี่ไม่น้อย! คนผู้นี้ฉลาดและเจ้าเล่ห์ยิ่งนัก! ไม่ระวังเพียงเล็กน้อย ก็จะถูกเขาเล่นงานจนหัวหมุน!
ตอนอายุสิบกว่าเป็นเช่นนั้น ตอนนี้ไม่เจอกันสิบปี เขาเชื่อว่าซูชีจะต้องฉลาดมากกว่าเดิมแน่นอน!
ในใจรู้สึกกลัวขึ้นมาเล็กน้อย!
เรื่องที่เขาทำในอำเภอเฟ่ยพวกนี้ เรียกได้ว่าเป็นการก่อกรรมทำชั่ว อีกอย่างยังรายงานเรื่องเงินให้กับตระกูลซูสายหลักว่าขาดทุนและขาดทุน!
ตอนนี้คนจากบ้านหลักมาแล้ว ทั้งยังเป็นซูชีที่แต่ไหนแต่ไรก็เฉลียวฉลาด ซินซื่อชิวกระสับกระส่าย!
“การที่คุณชายเจ็ดมาที่นี่ในครั้งนี้ มีภารกิจใดหรือ ทุกคนในเมืองหลวงสบายดีหรือไม่ พี่สาวข้ายังสบายดีไหม” ตอนนี้ไม่ต้องไปสนใจเรื่องอื่น จัดการเรื่องความสัมพันธ์ให้คลี่คลายก่อนค่อยว่ากัน!
แม้ว่าจะไม่ได้กระชับความสัมพันธ์กับซูชีมากขึ้น แต่อย่างน้อยก็คุยกันมากขึ้นสองประโยค ให้กลุ่มคนที่มุงดูข้างนอกพวกนี้นึกว่า คนที่มาจากเมืองหลวงในครั้งนี้ ก็เหมือนกับคนที่มาเมื่อสองปีก่อนหน้านั้น!
ซูชีไม่รู้ว่าในใจเขามีแผนการอะไร จึงไม่อยากให้ความร่วมมือกับเขา และถึงจะรู้ ก็ไม่มีทางให้ความร่วมมืออยู่ดี!
เดิมเขาก็เป็นคนแบบนี้ กับคนที่ไม่ชอบ แต่ไหนแต่ไรก็ไม่มีทางใจอ่อนให้!
เมื่อได้ยิน เขาก็แค่กวาดตามองซินซื่อชิวแวบหนึ่งนิ่งๆ พลางยิ้มเย็นแล้วเอ่ยว่า “ข้าไม่ได้เป็นสายลับ จะไปรู้เรื่องพวกนั้นได้จากที่ไหน!”
วาจานี้…ทำให้ซินซื่อชิวสะอึก ไม่รู้จะเอ่ยอันใดดีในทันที!
เขากวาดตาที่เจือไปด้วยรังสีสังหารบางๆ มองซูชี
ซูชีสัมผัสได้ แต่ไม่สนใจอย่างเห็นได้ชัด
หากว่าเขาถูกรังสีสังหารเล็กน้อยแค่นี้ทำให้ตกใจกลัว เช่นนั้นเขาก็ไม่คู่ควรที่จะท่องไปทั่วยุทธภพหลายปีเช่นนี้แล้ว!
ซูชีไม่ใส่ใจ แต่ซูซูกลับไม่อาจไม่ใส่ใจ
ตาเฒ่านี้แค่เห็นก็รู้แล้วว่าไม่ใช่คนดีอะไร! โดยเฉพาะสายตาที่มองซูชี มองอย่างไรก็ทำให้ซูซูรู้สึกรำคาญใจ!
“เฮ้! นั่นมันสายตาอะไรของเจ้า คิดจะฆ่าคนปิดปากหรือไง อยากให้พวกข้าตายที่อำเภอเฟ่ย จากนั้นก็ไม่สามารถไปรายงานเรื่องเจ้าที่เมืองหลวงได้สินะ?”
ซินซื่อชิวเบนสายตาไปที่ซูซูทันที ก็เห็นคุณชายปากแดงฟันขาวที่งดงามผู้หนึ่ง จึงพิจารณามองซูซูขึ้นๆ ลงๆ ด้วยสายตาลุ่มลึก
สายตานี้ แววตาที่ไม่หลบเลี่ยงเช่นนี้ทำให้ซูซูขนลุกไปทั่วทั้งตัวอย่างอดไม่ได้ จึงยิ่งรู้สึกสะอิดสะเอียนยิ่งกว่าเดิม!
ถูกต้อง สะอิดสะเอียน!
สายตาที่ตาเฒ่านี่มองนางเจือปนไปด้วยแววหื่นกาม ทำให้คนขยะแขยงยิ่งนัก!
“เจ้ามองอันใดของเจ้า!” ซูซูโมโหมาก จึงถือโอกาสแผดเสียงใส่ซินซื่อชิว!
เพราะโมโห แก้มสองข้างของนางจึงมีริ้วแดงเล็กน้อย ทำให้แววตาของซินซื่อชิวลุ่มลึกยิ่งกว่าเดิมมาก
ส่วนเขา ก็มองออกแล้วว่าคุณชายน้อยตรงหน้าท่านนี้ไม่ใช่บุรุษ แต่เป็น…
“ไม่ทราบว่าท่านนี้คือ…”
“ข้าเป็นบิดาเจ้า!” ซูซูถูกสายตาเช่นนี้ของเขาทำให้หงุดหงิด รำคาญใจมากนานแล้ว ตอนนี้เห็นเขาถึงกับถามตนเองว่าเป็นใครอย่างน่าไม่อาย! นางก็ด่าวาจาหยาบคายออกไปอย่างไม่ลังเล!
หลังด่าจบ ก็นิ่งอึ้งไป!
นางมองซูชีอย่างระมัดระวังแวบหนึ่ง แต่กลับค้นพบว่า ซูชีเพียงแค่ปรายตามองนางนิ่งๆ ครู่หนึ่ง โดยไม่ได้กล่าวอันใด และไม่ได้โกรธ ใจของนางถึงได้สงบลง
ฟู่…นางตกใจแทบตาย เมื่อครู่นางนึกว่าซูชีจะโกรธเสียอีก!
อย่างไรเสียเรื่องที่สตรีกล่าววาจาหยาบคายนั้นก็ไม่ค่อยมีความเป็นกุลสตรีจริงๆ
แต่สายตาของคนผู้นี้ทำให้คนรู้สึกคลื่นเหียนเกินไปแล้ว นางจึงทนไม่ไหว ดังนั้นถึงได้ด่าคนออกไป!
นึกถึงตัวการที่ก่อกรรมทำชั่ว นางก็อดถลึงตาดุร้ายใส่ซินซื่อชิวอย่างอดไม่อยู่!
แววตาเคียดแค้นนี้ทำให้หัวใจดวงหนึ่งของซินซื่อชิวชาวาบไปด้วย!
นังหนูนี่ยั่วยวนใจคนเกินไปแล้ว! หัวใจของเขาคันยุบยิบไปหมด! วาสนาในเรื่องความรักของซูชี เด็กต่ำทรามนี่ไม่น้อยเลยจริงๆ!
ในตอนที่เขากำลังมองอย่างเคลิบเคลิ้ม กลับเห็นเงาร่างสีขาวบดบังใบหน้าของนังหนูนั่นเอาไว้กะทันหัน ซินซื่อชิวพลันโมโห คิดจะด่าออกมา!
แต่เมื่อเห็นใบหน้าของคนผู้นั้น ปากก็หุบลงทันที!
ซูชีไม่รู้ว่าทำไมถึงไปยืนอยู่ตรงหน้าซูซูเพื่อบดบังสายตาสอดรู้สอดเห็นของบุรุษที่น่ารังเกียจผู้นี้!
อีกอย่างในแววตาของซูชี ตอนนี้ไม่ได้สงบนิ่งและมีแววเหยียดหยาม แต่เจือไปด้วยรังสีสังหารกับความเหน็บหนาว! นั่นเป็นเพลิงโทสะที่กระทั่งตัวเขาเองก็ไม่ทันสังเกตเห็น!
กล้าพิจารณามองคนข้างกายเขา ถึงขั้นกำเริบเสิบสานเช่นนี้ หรือซินซื่อชิวจะเบื่อการมีชีวิตอยู่แล้วจริงๆ?
“มองอันใดของเจ้า นั่นเป็นสิ่งที่เจ้าควรจะมองหรือ ไม่อยากมีลูกตาแล้วใช่หรือไม่”
น้ำเสียงนี้เต็มไปด้วยการข่มขู่!
ซินซื่อชิวไม่อยากยอมรับเลยว่าตนเองกลัว! แต่กลับยังคงขดตัวอย่างไม่ได้เรื่อง และถอนสายตากลับมาอย่างเชื่อฟัง!
ทว่าความรู้สึกในใจกลับยังคงยากจะควบคุม!
เขาสาบานว่าจะไม่ให้คนกลุ่มนี้มีชีวิตออกไปจากอำเภอเฟ่ยแน่นอน! ถึงตอนนั้น…นังหนูที่งดงามผู้นั้น ถึงตอนนั้นจะไม่ถูกเขาจัดการตามใจชอบหรือ
ตอนนี้เสียเปรียบ ตกเป็นรอง ก็แค่ชั่วครู่หนึ่งเท่านั้น!
“เหอๆ…คุณชายซูเจ็ดชอบล้อเล่นเสียจริง!” เขาหัวเราะเหอๆ ให้เรื่องผ่านไป จากนั้นก็ทักทายซูชี และเมินเฉยต่อใต้เท้านายอำเภอที่ยังไม่ได้สติและเจ้าของภัตตาคารจูที่ตัวสั่นเทาอยู่บนพื้นในที่ว่าการอำเภอโดยไม่คิดจะช่วยเหลือ!
“ไม่ทราบว่าคุณชายเจ็ดมาอำเภอเฟ่ยในครั้งนี้ มีสถานที่พักแล้วหรือไม่ หากว่ายังไม่มี ไม่สู้ไปพักคฤหาสน์ของข้าก่อน ที่นั่นทัศนียภาพไม่เลว เหมาะที่จะให้คนพักยิ่ง” และเป็นสถานที่เหมาะสมที่จะสังหารอำพรางศพมากที่สุดเช่นกัน!
ซูชีเพียงแค่ยิ้มเย็นให้กับความเอาใจใส่อย่างไม่มีเหตุผลเช่นนี้ของซินซื่อชิว
“กิจการตระกูลซูทั่วทั้งอำเภอเฟ่ยล้วนเป็นของข้า ยังจะกลัวว่าข้าไม่มีที่ให้พักหรือ ซินเหล่าเหยีย ท่านโง่หรอกหรือ”
นี่นับว่าเป็นการตบหน้าซินซื่อชิวต่อหน้าทุกคนอย่างรุนแรง!
ใช่แล้ว คุณชายซูชีเอ่ยได้ถูกต้อง!
ไม่ต้องเอ่ยเลยว่าอำเภอเฟ่ย แม้ว่าจะเป็นทั้งแคว้นเทียนฉี สิ่งที่เป็นกิจการของตระกูลซูล้วนเป็นของบุตรชายภรรยาเอกสายตรงตระกูลซูทั้งหมดไม่ใช่หรือ
เจ้า ซินซื่อชิวที่เป็นคนนอกคนหนึ่ง มีสิทธิ์อะไรเอ่ยวาจาเช่นนี้ออกมา
ไม่รู้สึกว่าอวดดีไปหน่อยหรือ
ซินซื่อชิวบุรุษอายุสามสิบสี่หนาวคนหนึ่ง ว่ากันตามเหตุผลสมควรเป็นผู้อาวุโสของซูชี แต่กลับเป็นเพราะพี่สาวของตนเองเป็นอี๋เหนียงตระกูลซู จึงโงหัวไม่ขึ้นไปชั่วชีวิต ตอนนี้ถูกซูชีฉีกหน้าเช่นนี้ กลับทำได้เพียงแค่คำรามด้วยความเดือดดาลในใจ แต่ไม่กล้าแสดงความรู้สึกออกมาบนใบหน้าสักนิดเดียว
“ข้าเอ่ยผิดไปจริงๆ กิจการทั่วทั้งเทียนฉีล้วนเป็นของคุณชายเจ็ด ถูกต้องๆ”
วาจานี้ฟังดูแล้วไม่มีปัญหาอะไร แต่มีเพียงแค่คนที่มีเจตนาอะไรบางอย่าง ขอเพียงพิจารณาให้ดี…ก็จะมีความคิดอีกแบบหนึ่งแล้ว!