เป็นเพราะซูซูได้รับบาดเจ็บ จึงไม่สะดวกจะเคลื่อนไหว บวกกับอาจ้าวยังไม่กลับจากเมืองหลวง ดังนั้นขบวนของซูชีจึงทำได้แค่พักอยู่ที่อำเภอเฟ่ยไปก่อน
ซูซูฟื้นคืนสติเช้าตรู่วันถัดไป ตอนนี้หมอหนุ่มได้จากไปแล้ว
เขาบอกวิธีและแรงที่ใช้ในการเปลี่ยนยาให้ซูซู แล้วโบกมือจากไป
อย่างไรเสียผู้ที่ได้รับบาดเจ็บก็เป็นสตรี เขาที่เป็นบุรุษผู้หนึ่งจึงไม่สะดวกที่จะลงมือ แต่เขาเห็นว่าซูชีกับซูซูมีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดา จึงให้ซูชีเปลี่ยนยาให้ซูซู ส่วนเขาก็จากไปโดยที่ไม่มีความกดดันในจิตใจเล็กสักนิดเดียว!
ในตอนที่ซูซูยังไม่ได้สติ ซูชีก็เปลี่ยนยาให้นางไปรอบหนึ่งแล้ว แต่ตอนนั้นซูซูสลบไสลอยู่ ซูชีจึงไม่ได้รู้สึกเขินอายอะไร
ทว่าตอนนี้ไม่เหมือนกัน การที่ซูซูลืมตาอยู่ ทำให้ซูชีไม่อาจลงมือได้!
“แค่กๆ…ซูซู เจ้าหลับตาลงก่อนได้ไหม” ซูชีจนปัญญาแล้ว เจ้าลืมตาโตขนาดนี้ จะให้เขาลงมือได้อย่างไร
ซูซูได้ยินแล้ว หน้าก็แดงก่ำทันที…
นางต้องทำอย่างไร ถึงจะหลับตาลงได้ ตอนนี้นางตื่นเต้นจะตายแล้ว!
เพียงแค่คิดว่า อีกครู่หนึ่งซูชีจะเลิกผ้านวมขึ้น จากนั้นตอนที่แผ่นหลังนางเปิดเผยสู่สายตาของซูชี ทั่วทั้งร่างนางก็สั่นไปหมด…
“ข้า…ข้าจะหลับตาหรือไม่ ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อเจ้า! เจ้าก็ใส่ยาของเจ้าไปสิ!” เดิมซูซูอยากจะเอ่ยวาจานุ่มนวลอย่างขวยเขิน อย่างไรบุรุษก็ล้วนชอบฟังวาจาอ่อนหวานกัน!
แต่ในใจนางเป็นสตรีแกร่ง นี่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ ให้นางเปลี่ยนเป็นสตรีอ่อนหวานทันที นั่นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลยแม้แต่น้อย!
ดังนั้นเมื่อวาจาหลุดออกจากปากแล้ว ซูซูก็อยากจะตายขึ้นมา
ปากนี้ ทำไมถึงได้หาเรื่องนักนะ! นี่นางเอ่ยวาจาอะไรออกไปกัน!
ซูซูอับอายแทบตาย ซูชีก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันเท่าใดนัก
อย่างไรก็นับว่าเขาเข้าใจแล้ว ไม่ว่าจะคุยเหตุผลกับซูซูเช่นไร นางก็ไม่มีทางทำตามความคิดเจ้า!
“เฮ้อ…” เขาคิดจะหมุนตัวจากไป ไปหาสาวใช้คนหนึ่งมาทายาให้ซูซู แต่ตอนนี้อำเภอเฟ่ยไม่ปลอดภัยเลยสักนิด เขาคุมตัวซินซื่อชิวและคนอื่นๆ ไว้ในคุกที่ว่าการอำเภอ ข้างนอกย่อมมีข่าวลือออกมา ซูชีกลัวจริงๆ ว่า หากมีคนมีใจคิดร้าย ทำร้ายซูซูอีกต้องแย่แน่ๆ!
ภายใต้ความจนปัญญา ซูชีจึงทำได้แค่กัดฟัน นั่งลงบนเตียง เขาเลิกผ้านวม เตรียมเปลี่ยนยาให้ซูซู
เสี้ยววินาทีที่ผ้านวมถูกเลิกออก ซูซูตัวสั่นระริกอย่างอดไม่อยู่
ในผ้านวมอุ่นสบาย จู่ๆ ก็ถูกอากาศหนาวเย็นเข้า ย่อมไม่คุ้นชินเป็นธรรมดา!
อีกอย่างบุรุษที่นั่งอยู่ริมเตียงผู้นั้นก็เป็นคนที่นางชอบ เขาเห็นเรือนร่างของตนเอง แม้ว่าจะเป็นการตั้งใจเปลี่ยนยาให้ตนเอง แต่ในใจซูซูกลับเป็นความรู้สึกอีกแบบหนึ่ง
ผิวที่เปลือยอยู่ข้างนอกของซูซูจึงเปลี่ยนเป็นมีแดงระเรื่อด้วยความเร็วที่สายตาสามารถมองเห็นได้ทั้งแบบนี้…
ซูชีไม่ได้ตาบอด ย่อมมองเห็นเป็นธรรมดา!
มือที่ถือยาเอาไว้ของเขาชะงักเล็กน้อย ใบหน้าก็ขึ้นสีแดงระเรื่ออย่างไม่ต้องสงสัยเช่นกัน แต่ว่าไม่ได้ถูกซูซูเห็นเข้า
ซูชีปัดความนึกคิดไม่ซื่อทิ้งไป เขารีบเปลี่ยนยาและพันผ้าพันแผลที่แผ่นหลังให้กับซูซูอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ห่มผ้าห่มให้ แล้วหมุนตัวเดินออกไป
ซูชีออกไปแล้ว ซูซูโล่งใจ ซูชีที่ยืนอยู่ข้างนอกก็โล่งใจเช่นกัน
นี่เป็นงานที่ทรมานคนชัดๆ
หลังจากกระอักกระอ่วนกันแบบนี้ไปสามวัน อาจ้าวก็กลับมาพร้อมกับนำคำสั่งหัวหน้าตระกูลซูมาด้วย
“หัวหน้าตระกูลบอกว่า สังหารทิ้งให้หมดขอรับ!”
ซูชีได้ยิน ก็ยิ้มบางๆ
ซินซื่อชิวคิดตลอดว่าพี่สาวของเขาเป็นอนุภรรยาที่บิดารักและทะนุถนอม เช่นนั้นพวกเขาพี่น้องจึงทำอะไรเขาไม่ได้ แต่เขากลับไม่เคยคิดเลยว่า แม้ว่าบิดาจะชมชอบชิวอี๋เหนียง แต่ก็ให้ความสำคัญกับกิจการและชื่อเสียงเกียรติยศร้อยปีของตระกูลซูมากกว่า
ที่ปล่อยเขาไว้ เพียงเพราะยังไม่ล้ำเส้นเท่านั้นเอง
พวกเขาพี่น้อง…ไม่เคยเป็นพวกขี้ขลาด กลัวเรื่องกลัวราว! จับจุดอ่อนนี้ได้ ย่อมต้องขุดรากถอนโคน
รอจนบาดแผนบนแผ่นหลังซูซูหายดีแล้ว นางก็ไปที่ว่าการอำเภอกับซูชีด้วยกัน และเห็นซูชีใช้กระบี่สังหารซินซื่อชิวที่ตายตาไม่หลับ
ส่วนนายอำเภอผู้นั้น ก็ถูกท่านหญิงซูซูแจ้งเจตนารมณ์ให้คนคุมตัวไปเมืองหลวงแล้ว
เขาเป็นขุนนาง ในช่วงที่การเมืองกำลังตึงเครียด ก็มอบให้ฮ่องเต้จัดการดีกว่า
หลังจากนั้น พวกเขาก็พักอยู่อีกสองสามวัน
อย่างไรเสีย หลังจากกำจัดเนื้อร้ายชิ้นใหญ่อย่างซินซื่อชิวไปแล้ว ก็มีการเปลี่ยนแปลงคนในกิจการอำเภอเฟ่ยขนานใหญ่! เพราะเจ้าของร้านแต่ละคนล้วนเป็นเนื้อร้ายชิ้นเล็กๆ ที่สร้างอันตรายให้กับผู้คน
จำเป็นต้องกล่าวว่า สุดท้ายซิ่วไฉที่พวกซูซูพบในตอนที่เพิ่งจะมาถึงอำเภอเฟ่ยผู้นั้น ก็ได้กลายเป็นเจ้าของร้านหยกภายใต้การแนะนำจากซูชี
สำหรับความซาบซึ้งในบุญคุณยิ่งนี้ของซิ่วไฉ ย่อมไม่จำเป็นต้องกล่าวให้มากความ ทว่าในตอนที่พวกซูชีเตรียมจากไป อำเภอเฟ่ยก็มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด
“ซูชี บุรุษรู้สึกว่ามีความภาคภูมิใจมากใช่หรือไม่”ซูซูมองเมืองที่ห่างจากพวกเขาไปไกล แล้วหันหน้ามามองบุรุษที่นั่งตรงข้ามบนรถม้า มุมปากประดับไปด้วยรอยยิ้มน้อยๆ
ซูชีเพียงแค่เงยหน้านิ่งๆ โดยไม่เอ่ยอะไร แต่กลับยื่นมือไปรินชาให้ตนเองกับซูซูคนละจอก
ซูซูเห็นท่าทางเช่นนี้ของเขาแล้ว ก็เบ้ปากเบื่อหน่าย
รู้อยู่แล้วว่า ตนเองถามอะไรจากเขาไม่ได้!
แต่ซูซูกลับยังคงไม่ยอมแพ้’
ซูซูประคองชาถ้วยนั้นไว้ในมือ หรี่ตาลงเล็กน้อย ขณะมองไปทางซูชีที่ท่าทางสุขใจและร่าเริง แล้วโค้งริมฝีปากขึ้น…
“ซูชี เจ้าเห็นเรือนร่างของข้าแล้ว ก็ต้องรับผิดชอบข้าใช่หรือไม่”
พรูด…
“กูเสี่ยวซู! ใครเห็นเรือนร่างเจ้ากัน? ตอนนี้เจ้าไสหัวลงจากรถม้ากลับเมืองหลวงไปเลย!”
ฟ้าดินเป็นพยาน วันนั้นเขาหลับตาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้นาง
ลูบคลำแล้วหรือ ไม่ได้ทำแน่นอน อาศัยวรยุทธ์ของเขาและความคุ้นเคยกับเงาร่างของกูเสี่ยวซู เขาล้วนหลับตา ใช้กำลังภายในยกนางขึ้นมา แล้วฟังเสียงลมแยกแยะตำแหน่ง ประสบความสำเร็จกลางอากาศ
แน่นอนว่า ความลำบากและอัตราความเร็วในการเต้นของหัวใจในระหว่างนั้นมีแค่เขาที่รู้
หากว่าเป็นคนอื่น เขาคงรับผิดชอบไปแล้ว มอบความมั่งคั่ง ให้นางไร้กังวลเรื่องอาภรณ์สวมใส่ และอาหารการกินไปตลอดชีวิตก็พอแล้ว!
แต่กูเสี่ยวซูเป็นคนหัวรั้น หวังจะให้เขามองกลับไปตลอด
เขาไม่อาจรับผิดชอบได้ เขาทำได้แค่เลือกเป็นคนถ่อยครั้งหนึ่ง เขาไม่สามารถทำร้ายนางได้
“ข้าไม่ไปหรอก! ซูชี เมื่อบุรุษกล่าววาจา นั้นมีน้ำหนักและน่าเชื่อถือ ไม่อาจคืนคำได้! เจ้ายังเป็นบุรุษอยู่หรือไม่ เจ้าบอกเองว่าจะให้ข้ารั้งอยู่ข้างกายเจ้าหนึ่งเดือน! แต่ตอนนี้เพิ่งจะสิบวันเท่านั้นเอง! เจ้ามันกลับกลอก!
“กลับกลอกแล้วอย่างไร มีความสามารถเจ้าก็ตีข้าสิ!”
“ซูชี! เจ้ารังแกกันเกินไปแล้ว!”
อาจ้าวกับจ้าวเฟยลู่ที่นั่งอยู่นอกห้องโดยสารบนรถม้าสบตากันแวบหนึ่ง ก็มองเห็นรอยยิ้มบางๆ ในก้นบึ้งนัยน์ตาซึ่งกันและกัน