บทที่ 645 ไม่คุกเข่าคำนับได้หรือไม่ ข้าเกรงว่าจะมีเรื่องเกิดขึ้น!
ขึ้นสู่ขั้นที่เก้าสิบ นี่พรสวรรค์และศักยภาพแฝงสูงเพียงใดกัน?
เหล่าผู้ยิ่งใหญ่ต่างไม่กล้าคาดเดา พวกเขาแต่ละคนล้วนเป็นอัจฉริยะ สั่นสะเทือนอดีตเปล่งประกายจนถึงปัจจุบัน ทุกคนล้วนประสบความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ แต่เมื่อเทียบกับซีแล้ว พวกเขาต่างชัดมากเกินไปจนไม่อาจวัดได้ พรสวรรค์และศักยภาพแฝงของซีอยู่เหนือชั้นจนสามารถบดขยี้พวกเขาได้!
หลังจากถึงขั้นที่เก้าสิบ ซีก็ยังคงไม่หยุดยั้ง ตอนนี้นางกลายเป็นจุดรวมความสนใจของทุกสายตา ซีที่เดิมทีไม่โดดเด่นแต่อย่างใด ยามนี้กลับกลายเป็นที่เจิดจรัสเปล่งประกายยิ่งกว่าผู้ใด!
ก้าวแล้วก้าวเล่า นางยังคงดูราวกับไร้แรงกดดันดั่งเดิม ไม่เคยมีชะงักแม้กระทั่งครึ่งก้าว ขึ้นไปจุดสูงสุดได้อย่างง่ายดาย บรรลุถึงขั้นที่หนึ่งร้อย!
“สำ…สำเร็จแล้ว?!”
“มีผู้อาจบรรลุกลายเป็นบรรพจารย์เต๋ากำเนิดขึ้นแล้ว!!!”
เหล่าผู้ยิ่งใหญ่ตื่นตะลึงอย่างถึงที่สุด พวกเขากำลังได้เห็นการกำเนิดของบรรพจารย์เต๋าผู้หนึ่งอย่างนั้นหรือ?
ก้าวถึงบันไดสวรรค์ขั้นที่หนึ่งร้อยได้ พรสวรรค์และศักยภาพแฝงชวนให้น่าตกตะลึงเกินไปจริง ๆ กระทั่งพวกเขายังไม่อาจผ่านขั้นที่เจ็ดสิบไปได้เสียด้วยซ้ำ มีความเป็นไปได้อย่างยิ่งที่ซีจะกลายเป็นบรรพจารย์เต๋า!
“ข้าไม่เชื่อ! จะต้องมีปัญหาบางอย่างกับบันไดสวรรค์โกลาหลแน่!”
มีผู้ยิ่งใหญ่กล่าวออกมา คนผู้นั้นคือจ้าวแห่งก่วงหลิง
นางเยือกเย็นสง่างาม ดวงตางดงามลึกล้ำอย่างถึงที่สุด แม้ว่านางจะเห็นเรื่องราวทั้งหมดด้วยตาของตนเอง แต่นางก็ไม่อาจเชื่อได้ลง
หลังจากนั้นนางก็ทะยานขึ้นไปยังบันได้สวรรค์โกลาหลโดยตรง เตรียมจะทดสอบด้วยตัวเองว่าเกิดปัญหาอันใดขึ้นกับบันไดสวรรค์โกลาหลหรือไม่
“ข้าก็จะไปด้วย!”
“จะต้องมีปัญหาบางอย่างแน่นอน!”
มีผู้ยิ่งใหญ่อีกสองสามคนมุ่งตรงมาที่บันไดสวรรค์โกลาหล เพื่อทดสอบด้วยตนเอง
พวกเขาเองก็ไม่อาจเชื่อได้ลง เกิดความสงสัยขึ้นมาว่าอาจมีปัญหาเกี่ยวกับบันไดสวรรค์โกลาหล
อีกด้านหนึ่ง ประมุขตำหนักตงชิวมองเหตุการณ์ทั้งหมดอย่างเงียบงัน ไม่ได้เข้าไปหยุดยั้งแต่อย่างใด
หากเป็นตามปกติ นางคงหยุดยั้งอีกฝ่ายเอาไว้นานแล้ว นี่คือการทดสอบรับคนเข้าตำหนักตงชิวของนาง จะปล่อยให้คนอื่นมาสร้างความวุ่นวายได้อย่างไร?
ต่อให้พวกเขาเป็นผู้ยิ่งใหญ่เหมือนกัน นางก็ไม่มีทางยอมปล่อยไป
ทว่าตอนนี้ไม่เหมือนปกติ นางเองก็ไม่อยากจะเชื่อเรื่องนี้ เกิดความสงสัยว่าบันไดสวรรค์โกลาหลมีปัญหาเช่นเดียวกัน จึงยินยอมปล่อยให้ผู้ยิ่งใหญ่คนอื่นได้ลองทดสอบ
เหล่าผู้ยิ่งใหญ่ที่มุ่งสู่บันไดสวรรค์โกลาหลต่างแข็งแกร่งอย่างแท้จริง ล้วนอยู่ในแนวหน้าของแดนบรรพโกลาหล ขอบเขตล้ำลึกเกินจะหยั่งถึง
ทว่าต่อหน้าบันไดสวรรค์โกลาหล พลังอันใดก็ล้วนไร้ค่า พลังจากพวกเขาก้าวเข้าไปสู่ขั้นที่หกสิบ พวกเขาก็ต่างติดอยู่ ทำเช่นไรก็ไม่อาจก้าวไปถึงขั้นที่เจ็ดสิบได้
พวกเขาปะทุพลังทั้งหมดออกมา ต้องการใช้พลังอันแข็งแกร่งทะลวงขึ้นไปยังขั้นที่สูงขึ้น ทว่าทุกอย่างล้วนเปล่าประโยชน์ไม่อาจได้ผลแม้แต่น้อย!
ต่อหน้าบันไดสวรรค์โกลาหล ทุกอย่างล้วนเท่าเทียม ขอบเขตและการฝึกฝนล้วนไม่เกี่ยวข้อง มีเพียงพรสวรรค์และศักยภาพแฝงเท่านั้นที่ทำให้ก้าวขึ้นไปยังขั้นที่สูงขึ้นได้
“ไม่…ไม่มีปัญหาอันใด!”
“นางขึ้นไปสูงสุดได้ด้วยพรสวรรค์และศักยภาพแฝงของนางเอง!”
ใบหน้าของเหล่าผู้ยิ่งใหญ่แปรเปลี่ยนอย่างมาก ตอนนี้พวกเขาไม่สงสัยอีกแล้ว ซีมีความสามารถพอที่จะกลายเป็นบรรพจารย์เต๋าจริง ๆ!
“เป็นดาราดวงใหม่!”
“บรรพจารย์เต๋าในอนาคต!”
เสียงฮือฮาดังไปทั่วฟ้าดิน สิ่งมีชีวิตทั้งหมดต่างร้องอุทานอย่างตกตะลึง สายตาที่มองไปยังซีเกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง
เดิมทีในแววตาของพวกเขาต่างมีความสงสัยกังขา แต่หลังจากที่เหล่าผู้ยิ่งใหญ่ทดสอบด้วยตนเองแล้ว ในแววตาของพวกเขาก็ไม่มีความสงสัยเหลืออยู่อีกต่อไป!
“แม่นางท่านนี้ ข้าขอเชิญท่านด้วยความจริงใจไปยังตำหนักก่วงหลิง ขอเพียงแค่ตกลงเข้าร่วมกับตำหนักก่วงหลิงของพวกเรา ไม่ว่าต้องการสิ่งใดข้าย่อมทำให้สมความปรารถนา!”
จ้าวแห่งก่วงหลิงมองปทางซีอย่างจริงใจแล้วเอ่ยชวนออกมา
“มาที่วังฉางเล่อของพวกเขา ทรัพยากรทั้งหมดล้วนถึงมือของเจ้า!”
“ไม่ต้องพูดแล้ว ขอเพียงแค่เข้าร่วมเจ้าก็จะกลายเป็นจ้าวแห่งสำนักอี๋หยวน!”
เหล่าผู้ยิ่งใหญ่เอ่ยชวนซีให้เข้าร่วมอย่างบ้าคลั่ง คำมั่นที่ให้ยิ่งเล่นใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ
พวกเขาไม่เพียงแต่พยายามช่วงชิงตัวซีมาเพื่อกองกำลังที่อยู่เบื้องหลัง แต่ยังเพื่อตัวของพวกเขาเองด้วย
หากซีสามารถกลายเป็นบรรพจารย์เต๋าได้ พวกเขาเองก็จะได้รับอานิสงค์ไปด้วย สามารถทะลวงขึ้นไปยังขอบเขตที่สูงกว่า แข็งแกร่งยิ่งไปกว่าเดิม!
ชิ้ง!
ประกายแสงวาบผ่าน จ้าวแห่งตงชิวชักกระบี่ยาวออกมาชี้ตรงไปทางผู้ยิ่งใหญ่เหล่านั้น
“ทุกท่านชักจะเกินเลยไปแล้ว!”
จ้าวแห่งตงชิวมองไปทางเหล่าผู้ยิ่งใหญ่พร้อมเอ่ยออกมาเสียงดัง “นี่คือการทดสอบของตำหนักตงชิว!”
นางจะยอมปล่อยซีไปได้อย่างไร?
ไม่มีทางอย่างแน่นอน!
แม้ว่าฟ้าจะทลายดินจะถล่ม นางก็จะไม่ยอมปล่อยซีไปอย่างแน่นอน!
“ทุกท่านโปรดกลับไปเถิด!”
นางเอ่ยไล่แขกทันที ไม่ปล่อยให้เหล่าผู้ยิ่งใหญ่เหล่านี้รั้งอยู่ที่นี่อีก นางกลัวจริง ๆ ว่าซีจะถูกผู้ยิ่งใหญ่เหล่านี้ฉกตัวไป
“ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น! ให้นางตัดสินใจด้วยตัวเองเถิด!”
“ทรัพยากรใช้ฝึกฝนเพื่อบรรลุบรรพจารย์เต๋า ตำหนักตงชิงสามารถแบกรับได้หรือ? มาที่วังฉางเล่อของพวกเราเถิด!”
เหล่าผู้ยิ่งใหญ่ต่างมีท่าทีแน่วแน่ ไม่มีผู้ใดยอมถอยกลับไป
พวกเขาจะถอยได้อย่างไร?
ขอบเขตของพวกเขาสูงเกินไป ยากยิ่งที่จะทะลวงขึ้นไปยิ่ง พวกเขามองไม่เห็นความหวังที่จะก้าวหน้าขึ้นแม้แต่น้อย
อาจกล่าวได้ว่าซีนับเป็นความหวังของพวกเขา!
“คิดสิ่งใดอยู่กัน ถึงกับจะปล้นคนจากตำหนักตงชิวของข้า พวกเจ้าดูแคลนตำหนักตงชิวเกินไปแล้ว!”
จ้าวแห่งตงชิวตะโกนออกมาเสียงดัง บนร่างปรากฏกลิ่นอายพร้อมต่อสู้ ผนึกทั้งหมดในตำหนักตงชิวถูกยกเลิกจนไม่เหลือสิ่งใดไว้!
ผู้อาวุโสทั้งหมดของตำหนักตงชิวก็เรียกระดมกำลังอย่างเต็มที่ เตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ครั้งใหญ่!
“นี่…ให้ข้าพูดอะไรสักหน่อยได้หรือไม่?”
ขณะนั้นเองซีก็เอ่ยออกมาด้วยเสียงแผ่วเบา
การต่อสู้ครั้งใหญ่กำลังจะปะทุขึ้น นางไม่ต้องการเห็นฉากดังกล่าวเกิดขึ้นจริง ๆ จึงต้องการจะหยุดยั้งเอาไว้
“พูดออกมาเถิด!”
“พวกเราล้วนฟังอยู่!”
เหล่าผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหมดหันมามอง ท่าทีของพวกเขาที่มีต่อซีนั้นดีเป็นอย่างยิ่ง
“ข้ายังต้องการเข้าร่วมตำหนักตงชิว” ซีกล่าว
นางเข้าร่วมการทดสอบของตำหนักตงชิว หากหันหลังจากไปเข้าร่วมกับกองกำลังอื่น นางก็รู้สึกว่าไม่เหมาะสม
“ดี ดี ดี!”
จ้าวแห่งตงชิวหัวเราะออกมาเสียงดัง จากนั้นก็พูดกับซี “เจ้าวางใจได้ ทรัพยากรทั้งหมดของตำหนักตงชิวล้วนเป็นของเจ้า รับประกันได้เลยว่าเจ้าจะต้องเติบโตอย่างรวดเร็ว!”
นางเอ่ยต่อ “มามามา ตอนนี้พวกเราเริ่มพิธีการเข้าร่วมกันเถิด!”
นางไม่ต้องการจะรอข้า กลัวว่าหลังจากนี้จะเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นอีก หลังจากที่ซีเข้าร่วมกับตำหนักตงชิวอย่างเป็นทางการแล้ว นางจึงจะสามารถวางใจได้
“ตกลง!”
ซีพยักหน้าก่อนกระโดดลงมาจากบันไดสวรรค์โกลาหล
“แม่นาง ข้าหวังว่าเจ้าจะคิดให้ทบทวนดูให้ดี!”
“ใช่แล้ว แดนบรรพโกลาหลมีกฎเกณฑ์ หลังจากเข้าร่วมแล้วก็จะไม่สามารถเข้าร่วมกองกำลังอื่นเพื่อฝึกฝนได้อีก ไม่เช่นนั้นจะต้องเผชิญโทษทัณฑ์จากแดนบรรพโกลาหล”
เหล่าผู้ยิ่งใหญ่เอ่ยเตือน
แดนบรรพโกลาหลแตกต่างกับอาณาจักรแห่งอื่น ที่แห่งนี้มีกฎเกณฑ์แตกต่างจากอาณาจักรอื่นไม่ว่าจะเป็นนิกายเล็กใหญ่เพียงใด เมื่อเข้าร่วมแล้วก็จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ไม่เช่นนั้นจะต้องเผชิญหน้ากับการลงทัณฑ์
“ไม่จำเป็นต้องทบทวน ขอบคุณทุกท่านที่หวังดี!”
ซีเอ่ยตอบกลับเหล่าผู้ยิ่งใหญ่ได้ด้วยความสุภาพ
ตำหนักตงชิวนั้นอยู่ในแนวหน้า กองกำลังอื่น ๆ ของเหล่าผู้ยิ่งใหญ่ไม่ห่างอันใดไปจากตำหนักตงชิวนัก ไม่ว่านางจะไปที่ใดก็ล้วนเหมือนกันไม่แตกต่าง
“ไป ไป ไป!”
จ้าวแห่งตงชิวยิ้มแล้วจับมือของซี พานางเข้าไปยังตำหนักตงชิวเพื่อทำพิธีเข้าร่วม
พิธีเข้าร่วมเป็นสิ่งที่จำเป็น
ด้านในแดนบรรพโกลาหล ไม่ว่าจะเป็นนิกายเล็กหรือใหญ่ หากต้องการจะเข้าร่วมกองกำลัง ก็จำเป็นต้องผ่านพิธีเข้าร่วม
“เอาล่ะ พวกเราไปชมพิธีเข้าร่วมกันเถิด!”
“ขอแสดงความยินดีกับตำหนักตงชิวด้วย!”
ด้วยการตอบกลับอย่างชัดเจนของซี ทำให้ผู้ยิ่งใหญ่เหล่านี้ไม่แสดงท่าทีคิดช่วงชิงอีก ต่างพากันส่งคำอวยพรให้กับตำหนักตงชิว
ไม่ใช่พวกเขาไม่คิดแย่งชิง แต่เพราะพวกเขาไม่สามารถทำได้
ซีได้เอ่ยออกมาอย่างชัดเจนแล้ว หากพวกเขายังดึงดันต่อ เกรงว่าจะทิ้งความประทับใจไม่ดีไว้ให้กับซี ทำให้ซีเกิดความขุ่นเคืองขึ้นมา
พวกเขาไม่ต้องการให้เป็นเช่นนั้น ยังคงหวังว่าในอนาคตจะได้รับคำแนะนำจากซี
หลังจากนั้นพวกเขาก็ตามเข้าไปยังตำหนักตงชิว แอบเตรียมของขวัญเอาไว้ รอจนซีเข้าร่วมตำหนักตงชิวเรียบร้อยแล้ว พวกเขาค่อยนำของขวัญออกมามอบให้ เพื่อสร้างความประทับใจกับซี
หากรับไม่ได้ก็ทำลายทิ้งเสีย นี่เป็นวิธีคิดของอาณาจักรแห่งอื่น ภายในใจของพวกเขาต่างไม่มีความคิดเช่นนั้น
พวกเขาต่างต้องการให้ซีเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วและปลอดภัย ไม่ว่าซีจะเลือกฝึกฝนที่ใดก็ตาม
ในอนาคตพวกเขาอาจช่วยสนับสนุนซีเสียด้วยซ้ำ ในแดนบรรพโกลาหลนั้นมีการต่อสู้แย่งชิงอยู่ไม่มาก พวกเขาต้องการเพียงแค่ให้ซีเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
เพียงไม่นาน จ้าวแห่งตงชิวก็พาซีมาถึงลานกว้างของตำหนักตงชิว
ณ ที่แห่งนี้มีรูปปั้นมนุษย์ขนาดใหญ่ให้ความรู้สึกเกรงขามเป็นอย่างยิ่ง จนทำให้คนอดรู้สึกต้องการจะก้มลงกราบไม่ได้
และความจริงก็เป็นเช่นนั้น
เหล่าผู้ยิ่งใหญ่ที่ตามเข้ามาต่างพากันโค้งคำนับรูปปั้นด้วยความเคารพ
จ้าวแห่งตงชิวเอ่ยอธิบายที่มาของรูปปั้นให้กับซี “นี่คือบรรพจารย์ตำหนักตงชิวของพวกเรา นับเป็นสิ่งมีชีวิตแรกของตงชิวที่วิวัฒนาการขึ้นมา เผยแพร่สั่งสอนวิชาให้กับพวกเรา บุกเบิกเส้นทางการฝึกฝน เหล่าศิษย์ทั้งหมดของตำหนักตงชิว เมื่อเข้าร่วมย่อมต้องคุกเข่าคำนับบรรพจารย์ตงชิว!”
ซีพยักหน้า “ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น”
คุกเข่าคำนับบรรพจารย์ของสำนัก ไม่ว่าที่ใดก็สมควรจะทำเช่นนั้น
“นี่…ไม่จำเป็นต้องคุกเข่าคำนับได้หรือไม่ ข้ากลัว…ว่าจะมีเรื่องเกิดขึ้น!”
ทว่าเมื่อกำลังจะคุกเข่าคำนับ จู่ ๆ นางก็เอ่ยขึ้นมาอย่างกะทันหัน
ไม่ใช่ว่านางเสแสร้งแต่อย่างใด ทว่าภายในใจกลับบังเกิดความรู้สึกเช่นนี้รุนแรงเป็นอย่างมาก นางรู้สึกว่าหากนางคุกเข่าคำนับ ก็จะเกิดเรื่องบางอย่างขึ้นกับรูปปั้น!
ซีไม่รู้เสียด้วยซ้ำว่าเหตุใดตนเองจึงเกิดความรู้สึกเช่นนี้
แต่ทว่าภายในใจของนางก็เกิดความรู้สึกเช่นนี้ขึ้นมาจริง ๆ!