เป็นความย้อนแย้งอย่างบอกไม่ถูก
ด้วยความช่วยเหลือจากระบบ ในปีนี้หลินเยวียนจึงมีสุขภาพแข็งแรงมาก
ขณะที่ปัวโรต์ซึ่งถือกำเนิดขึ้นจากปลายปากกาของเขา ยอดนักสืบผู้น่ารักซึ่งมีเซลล์สมองสีเทาและหนวดสองแฉกเพิ่มความหยิ่งทะนง ในขณะนี้กลับแก่ชราลง
ยามที่ปัวโรต์เริ่มเรียกลมเรียกฝนในวงการนักสืบ…
ยามที่ปัวโรค์ค่อยๆ กลายเป็นตำนานในใจนักอ่านวรรณกรรมสืบสวนสอบสวน…
ยามที่ปัวโรต์ใช้สติปัญญาของเขาลงโทษคนร้ายครั้งแล้วครั้งเล่า
ใครเล่าจะจินตนาการได้ว่า!
บุรุษที่หยิ่งผยองเช่นนี้ เมื่อแก่ตัวลงจะเป็นอย่างไร
ใครเล่าจะจินตนาการได้ว่า!
ปัวโรต์จะยอมรับความตายในคดีสุดท้ายในชีวิตของเขาได้ไหม…
ดังนั้นหลินเยวียนจึงสงสัย
เขาถึงขั้นนึกอยากเปลี่ยนแปลงตอนจบโดยพลการ เพื่อให้ปัวโรต์ปลดเกษียณอย่างเป็นทางการ และมอบความสุขในวัยชราให้เขา!
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะการฟื้นฟูของร่างกายหรือเพราะผลกระทบอย่างอื่น
หลินเยวียนรู้สึกว่าตนนับวันยิ่งอ่อนไหวขึ้นเรื่อยๆ
ทันใดนั้นเขาก็ถอนหายใจอย่างแผ่วเบา ราวกับว่าการถอนหายใจจะทำให้เขาผ่อนคลาย
แววตาเป็นประกายวาบ
ท้ายที่สุดหลินเยวียนกลับล้มเลิกความคิดตามอำเภอใจนี้ไป
ไม่รู้ว่าขณะที่อกาธา คริสตีเขียนเรื่องผ้าม่าน เธอเกิดความขัดแย้งในใจหรือเปล่า
แต่ในแง่หนึ่ง แทนที่จะปล่อยให้ผู้อ่านจินตนาการว่าวัยชราของปัวโรต์จะเป็นอย่างไร บางทีความตายถึงจะเป็นความโล่งใจมากกว่า
คนเรามักจะจงใจหลีกเลี่ยงความจริงบางอย่างเสมอ…
ตัวอย่างเช่น ความจริงว่าคนเราต้องตาย
อันที่จริง เกิดมาเป็นคนมีแต่จะต้องตาย
ต่อให้ปัวโรต์จะเป็น ‘เทพเจ้า’ ในใจของแฟนวรรณกรรมสืบสวนสอบสวนหลายคน แต่เขาก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น
ถึงแม้การตายของเขาจะไม่ใช่การเกิดแก่เจ็บตายทั่วไป
“ฮู้ว”
หลินเยวียนพรูลมหายใจยาว
เขาไม่ลังเลอีกต่อไป เริ่มใช้ความเร็วสูงพิมพ์ลงบนคีย์บอร์ด [ไม่ว่าใครเมื่อได้สัมผัสความรู้สึกเดิมๆ ในวันวานหรืออารมณ์ที่ละม้ายคล้ายคลึงกับในอดีต จะไม่คิดว่าหลงอยู่ในความฝันหรอกหรือ?]
ปัวโรต์เชิญเฮสติงส์กลับไปยังคฤหาสน์ซึ่งพวกเขาร่วมสืบคดีกันเป็นครั้งแรก
คฤหาสน์ได้รับการดัดแปลงเป็นโรงแรมหรู
สิ่งที่ทำให้เฮสติงส์ตกใจคือ ปัวโรต์แก่ชราและอ่อนแอลง
เขาทำได้เพียงนั่งอยู่บนรถเข็น ทั้งยังไล่จอร์จซึ่งคอยรับใช้เขามาอย่างยาวนานออกไป…
แกร็กๆๆๆ
เสียงเคาะคีย์บอร์ดหยุดลงในเวลาสิบเอ็ดโมงสามสิบสองนาที
หลินเยวียนจ้องมองต้นฉบับ ในที่สุดก็พิมพ์ว่า ‘จบบริบูรณ์’
ขณะที่กำลังจะปิดแล็ปท็อป การเคลื่อนไหวของหลินเยวียนก็ชะงัก
หลังจากปัวโรต์ เขาควรเขียนเรื่องราวของเชอร์ล็อก โฮล์มส์ต่อ…
น่าจะไม่มีความเชื่อมโยงกันระหว่างตัวละครทั้งสองนี้ เพราะนักเขียนเป็นคนละคนกัน
แต่บนบลูสตาร์ ผลงานทั้งสองชิ้นนี้ควรมาจากปลายปากกาของฉู่ขวง
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ทำไมไม่ให้บุคคลที่โดดเด่นที่สุดในประวัติศาสตร์วงการนักสืบ เกิดความเชื่อมโยงกันล่ะ?
ความเชื่อมโยงนี้อาจเบาบางมากก็ได้
แต่ทั้งสองคนควรมีจุดตัดกันในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง
เรื่องนี้นับว่าเป็นทีเซอร์กลายๆ ของหนังสือเรื่องใหม่
ผู้ชมจะเข้าใจเอง
ว่าหลังจากปัวโรต์ยังมีสุภาพบุรุษอีกคนหนึ่ง ซึ่งจะประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่นในสายอาชีพนี้ไม่แพ้กัน
“แบบนี้ก็แล้วกัน…”
หลินเยวียนแตะลงบนคีย์บอร์ดและพิมพ์ลงไป
นั่นคือในงานศพของปัวโรต์
หลังจากที่เฮสติงส์วางดอกไม้และโค้งคำนับ ขณะที่กำลังจะออกไป เขาก็พบชายลึกลับคนหนึ่งสวมหมวกทรงกลมกำลังพยักหน้าให้กับป้ายหลุมศพของปัวโรต์
……
วันรุ่งขึ้น
หลินเยวียนส่งนิยายชุดรหัสคดีของปัวโรต์ซึ่งเขียนเสร็จแล้วให้กับจินมู่
“เขียนเสร็จแล้ว?”
จินมู่รู้ว่าระยะนี้หลินเยวียนวางแผนจะเขียนนิยายชุดรหัสคดีของปัวโรต์ให้จบ
แต่เมื่อได้รับต้นฉบับมามากมายเช่นนี้ สีหน้าของเขายังคงตื่นตกใจพอสมควร “ช่วงนี้คุณเขียนไปกี่ตัวอักษรครับเนี่ย”
“ไม่รู้ครับ”
“มือของคุณเร็วมาก…”
จินมู่รำพันอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะกล่าวขึ้น “ผมส่งนิยายไปให้ทางคลังหนังสือซิลเวอร์บลูตีพิมพ์ก่อนแล้วกันครับ ตอนนี้หนังสือจบแล้วทุกเล่ม ควรจะทำรวมเซ็ตปัวโรต์สักหน่อย”
หลินเยวียนไม่มีความเห็น
เย็นวันนั้น
จู่ๆ หลินเยวียนก็ได้รับโทรศัพท์
โทรศัพท์มาจากเฉาเต๋อจื้อ หัวหน้าบรรณาธิการแผนกวรรณกรรมสืบสวนสอบสวน
ปกติแล้ว เฉาเต๋อจื้อจะติดต่อกับจินมู่ ครั้งนี้บางทีอาจเป็นเรื่องเร่งด่วน เขาจึงติดต่อกับฉู่ขวงโดยตรง
อันที่จริง นี่ก็เป็นเรื่องเร่งด่วนจริงๆ นั่นแหละ
อีกฝ่ายไม่สามารถข่มความตื่นตระหนกในน้ำเสียงไว้ได้ “อาจารย์ฉู่ขวง คุณจะทำแบบนี้ไม่ได้นะครับ!”
หลินเยวียนเอ่ยปลอบอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน “ใจเย็นๆ ครับ”
เฉาเต๋อจื้อคล้ายกับจะตระหนักได้ว่าความตื่นตระหนกของตนออกจะเกินจริงไปสักหน่อย
เขากลืนน้ำลาย ค่อยๆ กดเสียงเบาลง “คุณเขียนให้นิยายชุดรหัสคดีปัวโรต์จบลง ผมไม่มีความเห็น ต่อให้หลังจากนี้คุณจะไม่เขียนนิยายสืบสวนสอบสวนต่อแล้วผมก็พูดอะไรไม่ได้ แต่ทำไมคุณต้องเขียนให้ปัวโรต์ตายด้วยล่ะครับ แถมยังใช้รูปแบบนี้…”
หลินเยวียนครุ่นคิด จากนั้นจึงตอบไป “นี่คือชีวิตของปัวโรต์”
เฉาเต๋อจื้ออ้าปากพะงาบ ทว่าสุดท้ายแล้วก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
เขาเงียบอยู่พักใหญ่ ก่อนจะพูดออกมา “ผมเข้าใจแล้ว งั้นบุคคลลึกลับที่ปรากฏตัวในตอนจบของคุณ…”
“ตัวเอกของเรื่องใหม่ครับ”
“คุณยังวางแผนจะเขียนนิยายสืบสวนสอบสวนต่อ?”
“ทำไมจะไม่เขียนล่ะครับ?”
“เข้าใจแล้วครับ”
สุดท้ายแล้วเฉาเต๋อจื้อก็โน้มน้าวฉู่ขวงไม่สำเร็จ
อันที่จริงเฉาเต๋อจื้อรู้อยู่แก่ใจว่าตนไม่สามารถโน้มน้าวฉู่ขวงได้
ความคิดของนักเขียนคนนี้เคยถูกบรรณาธิการชักจูงซะที่ไหนล่ะ
การที่เขาโทรศัพท์มาในวันนี้เหมือนโทรมาในฐานะนักอ่าน มากกว่าในฐานะบรรณาธิการ
เพราะเขาไม่ได้เป็นเพียงหัวหน้าบรรณาธิการนิยายชุดรหัสคดีปัวโรต์ แต่ขณะเดียวกันก็ยังเป็นแฟนคลับตัวยงของปัวโรต์ด้วย!
ในฐานะแฟนคลับตัวยงของปัวโรต์ เป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะยอมรับว่าปัวโรต์เสียชีวิตในลักษณะนี้
ถึงแม้เขาจะเข้าใจ ว่านิยายชุดรหัสคดีปัวโรต์ยาวมากแล้ว
การตายของปัวโรต์ ไม่มีคำว่าไม่สมบูรณ์ มิหนำซ้ำยังทำให้ตัวตนของปัวโรต์เด่นชัดขึ้น และเป็นที่จดจำของผู้อ่านได้ง่ายขึ้น
‘สมแล้วที่เป็นเจ้าแก่ฉู่ขวง เขียนจบแล้วยังทิ้งระเบิดใส่คนอ่านอีก…’
เฉาเต๋อจื้อพึมพำอยู่ในใจ แต่ปากกลับไม่กล้าพูดออกมา แม้ว่าแฟนคลับของฉู่ขวงจะเรียกเช่นนั้นก็ตาม
ค่ำวันนั้น
คลังหนังสือซิลเวอร์บลูประกาศข่าวใหญ่
‘ผลงานสุดคลาสสิกของอาจารย์ฉู่ขวง นิยายชุดรหัสคดีของปัวโรต์จะจบลงอย่างเป็นทางการในสามวันข้างหน้า!’
ผ่าม!
ทันทีที่ข่าวออกมา ทั้งแวดวงวรรณกรรมสืบสวนสอบสวนล้วนตกตะลึง!
ถึงขั้นที่สั่นสะเทือนไปทั้งวงการนิยาย!
นี่คือสิ่งที่ควรเกิดขึ้นกับนิยายชุดรหัสคดีของปัวโรต์!
ผู้ที่ชื่นชอบนิยายชุดนี้มีมากจริงๆ!
ทั่วทั้งแวดวงวรรณกรรมสืบสวนสอบสวน นิยายเรื่องนี้ควรค่าแก่การเป็นผลงานคลาสสิก!
ทว่าในยามนี้ ผลงานคลาสสิกชุดนี้กำลังมาถึงตอนอวสาน
ชั่วขณะนั้น ต่างคนต่างถกเถียงกัน!
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีปฏิกิริยาตอบสนองรุนแรงต่อข่าวนี้มากที่สุด เห็นจะเป็นผู้อ่านนิยายชุดรหัสคดีของปัวโรต์
พรึบๆๆ!
บนพื้นที่แสดงความคิดเห็นซึ่งประกาศข่าวนี้อย่างเป็นทางการ ก็ถูกถล่มด้วยคอมเมนต์ของผู้อ่านนับไม่ถ้วน และคอมเมนต์ส่วนมากของผู้อ่านนั้นมีความเห็นไปในแนวทางเดียวกัน
ไม่อยากให้จบ!
หลายคนเคยชินกับการตามนิยายชุดนี้ นี่คือเสบียงทางจิตวิญญาณในระยะยาวของผู้อ่านหลายคน
และตอนนี้ ฉู่ขวงก็เตรียมตัดเสบียงของทุกคน
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ผู้อ่านจะเสียดาย แต่พวกเขาก็ยอมรับความจริงที่ว่านิยายเรื่องนี้กำลังจะจบลง
เจ้าแก่ฉู่ขวงไม่ได้ทำแบบนี้เป็นครั้งแรกสักหน่อย!
ต่อให้เป็นนิยายขายดี เมื่อถึงจุดที่ควรอวสาน เจ้าแก่ฉู่ขวงก็ไม่ปรานี
ถ้าคิดจะตามนิยายของฉู่ขวง จะต้องกระจ่างในเรื่องนี้!
ตราบใดที่มอบตอนจบที่สมบูรณ์แบบให้กับทุกคน ต่อให้ทุกคนจะเสียดาย แต่ก็ทำได้เพียงยอมรับ
ด้วยความเสียดาย ทุกคนจึงเริ่มตั้งตารอการเปิดตัวหนังสือเล่มสุดท้ายอย่างเป็นทางการในอีกสามวัน
เป็นเช่นนี้
จนสามวันผ่านไป…
เล่มสุดท้ายของนิยายชุดรหัสคดีของปัวโรต์ ก็เปิดตัวอย่างเป็นทางการ!
…………………………………………………..