บทที่ 651 จักรวาลคึกคัก ทุกอาณาจักรเคลื่อนไหว!
ต้นบรรพจารย์พิศวงทั้งหมดตื่นขึ้นติดต่อสื่อสารกันอย่างใกล้ชิด ข้อมูลในบทสนทนาช่างน่าตื่นตะลึงเกินไป กระทั่งเรื่องเทวโลกยังถูกเอ่ยออกมา
ท่ามกลางจักรวาลโกลาหลอันมากมาย มีสิ่งมีชีวิตจำนวนไม่มากที่รู้เรื่องของเทวโลก
เทวโลกนั้นลึกลับอย่างถึงที่สุด อาจเป็นต้นกำเนิดของจักรวาลโกลาหลทั้งหมด หากไม่ก้าวมาถึงจุดสูงสุด ย่อมไม่อาจสัมผัสได้ถึงเทวโลกโดยสิ้นเชิง เป็นไปไม่ได้ที่รับรู้ถึงเทวโลก
เมื่อไปถึงจุดสูงสุด ในตอนท้ายก็ต้องพาตนเองกระโดดออกจากจักรวาลโกลาหลเดิม ทลายข้อจำกัดของหัวใจโกลาหล แม้จะกล่าวอย่างเรียบง่ายแต่ความจริงแล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้น โอกาสที่จะสำเร็จนั้นแทบจะเป็นศูนย์เสียด้วยซ้ำ
แน่นอน คำพูดที่ว่ากระโดดออกไม่ได้หมายความว่าออกจากจักรวาลโกลาหลที่พวกเขาอยู่จริง ๆ
มีสิ่งมีชีวิตจำนวนมากที่สามารถกระโดดออกจากจักรวาลโกลาหลได้
คำว่ากระโดดออกไปในที่นี่หมายถึงการก้าวข้ามหัวใจโกลาหล ไม่ถูกจำกัดด้วยหัวใจโกลาหลอีกต่อไป
หัวใจโกลาหลวิวัฒน์สรรพสิ่งและอาณาจักรนับหมื่น ทว่าท้ายที่สุดแล้วเหล่าสิ่งมีชีวิตที่ได้รับการวิวัฒน์ก็ยังคงต้องพึ่งพาพลังจากหัวใจโกลาหล ถูกจำกัดเอาไว้ด้วยหัวใจโกลาหล
“พวกเรานับว่าโชคดียิ่งนัก จึงสามารถสัมผัสได้ถึงเทวโลก”
บรรพจารย์ต้นกำเนิดเอ่ยขึ้นมาด้วยความปีติ
พวกมันยังอยู่ห่างไกลจากการกระโดดออกหลายขั้น ไม่มีทางสัมผัสได้ถึงเทวโลกโดยสิ้นเชิง ทว่าพวกมันนั้นโชคดียิ่งนักที่พลังเทวโลกมองลงมาเองและพบกับพวกมันเข้า
ยามนั้นพวกมันล้วนไม่อาจนับเป็นสิ่งใดได้ อย่าว่าแต่สิ่งที่สามารถบงการครอบงำจักรวาลโกลาหลได้เลย กระทั่งต่อหน้าพลังความมืดพวกมันยังเป็นได้เพียงแค่จุดเล็ก ๆ
เป็นเพราะพลังที่เทวโลกมอบให้ พวกมันจึงแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก กลายเป็นสิ่งมีชีวิตพิศวงในสายตาของสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ผู้อยู่เหนือจักรวาลโกลาหล ต้องการให้ความพิศวงแผ่ปกคลุมจักรวาลโกลาหลทั้งหมด แผ่ขยายออกไปเข้าสู่จักรวาลโกลาหลอื่น ๆ
“จะดีร้ายขึ้นอยู่กับผลลัพธ์ หากทำออกมาไม่ดีย่อมไม่ใช่โชคดี แต่เป็นหายนะ!”
บรรพจารย์ต้นกำเนิดอีกคนสงบนิ่งอย่างมาก ไม่ได้รู้สึกอันใดมากมาย บนโลกนี้ไม่มีของดีที่ได้มาโดยเปล่า ขนมไม่อาจร่วงหล่นลงมาจากฟ้า สิ่งที่ได้รับมาย่อมมีราคาต้องจ่าย!
“เป็นเช่นนั้นจริง!”
บรรพจารย์ต้นกำเนิดพยักหน้า สงบอารมณ์ของตนเองลง หากทำไม่ดีราคาที่ต้องจ่ายนั้นชดเชยหนักหนาสาหัสเกินไปจริง ๆ แม้คิดจะตายก็ยังยาก
“ทุกอย่างดำเนินไปตามปกติ ไม่จำเป็นต้องระแวงสิ่งใด พวกเราจะต้องสยบจักรวาลโกลาหลแห่งนี้เอาไว้ให้ได้!”
บรรพจารย์ต้องกำเนิดเหยียดยิ้ม “เวลา ‘พิธีล้างบาป’ ของพวกเราได้มาถึงแล้ว หลังจากผ่านการล้างบาป พวกเราก็จะแข็งแกร่งยิ่งขึ้น! เมื่อถึงตอนนั้น หากเจ้านั่นยังกล้าโผล่ออกมาหยุดอีกก็จะต้องถูกทำลายสิ้น!”
พิธีล้างบาป นี่เป็นของขวัญที่พลังจากเทวโลกมอบให้พวกเขาเป็นระยะ
หลังจากสนทนากันเสร็จสิ้นแล้ว พวกมันทั้งหมดต่างก็เข้าสู่การจำศีลเพื่อรอพิธีล้างบาปที่กำลังจะมาถึง
หากไม่ใช่เพราะรอ ‘พิธีล้างบาป’ ที่กำลังจะมาถึง พวกมันก็คงไม่รั้งรออยู่ที่นี่ จะต้องออกไปต่อสู้ในจักรวาลโกลาหลที่ต่าง ๆ ดำเนินการรุกราน
…
ภายในจักรวาลอันกว้างใหญ่ไร้ที่สิ้นสุด มีเรือโบราณขนาดใหญ่มโหฬารแล่นไปด้านหน้าอย่างรวดเร็วผ่านดวงดาราและแสงสุริยันนับไม่ถ้วนที่ตกกระทบ
“พี่มู่ชวนรอข้าก่อนเถิด เมื่อได้เข้าไปยังแดนบรรพโกลาหลแล้วจะร่ำเรียนวิชาให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ข้าจะดูว่าท่านยังจะสามารถหนีรอดไปจากเงื้อมมือของข้าได้หรือไม่!”
ชางเหยายืนอยู่ตรงหัวเรือ รูปร่างหน้าตาของนางดูน่ารักเป็นอย่างยิ่งขณะกำหมัดแล้วเอ่ยกับตนเอง
พวกเขากำลังออกเดินทาง นี่คือเรือโบราณอันล้ำค่าของแคว้นโบราณชางเยว่ มันสามารถล่องผ่านจักรวาลหมื่นดาราได้อย่างรวดเร็ว ใช้เวลาเพียงไม่นานพวกเขาก็จะไปถึงอาณาจักรอันเป็นที่ตั้งของแดนบรรพโกลาหล
…
ข่าวเรื่องแดนบรรพโกลาหลใกล้จะปรากฏออกมาแพร่กระจายอย่างรวดเร็วในหมื่นอาณาจักร เรื่องนี้ไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถปิดบังได้อย่างแน่นอน สิ่งมีชีวิตอันแข็งแกร่งจำนวนมากต่างสัมผัสได้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้ ยิ่งเวลาผ่านไปก็ยิ่งมีสิ่งมีชีวิตรับรู้ได้มากขึ้นเรื่อย ๆ ข่าวสารจึงยิ่งแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว
“ไป ไป ไป!”
“นี่เป็นโอกาสครั้งใหญ่ที่สุด! ความเป็นนิรันดร์อยู่เบื้องหน้าแล้ว การกลายเป็นเซียนก็อยู่เพียงใต้ฝ่าเท้า!”
สิ่งมีชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วนต่างคึกคักพากันออกเดินทาง มุ่งสู่อาณาจักรอันเป็นสถานที่ตั้งของแดนบรรพโกลาหล
นี่ทำให้จักรวาลหมื่นดารามีชีวิตชีวาเป็นพิเศษ เหล่าศาสตราเดินอากาศทุกประเภทออกเดินทาง
…
ณ แดนมรณา
นับตั้งแต่หลี่จิ่วเต้ามาที่นี่ครั้งล่าสุด สิ่งมีชีวิตภายในแดนมรณาก็เก็บตัวเงียบ ไม่กล้าลงมือทำเรื่องใด
“แดนบรรพโกลาหล พวกเรายังต้องต่อสู้แข่งขันแย่งชิงเพื่อไปยังที่แห่งนั้นอยู่!”
จ้าวมรณาไม่เต็มใจที่จะปล่อยแดนบรรพโกลาหลไปเช่นนี้ ตัดสินใจที่จะมุ่งไปยังอาณาจักรอันเป็นที่ตั้งของแดนบรรพโกลาหล
“คนผู้นั้นมายังแดนมรณาเพื่อเตือนไม่ให้พวกเราทำการเข่นฆ่าตามอำเภอใจ พวกเราเพียงจดจำจุดนี้ไว้ให้ดี น่าจะไม่มีปัญหาอันใด!”
เขาพินิจตัดสินใจ การตัดสินใจครั้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างด่วนใจ แต่ผ่านการขบคิดพินิจอย่างถี่ถ้วน
พิจารณาจากครั้งล่าสุดที่หลี่จิ่วเต้ามาที่นี่แล้ว ชายผู้นี้ไม่ได้สังหารล้างบางพวกเขาทั้งหมด แม้ว่าเขาจะมีความสามารถมากพอที่จะทำเช่นนั้นก็ตาม
เป้าหมายของหลี่จิ่วเต้าเพียงแค่เพื่อมาเตือนไม่ให้พวกเขาคิดสังหารล้างสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในอาณาจักรแห่งนั้น
“ไป!”
เขารวบรวมกำลังคน ทำหน้าที่ผู้นำกองกำลังด้วยตนเอง เตรียมตัวออกเดินทาง
…
ณ แดนเซียน
ที่แห่งนี้เต็มไปด้วยเมฆหมอกเซียนลอยล้อมรอบ สสารเหนือชั้นกระโดดโลดเต้น กฎแห่งสวรรค์และโลกน่าตื่นตะลึง สิ่งมีชีวิตที่ปรากฏตัวให้เห็นเป็นครั้งคราวล้วนแข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง ระดับพลังนั้นอยู่ขอบเขตเซียนขึ้นไป
สังเกตให้ดีแล้ว ที่นี่คือแดนเซียน ไม่ใช่ภพเซียน เป็นบ้านเกิดของเหล่าเผ่าปลามังกร คือภพเซียนเทียมที่เรียกตนเองว่าเป็นแดนเซียน
ที่แห่งนี้แตกต่างจากภพเซียน ซ้ำยังแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน แม้สสารในที่แห่งนี้จะอยู่เหนือชั้น สามารถทำให้สิ่งมีชีวิตอายุยืนยาวมากขึ้น แต่ก็ไม่อาจทำให้คงอยู่นิรันดร์ได้ ยังคงถูกกัดกร่อนด้วยอายุขัย ไม่มีสสารนิรันดร์อยู่แม้แต้น้อย
“ร่องรอยของแดนบรรพโกลาหลชัดเจนยิ่งขึ้น เหลือเวลาอีกเพียงไม่นานแล้ว พวกเราก็ออกเดินทางกันเถิด อย่าได้พลาดโอกาสครั้งนี้”
“เมื่อพวกเรากลับมา แดนเซียนแห่งนี้จะกลายเป็นภพเซียนที่แท้จริง สสารนิรันดร์จะปกคลุมทั่วดินแดนของเราทุกหนแห่ง!” เหล่าสิ่งมีชีวิตเก่าแก่ในดินแดนแห่งนี้พูดคุยสนทนากัน พวกเขาเองก็ตัดสินใจจะเคลื่อนไหว ออกเดินทางไปยังอาณาจักรอันเป็นที่ตั้งของแดนบรรพโกลาหล เตรียมตัวเข้าไปยังแดนบรรพโกลาหล!
ซ่า!
ในมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ไร้ที่สิ้นสุด ท่ามกลางคลื่นที่สาดซัด ด้านล่างมีตำหนักโบราณเรียงติดต่อกัน
“แดนบรรพโกลาหลกำลังจะปรากฏขึ้นแล้ว นี่เป็นโอกาสที่พวกเราจะได้กลายเป็นเซียนมัจฉา ฟังคำสั่งของข้าให้ดี ปลามังกรทั้งหมดจงเตรียมตัวให้พร้อม จากนั้นพวกเราทั้งตระกูลจะไปยังดินแดนแห่งนั้น!”
ปลามังกรตัวหนึ่งที่ใหญ่โตเสียยิ่งกว่าขุนเขาออกคำสั่งด้วยเสียงที่ดังกึกก้องไปทั่วมหาสมุทร ลมหายใจของมันที่แผ่ออกมาสามารถทำให้คนหวาดกลัวสะท้านไปถึงวิญญาณได้
ใช่แล้ว
ด้านในผืนสมุทรแห่งนี้คือสถานที่อยู่อาศัยของเผ่าปลามังกร และปลามังกรขนาดใหญ่โตมหึมาก็คือผู้นำของเผ่าปลามังกร
“ช่างน่าเสียดายนัก จินซวี่และเหล่าอัจฉริยะคนอื่นหายตัวไปอย่างไร้สาเหตุ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่พบข่าวคราว ถ้าหากพวกเขายังอยู่และสามารถติดตามพวกเราเข้าไปยังแดนบรรพโกลาหล จะต้องประหนึ่งทะยานฟ้า บรรลุขึ้นไปสู่ขอบเขตที่สูงจนไม่อาจจินตนาการถึง ทำให้เผ่าปลามังกรของพวกเราเปล่งประกายมากยิ่งขึ้น!”
ผู้นำเผ่าถอนหายใจออกมา ภายในใจอดรู้สึกเสียดายไม่ได้
จินซวี่และอัจฉริยะคนอื่น ๆ ต่างเป็นรุ่นเยาว์ที่โดดเด่นสุดในเผ่าปลามังกร พรสวรรค์ของพวกมันน่าตื่นตะลึง ศักยภาพแฝงไร้ขีดจำกัด อาจกล่าวได้ว่าเป็นความหวังในอนาคตของเผ่าปลามังกร
แต่เป็นเรื่องแปลกประหลาดอย่างยิ่ง จินซวี่และเหล่าอัจฉริยะคนอื่น ๆ ต่างหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย พวกมันตามหาอย่างไรก็ไม่พบจินซวี่และอัจฉริยะคนอื่น ๆ
สำหรับเผ่าปลามังกรของพวกมันแล้ว กล่าวได้ว่าเป็นการเสียหายอย่างหนัก จนถึงตอนนี้ผู้นำเผ่าก็ไม่สามารถปล่อยวางได้ รู้สึกราวกับมีสิ่งใดติดอยู่ในลำคอ ไม่สามารถลบเลือนจากภายในใจได้
“ข้ารู้สึกว่าพวกมันล้วนถูกสังหารหมดสิ้นแล้ว…”
มีความรู้สึกไม่ดีอยู่ภายในใจของผู้นำเผ่า รู้สึกว่าจินซวี่กับอัจฉริยะคนอื่น ๆ จะไม่หวนกลับมาอีกแล้ว
“วางใจเถิด อีกไม่ช้าก็เร็วพวกเราจะต้องพบพวกเขาแน่! หากพวกเขาถูกสังหารจริง พวกเราก็จะล้างแค้นให้พวกเขา ทำให้ผู้ที่สังหารพวกเขาต้องชดใช้อย่างสาสม!”
ดวงตาของมันเย็นเยียบ ไม่มีวันยอมปล่อยเรื่องของจินซวี่กับเหล่าอัจฉริยะคนอื่นไป ต่อให้พวกจินซวี่ตายไปแล้ว มันก็ต้องตามหาศพกลับมาให้ได้!
“ถ้าหากพวกเจ้าถูกสังหารจริง ๆ ข้าไม่สนใจว่ามันผู้นั้นจะเป็นสิ่งใด จะจับมันโยนลงไปในหม้อน้ำมันทอดกินเสียให้หมด!”
มันเอ่ยออกมาอย่างชิงชัง