บทที่ 657 สุนัขขาว ‘กำราบจิ้งจอกสองตัวนี้เพื่อมาแทนที่มัน!’
เห็นจิ้งจอกขาวลงจากรถ จิ้งจอกน้อยสีแดงเพลิงพลันยินดีปรีดาอย่างมาก นางวิ่งไปอยู่ข้างกายจิ้งจอกขาว ถูไถจิ้งจอกขาวไปมาไม่หยุด
“พวกเจ้าไปเล่นกันเถิด”
หลี่จิ่วเต้าคลี่ยิ้ม มิได้กอดจิ้งจอกน้อยสีแดงเพลิงไว้ในอ้อมอก แม้ว่าการทำเช่นนั้นจะสบายมาก กระนั้นเขาต้องการให้จิ้งจอกน้อยสีแดงเพลิงอยู่กับจิ้งจอกขาวมากกว่า
ลั่วสุ่ย หลิงอิน ต่างเห็นภาพเหตุการณ์ทุกอย่าง ตลอดทั้งทาง จิ้งจอกขาวมีท่าทีเย็นชา คุณชายมิได้โกรธแต่อย่างใด ซ้ำยังรักใคร่เอ็นดูจิ้งจอกขาวมากกว่าเดิม คุณชายช่างใจกว้างยิ่งนัก
“พวกเจ้าก็ไปเดินเล่นให้ทั่ว ยืดเส้นยืดสายบ้างเถิด ทิวทัศน์ที่นี่ไม่เลวจริง ๆ”
หลี่จิ่วเต้าพูดจบ หันมองลั่วสุ่ยพลางกล่าว “เสี่ยวไป๋ นำก้อนหินและเครื่องมือตกปลาไปด้วย พวกเราไปตกปลากันเถิด”
เมื่อครั้งอยู่เมืองชิงซาน เขาตกปลากับเสี่ยวไป๋อยู่บ่อย ๆ ฝีมือตกปลาของเสี่ยวไป๋พัฒนาขึ้นมากเช่นกัน
เขาสังเกตเห็นตั้งแต่ก่อนลงมาถึงว่าที่นี่มีทะเลสาบมโหฬารแห่งหนึ่ง น้ำในนั้นใสกระจ่าง ปลาน้อยใหญ่ว่ายไปมาในนั้นมากมาย เหมาะแก่การตกปลาเป็นอย่างยิ่ง
“เจ้าค่ะคุณชาย!”
ลั่วสุ่ยตอบเสียงหวาน ปีติในใจเป็นที่สุด หลังเตรียมเครื่องมือตกปลาเรียบร้อยแล้ว นางยกก้อนหินลงจากรถลาก
‘อากาศที่นี่สดชื่นจริง ๆ ดีกว่าที่ลำธารของเรามาก! ป่านนี้พี่หลิวคงร่ำไห้อยู่กระมัง! เฮ้อ ร่ำไห้ไปเถิด ช่วยไม่ได้ ผู้ใดใช้ให้คุณชายรักข้ามากกว่าเล่า!’
ก้อนหินคิดในใจ
มันดีใจเป็นอย่างยิ่ง
นี่เป็นครั้งแรกที่มันได้ออกมาข้างนอก คิดแล้วต้นหลิวคงยังอยู่ที่ริมลำธารกระมัง และกำลังหลั่งน้ำตาแห่งความอิจฉาริษยาอยู่เป็นแน่
‘แหะ ๆ กลับไปคราวนี้คงต้องเปลี่ยนสรรพนามกันหน่อยแล้วกระมัง ข้าติดตามคุณชายออกเดินทางเช่นนี้ หลังกลับไปคงได้แข็งแกร่งขึ้นอีกหลายเท่า ต้นหลิวไฉนเลยจะเป็นคู่มือของข้า’
มันคิดอย่างมีความสุข ‘พี่ก้อนหิน น้องต้นหลิว อื้อหือ ช่างคล่องปากเสียจริง! กลับไปแล้วต้องเปลี่ยนทันที! หากน้องต้นหลิวไม่ยินยอม ข้าจะตีมันจนกว่ามันจะยินยอม!’
ต้นหลิวชอบหวดมันอยู่บ่อย ๆ รอจนกลับไปแล้ว มันจะลุกฮือต่อต้าน กำราบต้นหลิว สั่งให้ต้นหลิวเรียกมันว่าพี่ใหญ่!
ทั้งสองมาอยู่ที่ริมทะเลสาบ ลั่วสุ่ยวางก้อนหินลง หลี่จิ่วเต้านั่ง สบายอย่างยิ่งยวด
“ที่นั่งในรถลากยังไม่สบายเท่าได้นั่งบนก้อนหินเลย!”
หลี่จิ่วเต้าลูบก้อนหิน เอ่ยพลางยิ้ม
ก้อนหินนุ่มนวลดั่งหยก สบายเป็นที่สุด เขานั่งก้อนหินจนชิน หากมิได้นั่งตกปลาบนก้อนหิน เขาคงตกปลาต่อมิได้
“เริ่มตกปลากันเถอะ”
หลี่จิ่วเต้าตกปลากับลั่วสุ่ยอยู่ที่นี่ด้วยใบหน้าแย้มยิ้ม
ลั่วสุ่ยมีเครื่องมือตกปลาเช่นกัน เขาทำมันให้ลั่วสุ่ยด้วยตนเอง นับตั้งแต่ลั่วสุ่ยจำแลงกายเป็นมนุษย์ ศิลปศาสตร์ทั้งสี่แขนง ทั้งฝีมือแกะสลัก ทักษะตกปลา เขาได้สอนสั่งให้ลั่วสุ่ยแล้วทุกอย่าง
“ผู้ใกล้ศาลากลางน้ำย่อมเห็นเงาจันทร์ก่อน ท้ายที่สุดข้าก็แพ้…”
เซี่ยเหยียนมองภาพลั่วสุ่ยร่วมตกปลากับคุณชายและร้องไห้ออกมา
“พอเถิด เจ้ามิได้มีนิสัยเหมาะกับการตกปลา มิฉะนั้น คุณชายต้องสอนเจ้าด้วยแน่”
หลิงอินตบไหล่เซี่ยเหยียนเบา ๆ ด้วยรอยยิ้ม พลางกล่าวต่อ “ไปเดินเล่นรอบ ๆ ด้วยกันเถิด…”
“ก็ได้พี่หญิงหลิงอิน!”
เซี่ยเหยียนเช็ดน้ำตาให้แห้ง ออกเดินเล่นไปยังที่ต่าง ๆ พร้อมกับหลิงอิน
เด็ก ๆ อย่างพวกอ้ายฉานก็วิ่งพล่านด้วยความรื่นรมย์ อย่างไรพวกเขาก็ยังวัยเยาว์ รักสนุก และติดสนุก
“เจ้าหัวล้าน รับหมัดข้าไปซะ!”
อ้ายฉานตบเข้าที่แผ่นหลังต้าเต๋อฉาดใหญ่ จนต้าเต๋อล้มหน้าคะมำ เด็กคนอื่น ๆ พากันหัวเราะยกใหญ่
“ลอบโจมตีนี่ เจ้าไร้จรรยาบรรณ! คอยดูอานุภาพมังกรฟ้าของข้า…!”
ต้าเต๋อโมโหยกใหญ่ เข้าโรมรันกับอ้ายฉานเป็นพัลวัน
“นี่ พวกเจ้าระวังหน่อย ยับยั้งพลังบ้าง อย่าทำลายสิ่งแวดล้อมแถบนี้”
อันหลานเสวี่ยตะโกน เป็นห่วงอย่างยิ่ง นางคอยตามอยู่ด้านหลังเหล่าเด็ก ๆ อย่างพวกอ้ายฉานอยู่ตลอด
ส่วนเสี่ยวหยาเดินอยู่กับพี่ชายของนาง สนทนากันอย่างมีความสุข
พี่ชายของนางก้าวออกจากเงามืดได้นานแล้ว บัดนี้มิได้มีเรื่องคิดไม่ตกแต่อย่างใด ร่าเริงเบิกบานอย่างยิ่งยวด
จิ้งจอกขาวกับจิ้งจอกน้อยสีแดงเพลิงเมื่อเทียบกับพวกหลิงอินแล้วเดินห่างไกลออกไปหน่อย ถึงอย่างไร จิ้งจอกขาวก็มิชอบความคึกคักเช่นนั้น
ส่วนจิ้งจอกน้อยสีแดงเพลิงพล่ามเสียงเจี๊ยวจ๊าวไม่หยุด ร่าเริงเหลือแสน จิ้งจอกขาวเอาแต่ส่ายหัวอย่างระอา ความเยียบเย็นในสายตาคลายลงไปบ้าง
โฮ่ง!
ขณะเดียวกัน สุนัขขาวตัวหนึ่งก็กระโดดออกจากห้วงอากาศกะทันหัน มันสบถ “แค่หยิบอาภรณ์ของพวกเจ้าไปนิดหน่อยเท่านั้น จำเป็นต้องไล่ฆ่าข้าอย่างเอาเป็นเอาตายปานนี้เชียวหรือ เวรเอ๊ย ในที่สุดตอนนี้ข้าก็สลัดพวกเจ้าหลุดแล้ว!”
มันคือสุนัขขาวที่ออกมาจากแดนบรรพโกลาหล เป็นผู้ลักขโมยอาภรณ์ชั้นใน และรองเท้าถุงเท้าของผู้ฝึกตนสตรีในแดนบรรพโกลาหล จนถูกไล่ฆ่ามาตลอดทั้งทาง
ทว่าถึงอย่างไรมันก็คลุกคลีในยุทธภพมานาน ด้วยกลยุทธ์และอุบายต่าง ๆ สุดท้ายมันก็สลัดเหล่าผู้ฝึกตนสตรีจากแดนบรรพโกลาหลออกไปได้
“จิ้งจอกสองตัวนี้งดงามยิ่งนัก!”
ตาของมันเป็นประกาย เมื่อเห็นว่าห่างออกไปไม่ไกลมีจิ้งจอกสองตัว ตัวหนึ่งเป็นจิ้งจอกขาว ตัวหนึ่งเป็นจิ้งจอกแดง ทั้งสองตัวล้วนมีรูปลักษณ์งดงาม ขนนุ่มลื่นวาววาม
“ข้าไม่ไหวแล้ว น่ากลัวว่าชื่อเสียงของข้าคงแซ่ซ้องไปทั่วแดนบรรพโกลาหล วันหน้า หากผู้ฝึกตนสตรีในแดนบรรพโกลาหลพบเห็นสุนัขขาว ข้าเห็นว่าคงต้องระแวงกันถ้วนหน้า…”
มันพึมพำกับตัวเองเสียงเบา
เจ้าพวกผู้ฝึกตนสตรีแดนบรรพโกลาหลที่ไล่ฆ่ามันได้เปิดโปงแพร่งพรายวีรกรรมของมันทั้งหมด ภายหน้า ต่อให้มันได้กลับไปที่แดนบรรพโกลาหลก็คงยากจะประกอบอาชีพเดิมได้อีก
“ให้จิ้งจอกสองตัวนี้แทนที่ข้าได้นี่!”
มันเอ่ยด้วยใบหน้ายิ้มกริ่ม
จิ้งจอกสองตัวนี้งามวิไลมากจริง ๆ กระทั่งตัวมันเองยังใจสั่นหวั่นไหว ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงบรรดาผู้ฝึกตนสตรี น่ากลัวว่าหลังเหล่าผู้ฝึกตนสตรีได้เห็นจิ้งจอกสองตัวนี้ คงต้องหลงใหลกันถ้วนหน้า!
อาชีพเก่าของมัน แม้จะถูกผู้อื่นรังเกียจดูแคลน ทว่าผลกำไรนั้นสูงลิ่ว!
รองเท้าถุงเท้าหนึ่งคู่ที่ผู้ฝึกตนสตรีเคยใส่แล้วขายราคาสูงได้อย่างง่ายดาย ตาเฒ่ามากมายในแดนบรรพโกลาหลนิยมแนวนี้ และยินดีจ่ายราคาสูงให้
มันหมายตาจิ้งจอกสองตัวนี้
หากมันได้อบรมสั่งสอนจิ้งจอกสองตัวนี้ให้ดี จนสองตัวนี้ยอมฟังคำสั่งจากมัน กำไรของมันในวันหน้าย่อมมีแต่จะสูงกว่านี้!
จิ้งจอกสองตัวนี้อนาคตไกลกว่าตัวมันมากนัก หากบ่มเพาะได้อย่างดีจริง ๆ ภายหน้าอาจได้คลุกคลีกับผู้ฝึกตนสตรีที่มีฐานะสูงส่งกว่านี้
อย่างเช่นธิดาของจ้าวแห่งดินแดนต่าง ๆ ในแดนบรรพโกลาหล!
หากขโมยอาภรณ์ชั้นใน รองเท้าถุงเท้าที่เคยใส่แล้วของธิดาจ้าวแห่งดินแดนต่าง ๆ มาได้ พับผ่าสิ กำไรนั้นสูงเกินกว่าจะจินตนาการออก!
“แหะ ๆ หากโชคดีกว่านี้หน่อย เป็นที่ชื่นชอบของจ้าวแห่งตงชิว จ้าวแห่งฉางเล่อ และจ้าวสตรีสูงส่งตนอื่น กำไรยิ่งสูงขึ้นไปอีก!”
ดวงตาของมันวาวโรจน์ ช่างกล้าคิดยิ่งนัก ถึงกับหมายตาจ้าวสตรีสูงส่งอย่างจ้าวแห่งตงชิวเสียได้
‘แน่นอนว่าตอนนี้ยังไม่ได้ เส้นทางต้องย่างทีละก้าว ข้าวต้องกินทีละคำ สักวันหนึ่งในอนาคต ข้าต้องได้อาภรณ์ชั้นใน และรองเท้าถุงเท้าของจ้าวสตรีในแดนต่าง ๆ มาแน่!’
มันคิดในใจ ตั้งเป้าหมายไว้ยิ่งใหญ่ นี่คือจุดมุ่งหมายที่เขาตั้งใจต่อสู้เพื่อไปให้ถึง!
เทียบกับจ้าวสตรีสูงส่งอย่างจ้าวแห่งตงชิว ตัวมันในตอนนี้ยังห่างชั้นอยู่มาก แต่มันเชื่อว่า ขอเพียงมันดำเนินการค้าของมันต่อไป ย่อมต้องมีวันที่มันสำเร็จ!
กำไรดูดียิ่งนัก มาไวยิ่งกว่าปล้นสะดมเสียอีก เมื่อมีการทุ่มทุนอย่างไม่ยั้ง ความสำเร็จของมันในวันหน้าต้องยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน และเติบโตได้อย่างรวดเร็วด้วย!
“ไปล่ะ กำราบจิ้งจอกสองตัวนี้ให้ได้ก่อนแล้วค่อยว่ากัน!”
มันวิ่งไปหาจิ้งจอกขาวและจิ้งจอกน้อยสีแดงเพลิงอย่างรวดเร็ว