ห้าวันหลังจากเฉาเต๋อจื้อประกาศว่ายอดนักสืบโฮล์มส์กำลังจะตีพิมพ์ คลังหนังสือซิลเวอร์บลูก็ยืนยันและออกประกาศอย่างเป็นทางการ หนังสือเรื่องใหม่ของฉู่ขวงเข้าสู่การเดินหน้าโปรโมตในทันที
ในเวลานี้
ผู้อ่านยังทำใจกับการตายของปัวโรต์ไม่ได้ การถกเถียงเกี่ยวกับเรื่องนี้ยังคงดำเนินต่อไประลอกแล้วระลอกเล่า ปรากฏว่าจู่ๆ ทุกคนก็เห็นข่าวว่ายอดนักสืบโฮล์มส์กำลังจะตีพิมพ์ ชั่วขณะนั้นเลือดก็พลันเดือดพล่านขึ้นมา
หนังสือใหม่?
ยอดนักสืบ?
โฮล์มส์?
พวกเรายังไว้อาลัยปัวโรต์กันอยู่ แต่คุณกลับกระตือรือร้นเขียนหนังสือเรื่องใหม่ขึ้นมาอย่างอดใจไม่ไหว เคยคิดถึงหัวอกของคนอ่านบ้างไหมว่าเสียใจแค่ไหน?
โมโห!
โมโหแล้วนะ!
ถึงแม้ก่อนหน้านี้ฉู่ขวงจะเคยประกาศเกี่ยวกับหนังสือเรื่องใหม่แล้ว แต่แฟนคลับนิยายชุดรหัสคดีปัวโรต์ยังคงติดงอมแงม ความจริงพิสูจน์ให้เห็นว่าวันเวลาไม่อาจบรรเทาความเคืองแค้นของทุกคนได้ ต่อให้ทุกคนเข้าใจว่าฉู่ขวงเขียนให้ปัวโรต์ตาย หลายคนกลับยังไม่ยอมให้โฮล์มส์เข้ามาแทนที่ปัวโรต์ หลายคนถึงกับตามไปประท้วงบนปู้ลั่วของฉู่ขวง เช่นเดียวกับปฏิกิริยาหลังจากฉู่ขวงประกาศเกี่ยวกับหนังสือเรื่องใหม่
‘ยืนหยัดต่อต้าน!’
‘ฉันประเมินความซื่อสัตย์ของเจ้าแก่นี่ต่ำไปจริงด้วย คิดว่าเขาจะเสียใจกับการจากไปของปัวโรต์ แต่เจ้าแก่นี่กลับเปิดตัวนักสืบคนใหม่อย่างรวดเร็ว นี่มันฆาตกรที่ฆ่าปัวโรต์ชัดๆ!’
‘ไม่ซื้อหนังสือเล่มนี้เป็นอันขาด!’
‘ตอนปัวโรต์ตายผมเคยบอกไว้แล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นผมจะไม่อ่านยอดนักสืบโฮล์มส์เด็ดขาด ยอดนักสืบสำหรับผมมีแค่คนเดียว ไม่เหมือนกับผู้ชายเฮงซวยอย่างฉู่ขวงที่ได้ใหม่แล้วลืมเก่าหรอก!’
‘โฮล์มส์ออกไป!’
‘พวกเรากับฉู่ขวงประนีประนอมกันไม่ได้ พวกเราไม่ต้องการโฮล์มส์อะไรนั่น พวกเราต้องการแค่ปัวโรต์ ไม่ใช่ว่าใครก็เป็นยอดนักสืบได้!’
‘…’
ความรักที่ผู้อ่านมีต่อปัวโรต์นั้นไม่สามารถดูเบาได้เลย อิทธิพลของบุคคลผู้นี้เหนือกว่าตัวละครเสมือนจริง เมื่อการเสียชีวิตของปัวโรต์ได้รับการเผยแพร่ในวันที่ 3 มีนาคม สื่อขนาดใหญ่หลายแห่งถึงกับตีข่าวมรณกรรมของปัวโรต์ มีตัวละครเสมือนอื่นใดที่ทำได้เช่นนี้?
เช่นเดียวกับความกังวลของจินมู่
เมื่อยอดนักสืบโฮล์มส์ใกล้วางจำหน่าย กระแสการคว่ำบาตรโฮล์มส์ก็วนกลับมาอีกครั้ง จนผู้คนในวงการพากันร้องไห้ไม่ได้หัวเราะไม่ออก พร่ำบ่นว่าครั้งนี้ฉู่ขวงทำพลาดแล้วจริงๆ
“ฉู่ขวงทำยังไงล่ะทีนี้”
“กระแสต่อต้านโฮล์มส์ของคนอ่านนั้นมากเกินไป หนังสือเรื่องนี้ของฉู่ขวงคงไม่ใช่ขายไม่ออกหรอกใช่ไหม นึกภาพไม่ออกเลยว่านักเขียนยอดขายสูงลิบระดับเขาจะมีวันที่นิยายขายไม่ออกด้วย”
“ร้านหนังสือจะเลือกทางไหน”
“เรื่องสั่งของเข้ามาทางร้านหนังสือต้องสั่งเข้ามาอยู่แล้ว เห็นคนอ่านบอยคอตโฮล์มส์เยอะขนาดนี้ก็จริง แต่ในความจริงแล้วเป็นแค่อคติที่รอดมาได้เท่านั้น คนอ่านที่ไม่ได้ส่งเสียงอีกมากมายยังยินดีสนับสนุนหนังสือใหม่ของฉู่ขวง แต่คนอ่านส่วนนี้มีเท่าไหร่นั้นบอกไม่ได้ บางทีอาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อยอดขายหนังสือเรื่องใหม่ของฉู่ขวงก็ได้”
“…”
ขณะเดียวกัน
ร้านหนังสือแต่ละแห่งก็ตะลึงไปเช่นกัน ตามหลักแล้วหนังสือเรื่องใหม่ของฉู่ขวงต้องสั่งสินค้าให้มากเข้าไว้ หนังสือของฉู่ขวงเคยขายไม่ออกซะที่ไหนกัน ยิ่งไปกว่านั้น ปมในใจของร้านหนังสือจากในปีนั้นซึ่งยอดขายเรื่องกระบี่เทพสังหารต่ำเตี้ยเรี่ยดินเพราะสั่งสินค้าเข้ามาน้อยยังคงไม่จางหายไป
แต่ว่า…
ปัญหาในครั้งนี้เหมือนจะเกิดขึ้นจากผู้อ่านของฉู่ขวงเอง เมื่อก่อนล้วนเป็นเพราะโลกภายนอกดูเบาหนังสือใหม่ของฉู่ขวง ตอนนี้ดันกลายเป็นแฟนคลับของฉู่ขวงคว่ำบาตรหนังสือใหม่ของฉู่ขวงซะเอง แถมคนกลุ่มนี้ยังเป็นผู้บริโภคหลักของผลงานฉู่ขวงอีกด้วย!
ลังเล!
สับสน!
ด้านหนึ่ง ทุกคนไม่อาจเพิกเฉยต่อการคว่ำบาตรจากผู้อ่านได้ อีกด้านหนึ่งก็ไม่อาจต้านทานเสน่ห์ของฉู่ขวง จนรู้สึกว่าความสมดุลในใจของพวกเขากำลังกวัดแกว่งไปมา และร้านหนังสือต่างก็เพิ่งเคยประสบกับสถานการณ์เช่นนี้เป็นครั้งแรก
ด้วยเหตุนี้
ผู้จำหน่ายหนังสือบางรายได้ทำแบบสำรวจสุ่มตัวอย่างในกลุ่มผู้อ่านของฉู่ขวง ทว่าผลลัพธ์ของแบบสำรวจกลับทำให้ร้านหนังสือเหล่านี้สับสนมากยิ่งขึ้น เพราะพวกเขาได้ให้ไว้สามตัวเลือก ได้แก่
(1) สนับสนุน
(2) คว่ำบาตร
(3) ไม่รู้
ผู้อ่านร้อยละ 24 เลือกสนับสนุนฉู่ขวงโดยไม่ลังเล ผู้อ่านร้อยละ 26 เลือกคว่ำบาตร และผู้อ่านอีกร้อยละ 50 เลือก ‘ไม่รู้’
อะไรคือไม่รู้?
พวกคุณกำลังทำให้ร้านหนังสืออย่างเราคิดไม่ตก พวกเราอาจต้องจ่ายค่าเสียหายไปกับคำว่า ‘ไม่รู้’ ของพวกคุณ ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงเมื่อดูผลสำรวจอย่างผิวเผิน จะพบว่าผู้ที่คว่ำบาตรนั้นมีมากกว่าผู้ที่สนับสนุนเล็กน้อย
ถึงเวลาตัดสินใจแล้ว
ร้านหนังสือบางแห่งกัดฟันสู้ และยังคงสั่งสินค้าเข้าร้านตามหลักเกณฑ์เดิมของผลงานของฉู่ขวง ส่วนร้านหนังสือบางแห่งลดการสั่งสินค้าเข้าคลังโดยอ้างอิงจากแบบสำรวจ ทัศนะของตลาดต่อหนังสือเรื่องยอดนักสืบโฮล์มส์ซึ่งส่อเค้าว่าจะแบ่งเป็นสองขั้ว
ขณะนั้น
ในสตูดิโอของหลินเยวียน จินมู่เอ่ยด้วยสีหน้าจนใจ “หัวหน้าสร้างโจทย์ยากให้กับร้านหนังสือแล้วครับ ตอนนี้ไม่มีใครคาดเดายอดขายของยอดนักสืบโฮล์มส์ได้เลย”
หลินเยวียนถาม “อาจินคิดว่ายังไงครับ”
จินมู่ลังเลอยู่ชั่วครู่ เบ้ปากตอบ “คำถามนี้ถามผมไปก็ไม่มีประโยชน์หรอกครับ เพราะผมอ่านตอนเริ่มต้นของโฮล์มส์แล้ว ผมจึงเข้าใจถึงคุณภาพของหนังสือเล่มนี้ดี…”
หลินเยวียนพยักหน้า “ตามนั้นแหละครับ”
จินมู่ชะงัก ทันใดนั้นก็เข้าใจความหมายของหลินเยวียน ไม่ว่าจะคว่ำบาตรหรือสนับสนุน ยอดขายของนิยายยังคงขึ้นอยู่กับคุณภาพของผลงาน ถึงอย่างไรฉู่ขวงก็ไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย
โฮล์มส์สนุกมากจริงๆ
เมื่อพิจารณาจากเสน่ห์ของตัวละครซึ่งปรากฏให้เห็นในบทเปิดเรื่องของโฮล์มส์ ตลอดจนหลักการเรื่องพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ไม่มีเหตุผลที่ผู้อ่านจะไม่ชอบตัวละครใหม่นี้เลย ตอนนี้ทุกคนเพียงแต่กำลังสะเทือนใจเท่านั้นเอง
และจะสงบลงในที่สุด
จินมู่ผุดยิ้ม เชาวน์ปัญญาของเจ้านายคนนี้ขึ้นๆ ลงๆ บางครั้งก็ฉลาดเป็นกรด บางครั้งก็ทำสิ่งที่ทำให้พูดไม่ออก
อีกด้านหนึ่ง
เฉาเต๋อจื้อก็กังวลว่าการคว่ำบาตรโฮล์มส์จะส่งผลกระทบต่อยอดขายหนังสือใหม่ของฉู่ขวง เขาอุตส่าห์รุดไปหาบรรณาธิการบริหาร หวังว่าบรรณาธิการบริหารจะช่วยคิดหาวิธี ผลปรากฏว่าบรรณาธิการบริหารกลับยิ้มพลางส่ายหน้า
“ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น”
“แต่สถานการณ์ไม่สู้ดีเลยนะครับ”
“ตอนเด็กๆ ผมฝันอยากเป็นนักบาสเก็ตบอล แม่เลยซื้อลูกบาสให้ผม ผมชอบลูกบาสลูกนั้นมาก ภายหลังผมทำมันพังโดยไม่ได้ตั้งใจ ร้องไห้หนักจนแม่ต้องปลอบใจ บอกว่าจะซื้อให้ใหม่อีกลูก ผมบอกว่าผมไม่อยากได้ แต่อยู่มาวันหนึ่งผมตื่นนอน ก็เห็นว่าข้างเตียงมี…”
“ผมเข้าใจแล้ว!”
เฉาเต๋อจื้อกระจ่างขึ้นในทันใด “บ.ก.บริหารจะบอกว่า ตราบใดที่ลูกบาสลูกใหม่ใช้เล่นได้สนุกเหมือนลูกเก่า สุดท้ายแล้วทุกคนย่อมเลือกที่จะยอมรับ!”
“หืม?”
บรรณาธิการบริหารส่ายหน้า “ผมจะบอกว่า แม่ผมเข้าใจผิด แม่แยกไม่ออกระหว่างลูกบาสกับลูกฟุตบอล เลยซื้อลูกฟุตบอลมาให้ผม…”
“เข้าใจแล้วครับ!”
เฉาเต๋อจื้อตกตะลึง และรู้สึกตื่นเต้นยิ่งกว่าเดิม “คุณจะบอกว่า คุณคิดว่าคุณชอบแค่บาส ภายหลังถึงได้รู้ว่าที่แท้ฟุตบอลก็สนุกไม่แพ้กัน!”
“เปล่า”
บรรณาธิการบริหารจ้องเฉาเต๋อจื้อเขม็ง “ผมกำลังบอกว่า ผมไม่ได้เล่นบอลเป็นทุกประเภท และผมก็ไม่ได้ตอบได้ทุกคำถาม!”
เฉาเต๋อจื้อ “…”
อันที่จริงไม่ว่าผู้อ่านจะตอบสนองอย่างไร ก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงความจริงที่ว่า ‘ยอดนักสืบโฮล์มส์’ จะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในร้านหนังสืออีกในไม่กี่วันหลังจากนี้ และไม่ว่าจะเป็นร้านหนังสือหรือสำนักพิมพ์ต่างไม่มีการปรับแผนเป็นพิเศษเนื่องจากการประท้วงของผู้อ่านบางส่วน
ขณะเดียวกัน
ผู้อ่านอีกส่วนหนึ่งซึ่งคอยสนับสนุนฉู่ขวงอย่างเงียบเชียบก็ซื้อหนังสือเล่มนี้แล้ว ผู้อ่านบางส่วนซึ่งกำลังลังเลก็ซื้อหนังสือเล่มนี้เช่นกัน นอกจากนั้นผู้อ่านซึ่งประกาศตัวว่าจะคว่ำบาตรฉู่ขวงก็…
“คว่ำบาตรจริงๆ!”
เพื่อนคนหนึ่งซึ่งประกาศกร้าวมาโดยตลอดว่าจะคว่ำบาตรหนังสือใหม่ของฉู่ขวง กำลังเผชิญกับคำถามจากเหล่าเพื่อนสนิทรอบตัว จนเขาอดไม่ได้ เป็นต้องตบหนังสือยอดนักสืบโฮล์มส์เล่มใหม่เอี่ยมในมือซึ่งเพิ่งซื้อมา “อ่านแล้วจะได้มีสิทธิ์พูดไงฟระ ถ้าไม่อ่านแล้วด่าก็กลายเป็นแค่นักเลงคีย์บอร์ดน่ะสิ ถ้าจะด่าทั้งทีต้องด่าอย่างมีเหตุผล อ่านจบแล้วรอติดเครื่องด่าได้เลย!”
“แต่นายซื้อมาแล้วนะ”
แววตาของเพื่อนคนนี้แฝงความนัยลึกซึ้ง ประหนึ่งเป็นนักปรัชญากลับชาติมาเกิด “ฉันซื้อ ก็เพื่อไม่ให้คนซื้อมากขึ้นต่างหาก…”
………………………………………………