ใช่แล้ว
กระแสของโฮล์มส์กำลังจุดติด!
ร้านหนังสือหลายแห่งเริ่มส่งคำสั่งซื้อด่วนกับคลังหนังสือซิลเวอร์บลู!
เมื่อคำสั่งซื้อหนังสือใหม่ของฉู่ขวงเพิ่มขึ้นอย่างกะทันหัน ผู้บริหารระดับสูงของคลังหนังสือซิลเวอร์บลูจึงเปิดประชุมว่าด้วยเรื่องนี้
เฉาเต๋อจื้อและหัวหน้าบรรณาธิการคนอื่นๆ นั่งด้านล่าง
บรรณาธิการบริหารและผู้บริหารระดับสูงคนอื่นๆ นั่งด้านบน
เวลานี้ผู้บริหารระดับสูงตื่นเต้นยิ่งกว่าใคร แต่ละคนยิ้มกว้างจนหน้าแดงปลั่ง
“อาจารย์ฉู่ขวงสมแล้วที่เป็นตัวท็อปของบริษัทเรา คุณไม่มีทางเห็นเขามือตก!”
“ฉันขอเสนอให้ยกระดับสัญญาของฉู่ขวงขึ้นอีก”
“เรื่องนี้รับพิจารณาอย่างแน่นอน”
“ปัญหาคือระดับสัญญาของฉู่ขวงสูงมากอยู่แล้ว”
“ตอนนี้จะมัวมาคิดเรื่องนี้ไม่ได้ สำนักพิมพ์อื่นจ้องพวกเราอย่างกับหมาป่า อยากดึงตัวฉู่ขวงไปแทบแย่ ถ้าฉู่ขวงถูกดึงตัวไป บริษัทเราคงได้กลายเป็นตัวตลกของวงการแน่ ถ้าเป็นแบบนั้นเรื่องที่น่าปวดใจจะไม่ใช่แค่เรื่องสัญญาอีกต่อไป”
“อืม ฉู่ขวงต้องได้รับการปูนบำเหน็จอย่างสมน้ำสมเนื้อ!”
“แต่พวกคุณอย่าเพิ่งพูดไป ครั้งนี้ผมรู้สึกผิดจริงๆ เกือบคิดว่าหนังสือเรื่องใหม่ของฉู่ขวงจะขายไม่ออกแล้วซะอีก”
“…”
บรรณาธิการบริหารหลี่ว์เป่ยคลี่ยิ้มบาง “พวกคุณไม่เชื่อมั่นในตัวฉู่ขวงเอาซะเลย”
ทุกคนชะงักงัน ต่างหันไปมองหลี่ว์เป่ย
หลี่ว์เป่ยกล่าวเสียงเรียบ “ตอนนั้นเต๋อจื้อมาถามผมว่าถ้าหนังสือใหม่ของฉู่ขวงขายไม่ออกจะทำอย่างไร ผมบอกเขาว่า ตอนเด็กๆ แม่ซื้อลูกบาสให้ผม ตอนหลังผมทำพัง แม่เลยซื้อ…”
“ฉันเข้าใจแล้ว!”
ผู้บริหารระดับสูงคนหนึ่งเอ่ยขึ้นราวกับกำลังตื่นรู้ “คุณหมายความว่า ตราบใดที่ลูกบาสลูกใหม่กับลูกเก่าเล่นได้สนุกเหมือนกัน ก็ไม่มีปัญหา!”
หลี่ว์เป่ยเอ่ยเสียงสูง “ตามนั้นเลยครับ”
เฉาเต๋อจื้อซึ่งนั่งอยู่ด้านล่างเบิกตากว้างในฉับพลัน ทว่าทันทีที่สบตากับหลี่ว์เป่ย จู่ๆ เขาก็ยกนิ้วโป้งขึ้นมา
“บ.ก.บริหารฉลาดหลักแหลมมากเลยครับ!”
ทุกคนต่างพยักหน้า “ฉลาดหลักแหลมจริงๆ!”
หลี่ว์เป่ยกระแอม “เป็นแค่ประสบการณ์น่ะครับ ผมมีข้อเสนอแนะ หัวหน้าแผนกนิทานยังไม่มีการแต่งตั้ง ผมคิดว่าควรตัดสินใจได้แล้ว ผมขอเสนอให้หลินเซวียนเป็นหัวหน้าบรรณาธิการ…”
หลี่ว์เป่ยกวาดตามองคนอื่นๆ “ใครเห็นด้วย ใครคัดค้านครับ”
“ได้นะ”
“เห็นด้วย”
“ไม่มีความเห็น”
“ผมเห็นด้วย”
ทุกคนรู้สึกว่าพลังของหลี่ว์เป่ยในเวลานี้น่าทึ่งอย่างบอกไม่ถูก
หลี่ว์เป่ยพยักหน้าอย่างพึงพอใจ “งั้นก็ตกลงตามนี้นะครับ เต๋อจื้อก็ทำได้ดีมาก พยายามต่อไป”
ด้านล่างเวที
เฉาเต๋อจื้อยืดอกผึ่งผาย
เหล่าสยงซึ่งนั่งถัดจากเฉาเต๋อจื้อแววตาค่อนข้างขุ่นเคือง
เห็นชัดๆ ว่าฉันมาก่อน…
เฮ้อ
เหล่าสยงปวดตับจริงๆ
แผนกนิยายแฟนตาซีของเขายังคงเป็นแผนกยอดนิยมในบริษัทเฉกเช่นที่ผ่านมา
แต่เมื่อไม่มีฉู่ขวง ผลงานโดยรวมจึงลดลงไปบ้าง
ตอนนั้นเขาไม่คาดคิดว่าหลังจากส่งฉู่ขวงไปยังแผนกวรรณกรรมสืบสวนสอบสวน ฉู่ขวงจะไปแล้วไปลับไม่กลับมาอีก
ปัวโรต์…
โฮล์มส์…
การถือเนิดของนิยายชุดทั้งสองเรื่องติดต่อกันทำให้แผนกระดับต่ำเตี้ยเรี่ยพื้นในบริษัทอย่างแผนกวรรณกรรมสืบสวนสอบสวนได้เฉิดฉาย
แม้แต่ตำแหน่งที่นั่งในการประชุมบริษัท เฉาเต๋อจื้อยังขยับเข้ามาใกล้ตนมากแล้ว
หลังจากการประชุมจบลง
ไม่นานหลังจากนั้น หลินเซวียนก็ได้รับข่าวว่าตนได้ขึ้นเป็นหัวหน้าบรรณาธิการของแผนก
“ไหนบอกว่าต้องใช้เวลาหลายเดือนในการตัดสินใจ”
“อาจเป็นเพราะคุณทำผลงานได้ดีที่สุดล่ะมั้งครับ”
“มีเหตุผล”
หลินเซวียนคลี่ยิ้มสดใส “ตราบใดที่เราทำงานด้วยความตั้งใจจริง เบื้องบนจะเห็นความพยายามและความทุ่มเทของเรา!”
……
ตกเย็น
ที่บ้าน
โต๊ะอาหารเต็มไปด้วยอาหารเลิศรส หลินเซวียนประกาศด้วยความตื่นเต้นว่าตนได้เลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้าบรรณาธิการแผนกนิทาน
“ยินดีด้วย!”
“ยินดีด้วยที่ได้เลื่อนตำแหน่ง!”
น้องสาวกับแม่ตื่นเต้นมาก
หนานจี๋ก็กระดิกหางด้วยความตื่นเต้นเช่นกัน
หลินเยวียนผุดยิ้ม ดูเหมือนว่าพี่สาวทำงานได้ดีทีเดียว ไม่ทันไรก็ได้เลื่อนตำแหน่งแล้ว!
สำหรับหลินเยวียน นี่นับว่าเป็นข่าวดียกที่สอง
เพราะหลินเยวียนเองกำลังกังวลเกี่ยวกับอนาคตของยอดนักสืบโฮล์มส์
แต่สถานการณ์ในปัจจุบันแสดงให้เห็นว่าโฮล์มส์และปัวโรต์กลายเป็นที่นิยมได้ไม่ต่างกัน!
หลังจากกินข้าวเสร็จ
หลินเยวียนกลับไปยังห้องของตน ท่องโลกออนไลน์สักพัก
บนอินเทอร์เน็ตในขณะนี้มีหัวข้อสนทนามากมายเกี่ยวกับโฮล์มส์ และหลินเยวียนสนใจหัวข้อสนทนาเหล่านี้มาก
แน่นอน
นอกจากหัวข้อสนทนาว่าด้วยเชอร์ล็อก โฮล์มส์แล้ว ยังมีข่าวสารเกี่ยวกับรายการราชาหน้ากากนักร้องด้วย
ขณะนี้คือเดือนเมษายน
ตอนที่หนึ่งของทีมที่สามในราชาหน้ากากนักร้องออกอากาศเป็นที่เรียบร้อย
มีนักร้องลึกลับจำนวนหนึ่งปรากฏขึ้นอีกแล้ว
และแน่นอนว่า
ครั้งนี้ไม่มีปลาแล้ว
แต่สิ่งที่ทำให้หลินเยวียนประหลาดใจคือ…
ชาวเน็ตหลายคนมีท่าทีไม่พอใจเล็กน้อยเมื่อพูดถึงทีมที่สาม
หากใช้ศัพท์ของชาวเน็ตก็คือ ‘กร่อย’
ทำไมถึงกร่อยน่ะหรือ?
มีชาวเน็ตแสดงความรู้สึกของตน
‘ที่จริงทีมสามเก่งมาก ฝีมือไม่ได้ด้อยไปกว่าสองทีมแรกเลย แต่รู้สึกว่าอรรถรสของรายการสู้สองทีมแรกไม่ได้ สีสันของทีมที่หนึ่งไปรวมอยู่ที่หลานหลิงอ๋อง ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องประเด็นถกเถียง อย่างน้อยทุกคนก็ให้ความสนใจ บางคนถึงกับมองว่าสิ่งที่สนุกที่สุดของรายการก็คือการได้ดูหลานหลิงอ๋องวิจารณ์นักร้องคนอื่น’
‘ทีมที่สองไม่มีหลานหลิงอ๋อง’
‘แต่ข้อดีของทีมที่สองอยู่ที่ ศึกชิงความโปรดปรานในวังหลังของเซี่ยนอวี๋นี่น่าสนใจมาก ปลาทุกตัวเชือดเฉือนกันอย่างไม่มีใครยอมใคร ขณะเดียวกันก็ทำให้ทุกคนสนุกตามไปด้วย’
‘นั่นยิ่งตอกย้ำความธรรมดาของทีมที่สาม’
‘ไม่มีหลานหลิงอ๋อง ไม่มีฉากชิงความโปรดปรานในวังหลังของเซี่ยนอวี๋ การแข่งขันร้องเพลงน่าตื่นเต้นมากก็จริง แต่ผู้ชมที่ติดตามมาหลายสัปดาห์จะรู้สึกว่ามีบางอย่างขาดหายไป ฉันชักจะคิดถึงหลานหลิงอ๋องขึ้นมาแล้วสิ’
‘…’
โพสต์ต่อจากนั้น มีหลายคนบอกว่า ‘คิดถึงหลานหลิงอ๋อง’
หลินเยวียนอ่านแล้วรู้สึกซาบซึ้งใจ
ตลอดหลายสัปดาห์ที่รายการออกอากาศ เขาไม่ใช่นักร้องซึ่งทำผลงานได้ยอดเยี่ยมที่สุด
แต่ดูเหมือนว่าเขาได้ครองพื้นที่พิเศษในใจของผู้ชม
ในตอนนั้นเอง
โทรศัพท์มือถือของหลินเยวียนดังขึ้น
ผู้ที่โทรเข้ามา ก็คือถงซูเหวินผู้กำกับรายการ
หลินเยวียนกดรับสาย
‘สวัสดีครับ’
‘ขอโทษที่รบกวนนะครับอาจารย์เซี่ยนอวี๋ ก่อนจะโทรมาหาคุณผมก็คิดไม่ตกอยู่นาน…’
‘มีเรื่องอะไรครับ’
‘ทีมงานรายการอยากเชิญคุณมาเป็นกรรมการ…’
‘สถานะของผมในรายการคือนักร้อง’ หลินเยวียนปฏิเสธ
ถงซูเหวินยิ้มขื่น “ไม่มีคุณ เรตติงรายการตกลงมาก ถึงผลลัพธ์จะดีมาก แต่นักร้องทีมที่สามอ่อนโยนกันเกินไป อีกอย่างคุณอย่าเข้าใจผิดนะครับ เราไม่ได้จะให้คุณเป็นกรรมการในฐานะเซี่ยนอวี๋ แต่จะให้รับหน้าที่กรรมการตัดสินในฐานะหลานหลิงอ๋อง พูดให้ชัดเจนคือเราหวังว่าคุณจะมาเป็นกรรมการพิเศษน่ะครับ”
หลินเยวียนอึ้งไป
กรรมการพิเศษของรายการ?
ถงซูเหวินกระแอม “ผู้ชมอยากฟังคำวิจารณ์ของคุณ ผมคิดว่าคุณสามารถมาแสดงความคิดเห็นต่อนักร้องคนอื่นๆ ในรายการได้นะครับ และเพื่อความยุติธรรม ทางรายการจะไม่นับคะแนนโหวตของคุณ แน่นอนว่าถ้าคุณต้องการร่วมโหวต…”
“ไม่ต้องครับ”
หลินเยวียนขบคิด “ผมไปเข้าร่วมได้”
ถงซูเหวินลิงโลด “ดีเหลือเกินครับที่คุณตอบตกลง!”
ถ้าหลานหลิงอ๋องเป็นนักร้องทั่วไป ถงซูเหวินคงไม่กล้ามาตามตัว
ปากคอเราะร้ายไม่เบา
แต่หลานหลิงอ๋องไม่เกรงกลัว!
เมื่อใดที่หลานหลิงอ๋องถอดหน้ากาก!
ทุกปัญหาจะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป!
“งั้นตกลงตามนี้นะครับ!”
ความตื่นเต้นในน้ำเสียงของถงซูเหวินใกล้ล้นทะลักอยู่รอมร่อ นักร้องทั้งหลายเอ๋ย ลองเจอลมพายุหน่อยแล้วกัน!
……………………………………………..