องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที! – บทที่ 687 สองสามีภรรยาสืบค้นคดี

บทที่ 687 สองสามีภรรยาสืบค้นคดี

“​ข้า​สบายดี​”​ ​เหยี​ยน​หลิ่ว​เอ๋อร​์​รู้สึก​โล่งใจ​ ​จังหวะ​การ​พูด​ของ​นาง​จึง​เริ่ม​เร็ว​ขึ้น

“​เจ้า​ดู​ไม่​เหมือน​คนที​่​สบายดี​เท่าใด​นัก​”​ ​เจ้าของ​เงา​นั้น​ยืน​อยู่​หน้า​ประตู​พร้อมกับ​ถือ​ถัง​ไม้​ไว้​ใน​มือ​ ​เขา​เอ่ย​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ราบเรียบ​ว่า​ ​”​หลัง​ตะวันตกดิน​ ​สาวงาม​เช่น​เจ้า​ควร​อยู่​แต่​ใน​บ้าน​จะ​ดีกว่า​”

เหยี​ยน​หลิ่ว​เอ๋อร​์​ยิ้ม​ ​พร้อมกับ​เดิน​เข้าไป​หา​เจ้าของ​เงา​นั้น​ ​”​ข้า​สบายดี​จริงๆ​ ​ข้า​แค่​รู้สึก​ไม่​ค่อย​สบายใจ​เพราะ​สิ่ง​ที่เกิด​ขึ้น​ละแวก​นี้​ใน​ช่วง​สอง​สาม​วันที่​ผ่าน​มา​เท่านั้น​”

“​ในเมื่อ​เจ้า​ไม่เป็นอะไร​ ​เจ้า​ก็​ควร​รีบ​กลับบ้าน​ให้​เร็ว​ที่สุด​ ​อย่างไร​เจ้า​ก็​เป็น​หญิงสาว​ที่​สุภาพ​เรียบร้อย​เพียง​คนเดียว​ใน​ละแวก​นี้​”​ ​เงา​นั้น​พูด​พลาง​วาง​ถัง​ไม้​ลง​กับ​พื้น​ ​จากนั้น​เขา​จึง​พึมพำ​ว่า​ ​”​อย่า​ได้​ทำตัว​เหมือน​หญิงสาว​คนอื่นๆ​ ​เล่า​”

เหยี​ยน​หลิ่ว​เอ๋อร​์​ยิ้ม​เงียบๆ​ ​และ​พยักหน้า​แทน​คำตอบ​ ​แต่​ความรู้สึก​ชวน​ขนลุก​ที่อยู่​ใน​อากาศ​ ณ​ ​ขณะนี้​กลับ​ชัดเจน​เสีย​จน​นาง​ต้อง​หันกลับ​ไป​มอง​ทาง​ด้านหลัง​อีกครั้ง​อย่างลืมตัว

เงา​ร่าง​นั้น​ยังคง​ยืน​อยู่​ที่​เดิม​พร้อมกับ​จ้องมอง​นาง​ ​เขา​โบกมือ​และ​เร่ง​ให้​นาง​รีบ​กลับบ้าน

คราวนี้​เหยี​ยน​หลิ่ว​เอ๋อร​์​ไม่​ลังเล​ ​นาง​รีบ​ตรง​กลับบ้าน​ทันที​ ​แต่​เมื่อ​นาง​เปิด​ประตู​บ้าน​ ​นาง​ก็ได้​รับ​การ​ต้อนรับ​ด้วย​น้ำเสียง​อัน​สงบ​ของ​ใครคนหนึ่ง​ ​”​ขอโทษ​ที​ ​ที่นี่​ใช่​บ้าน​ของ​เหยี​ยน​หลิ่ว​เอ๋อร​์​หรือไม่​”

เหยี​ยน​หลิ่ว​เอ๋อร​์​ตัวสั่น​ ​ก่อนที่​นาง​จะ​หันกลับ​ไปหา​พวกเขา​ ​คน​ทั้งสอง​ดู​งดงาม​อย่างยิ่ง​แม้​จะ​อยู่​ใน​ชุดลำลอง​ธรรมดา​ ​นาง​อึ้ง​ไป​เล็กน้อย​ ​ก่อน​จะ​ตั้งสติ​ได้​ ​แล้ว​พยักหน้า​ให้​ผู้มาเยือน

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ปลอมตัว​เป็น​ชาย​ ​นาง​มอง​หญิงสาว​ ​ก่อนที่​สุดท้าย​สายตา​ของ​นาง​จะ​ไป​หยุด​อยู่​ที่​รองเท้า​ของ​หญิงสาว​ ​”​เมื่อครู่นี้​เจ้า​เดินผ่าน​ซอย​นั้น​มา​หรือ​”

“​เจ้า​รู้​ได้​อย่างไร​…​”​ ​เหยี​ยน​หลิ่ว​เอ๋อร​์​สับสน​ ​เขา​รู้​ว่า​ข้า​ไป​ไหน​มา​ได้​อย่างไร

แน่นอน​ว่า​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ย่อม​ไม่เปิดเผย​ให้​เหยี​ยน​หลิ่ว​เอ๋อร​์​รู้​ว่านาง​ได้​ทำการ​สำรวจ​พื้นที่​ทั้งหมด​มา​แล้ว​ ​ทางเข้า​ตรอก​นั้น​เป็น​เพียง​ที่​แห่ง​เดียว​ที่​ยัง​มี​หิมะ​ทับถม​กัน​อยู่​ ​ในขณะที่​หิมะ​ที่อื่น​ละลาย​หมด​แล้ว​ ​แต่​พื้น​รองเท้า​ของ​เหยี​ยน​หลิ่ว​เอ๋อร​์​ยัง​มี​เศษ​หิมะ​ติด​อยู่​ ​ไม่ใช่​แค่นั้น​ ​ใบหน้า​ของ​นาง​ซีดเผือด​ ​อีกทั้ง​ยัง​มี​อาการ​หอบ​ ​สอง​สิ่ง​นี้​ทำให้​รู้​ได้​อย่างชัดเจน​ว่านา​งคง​เพิ่ง​ผ่าน​การ​วิ่ง​มา​พักใหญ่

มี​ความเป็นไปได้​สูง​ว่านาง​วิ่งหนี​เพราะ​ความกลัว​ ​ไม่อย่างนั้น​นาง​ก็​คง​ไม่​ตัวสั่น​ก่อนที่จะ​หันหน้า​กลับมา​ทักทาย​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย

มัน​เป็นหนึ่ง​ใน​ปฏิกิริยา​ตอบสนอง​ปกติ​เวลา​ที่​ใคร​สัก​คน​อยู่​ใน​อาการ​ตื่นตระหนก

หลังจากที่​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​มอง​สำรวจ​นาง​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​นาง​จึง​กระตุก​ยิ้ม​ขึ้น​ ​”​เมื่อครู่นี้​พวก​ข้า​เห็น​เจ้า​เข้า​พอดี​”

“​มิน่าล่ะ​ข้า​ถึง​ได้​รู้สึก​เหมือน​ถูก​ใคร​สัก​คน​เดินตาม​”​ ​เหยี​ยน​หลิ่ว​เอ๋อร​์​พึมพำ​กับ​ตัวเอง

แต่​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​บังเอิญ​ได้ยิน​คำพูด​ที่​เหยี​ยน​หลิ่ว​เอ๋อร​์​เอ่ย​ขึ้น​ ​นาง​รีบ​จด​มัน​ไว้​ใน​ใจ​ทันที​ ​นาง​หันกลับ​ไป​มอง​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋ย​ที่​เข้าใจ​ดี​ว่า​คำพูด​ของ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​เป็น​เพียง​ข้อแก้ตัว​เท่านั้น​ ​ความจริง​แล้ว​พวกเขา​ไม่เคย​เห็น​เหยี​ยน​หลิ่ว​เอ๋อร​์​มาก​่อน​ ​แต่​จาก​ที่​เหยี​ยน​หลิ่ว​เอ๋อร​์​พูด​ ​ดูเหมือน​นาง​จะ​คิด​ว่า​เมื่อครู่นี้​มี​ใคร​บางคน​เดินตาม​หลัง​นาง​มา

สายตา​ของ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ลึกล้ำ​ขึ้น​ ​แต่​พอนาง​หันไป​หา​เหยี​ยน​หลิ่ว​เอ๋อร​์​ ​นาง​ก็​รีบ​ยิ้ม​ออกมา​อีกครั้ง​ ​”​เจ้า​บอกว่า​เจ้า​คิด​ว่า​มี​คน​เดินตาม​หลัง​เจ้า​หรือ​”

“​ใช่​”​ ​เพราะ​ความหวาดกลัว​ที่​ยังคง​อยู่​ ​เหยี​ยน​หลิ่ว​เอ๋อร​์​จึง​หัน​มอง​ไปร​อบ​ตัว​ ​จากนั้น​นาง​จึง​ตอบ​ด้วย​รอยยิ้ม​เขิน​ๆ​ ​ว่า​ ​”​บางที​ข้า​อาจจะ​ขี้กลัว​เกินไป​เอง​ ​ช่วงนี้​แถว​บ้าน​เรา​ไม่​ค่อย​สงบสุข​นัก​ ​ข้า​จึง​อด​คิดมาก​ไม่ได้​”

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​สามารถ​บอก​ได้​ว่าความ​กลัว​ของ​เหยี​ยน​หลิ่ว​เอ๋อร​์​ไม่ได้​เสแสร้ง​ ​ดังนั้น​นาง​จึง​แอบ​สรุป​อยู่​ใน​ใจ​ว่า​เหยี​ยน​หลิ่ว​เอ๋อร​์​ไม่ใช่​คนร้าย​ ​นาง​ยิ้ม​ตอบ​อีก​ฝ่าย​ด้วย​รอยยิ้ม​อัน​อบอุ่น​แต่​ก็​ดู​เหนื่อยล้า​ ​จากนั้น​จึง​เอ่ย​ว่า​ ​”​หญิงสาว​ออก​ไป​ข้างนอก​ยามวิกาล​ย่อม​ไม่ปลอดภัย​จริง​ดัง​ว่า​ ​ข้า​ได้ยิน​เหตุร้าย​ที่เกิด​ขึ้น​ใน​ละแวก​นี้​ตลอด​ช่วง​สอง​สาม​วันที่​ผ่าน​มา​แล้ว​ ​แต่​ข้า​ยัง​ไม่รู้​รายละเอียด​ของ​มัน​มาก​นัก​ ​เจ้า​บอกว่า​รู้สึก​ว่า​มี​คน​สะกดรอย​ตาม​เจ้า​ ​นั่น​เป็นสาเหตุ​ที่​เจ้า​วิ่งหนี​หรือ​”

เหยี​ยน​หลิ่ว​เอ๋อร​์​รู้สึก​เขิน​เล็กน้อย​ ​”​ท่าน​เห็น​ข้าวิ​่ง​หนี​ด้วย​หรือ​ ​ข้า​กลัว​ยิ่งนัก​ ​ทั้งๆ​ ​ที่​ข้างหลัง​ข้า​ไม่มีใคร​อยู่​เลย​ ​แต่​จะ​ว่า​ไป​ ​ท่าน​มาถึง​ที่นี่​ก่อน​ข้า​ได้​อย่างไร​ ​ท่าน​บอกว่า​ท่าน​อยู่​ข้างหลัง​ข้ามิ​ใช่​หรือ​”

แม้​เหยี​ยน​หลิ่ว​เอ๋อร​์​จะ​มองเห็น​ช่องโหว่​ใน​คำพูด​ของ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ ​แต่​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ก็​ยังคง​สงบ​เยือกเย็น​พร้อมกับ​โกหก​ออกมา​ว่า​ ​”​พวกเรา​ใช้​ทางลัด​”

“​ทางลัด​หรือ​”​ ​เหยี​ยน​หลิ่ว​เอ๋อร​์​มีสี​หน้า​งุนงง​ ​”​ข้า​ก็​ใช้​ทางลัด​ ​มี​แค่​คนที​่​อาศัย​อยู่​ใน​ละแวก​นี้​เท่านั้น​ที่จะ​รู้เรื่อง​ทางลัด​นั่น​”

คนฉลาด​อย่าง​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ย่อม​ไม่​คิด​ที่จะ​พูด​ประเด็น​นั้น​ต่อ​ ​นาง​รีบ​เปลี่ยน​คำถาม​ทันที​ ​”​ดึก​ป่านนี้​เจ้า​ออกมา​ทำไม​หรือ​ ​เจ้า​คือ​เหยี​ยน​หลิ่ว​เอ๋อร​์​ใช่​หรือเปล่า​”

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ถาม​ทั้งๆ​ ​ที่​รู้ดี​อยู่​แล้ว

ทันทีที่​เหยี​ยน​หลิ่ว​เอ๋อร​์​หันหน้า​กลับมา​มอง​พวกเขา​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ก็​รู้​ได้​ถึง​ตัวตน​ของ​หญิงสาว​ผู้​นี้

เหยี​ยน​หลิ่ว​เอ๋อร​์​ดูกัง​วล​อย่างยิ่ง​ ​นาง​ลังเล​ที่จะ​ตอบคำถาม​นี้

บังเอิญ​ที่มา​รดา​ของ​หลิ่ว​เอ๋อร​์​ปรากฏตัว​ขึ้น​พอดี​ ​นาง​ดู​โล่งใจ​เมื่อ​ได้​เห็น​หลิ่ว​เอ๋อร​์​ ​”​ทำไม​เจ้า​ถึง​ไม่เชื่อ​คำ​ข้า​บ้าง​ ​ข้า​บอก​เจ้า​กี่​ครั้ง​กี่​หน​แล้ว​ว่า​ช่วงนี้​อย่า​ออก​ไป​ไหน​ตอนกลางคืน​ ​เจ้า​ไม่รู้​หรือว่า​ข้างนอก​มัน​อันตราย​”

มารดา​ของ​หลิ่ว​เอ๋อร​์​เอ่ย​ตำหนิ​เหยี​ยน​หลิ่ว​เอ๋อร​์​ ​จากนั้น​นาง​จึง​สังเกตเห็น​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋ย​และ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ ​นาง​จึง​หยุด​พูด​ไป​ชั่วขณะ​ ​และ​ถาม​ว่า​ ​”​คุณชาย​ทั้งสอง​เป็น​ใคร​หรือ​เจ้า​คะ​”

แม้​จะ​แต่งกาย​ด้วย​เสื้อผ้า​ถูกๆ​ ​แต่​ทั้งสอง​ก็​ดูเหมือน​ขุนนาง​ ​ยิ่ง​เมื่อ​บวก​กับ​รูปลักษณ์​อัน​หล่อเหลา​ ​ก็​ยาก​ที่จะ​ไม่มีใคร​สังเกตเห็น​พวกเขา​ ​ชาย​ที่​ยืน​อยู่​ไกล​ออก​ไป​ยืน​อยู่​ห่าง​จาก​นาง​มาก​ทีเดียว​ ​เขา​สวม​เพียง​เสื้อคลุม​หน้าตา​ธรรมดา​ ​แต่​บรรยากาศ​ที่​เขา​แผ่ออก​มาก​ลับ​โดดเด่น​อย่างมาก

เขา​ดูเหมือน​ขุนนาง​ระดับสูง​ที่นาง​เคย​เจอ​เมื่อไม่นานมานี้

มารดา​ของ​หลิ่ว​เอ๋อร​์​รู้สึก​หวั่นใจ​ขึ้น​มา​โดยไม่รู้ตัว

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​รู้​ว่าการ​ให้​องค์​ชาย​ปลอมตัว​เป็น​สามัญชน​ย่อม​เป็นเรื่อง​ที่​ไม่​อาจ​เป็นไปได้​ ​ดังนั้น​นาง​จึง​จำต้อง​แสดงท่าที​เป็นมิตร​ออกมา​ให้​มาก​ที่สุด​เท่าที่​จะ​ทำได้​เพื่อ​เป็นการ​รับผิดชอบ​ต่อ​เรื่อง​นี้

สมัย​อยู่​ที่​ยุคปัจจุบัน​ ​นาง​เคย​เรียน​เรื่อง​อาชญาวิทยา​มาก​่อน​ ​และ​นาง​เข้าใจ​ดี​ว่า​คน​อย่าง​มารดา​ของ​หลิ่ว​เอ๋อร​์​กำลัง​คิด​อะไร​อยู่

โดยปกติ​นั้น​ ​เวลา​ที่​คน​ทั่วไป​รู้​ว่า​มีคดี​ฆาตกรรม​เกิดขึ้น​ใน​ละแวก​ที่​ตัวเอง​อยู่​ ​พวกเขา​ย่อม​ขอความช่วยเหลือ​จาก​รัฐ​ ​แต่​ในขณะเดียวกัน​ก็​จะ​เก็บงำ​ความลับ​บางอย่าง​เอาไว้​กับ​ตัวเอง​โดยไม่รู้ตัว

ไม่ใช่​แค่​เพราะ​พวกเขา​กลัว​ภาครัฐ​ ​แต่​เป็นเพราะว่า​พวกเขา​ไม่​อยาก​เข้าไป​ข้องเกี่ยว​กับ​เรื่อง​ที่​อาจ​ทำให้​ตัวเอง​เดือดร้อน

ดังนั้น​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​จึง​ไม่ได้​ทำ​เหมือน​ตัวเอง​เป็น​เจ้าหน้าที่​ ​และ​เลือก​ที่จะ​แต่งตัว​เป็น​คนธรรมดา​เพื่อ​ตรวจสอบ​เรื่อง​ที่เกิด​ขึ้น​ใน​ซอย​นั้น

แต่​ตราบใดที่​มี​องค์​ชาย​อยู่​ด้วย​ ​พวกเขา​ย่อม​ไม่มีวัน​ดู​เป็น​สามัญชน​ได้

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ขมวดคิ้ว​เมื่อ​คิดได้​ดังนั้น​ ​แต่​นาง​ก็​เอ่ย​ขึ้น​ว่า​ ​”​เอ่อ​ ​ข้า​กับ​สหาย​ผ่าน​มา​ ​และ​บังเอิญ​ได้ยิน​เรื่อง​ที่เกิด​ขึ้น​ที่นี่​เข้า​พอดี​ ​พวก​ข้า​จึง​ตัดสินใจ​กัน​ว่า​จะ​ตรวจสอบ​ดู​เสียหน่อย​ ​แต่​ตอนนี้​พวก​ข้า​เสร็จธุระ​แล้ว​ ​ข้า​แค่​อยาก​บอกว่าฮู​หยิน​ควรระวัง​ตัว​เป็น​อย่างยิ่ง​ ​คง​เป็น​โชคดี​ที่​เรา​ได้​เจอกัน​ ​ข้ามี​ยันต์​ผ้าเหลือง​อยู่​ ฮู​หยิน​จะ​นำ​ติดตัว​ไป​ด้วย​ก็ได้​ ​แล้วก็​ ​อันที่จริง​…​”

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​เงียบ​ไป​ครู่หนึ่ง​แล้วจึง​ส่ายหน้า​ ​”​ช่างเถิด​ ​อย่างไร​เจ้าหน้าที่​พวก​นั้น​ก็​ห้าม​ไม่​ให้​ข้า​พูดถึง​เรื่อง​นี้​”

ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋ย​รู้​ว่านาง​จงใจ​พูด​เช่นนี้​เพื่อ​ล่อ​อีก​ฝ่าย​ ​เขา​จึง​เหลือบมอง​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ ​ริมฝีปาก​บาง​สวย​ของ​เขา​โค้ง​ขึ้น​ ​รอยยิ้ม​นั้น​ดูรา​วกับ​เยาะเย้ย​ ​แต่​ก็​แฝง​ไป​ด้วย​ความพอใจ

เป็น​อย่างที่​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​คิด​ ​มารดา​ของ​หลิ่ว​เอ๋อร​์​ห้าม​ตัวเอง​ไว้​ไม่ได้​อีกต่อไป​เมื่อ​นาง​ได้ยิน​คำพูด​ของ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ ​”​เมื่อครู่นี้​คุณชาย​จะ​พูด​อะไร​รึ​ ​จริงๆ​ ​แล้ว​มี​อะไร​เกิดขึ้น​ที่นี่​หรือ​”

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ส่าย​ศีรษะ​อีกครั้ง

มารดา​ของ​หลิ่ว​เอ๋อร​์​ก้าว​เข้าไป​หา​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ ​”​ท่าน​กำลังจะ​บอกว่า​ที่นี่​มี​ผี​หรือ​”

เมื่อ​เห็น​นาง​เริ่ม​คล้อยตาม​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ก็​ตอบ​อย่าง​กำกวม​ว่า​ ​”​ข้า​ยัง​ไม่ได้​พูด​เลย​สัก​คำ​ ​แต่​ดูเหมือนว่าฮู​หยิน​คงจะ​รู้เรื่อง​นี้​ดี​อยู่​แล้ว​”

คน​จาก​ยุค​โบราณ​ล้วนแต่​งมงาย​และ​เชื่อ​ใน​เรื่อง​เหนือธรรมชาติ​อย่าง​สุด​หัวใจ​ ​มารดา​ของ​หลิว​เอ๋อร​์​พยักหน้า​อย่างรุนแรง​ ​ดวงตา​ของ​นาง​ปกคลุม​ไป​ด้วย​ความกังวล​ ​”​วันนั้น​ตอนที่​เจ้าหน้าที่​ไม่​พบ​เบาะแส​อัน​ใด​เลย​ ​ข้า​ก็​รู้​ได้​ทันที​ว่า​เรื่อง​นี้​คง​ไม่​ง่าย​ถึง​เพียงนั้น​ ​คุณชาย​ ​ท่าน​คง​ไม่รู้​หรอก​ว่า​…​”

องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที!

องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที!

Status: Ongoing

นิยายโรแมนติก นักรบหญิงย้อนเวลามาเจอสังคมอุดมพลังปราณ…และองค์ชายสายคลั่งรัก!

“เจ้าต้องรับผิดชอบ”

“ก็ได้ ท่านต้องการให้ข้ารับผิดชอบอย่างไรหรือ อย่าบอกนะว่าท่านอยากให้ข้าแต่งงานด้วย”

“แต่งงานหรือ…” ไป๋หลี่เจียเจวี๋ยจับคางของเฮ่อเหลียนเวยเวยอย่างหยอกล้อ

“ไหนๆ เราก็จะแต่งงานกันอยู่แล้ว ลองมาตรวจสอบเรื่องนี้กันก่อนดีไหม…

ไปเตรียมห้อง!”

เฮ่อเหลียนเวยเวย ราชินีนักรบแห่งศตวรรษที่ 21 ย้อนเวลามาอยู่ในร่างคุณหนูใหญ่ชื่อเดียวกัน

ย้อนมาวันแรกก็พบว่านางถูกยกเลิกงานแต่งงาน ทั้งยังเจอแม่เลี้ยงและน้องสาวต่างมารดาหมายหัวเอาชีวิต

ทั้งยังต้องพบว่า โลกนี้วัดค่าของคนด้วยพลังลมปราณ ทว่าร่างนี้ไม่มีลมปราณ จึงถูกเรียกว่า ‘นังคนไร้ค่า’

แต่จู่ๆ โชคชะตาให้นางได้บังเอิญพบหนังสือโบราณ ทำพันธะสัญญากับคนหูหมาป่า ทั้งยังมีหนังสือเรียกตัวจากสำนักไท่ไป๋

ยิ่งไปกว่านั้นยังมีบุรุษรูปงามที่ใครต่างก็เกรงใจ นาม ไป๋หลี่เจียเจวี๋ย ไล่ตามนางไปทุกที่

เพราะในเมื่อนางเคยขโมยจูบแรกเขามา และเขาก็คือบุรุษหน้ากากเงินที่นางเคยพบมาก่อน

ชีวิตใหม่นี้มีของดีอยู่ในมือ จะแกร่งขึ้น จะแก้แค้น จะร้ายกว่าเดิมจนทั่วหล้าต้องตกตะลึง นางไม่เคยกลัว!

กลัวเพียงอย่างเดียว… เขาคนนั้นจะไม่คืนชีวิตสุขสงบให้นาง เล่นไล่จับมันเหนื่อยมากนะรู้ไหม?!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท