เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค – ตอนที่ 672 บทส่งท้ายของสองซู (3)

ตอนที่ 672 บทส่งท้ายของสองซู (3)

ยัง​ดี​…

ยัง​ดี​ที่​สวรรค์​สงสาร​เขา​!

ซูชีกอด​กู​เสี่ยว​ซูเอาไว้​ใน​อ้อมแขน​แน่น​ เป็นครั้งแรก​ใน​ชีวิต​นี้​ที่​ขอบคุณ​ความเมตตา​จาก​สวรรค์​ที่​สุดท้าย​ก็​ทำให้​พวกเขา​ไม่ได้​คลาด​กัน​ไป​

กู​เสี่ยว​ซูที่​ถูก​ซูชีกอด​เอาไว้​ยก​ริมฝีปาก​แย้ม​รอยยิ้ม​

“ซูชี เจ้าพูด​ผิด​ไป​แล้ว​ ข้า​ไม่ใช่คน​ที่​สวรรค์​ส่งมาเล่นงาน​เจ้า แต่​ส่งมาช่วยชีวิต​เจ้าต่างหาก​!”

ซูชีดึง​ระยะห่าง​ระหว่าง​ทั้งคู่​ออก​ แล้ว​ก้ม​เพ่งพิศ​ดวง​หน้า​ของ​กู​เสี่ยว​ซูอย่าง​ละเอียด​ หน้าผาก​อิ่มเอิบ​ นัยน์ตา​เปล่งประกาย​ และ​ปาก​เล็ก​ๆ สีแดง​อม​ชมพู​นั่น​…

ซูชีก้มหน้า​ลง​ไป​จุมพิต​หน้าผาก​ และ​แก้ม​ของ​กู​เสี่ยว​ซู…และ​จบ​ลง​ที่​ริมฝีปาก​ของ​นาง​อย่าง​หักห้ามใจ​ไม่อยู่​

บน​โลก​ใบ​นี้​ เหลือ​เพียง​พวกเขา​สอง​คน​เท่านั้น​

หยาด​น้ำตา​ริน​ไหล​ลง​มาจาก​นัยน์ตา​กู​เสี่ยว​ซู ในที่สุด​นาง​ก็​สมปรารถนา​

แม้ว่า​จะมีน้ำตา​ ทว่า​กู​เสี่ยว​ซูกลับ​ตอบรับ​อย่าง​ร้อนแรง​ ไม่ว่า​เพลิง​กอง​นี้​จะแผดเผา​นาง​จน​กลายเป็น​เถ้าถ่าน​หรือไม่​

เรียว​ลิ้น​พัวพัน​กัน​…

หัวใจ​ของ​ทั้งสอง​คน​เข้าใกล้​กัน​แบบนี้​เป็นครั้งแรก​

มีบางคน​ที่​หาก​คลาด​กัน​ไป​ครั้งหนึ่ง​ ก็​อาจจะ​คลาด​กัน​ตลอดชีวิต​ แต่​บางคน​ เมื่อ​ได้​พบกัน​แล้ว​ ก็​คือ​ชั่วชีวิต​หนึ่ง​เช่นกัน​

ขอบคุณ​สวรรค์​ที่​ให้​พวกเขา​ได้​พบกัน​ ให้​พวกเขา​ได้​ผ่าน​ความยากลำบาก​มากมาย​ขนาด​นี้​ หลังจากที่​ผ่าน​ความเข้าใจผิด​มากมาย​มา ก็​ยัง​สามารถ​ได้​อยู่​ด้วยกัน​ นี่​คือ​ความเมตตา​ที่​สวรรค์​มีต่อ​พวกเขา​

สามปี​ให้หลัง​

“อุแว้​ๆ…”

“ซูชี! ลูกสาว​สุดที่รัก​ของ​เจ้าร้องไห้​แล้ว​!”

“จะไป​เดี๋ยวนี้​!”

เสียง​กลัด​กลุ้มใจ​ และ​วุ่นวาย​ดัง​ขึ้น​ใน​เรือน​หลัง​ของ​จวน​ซู เดิม​ซูชีกำลัง​นั่ง​อ่าน​จดหมาย​อยู่​ใน​ห้อง​หนังสือ​ หลังจาก​ได้ยิน​เสียง​ขอให้​ช่วย​ของ​กู​เสี่ยว​ซูดัง​ขึ้น​ ก็​รีบ​สำแดง​วิชา​ตัวเบา​เหิน​กาย​ไป​ทาง​ห้อง​เจาเสีย​ โดย​ไม่สนใจ​จะอ่าน​จดหมาย​อีก​

ตอนที่​ตะบึง​เข้าไป​ใน​ห้อง​ กู​เสี่ยว​ซูก็​กำลัง​เร่งรีบ​จัดการ​ตนเอง​อยู่​!

เมื่อ​เห็น​ซูชีพุ่ง​เข้ามา​แล้ว​ ก็​ไม่พูดพล่าม​ทำ​เพลง​ ตวัดสายตา​คมกริบ​ใส่ซูชีอย่าง​ดุร้าย​ทันที​!

“ซูชี ข้า​ขอ​บอก​เจ้าเลย​นะ​ว่า​ ไม่อนุญาต​ให้​เจ้าขึ้น​เตียง​ข้า​อีก​ภายใน​หนึ่ง​เดือน​นี้​!”

ขณะที่​เอ่ย​วาจา​นี้​ กู​เสี่ยว​ซูมีสีหน้า​คับแค้นใจ​ยิ่ง​ ทั่ว​ร่าง​เต็มไปด้วย​เพลิง​โทสะ​!

ซูชีได้ยิน​ก็​ลูบ​จมูก​ตนเอง​ด้วย​ความ​กระอักกระอ่วน​ แล้ว​มอง​ไหล่​สวย​กับ​ผิวขาว​เนียน​ที่​เปลือย​อยู่​ของ​กู​เสี่ยว​ซูแวบ​หนึ่ง​ จากนั้น​ก็​กลืนน้ำลาย​อึก​แล้ว​อึก​เล่า​อย่าง​ไม่ได้ความ​!

ช่วยไม่ได้​ ใน​เวลา​หนึ่ง​ปี​กว่า​ตั้งแต่​ที่​กู​เสี่ยว​ซูตั้งครรภ์​จนถึง​ให้กำเนิด​บุตร​ เขา​ล้วน​อดกลั้น​ และ​ตอนที่​อด​ทนไม่ไหว​ก็​ทำได้​เพียงแค่​…หลังจาก​ได้​เริ่ม​มีสัมพันธ์กัน​ด้วย​ความยากลำบาก​ จึงอดกลั้น​ไม่ไหว​ เคี่ยว​กรำ​กู​เสี่ยว​ซูตลอด​ทั้งคืน​ ตัว​เขา​เต็มอิ่ม​ กู​เสี่ยว​ซูก็​พอใจ​ แต่กลับ​ลืม​ไป​ว่า​ตอนนี้​พวกเขา​ไม่ใช่สอง​คน​ แต่​เป็น​ครอบครัว​สี่คน​!

ถูกต้อง​ สามปี​หลังจากนั้น​ กู​เสี่ยว​ซูให้กำเนิด​แฝด​ชาย​หญิง​คู่​หนึ่ง​ให้​กับ​ซูชี

เป็น​เพราะ​ชีพจร​ที่​จับได้​ใน​ครา​แรก​ที่​ตั้งครรภ์​นั้น​บ่งบอก​ว่า​เป็น​ฝาแผด​ กู​เสี่ยว​ซูเคย​ได้รับบาดเจ็บ​มาหลายครั้ง​ ร่างกาย​จึงอ่อนแอ​ ซูชีสงสาร​นาง​ และ​คิด​เพื่อ​ทารก​ใน​ท้อง​นาง​ จึงเริ่ม​ใช้ชีวิต​เฉกเช่น​นักบวช​

รอ​จน​กู​เสี่ยว​ซูคลอด​บุตร​ด้วย​ความยากลำบาก​ แต่​เป็น​เพราะ​ตอน​คลอด​สูญเสีย​พลัง​ใจและ​พลัง​กาย​ไป​ จึงต้อง​บำรุง​อีก​ครึ่ง​ปี​ เมื่อ​รวม​เข้าด้วยกัน​ เขา​ก็​ไม่ได้​มีความสัมพันธ์​กับ​นาง​เป็นเวลา​หนึ่ง​ปี​ครึ่ง​แล้ว​

ดังนั้น​ สภาพ​เหตุการณ์​บ้าคลั่ง​เมื่อคืน​นั้น​สามารถ​เข้าใจ​ได้​!

ทว่า​เมื่อคืน​กู​เสี่ยว​ซูเหนื่อย​เกินไป​ ซูชีปล่อย​นาง​ไป​ตอน​ฟ้าใกล้​จะสว่าง​ และ​นาง​ก็​นอนหลับ​จนถึง​ตอนกลางวัน​ ทารก​น้อย​สอง​คน​จึงโวยวาย​ขึ้น​มา พวกเขา​หิว​เกินไป​ ดังนั้น​สุดท้าย​จึงทำได้​แค่​อาศัย​เสียง​ร้องไห้​มาดึงดูด​ความสนใจ​ของ​ท่าน​พ่อ​ท่าน​แม่สุด​แย่​คู่​นี้​!

เห็น​เด็ก​ทั้งสอง​ร้องไห้​จน​หน้า​แดงก่ำ​ ซูชีก็​สงสาร​จับใจ​…

เมื่อคืน​บ้าคลั่ง​เกินไป​หน่อย​จริงๆ​ ถึงขั้น​ที่​ละเลย​เหล่า​ลูก​รัก​ของ​เขา​ไป​ เสียง​ร้องไห้​ดัง​จ้านี้​ทำให้​หัวใจ​ซูชีเจ็บปวด​ยิ่งนัก​!

ซูชีรีบ​ไป​อุ้ม​เด็กชาย​ส่งให้​กู​เสี่ยว​ซู เพื่อให้​นาง​ป้อน​นม​ทันที​ จากนั้น​ก็​อุ้ม​เด็กหญิง​ขึ้น​มาด้วย​ความสงสาร​และ​เอ็นดู​ พลาง​ตบ​แผ่น​หลัง​เด็กน้อย​อย่าง​อ่อนโยน​ พร้อมกับ​เดิน​ไปมา​ใน​ห้อง​ช้าๆ

เดิม​การ​ตั้งครรภ์​แฝด​ ก็​มีเพียงแค่​อัตรา​แค่​หนึ่ง​ใน​พัน​ส่วน​ และ​เด็ก​สอง​คน​นี้​ก็​สามารถ​ก่อกวน​ได้​ตั้งแต่​อยู่​ใน​ท้อง​ผู้​เป็น​มารดา​ รอ​จน​คลอด​ออกมา​ สุขภาพ​ของ​องค์​ชาย​น้อย​ก็​ไม่ค่อย​ดี​เท่าไร​ แต่​สุขภาพ​ของ​องค์​หญิง​น้อย​กลับ​แข็งแรง​ยิ่งนัก​

ซูชีจิ้มปลายจมูก​เด็กน้อย​ด้วย​ความรัก​และ​เอาใจ​ สัพยอก​ยิ้ม​ๆ ว่า​ “ให้​พี่ชาย​กิน​ก่อน​ จากนั้น​พวกเรา​ค่อย​กิน​ดี​ไหม​ อยู่​ใน​ท้อง​เหนียง​ชิน​ เจ้าก็​รังแก​พี่ชาย​จน​เป็น​แบบ​นั้น​แล้ว​ ดังนั้น​ตอนนี้​เจ้าควรจะ​ยอมให้​พี่ชาย​บ้าง​ รู้​ไหม​?”

เด็ก​อายุ​ห้า​เดือน​จะไป​เข้าใจ​อะไร​?

พวกเขา​อาจจะ​ไม่เข้าใจ​อะไร​ทั้งนั้น​ แต่​สำหรับ​เรื่อง​กิน​ พวกเขา​ยังคง​ดื้อดึง​ยิ่ง​

เจ้าหญิง​น้อย​หันหน้า​ไป​ ก็​เห็น​พี่ชาย​กำลังกิน​อย่าง​มีความสุข​อยู่​ใน​อ้อมแขน​ของ​มารดา​ ส่วน​นาง​ทำได้​เพียง​นั่ง​โดดเดี่ยว​อยู่​ใน​อ้อมแขน​ของ​บิดา​ จึงรู้สึก​ไม่ยินยอม​ขึ้น​มา!

“อา​…ยา​…อา​…”

องค์​หญิง​น้อย​ไม่สนใจ​ว่า​ท่าน​พ่อ​ของ​นาง​กล่าว​วาจา​ใด​ นาง​รู้​เพียงแต่ว่า​ ตอนนี้​ตนเอง​หิว​แล้ว​ ดังนั้น​จึงแสดงท่าทาง​อันธพาล​ โดย​การ​ถอด​เสื้อ​ท่าน​พ่อ​นาง​ออก​อย่าง​ไม่รีรอ​!

หน้าอก​ของ​ท่าน​แม่มีของกิน​ หน้าอก​ท่าน​พ่อ​ก็​ต้อง​มีแน่นอน​!

ใน​เมื่อ​ท่าน​แม่ป้อน​พี่ชาย​ เช่นนั้น​ท่าน​พ่อ​ก็​ต้อง​ป้อน​นาง​!

แบบนี้​ยุติธรรม​ยิ่ง​!

วันนี้​ซูชีตื่น​สาย​มาก​ อีก​ทั้ง​อยู่​ใน​บ้าน​ตนเอง​ ดังนั้น​จึงสวม​เสื้อผ้า​สบาย​ๆ เพียงแค่​รวบ​เข้าหา​กัน​เล็กน้อย​ ก็​เป็นอัน​เสร็จสิ้น​ คราวนี้​ถูก​องค์​หญิง​น้อย​กระตุก​ซ้าย​ขวา​บน​ล่าง​เล็กน้อย​ เสื้อผ้า​จึงถูก​ดึง​หลุด​ในทันที​ แผง​อก​กว้าง​เผย​สู่ภายนอก​

“นี่​! ลูก​รัก​ อย่า​ทำ​แบบนี้​!” ซูชีกลุ้มใจ​มาก​! และ​หมด​คำบรรยาย​ต่อ​การกระทำ​เช่นนี้​ของ​บุตรสาว​ที่รัก​จริงๆ​!

เหล่า​เทียน​เห​ยี​ย[​1]มิได้​ประทาน​ความสามารถ​ใน​การ​ป้อน​อาหาร​ผู้​เป็น​ลูก​ให้​กับ​เขา​ แม้องค์​หญิง​น้อย​จะเปลื้องผ้า​เขา​จน​หมด​ ก็​หา​ของกิน​ไม่เจอ​แม้แต่น้อย​!

กู​เสี่ยว​ซูที่​ได้ยิน​เสียง​ ก็​หันหน้า​ไป​มอง​ แล้ว​หน้าแดง​ระเรื่อ​ทันที​…

แผง​อก​เปลือยเปล่า​ที่​เผย​สู่ภายนอก​ของ​ซูชี เต็มไปด้วย​รอย​แดง​แจ่มชัด​! กู​เสี่ยว​ซูเห็น​แผง​อก​ซูชีแล้ว​ ก็​นึก​เรื่อง​ที่​เกิดขึ้น​เมื่อคืน​ทั้งหมด​ และ​รู้สึก​ว่า​โลก​ใบ​นี้​เต็มไปด้วย​ความ​ชั่วร้าย​!

เมื่อวาน​ไม่ใช่แค่​ซูชีที่​บ้าคลั่ง​ กระทั่ง​นาง​ก็​ควบคุม​ตนเอง​ไม่อยู่​ รอย​แดง​บน​หน้าอก​กับ​แผ่น​หลัง​ของ​ซูชีพวก​นั้น​อธิบาย​ได้​!

ซูชีมอง​กู​เสี่ยว​ซูแวบ​หนึ่ง​ ตอนที่​เห็น​ใบ​หน้าแดง​ระเรื่อ​ของ​นาง​ ก็​รู้​ว่า​ใน​ใจนาง​คิด​อะไร​อยู่​ ริมฝีปาก​พลัน​โค้ง​ขึ้น​…

ยัง​จะเอ่ย​ว่า​ไม่ให้​ปีน​ขึ้น​เตียง​นาง​ภายใน​หนึ่ง​เดือน​นี้​ เมื่อคืนนี้​นาง​เร่าร้อน​และ​บ้าคลั่ง​เพียงใด​!

“อ๊ะ​!”

ตอนที่​กำลัง​หวน​นึกถึง​ความทรงจำ​อัน​งดงาม​เมื่อคืน​ หน้าอก​ก็​พลัน​รู้สึก​เจ็บ​แปลบ​ ซูชีร้อง​ออกมา​อย่า​งอด​ไม่ได้​ ตอนที่​เขา​ก้มหน้า​เห็นภาพ​ตัวการ​ที่​กำลัง​ลงมือ​ทำร้าย​เขา​ ก็​พลัน​เหงื่อ​ตก​เงียบๆ​…

ใคร​จะบอก​เขา​ได้​บ้าง​ว่า​ ทั้งหมด​นี้​มัน​เกิด​อะไร​ขึ้น​กัน​แน่​

“จุ๊บ​…” กู​เสี่ยว​ซูที่​ได้ยิน​เสียง​ก็​เงยหน้า​ขึ้น​มา จึงเห็น​องค์​หญิง​น้อย​ของ​พวกเขา​คงจะ​หิว​หนัก​มาก​ จึงถอดเสื้อผ้า​ซูชี จากนั้น​ก็​เล็ง​ไป​ที่​หน้าอก​ของ​เขา​…

อ่อ!​ ภาพ​ตรงหน้า​นี้​งดงาม​เกินไป​แล้ว​จริงๆ​ นาง​ไม่กล้า​แม้แต่​จะมอง​ตรงๆ​!

ซูชีถูก​เจ้าหญิง​ตัว​น้อย​ทำให้​เจ็บ​ยิ่ง​ หลังจาก​ยุ่ง​วุ่นวาย​กับ​การ​กอบกู้​หน้าอก​ของ​ตนเอง​ออก​มาจาก​ปาก​แม่หนู​น้อย​อย่าง​ยากลำบาก​ได้​แล้ว​ ถึงได้​โล่งใจ​!

เด็ก​คน​นี้​…” ไม่รู้​จริงๆ​ ว่า​ควรจะ​เอ่ย​อะไร​ถึงจะดี​!

กู​เสี่ยว​ซูก็​ส่ายหน้า​จนปัญญา​ พลาง​ส่งเสียง​ว่า​ “ส่งลูก​มาให้​ข้า​เถอะ​ นาง​หิว​แล้ว​”

อย่างไร​เสีย​ก็​เป็น​ลูก​ที่​ตนเอง​พยายาม​ให้กำเนิด​ออกมา​ เสียงสะอื้น​เพียง​เล็กน้อย​ ตัวนาง​ก็​เจ็บปวด​ไป​ด้วย​ ยิ่ง​ไม่ต้อง​เอ่ยถึง​เรื่องใหญ่​เฉกเช่น​หิ้วท้อง​หิว​เรื่อง​นี้​เลย​!

ซูชีรีบ​ส่งเจ้าหญิง​ตัว​น้อย​ไป​ไว้​ใน​อ้อมแขน​ของ​กู​เสี่ยว​ซู กู​เสี่ยว​ซูขยับ​ท่าทาง​เล็กน้อย​แล้ว​อุ้ม​เด็ก​ทั้งสอง​คน​เอาไว้​ หนึ่ง​ซ้าย​หนึ่ง​ขวา​ และ​ให้​พวกเขา​เริ่ม​กิน​นม​

ซูชีที่​ยืน​อยู่​ตรง​หัว​เตียง​มอง​สามคน​ตรงหน้า​อย่าง​เปี่ยม​ไป​ด้วย​ความรู้สึก​พึงพอใจ​!

เขา​คิด​ว่า​ตอนนี้​ชีวิต​ของ​เขา​สมบูรณ์แบบ​แล้ว​

มีภรรยา​คน​งามคอย​ออดอ้อน​ มีบุตรชาย​บุตรสาว​ที่​น่ารัก​ เหล่า​เทียน​เหยีย​ปฏิบัติ​ต่อ​เขา​ดีมาก​จริงๆ​

ซูชีหันหน้า​ไป​มอง​ดวงตะวัน​ที่​กำลัง​ฉายแสง​แรง​เปรี้ยง​ ใน​ใจก็​ปล่อยวาง​ได้​แล้ว​

สามปีก่อน​ เขา​กลับมา​เมืองหลวง​กับ​กู​เสี่ยว​ซู และ​ได้​พบ​กับ​มั่ว​เชีย​นเสวี่ย​ที่​กำลัง​ตั้งครรภ์​ไป​ร่วม​งานเลี้ยง​ต่างๆ​ ภายใต้​การ​อยู่​เป็นเพื่อน​ของ​หนิง​เซ่าชิงเข้า​พอดี​ เดิม​ซูชีคิด​ว่า​ตนเอง​จะริษยา​ ริษยา​ราวกับ​เสียสติ​ แต่​เมื่อ​เห็นภาพ​เหตุการณ์​นั้น​ เห็น​นัยน์ตา​มั่ว​เชีย​นเสวี่ย​เปี่ยม​ไป​ด้วย​ประกาย​แห่ง​ความสุข​ หัวใจ​เขา​ก็​สงบนิ่ง​ ถึงขั้น​ที่​…ขั้น​ที่​ใน​ใจยัง​อวยพร​มั่ว​เชีย​นเสวี่ย​ให้​มีความสุข​เงียบๆ​

อวยพร​ให้​นาง​เบิกบาน​ และ​มีความสุข​ไป​ตลอดชีวิต​

และ​ใน​ตอนนั้น​เอง​ที่​เขา​ปล่อยวาง​ได้​อย่าง​แท้จริง​

และ​ใน​คืน​นั้น​ เขา​ก็​เอ่ย​คำ​สามคำ​ที่​กู​เสี่ยว​ซูปรารถนา​มาเนิ่นนาน​กับ​นาง​

จนกระทั่ง​ตอนนี้​ซูชียัง​จำได้​ว่า​ คืน​นั้น​ กู​เสี่ยว​ซูร้องไห้​น้ำหูน้ำตา​ไหล​ วัน​ถัดมา​ พวกเขา​ก็​ไป​เข้าเฝ้า​จิ่งอ๋อง​กับ​พระชายา​เอก​จิ่ง จากนั้น​ก็​กำหนด​วัน​เรียบร้อย​ หนึ่ง​เดือน​หลังจากนั้น​ พวกเขา​ก็​แต่งงาน​ และ​ได้​กลายเป็น​สามีภรรยา​กัน​ในที่สุด​

คืน​วัน​ใน​ภายหลัง​ก็​ยุ่ง​วุ่นวาย​ และ​ทำตาม​สิ่งที่​ตนเอง​ต้องการ​ โดย​ไม่สนใจ​ส่วนรวม​

ฐาน​ที่มั่น​ตระกูล​ซูย้าย​จาก​เมืองหลวง​ไป​ยัง​ที่ดิน​ศักดินา​ทางใต้​ พร้อมกับ​สร้าง​แคว้น​ตง​อู่​ขึ้น​มา พี่ใหญ่​ซูจิ่นอวี้​เป็น​ผู้ปกครอง​แคว้น​ตง​อู่​ เขา​ก็​เป็น​อ๋อง​ผู้สูงศักดิ์​ที่สุด​แห่ง​ตง​อู่​ กู​เสี่ยว​ซูย่อม​เป็น​พระชายา​เอก​ของ​เขา​

มั่ว​เชีย​นเสวี่ย​ติดตาม​หนิง​เซ่าชิงไป​ยัง​เป่ยต้าฮวง​ หนิง​เซ่าชิงแต่งตั้ง​ตำแหน่ง​ผู้สืบทอด​ของ​เขา​ นับแต่​นี้​จะถูก​ขวางกั้น​ด้วย​ระยะทาง​ที่​ห่างไกล​ และ​ไม่มีวัน​ได้​พบ​หน้า​กัน​อี​ก.​..

บางที​มั่ว​เชีย​นเสวี่ย​อาจจะ​อยู่​ใน​ใจเขา​ไป​ตลอดชีวิต​ แต่​เขา​ทำได้​เพียงแค่​ฝังความรู้สึก​นี้​เอาไว้​ให้​ลึก​

ดวงตะวัน​ฉายแสง​ราวกับ​เปลวเพลิง​ และ​ชีวิต​ของ​ซูชี ก็​เหมือนกับ​เปลวเพลิง​ที่​ร้อนแรง​ อบอุ่น​ และ​งดงาม​

[1] เหล่า​เทียน​เห​ยี​ย​ หรือ​ที่​ชาว​แต้จิ๋ว​เรียกกันว่า​ เง็ก​เซียน​ฮ่องเต้​ เป็น​เทพเจ้า​สูงสุด​ผู้ปกครอง​สวรรค์​ และ​ดูแล​เทพเจ้า​ทั้งปวง​

เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค

เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค

Status: Ongoing

เพราะสำลักน้ำชาจนขาดอากาศ(?)ทำให้ มั่วเชียนเสวี่ย สาวมั่นหัวการค้าทะลุมิติมาอยู่ในโลกยุคโบราณและในร่างของคนอื่น

แต่นั่นยังไม่น่าตระหนกเท่าการที่ร่างนี้กำลังจะแต่งงานเพื่อแก้เคล็ดให้กับชายหนุ่มที่ป่วยร่อแร่เต็มที!

ในโลกที่หากขาดที่พึ่งผู้หญิงก็สามารถถูกขายเป็นทาสได้ตลอดเวลาสามีคนนี้ของนางนับว่าเป็นตัวเลือกที่ไม่เลวเลยทีเดียว

ทั้งมีความรู้ สุภาพและไม่ใช้กำลังแถมหน้าตายังหล่อเหลาอีกด้วย เสียตรงร่างกายอ่อนแอไปหน่อยเท่านั้น

ชีวิตครอบครัวชนบทแสนยากจนของนางจึงเริ่มขึ้นที่ตรงนั้น… แต่อย่างไรนางไม่ยอมงอมืองอเท้ารับชะตากรรมแบบนี้แน่

ในเมื่อนางมีความรู้ความสามารถยังต้องกลัวสร้างกิจการไม่ได้อีกหรือ?!

เส้นทางร่ำรวยสายนี้นางจะบุกเบิกมันขึ้นมาด้วยตนเอง! และหวังว่าทุกอย่างจะราบรื่นด้วยดี

เพราะเหมือน ‘ร่างนี้’ ของนางกับฐานะเดิมของสามีเหมือนจะไม่ค่อยธรรมดาเสียด้วยสิ…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท