การถ่ายทอดสดเริ่มต้นขึ้น!
อันหงเดินขึ้นเวที หลังจากกล่าวเปิดเวทีอย่างตื่นเต้น อันหงกล่าวแนะนำคณะกรรมการตัดสินชุดใหม่แก่ผู้ชม
“อาจารย์อิ่นตง!”
“อาจารย์เจิ้งจิง!”
“อาจารย์เยี่ยจือชิว!”
“อาจารย์หยางจงหมิง!”
ขณะที่คณะกรรมการทั้งสี่ทักทายกล้อง ผู้ชมซึ่งกำลังรับชมถ่ายทอดสดก็พลันกระปรี้กระเปร่ากันขึ้นมาทันที
“สุดยอด!”
“พ่อเพลงสี่คน!”
“ขอถามว่ามีใครทำได้อีกบ้าง!”
“ไลน์อัปกรรมการตัดสินแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ ไม่เคยมีรายการไหนที่เชิญพ่อเพลงมาเป็นกรรมการตัดสินได้สี่คน นี่เรียกว่าเชิญพ่อเพลงจากทั้งสี่ทีมมาเป็นทีมกรรมการตัดสินได้สี่คนในคราวเดียวเลย!”
“…”
หยางจงหมิงเป็นกรรมการตัดสินในทีมที่หนึ่ง
เจิ้งจิงเป็นกรรมการตัดสินในทีมที่สอง
อิ่นตงเป็นกรรมการตัดสินในทีมที่สาม
เยี่ยจือชิวเป็นกรรมการตัดสินในทีมที่สี่
พ่อเพลงทั้งสี่ไม่ว่าจะคนใด ต่างก็เป็นบุคลากรระดับแนวหน้า แต่รายการกลับเชิญพ่อเพลงทั้งสี่มาเป็นกรรมการตัดสินได้พร้อมกัน!
ขณะเดียวกัน
ผู้ชมยังพบว่า คณะกรรมการตัดสินท่านอื่นๆ ในรายการก่อนหน้านี้ เช่นอู่หลง ขณะนี้นั่งอยู่ในตำแหน่งของคณะกรรมการประเมิน
ไลน์อัปอลังการอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน!
ในขณะนั้นกล้องหมุนไป
ภาพด้านหลังเวทีก็ปรากฏต่อหน้าผู้ชม
เมื่อเห็นว่าใครในทีมที่สามแย่งกันว่าใครจะได้ประลองกับหลานหลิงอ๋อง ทุกคนก็เฮลั่นขึ้นมาทันที
ค่าความโกรธแค้นนี้ไม่มีใครเทียบเทียมได้
ทว่าภาพที่ทำให้ผู้ชมต้องกระโดดโลดเต้น กลับเป็นช่วงเวลาที่หลานหลิงอ๋องจับสลาก
‘แม่เจ้าโว้ย!’
‘หลานหลิงอ๋องเหน็บหนาวแล้ว!’
‘ทำไมเปิดมาก็เจอนักรบเลย?’
‘ทางหุ่นยนต์ก็โหด เจอเอล์ฟเลยนะ นี่มันศึกระหว่างราชากับราชินีเพลงชัดๆ!’
‘สะใจ!’
‘ฮ่า ทีมสามขอให้นักรบจัดการหลานหลิงอ๋อง’
‘วันนี้หลานหลิงอ๋องจะร้องเหน็บหนาวอีกรอบแล้ว’
‘ฮามาก ถงถงมือตกตลอด!’
‘สอบถามค่ะ หลานหลิงอ๋องได้อันดับหนึ่งสองครั้ง นักรบก็ได้อันดับหนึ่งสองครั้ง ทำไมพวกคุณถึงพูดเหมือนหลานหลิงอ๋องจะต้องแพ้?’
‘ไพ่ตายไง ราชาเพลงอย่างนักรบยังไม่ได้ระเบิดพลังเลย!”
‘หลานหลิงอ๋องไม่ใช่ราชาเพลง ในการแข่งขันรอบที่ผ่านมาเขาน่าจะทุ่มสุดตัวแล้ว ตอนนี้ไม่มีแรงเหลือแล้ว’
‘เป็นแบบนี้นี่เอง’
‘การแข่งขันก่อนหน้านี้ ราชาราชินีเพลงแค่ต้องมั่นใจว่าตัวเองจะไม่ตกรอบ หลังจากนี้คือเวลาที่พวกเขาจะยื่นเขี้ยวเล็บออกมา ถ้าไม่เชื่อพวกคุณก็ลองดูต่อไป’
“…”
คอมเมนต์กระจัดกระจายเต็มหน้าจอ
ผู้ชมส่งเสียงเชียร์
ในที่สุดอันหงก็เชิญผู้เข้าแข่งขันกลุ่มแรกขึ้นมา
ปลาปักเป้าจากทีมที่หนึ่งปะทะกระต่ายจากทีมที่สาม
กระต่ายเริ่มร้องก่อน
ทันทีที่เปล่งเสียง ผู้ชมเป็นต้องตกตะลึง
แข็งแกร่ง!
แข็งแกร่งมาก!
การมีตัวตนของกระต่ายในรอบจัดอันดับนั้นธรรมดา แต่วันนี้การแสดงของกระต่ายนั้นเหนือกว่าการแข่งขันรอบจัดอันดับมาก!
‘เชี่ย!’
‘ที่แท้ก็ซ่อนฝีมือที่แท้จริงไว้?’
‘ครั้งนี้ศึกหนัก เลยจะระเบิดพลังว่างั้น?’
‘ทางปลาปักเป้าล่ะ?’
ในที่สุดผู้ชมก็สัมผัสได้ถึงความโหดร้ายของการแข่งขันรูปแบบทีม!
กระต่ายซึ่งแทบไม่มีตัวตนระเบิดพลังออกมา ถ้าหากก่อนหน้านี้ร้องออกมาในระดับนี้ เธอคงมีความหวังในการคว้าอันดับหนึ่ง!
ไม่นาน
ปลาปักเป้าก็ขึ้นเวที
ปรากฏว่าทันทีที่เธอเปล่งเสียงร้อง ผู้ชมก็แตกตื่นทันใด!
เป็นอย่างที่คิด!
ปลาปักเป้าก็ซ่อนเร้นพลังที่แท้จริงไว้เช่นกัน!
ก่อนหน้านี้เธอไม่ได้แสดงฝีมือออกมาอย่างเต็มที่!
ปลาปักเป้าในเวทีนี้ ร้องเพลงกุหลาบขาวของเซี่ยนอวี๋ สำเนียงภาษาฉีชัดเจนทำให้ผู้ชมเริ่มสงสัยว่าปลาปักเป้าอาจไม่ใช้จ้าวอิ๋งเก้อ แต่เป็นนักร้องแถวหน้าสักคนหนึ่งจากฉีโจว…
ไพเราะมาก!
ทำผลงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ!
ท่ามกลางความตื่นเต้นของผู้ชม
ปลาปักเป้าได้ 590 คะแนน ส่วนกระต่ายได้ 410 คะแนน
เนื่องจากเป็นการถ่ายทอดสดจึงประกาศผลทันทีหลังจากที่นักร้องแสดงจบ
วันนี้มีผู้ชมเจ็ดร้อยคน
คณะกรรมการประเมินห้าสิบคน
และคณะกรรมการตัดสินอีกสี่คน
ผู้ชมแต่ละคนมีหนึ่งคะแนน คณะกรรมการประเมินมีคนละสองคะแนน คณะกรรมการตัดสินมีคนละห้าสิบคะแนน รวมคะแนนสำหรับการแสดงแต่ละรอบคือ 1,000 คะแนน
นักร้องคนใดได้คะแนนโหวตเกินกว่า 500 คะแนน ก็สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ของตนได้อย่างแน่นอน
‘ฮ่าๆๆ ใครเริ่มก่อนแพ้!’
‘ใครเริ่มก่อนแพ้จริงๆ!’
‘หัวเราะที่หลังดังกว่า!’
‘การแข่งแบบทีมสนุกแบบนี้นี่เอง!’
‘ไม่พูดมาก แข่งแล้วรู้ผลแพ้ชนะเลย!’
‘…’
คอมเมนต์ต่างพากันหยอกล้อ
กระต่ายเริ่มร้องก่อน ผลคือกระต่ายเป็นฝ่ายแพ้ ตรงกับหลักการที่ว่า ‘ใครเริ่มก่อนแพ้’ ไม่ใช่หรือ?
“ทุกท่านครับ”
พิธีกรอันหงคลี่ยิ้มขึ้นทันใด “นักร้องสองคนที่จะเผชิญหน้ากันต่อไปคืออาจารย์นักรบจากทีมที่สาม และอาจารย์หลานหลิงอ๋องจากทีมที่หนึ่งครับผม…”
‘มาแล้วพี่ชาย!’
‘เวทีใหญ่ที่สุดของวันนี้เริ่มแล้ว หลานหลิงอ๋องกับนักรบ!’
‘ศึกแห่งความแค้น ศึกระหว่างพ่อลูก!’
‘รอหลานหลิงอ๋องอยู่พอดี!’
‘ฉันตั้งตารอเวทีนี้ของหลานหลิงอ๋องที่สุด!’
‘อ๊ากๆๆๆ หลานหลิงอ๋องจะถอดหน้ากากแล้วใช่ไหม’
‘ค่ำคืนเหน็บหนาวถวิลหาเพียงแต่เจ้า…’
‘จับได้นักรบเหมือนเปิดได้ไพ่แห่งความตาย!’
‘ทันทีที่หลานหลิงอ๋องถอดหน้ากาก พวกเราแฟนคลับหยวนซีจะยกกองทัพไปถล่มให้เละ!’
‘กองทัพเฟ่ยหยางกำลังรวมพล!’
‘กองทัพมู่สือพร้อมแล้ว!’
‘ทั้งที่รู้ผลการแข่งขันอยู่แก่ใจ แต่ฉันก็อดคาดหวังไม่ได้!’
‘…’
ฉากเด็ดมาถึงในที่สุด!
ไม่ว่าจะผู้ชมในห้องส่งหรือชาวเน็ตหน้าจอต่างใจเต้นไม่เป็นส่ำ ทุกคนอยากดูการแข่งขันคู่นี้มาก!
ในแง่ของความตื่นเต้น ทุกคนตั้งตารอคู่นี้มากกว่ามหาศึกระหว่างราชาเพลงกับราชินีเพลงเสียอีก!
เพราะนี่คือศึกแห่งความแค้นไงล่ะ!
นักรบเคยประกาศสงครามกับหลานหลิงอ๋อง!
หน้าจอเริ่มหมุนภาพลำดับการแสดง
สุดท้ายลำดับการแสดงหยุดลง นักรบขึ้นเวทีเป็นคนแรก
ทันใดนั้นคอมเมนต์จึงเริ่มล้อเลียน
‘ใครเริ่มก่อนแพ้?’
จากนั้นมีคนมาตอบ ‘เมื่อเผชิญกับความแข็งแกร่งที่แท้จริง กฎเกณฑ์ล้วนไร้ผล!’
‘เวทีนี้ใครมาทีหลังแพ้แน่นอน’
‘ก่อนหน้านี้หลานหลิงอ๋องวิจารณ์นักรบว่าหายใจไม่ดี แถมยังแอบแขวะมู่สืออีก วันนี้กรรมจะตามสนอง’
‘นักรบ: ได้ยินว่าผมหายใจไม่ดี แล้วทำไมคุณถึงแพ้ล่ะ’
‘นักรบ: คุณเองก็ไม่เท่าไหร่’
‘นักรบ: ผู้ชนะคือราชา ทีนี้ก็ถึงคราวที่ผมจะวิจารณ์การแสดงของคุณบ้างสินะ?’
“……” ‘…’
ในคอมเมนต์ต่างยิงมุกตลกกัน
ขณะนั้นนักรบเดินขึ้นมาอยู่กลางเวทีแล้ว
เขาหยิบไมโครโฟนขึ้นมา กล่าวกลั้วหัวเราะ “ผมจับได้คู่ต่อสู้ที่ต้องการมากที่สุด ก่อนที่จะเริ่มการแสดง ผมอยากพูดอะไรกับคู่ต่อสู้ของผมสักหน่อย…”
อันหงยิ้มร่า “อ้อ มีคำประกาศสงครามด้วยเหรอครับ?”
นักรบขยับไมโครโฟนเข้าใกล้ปาก “อาจารย์หลานหลิงอ๋องบอกหลายครั้งว่าผมมีปัญหาด้านการเปลี่ยนลมหายใจ ทำไมไม่ลองฟังเพลงนี้ดู แล้วบอกว่าการลมหายใจของผมเป็นอย่างไรบ้าง”
เฮ!
ห้องส่งดังกระหึ่มขึ้นมา!
กลิ่นดินปืนคละคลุ้ง!
ทุกคนล้วนกระปรี้กระเปร่า!
เขากำลังท้าทายหลานหลิงอ๋อง!
ในขณะนั้นนักรบกดมือลง ทั้งห้องส่งค่อยๆ เงียบลง รัศมีแผ่ซ่านออกมารอบกายของนักรบ ที่คือความน่าเกรงขามของราชาเพลง…
ในขณะนั้น
กล้องสลับภาพไปยังด้านหลังเวที
นักร้องจากทีมที่หนึ่งต่างมองไปยังหลานหลิงอ๋อง
จากนั้น
กล้องก็หันไปยังทิศทางซึ่งน้อยคนนักจะให้ความสนใจ
ทุกคนตระหนักได้ว่า ท่ามกลางกลุ่มนักร้องซึ่งเคยถอดหน้ากากมาแล้ว มู่สือซึ่งเคยถูกหลานหลิงอ๋องตำหนิว่ามีปัญหาด้านการหายใจก็อยู่ในที่แห่งนี้ด้วย!
‘ฮ่าๆๆๆ!’
‘ตากล้องรู้งานสุด!’
‘พอนักรบพูดเรื่องการหายใจจบ กล้องก็ตัดไปที่มู่สือเลย!’
‘ปั่นเก่ง!’
‘นักรบจะตบหน้าตรงนี้เลยสินะ!’
‘มู่สือ: พี่ชาย รีบสอนหลานหลิงอ๋องหน่อยว่าเขาหายใจกันยังไง!’
‘มู่สือ: ช่วยผมแก้แค้นด้วยพี่ชาย!’
‘…’
ชาวเน็ตจอมกวนต่างครื้นเครง
ไม่เคยเจอทีมงานรายการซึ่งชอบทำเรื่องแปลกๆ เช่นนี้มาก่อน ประสิทธิผลของรายการทะยานขึ้นสูงรอบด้าน บรรดานักร้องก็ให้ความร่วมมือ!
พรึบ
ในขณะนั้น แสงไฟทั้งหมดดับลง
การแสดงของนักรบ เริ่มต้นขึ้นแล้ว!
ทันทีที่เขาเปล่งเสียง ผู้ชมบางส่วนก็เฮลั่น
เพลง ‘จากไป’!
เพลงจากไปของหยางจงหมิง!
ถ้าความทรงจำของทุกคนไม่มีปัญหาละก็ จะจำได้ว่านี่คือเพลงที่หลานหลิงอ๋องเคยร้องมาแล้วครั้งหนึ่ง และเพลงนี้นี่เองที่ทำให้หลานหลิงอ๋องล่วงเกินเฟ่ยหยาง!
บ้าไปแล้ว!
นักรบคนนี้!
คิดจะตบหน้าให้เต็มแรงเลยใช่ไหม!
เขาจะใช้เพลงที่หลานหลิงอ๋องเคยร้อง มาเอาชนะหลานหลิงอ๋อง?
สิ่งที่ทำให้ทุกคนประหลาดใจยิ่งกว่าก็คือ!
เพลงนี้ผ่านการเรียบเรียงใหม่อย่างสมบูรณ์โดยนักรบ!
เพลงจากไปเวอร์ชันเรียบเรียงใหม่มีทำนองเร่งเร็ว คีย์สูงขึ้น ในเพลงถึงกับมีการสอดแทรกช่วงแร็ป ไม่นานก็มีคนค้นพบถึงความน่ากลัว
‘พวกคุณลองฟังดู เขาเหมือนว่าจะไม่ได้หายใจเท่าไหร่เลย!’
‘ฟังออกนะว่าหายใจ แต่จำนวนครั้งที่หายใจน้อยมาก!’
‘แม่เจ้าโว้ย!’
‘ไม่ต้องหายใจหรือไง!’
‘นี่คือความโกรธที่มีต่อหลานหลิงอ๋องใช่ไหม?’
‘จำนวนครั้งที่หายใจน้อยมาก โดยเฉพาะในเวอร์ชันที่เรียบเรียงใหม่นี้ ความจุปอดระดับไหนกันเนี่ย!’
‘ลมหายใจมั่นคงไปอีก!’
‘คราวนี้หลานหลิงอ๋องตกที่นั่งลำบากแล้ว!’
‘ทั้งเพลงจากไป ทั้งการหายใจ นี่มันจังหวะลากหลานหลิงอ๋องมาตบกลางสี่แยกชัดๆ’
“ฮ่าๆๆ หลานหลิงอ๋องก็มีวันนี้กับเขาเหมือนกัน!”
‘หาเรื่องผิดคนซะแล้ว!’
‘…’
มีคนตกตะลึง!
มีคนประหลาดใจ!
มีคนสะใจ!
ต่อให้ไม่มีความรู้ด้านดนตรีระดับมืออาชีพ ผู้ชมเองก็ฟังออกว่าการหายใจของเพลงนี้น้อยมาก!
คนทั่วไปร้องเพลงต้องหายใจกันทั้งนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อร้องเพลงซึ่งต้องอาศัยการหายใจที่เพียงพอ แต่นักรบร้องเพลงนี้เปลี่ยนลมหายใจน้อยเหลือเกิน พลังความจุปอดน่าสะพรึงกลัว!
……
หลังเวที
หุ่นยนต์เอ่ยด้วยความตกตะลึง “ความจุปอดของเขาสุดยอดมาก”
หงส์ขาวพยักหน้า “หายใจแบบนี้ได้ต้องมีพื้นฐานที่ดีมาก ต่อให้เป็นราชาราชินีเพลงก็มีแค่ส่วนน้อยที่ทำได้”
หุ่นยนต์กล่าวกลั้วหัวเราะ “คุณทำได้ไหม?”
หงส์ขาวเอ่ยเสียงเรียบ “ถ้าฉันขึ้นเวทีนี้ ไม่ต้องแข่งอย่างอื่น แค่แข่งเรื่องลมหายใจ เขาแพ้แน่นอน”
ความหมายของคำพูดนี้ชัดเจนในตัวเอง
เธอเองก็ทำได้!
แต่ว่า…
หลานหลิงอ๋องล่ะ?
หุ่นยนต์ส่ายหน้า
……
ตำแหน่งคณะกรรมการตัดสิน
อิ่นตงหลุดหัวเราะ “เรื่องลมหายใจนักรบไม่ยอมปล่อยผ่านจริงๆ”
เยี่ยจือชิวรู้สึกจนใจเล็กน้อย “ใช้อารมณ์ตัดสินใจ เพื่อแสดงความสามารถในการหายใจของตัวเอง เขาเสียสละการแสดงด้านอื่นไป”
เจิ้งจิงยิ้มบาง “แต่ฉันคิดว่าดีมากนะ นักร้องควรตอบโต้กันด้วยบทเพลง น่าสนใจมาก”
หยางจงหมิงหรี่ตา เอ่ยเสียงเบา “ถึงจะแปลงเพลงของผมจนแทบจำไม่ได้ แต่การแสดงความจุปอดและลมหายใจใช้ได้จริงๆ เวทีนี้เขาได้พิสูจน์ตัวเองแล้ว ถ้ามีโน้ตบางตัวที่ไม่ต้องฝืนจะดีกว่านี้มาก”
……
ผ่านไปหลายนาที
นักรบร้องเพลงจบแล้ว
เขาหอบหายใจอย่างหนักหน่วง เห็นได้ชัดว่าเพื่อรักษาความถี่ของการหายใจ เขาต้องแบกรับความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส แต่เสียงเชียร์ของผู้ชมในห้องส่งทำให้เขาเข้าใจ
คุ้มค่า!
ลมหายใจของตน!
ทุกคนฟังออก!
บรรยากาศในห้องส่งร้อนแรงขึ้น ผู้คนนับไม่ถ้วนตะโกน
‘นักรบ!’
‘นักรบ!’
‘นักรบ!’
ความมั่นใจอันแข็งแกร่งฉายผ่านแววตาของนักรบ หลานหลิงอ๋อง ทีนี้คุณก็ไม่กล้าพูดเรื่องปัญหาการหายใจของผมแล้วสินะ?
……
ไม่มีใครสังเกตเห็น
จู่ๆ หลานหลิงอ๋องซึ่งกำลังรอขึ้นเวทีชำเลืองมองถงถงซึ่งอยู่ด้านข้าง “เพลงต่อไปตัดสินใจแล้ว…”
“?”
ถงถงงุนงง “คุณเพิ่งตัดสินใจตอนนี้?”
หลานหลิงอ๋องบอก “เล่นเพลงที่แปดที่เตรียมไว้”
ถงถงสับสน “เพลงที่แปด…คุณเตรียมมาทั้งหมดกี่เพลงคะ”
“ไปเถอะ”
หลานหลิงอ๋องไม่ตอบ
แววตาของเขามองไปยังนักรบบนเวที
หลินเยวียนรู้สึกผิดหวัง นักรบจงใจเกินไป โน้ตบางตัวกินแรงมากขนาดนั้น แต่เขากลับไม่ยอมหายใจ สนใจเรื่องเล็กน้อย แต่กลับละเลยเรื่องสำคัญ
แต่ในเมื่ออีกฝ่ายใช้การหายใจเป็นอาวุธ…
เขาเองก็จะทำเช่นกัน
และเพลงที่เขาจะร้องต่อไปนี้มีชื่อว่า…
เอาเถอะ
เขาไม่ได้จงใจจริงๆ นะ
…………………………………………………….